ผู้ชาย (ส่วนใหญ่) ซื่อบื้อกว่าที่คิดในเรื่องของความรัก สิ่งหนึ่งที่หากสาวๆ เข้าใจ แล้วชีวิตรักจะง่ายขึ้น

ผู้เขียนมีโอกาสได้ดูรายการเกี่ยวกับความรักมาไม่น้อย รวมถึงเป็นที่ปรึกษาให้กับคู่รักหลายคู่ เท่าที่สังเกต ปัญหาที่คู่รักส่วนใหญ่เผชิญมักจะไม่ใช่เรื่องใหญ่จนแก้ไม่ได้ แต่มักจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตมากกว่า เมื่อพบเจอปัญหาที่ไม่เล็กไม่ใหญ่พวกนี้เข้าไปเรื่อยๆ เลยนำไปสู่ความไม่เข้าใจกัน และทะเลาะกันในที่สุด

ซึ่งต้องขอบอกก่อนว่า ปัญหาบางเรื่อง มันเป็นเพราะนิสัยส่วนตัวของแต่ละคน ดังนั้นวิธีแก้ปัญหา จึงอาจจะอยู่ที่การปรับตัวเข้าหากันของคนทั้งคู่ ในจุดนี้ คนที่จะแก้ปัญหาได้ดีที่สุดก็คือตัวของคู่รักเอง แต่มันจะมีบางปัญหาจริงๆ ที่เกิดจากความไม่เหมือนกันของมุมมอง หรือวิธีคิดของเพศหญิงและเพศชาย รวมถึงเพศทางเลือก ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเพศไหน ก็นำไปปรับใช้ได้เช่นเดียวกัน

ควรทราบว่า ผู้หญิงและผู้ชาย สิ่งที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดคือวิธีคิด โดยผู้ชายจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ค่อยมีความละเอียดในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ สักเท่าไหร่ ยิ่งเฉพาะในเรื่องความรักยิ่งไปกันใหญ่ เพราะบางอย่างผู้ชายอาจมองว่ามันไม่จำเป็น หรือบางที ผู้ชายก็อาจจะมองว่า บางเรื่อง หากผู้หญิงต้องการ เดี๋ยวเธอก็คงบอกเอง การที่ผู้หญิงไม่พูดไม่บอก แสดงว่าไม่ต้องการให้ผู้ชายทำ หรือเรื่องนั้นๆ เธอจัดการเองได้

ฝั่งของผู้หญิงเองจะชอบคิดในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ โดยเฉพาะในเรื่องความรู้สึก รวมทั้งเวลาที่ต้องการอะไร ผู้หญิงจะไม่ค่อยพูด แต่อยากให้ผู้ชายสังเกต แล้วเข้ามาช่วยเหลือปัญหาของเธอเองมากกว่า เพราะสาวๆ มองว่า การกระทำแบบนี้ มันแสดงให้เห็นถึงความดูแลเอาใจใส่ มันทำให้รู้สึกว่า เธอเป็นคนสำคัญของเขาจริงๆ แบบนี้แหละ เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าคนสองคนรักกัน

พออ่านมาถึงตรงนี้ ผู้อ่านหลายคนคงจะมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากวิธีคิดที่ไม่เหมือนกันแล้วใช่ไหม เพราะเรื่องอะไรเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้แหละ ที่ทำให้ชีวิตคู่พังมานักต่อนักแล้ว

หากยังไม่ค่อยเห็นภาพ ผู้เขียนจะขอยกตัวอย่างมาประกอบสักหน่อย

เหตุการณ์แรก ระหว่างคู่รักคู่หนึ่งนั่งอยู่ในร้านอาหาร ชายหนุ่มถามหญิงสาวว่าเธอต้องการจะกินอะไร หญิงสาวตอบว่า อะไรก็ได้ ตามความหมายของผู้ชาย เขาคิดว่าเธอคงจะกินอะไรก็ได้จริงๆ ดังนั้นเขาเลยสั่งเมนูที่เขาคิดว่าอร่อย หรือโอเคสำหรับเขามาให้เธอกิน

