บทที่ 5...3/3
จอมขวัญมองนาฬิกาที่ข้อมือก่อนจะเดินแกมวิ่งเข้ามาในตึก M ในเวลาเกือบ 10 โมงเช้า วันนี้เธอมีนัดกับปรานต์ ซึ่งจริงๆ แล้วนพดลเป็นคนนัดไว้ล่วงหน้าเพื่อให้เธอมาทำข่าวของบริษัทมินธรา หญิงสาวกดลิฟต์เพื่อไปชั้นที่ 12 พอออกมาจากลิฟต์เธอมองหาจนเห็นว่ามีเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของบริษัทอยู่ด้านในจึงเดินผ่านประตูกระจกสไลด์อัตโนมัติเข้าไปเพื่อแจ้งว่าต้องการมาพบใคร
“สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อจอมขวัญจากสำนักข่าวไทยสารมาขอพบคุณปรานต์ค่ะ”
“ท่านประธานสั่งไว้แล้วค่ะว่าถ้าคุณจอมขวัญมาให้พาไปที่ห้องรับรองได้เลย วันนี้มีประชุมตอนเช้า คงต้องรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันจะไปเรียนท่านประธานให้นะคะ” ประชาสัมพันธ์ยิ้มพลางผายมือให้จอมขวัญเดินตามไป
ภายในห้องรับรองตกแต่งด้วยสีขาวคือที่รอสำหรับแขก จอมขวัญยิ้มให้ประชาสัมพันธ์พลางเอ่ยขอบคุณ แล้วหยิบโน้ตบุ๊กที่พกมาด้วยเปิดเพื่อทำงานเพราะไม่รู้ว่าปรานต์จะประชุมนานแค่ไหน
ครู่เดียวประตูห้องรับรองก็เปิดออก แต่เป็นแม่บ้านนำกาแฟกับขนมมาให้ จอมขวัญเห็นว่าเพิ่งผ่านไปแค่ 15 นาทีเท่านั้น วันนี้เธอมีคิวมาหาปรานต์เพื่อทำข่าว ไม่มีงานเร่งด่วนอะไร รอแค่นี้ไม่เป็นไร
ผ่านไปอีก 10 นาที ตามมาด้วย 10 นาที จนกระทั่งผ่านไปเกือบจะชั่วโมงแล้ว จอมขวัญเปิดประตูออกไปดู ภายนอกเงียบมาก ตอนนี้ 11 โมง ปรานต์ยังประชุมไม่เสร็จอีกหรือ ประตูเปิดออกอีกครั้ง ประชาสัมพันธ์คนเดิมยิ้มกว้างพร้อมกับวางถ้วยกาแฟ
“รับกาแฟอีกสักถ้วยนะคะ ประชุมใกล้จะเลิกแล้วล่ะค่ะ พอดีว่าใกล้เปิดตัวแบรนด์ไข่มุกของฟาร์มแล้วเลยต้องคุยรายละเอียดกันมาก”
จอมขวัญยิ้มอย่างน้อยคนที่นี่ก็ไม่ได้ปล่อยให้เธอรอเงก ยังคอยใส่ใจ
“ฉันเข้าใจค่ะ โชคดีที่พกโน้ตบุ๊กมาด้วยเลยยังทำงานได้เหมือนกันค่ะ”
จู่ๆ ประตูก็เปิดออกในวินาทีนั้น แล้วปรานต์ก็เดินเร็วๆ เข้ามาในห้องรับรอง เขารู้ว่าผิดเวลานัดไปมาก แต่การประชุมที่ลากยาวมาเกินกำหนดเวลา เขาก็เลี่ยงไม่ได้เช่นกัน
“ขอโทษด้วยที่ให้รอ ตอนนี้คุณต้องลุกขึ้นแล้วไปกับผม”