ตามความหมายของหญิงสาว คำว่า อะไรก็ได้ หมายถึงฝ่ายชาย ควรจะสั่งหนึ่งในเมนูที่เธอชอบมาให้เธอหน่อย ซึ่งแม้เธอไม่บอก แต่จากการอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้ว เขาก็น่าจะพอรู้ ว่าเธอชอบกินอะไร หรือไม่ชอบกินอะไรบ้าง

เอาง่ายๆ ว่า เธออาจจะชอบกินอาหารประมาณสิบเมนู แต่วันนี้เธอไม่รู้ว่าเธอจะกินอะไรดีในสิบเมนูดังกล่าวนั้น เลยโยนอำนาจการตัดสินใจไปให้ฝ่ายชาย ซึ่งชายหนุ่มเองก็ซื่อในแง่ของวิธีคิด ดังนั้นเลยจัดสิ่งที่เขาคิดว่าโอเคสำหรับเขามาให้เธอกินซะเลย...สุดท้ายก็ระเบิดลงกลางร้านเลยสิทีนี้ มีสองกรณีที่จะเกิดขึ้น คือเธอบอกว่าไม่ชอบ หรือกินไม่ได้ไปตรงๆ แล้วสั่งใหม่ หรือไม่ก็งอนตุ๊บป่องให้แฟนหนุ่มเกาหัวงงไปเลย

คือในเรื่องนี้ มันไม่ใช่ว่าฝ่ายชายไม่ละเอียด หรือไม่ได้รักแฟนสาวของเขา เพียงแต่มันไปพลาดตรงคำว่า "อะไรก็ได้" เข้าไปเต็มๆ เลยนี่แหละ ซึ่งถ้าสาวๆ ระบุรายละเอียดเพิ่มเติมลงไปสักหน่อย ก็จะทำให้ผู้ชายซื่อๆ ทำตามที่เธอต้องการได้ เช่นบอกว่า "สั่งอะไรก็ได้ที่เค้าชอบกินนั่นแหละ" แบบนี้ก็จะทำให้ชายหนุ่มหลายคนไม่ตกม้าตายตรงนี้ แต่อาจจะไปตายเพราะไม่ได้สังเกตว่าเธอชอบกินอะไรแทน ฮ่าฮ่า ซึ่งปัญหานี้ ก็ต้องไปปรับที่ตัวหนุ่มๆ เองแล้วแหละ ว่าถึงแม้จะเป็นคนไม่ละเอียดยังไง ก็ควรจะหัดสังเกตเรื่องนี้เอาไว้บ้างก็ดี อย่างน้อยๆ จำใส่สมองเอาไว้สักสองเมนูก็ยังดีนะ

นี่เป็นเพียงหนึ่งในเหตุการณ์เล็กๆ ที่จะนำไปสู่การทะเลาะกันใหญ่โตของคู่รัก ทั้งที่หากเราลองปรับวิธีคิดอีกสักหน่อย ปัญหาเหล่านี้จะลดลงได้เยอะเลย เช่นเมื่อสาวๆ ต้องการให้หนุ่มๆ ทำอะไร ก็บอกเขาไปตรงๆ เลย เช่น ช่วยถือของหน่อย ช่วยทำงานบ้านหน่อย ไปซื้อ (บอกรายการอาหาร) มาให้กินหน่อย ส่วนหนุ่มๆ ก็หัดสังเกตอะไรเล็กๆ น้อยๆ เพิ่มขึ้นอีกบ้าง อย่างน้อยจำแค่เรื่องสำคัญๆ ได้ก็ยังดี เช่นเธอกินอาหารเมนูไหนบ่อยสุด วันเกิดเธอวันไหน ถ้าเธอเงียบผิดปกติ ก็ให้รู้จักถามบ้าง ว่าเป็นอะไร เหนื่อยไหม ต่อให้พูดไปแล้วช่วยอะไรไม่ได้ ก็พูดๆ ไปเถอะ เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยที่เรามีให้เธอ

ปัญหามันเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะใช้ชีวิตคนเดียว หรือใช้ชีวิตคู่ ดังนั้นหากเราอยากเดินไปพร้อมกันกับใครสักคน ก็ควรลองเปิดอกคุยกันให้มาก รับฟังกันให้มาก เข้าใจกันให้มาก เห็นคุณค่าของคนข้างกายให้มาก แล้วชีวิตคู่ของทุกคนจะมีแต่ความสุข