“ไปไหนหรือคะ” จอมขวัญลุกขึ้นแล้วยัดโน้ตบุ๊กใส่กระเป๋า ปรานต์เปิดประตูรอแต่พอเธอเดินตามมาเขาก็เดินดุ่มๆ ไปเลย
ชานนเข้ามาช่วยจอมขวัญถือกระเป๋าโน้ตบุ๊กอย่างมีน้ำใจ แต่คนที่สั่งแล้วเดินจ้ำเหมือนกับเจ้าทุยหายกลับไม่ตอบอะไรสักคำ หญิงสาวได้แต่บ่นอุบอิบว่าเขาจะตอบเธอตอบหน่อยไม่ได้หรือไงเนี่ย
จอมขวัญออกจากลิฟต์มาพร้อมกับปรานต์และผู้ชายที่แนะนำว่าตัวเองชื่อว่า...ชานน เขาดูเป็นมิตรมากกว่าเจ้านายของเขาเสียอีก ด้านหน้าตึก M มีรถจอดรออยู่ หญิงสาวเปิดประตูฝั่งข้างคนขับแล้วกำลังจะเข้าไปนั่ง ในขณะที่ชานนน่าจะรับหน้าที่ขับรถ
“นี่ๆ คุณมานั่งด้วยกันที่เบาะหลัง เวลาคุยผมไม่ชอบมองที่ท้ายทอย กลัวผมนักหรือไง” ปรานต์ขมวดคิ้วไม่คิดว่าจอมขวัญจะเลือกไปนั่งด้านหน้ากับชานน เธอมาสัมภาษณ์เขาไม่ใช่หรือ
จอมขวัญอยากถอนใจยาว แต่กลั้นไว้เพราะอย่างไรเสียปรานต์ก็เป็นแหล่งข่าวยังต้องทำงานกันอีกจนกว่างานนี้จะจบลง หญิงสาวก้าวออกจากรถเพื่อมาเปิดประตูด้านหลัง แล้วเข้าไปนั่ง แต่พอเขามองมา เธอชักไม่แน่ใจว่าที่เขาพูดไปเมื่อครู่ต้องการคำตอบหรือเปล่า
“ฉันแค่คิดว่าคุณคงไม่อยากอึดอัดก็เลยไปนั่งข้างหน้าค่ะ”
ปรานต์เลิกคิ้ว อะไรที่ทำให้จอมขวัญคิดว่าเขาจะอึดอัดงั้นหรือ ไม่มีสักหน่อย
“ถ้าผมอึดอัดแล้วจะบอก ตอนนี้อย่าเพิ่งถามอะไรผมเลยนะ ขอพักสมองสักสิบนาที คุณก็พักไปก่อน กว่าจะถึงระยองคงอีกเป็นชั่วโมง เดี๋ยวสัมภาษณ์ผมตอนไปถึงแล้วกันนะ วันนี้คุณต้องไปทำข่าวอื่นอีกหรือเปล่า”
“วันนี้ฉันทำข่าวของคุณแค่ข่าวเดียว ขอบคุณนะคะที่ไม่เลื่อนสัมภาษณ์ของไทยสาร” อย่างน้อยคำแรกที่เขาบอกกับเธอคือการขอโทษ ก่อนจะบอกให้เดินทางมาด้วยกัน ซึ่งก็ดีเหมือนกันเธอจะได้มีภาพประกอบนอกจากหน้าโหดๆ ของเขา
ความเงียบภายในรถทำให้จอมขวัญรู้สึกแปลกๆ เพราะชานนก็ขับรถไปไม่พูดไม่จา ส่วนปรานต์กำลังหลับตานิ่ง ทั้งที่แอร์ในรถก็เย็นจนเธอเกือบกอดอกเพราะหนาว แต่ปรานต์กลับมีเหงื่อซึมออกมาที่หน้าผากและขมับ เธอจะปล่อยผ่านก็ได้ แต่หากเขาเจ็บป่วยก็ควรไปหาหมอหรือเปล่า
“คุณไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าคะ”
“ผมบอกไปว่ายังไงนะจอมขวัญ” ปรานต์ถาม แม้ว่าจะหลับตาอยู่
แม้น้ำเสียงของปรานต์จะเรียบๆ แต่เธอไม่ได้สนิทกับเขามากพอที่จะบอกได้ว่าแบบนี้คืออะไร ถ้าเขาไม่ได้เป็นอะไรก็ช่างเถอะ
“โอเคค่ะ ฉันไม่กวนคุณแล้ว”
แม้จะพูดไปแบบนั้นแต่จอมขวัญก็รู้สึกได้จริงๆ ว่าปรานต์เหงื่อออกเยอะจนผิดปกติ ชานนหันมามองแล้วขมวดคิ้ว แต่ถ้าปรานต์ไม่พูดอะไรแสดงว่ามันอาจจะยังไม่ใช่ปัญหาก็ได้
“กินแก้ง่วงค่ะ หวังว่าคุณคงไม่ชอบของหวานๆ เหมือนเจ้านายหรอกนะคะ”
ชานนมองลูกอมบนฝ่ามือที่แบออกของจอมขวัญแล้วยิ้มออกมา ปกติแล้วภายในรถจะเงียบอยู่แล้วเพราะปรานต์มักจะพักผ่อนเวลานี้ งานที่ยุ่งมากทำให้ปรานต์ไม่ค่อยได้พักผ่อนนัก
“ไม่หรอกครับ ของหวานทำให้รู้สึกเหมือนได้รับความรัก มีแต่คนไม่อยากได้รับความรักเท่านั้นแหละครับที่ไม่ชอบ” ชานนแกล้งพูดเสียงไม่เบานัก อย่างน้อยตรงนี้ก็มีคนไม่อยากแต่งงานที่กำลังหลับตาอยู่ แต่ไม่รู้ว่าหลับไปแล้วจริงๆ หรือเปล่า
จอมขวัญพยักหน้ายิ้มกว้าง ถ้าในรถคันนี้ไม่มีชานนคงเหมือนกับอยู่ในป่าช้า
“ฉันเห็นด้วยกับคุณสุดๆ เลยค่ะ”
“จะเงียบกันได้หรือยังน่ะนน” ปรานต์ล่ะอยากไล่ชานนลงจากรถเสียจริง
ชานนยิ้มให้จอมขวัญผ่านกระจกหลัง “วงแตกแล้วล่ะครับ”
ปรานต์ส่ายหน้าดูท่าแล้วพอออกมาจากเกาะคงไม่มีใครกลัวเขาเลยกระมัง ชานนนี่ยังไงแทนที่จะขับรถไปเงียบๆ กลับไปสร้างความสนิทสนมกับจอมขวัญ ใช่ว่าเขาจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้เสียเมื่อไหร่ แล้วจอมขวัญไม่มีรู้ตัวจริงๆ หรือว่าแม่ของเธอกับพ่อของเขามีการพูดคุยเรื่องแต่งงานของเราสองคน เสียงหัวเราะเบาๆ ของเธอช่างก่อเกิดความปั่นป่วนต่อเขาที่แทนด้วยคำว่า..รำคาญระคนอยากรู้ หากว่าเธอรู้ว่า...ว่าที่เจ้าบ่าวในอนาคตคือเขา สิ่งที่เธอทำในตอนนี้จะเหมือนเดิมหรือว่าต่างออกไป
พลันเสียงที่ไม่ควรเกิดขึ้นในการเดินทางที่ราบรื่นมาตลอดชั่วโมงก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบที่จอมขวัญกำลังสบายใจกับวิวของต้นไม้ที่รายล้อมทั้งสองข้างทาง
...ตู้มมมม!?!
ปรานต์เกิดเรื่องแน่ๆ เสียงตู้มอะไรหว่า
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
อัมราน_บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 160
แสดงความคิดเห็น