ตอนที่ 763 ที่ซ่อนของเทพขาวดำ
ตอนที่ 763 ที่ซ่อนของเทพขาวดำ
“ระบบเกิดข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรง จำเป็นจะต้องทำการรีสตาร์ทอย่างเร่งด่วน…” เสียงของระบบดังขึ้นพร้อมกับสนามทดสอบของสนามรบโบราณที่ตกอยู่ภายใต้ความมืดมิด
นี่คือระบบป้องกันอัตโนมัติของระบบทำงานอัจฉริยะ เพราะถ้าหากว่าตัวเครื่องยังคงทำงานอย่างมีปัญหาต่อไป มันก็มีความเสี่ยงสูงที่ระบบจะทำลายตัวเอง ภายในระบบอัจฉริยะจึงแฝงระบบรีสตาร์ทเอาไว้เพื่อใช้ในกรณีที่ระบบประมวลผลเริ่มมีปัญหา
แสงไฟสีขาวเริ่มกระพริบขึ้นมาบนเครื่องระบบอีกครั้ง ก่อนที่มันจะมีข้อความประโยคหนึ่งปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
โครงการอัลฟ่าเริ่มทำงาน!
ในวันที่ 2 เผ่าพันธุ์สูงสุดของจักรวาลตัดสินใจปิดสนามรบแห่งนี้ลง พวกเขาก็รู้อยู่แล้วว่ามันน่าจะมีนักรบที่แข็งแกร่งเกินกว่าระบบในปัจจุบันจะรองรับได้ พวกเขาจึงได้เตรียมโครงการอัลฟ่าเอาไว้ให้กับนักรบจำพวกนั้นโดยเฉพาะ
แม้ว่าเวลาจะผ่านพ้นไปอย่างเนิ่นนาน มันก็ยังไม่มีใครปฏิบัติตัวนอกเหนือจากกฎเกณฑ์ที่ระบบตั้งเอาไว้เลยแม้แต่คนเดียว ปฏิกิริยาการตอบสนองของเซี่ยเฟยที่เลือกทำลายนักรบของระบบจึงเข้าไปกระตุ้นระบบประมวลผลของโครงการอัลฟ่าอย่างรวดเร็ว
ในที่สุดระบบก็ไม่สามารถที่จะทำความเข้าใจการกระทำของเซี่ยเฟยได้ ซึ่งเข้าเงื่อนไขการเปิดใช้งานโครงการอัลฟ่าพอดิบพอดี และเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็คือเหตุการณ์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่โครงการอัลฟ่าถูกเปิดใช้งาน นับตั้งแต่ที่ระบบเริ่มทำงานมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน
—
ในระหว่างที่เซี่ยเฟยกำลังคิดที่จะสำรวจนักรบระบบอย่างละเอียด ระบบก็ทำการรีสตาร์ทอย่างกะทันหันทำให้นักรบของระบบคนนั้นหายตัวไปก่อนที่เซี่ยเฟยจะได้เริ่มทดสอบ
“ทำไมจู่ ๆ มันถึงมืดแบบนี้ล่ะ?” เซี่ยเฟยขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
แน่นอนว่าชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขาทำลงไปได้ทำให้นักรบคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมบททดสอบพร้อม ๆ กับเขาติดอยู่ในความมืดมาเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมงแล้ว
“ถ้ามันจะมีอะไรผิดพลาดสักอย่าง สาเหตุมันก็มาจากนายนั่นแหละ! จะทำอะไรก็ระวังตัวเอาไว้หน่อย อย่าลืมนะว่าสนามรบโบราณถูกสร้างขึ้นมาจากผู้นำของสองเผ่าพันธุ์สูงสุด บางทีตาเฒ่าพวกนั้นอาจจะกำลังแอบดูนายอยู่จากที่ไหนสักแห่งก็ได้” โอโร่กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
หลังจากที่ได้พบกับไซ ความจริงก็ได้พิสูจน์แล้วว่าการพยายามหลบอยู่ภายในแหวนมิติของเซี่ยเฟยมันไม่ใช่สถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับทั้งตัวเขาและเซี่ยเฟยเอง
ยิ่งไปกว่านั้นสมาชิกระดับสูงของเผ่ามารทั้งหมดต่างก็รู้ดีว่าความลับของกฎแห่งชีวิตชุดสุดท้ายถูกเก็บไว้กับตัวเขาเอง โอโร่จึงกังวลว่าการกระทำของชายหนุ่มจะไปกระตุ้นตาเฒ่าของสองเผ่าพันธุ์สูงสุดสักคน และถ้าหากว่าตัวตนในระดับนั้นเดินทางมาตรวจสอบสถานการณ์ด้วยตัวเอง มันก็คงจะไม่ใช่ผลดีสำหรับเขาอย่างแน่นอน
“ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย มันจะเป็นความผิดของผมได้ยังไง?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับยักไหล่
โชคดีที่หลังจากเวลาผ่านพ้นไปไม่นาน แสงสว่างก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเซี่ยเฟยที่กลับมายังห้องโถงห้องเดิม โดยที่ไม่มีใครปรากฏตัวขึ้นมาอย่างที่โอโร่รู้สึกกลัวไปเอง
“บางทีสนามรบโบราณอาจจะถูกทิ้งร้างมานาน ตาเฒ่าพวกนั้นคงจะไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่แล้วล่ะมั้ง” โอโร่อุทานพร้อมกับแอบเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก
แต่ในทันใดนั้นเองเซี่ยเฟยก็รู้สึกเหมือนร่างของเขาตกลงไปจากฟ้าด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะถูกส่งตัวไปยังห้องโถงอีกแห่งหนึ่งซึ่งมีพื้นที่กว้างใหญ่นับพันตารางเมตร
—
ในเวลาเดียวกันประตูห้องควบคุมหลักของสนามรบโบราณก็ถูกเปิดออก พร้อมกับร่างในชุดดำ 1 ร่างและร่างในชุดขาวอีกหนึ่งร่างที่กำลังเดินเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ด้านหลังของพวกเขายังมีนกบินตามมาอีกสองตัว โดยนกตัวหนึ่งเป็นนกตัวสีขาว ขณะที่นกอีกตัวเป็นนกตัวสีดำ
หากเซี่ยเฟยอยู่ที่นี่เขาก็สามารถบอกได้ในทันทีว่าคนทั้งสองคนนี้คือเทพขาวและเทพดำ ผู้ซึ่งเป็นคนมอบกฎแห่งความโกลาหลให้กับเขา แน่นอนว่านกทั้งสองตัวนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกเสียจากไวท์ตี้และแบล็คกี้ ผู้ซึ่งเป็นอสูรเทวะและเป็นสัตว์เลี้ยงของเทพขาวดำนั่นเอง
“เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น? มีใครมาโจมตีระบบของสนามรบโบราณงั้นเหรอ?!” เทพดำอุทานขึ้นมาเสียงดัง
“ดูเหมือนว่าระบบจะขัดข้องนิดหน่อย ตอนนี้นักรบชุดใหม่ถูกส่งออกไปจนหมดแล้ว ผู้เข้าร่วมการทดสอบคนอื่น ๆ ก็กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการทั้งหมด” เทพขาวกล่าว
“แล้วทำไมจู่ ๆ พลังงานมันถึงดับลงไปล่ะ? ตอนแรกฉันนึกว่าฉันจะโชคร้ายโดนตาเฒ่าพวกนั้นตามมาไล่ล่าพวกเราอีกแล้ว” เทพดำยังคงกล่าวถามอย่างสับสน
“มันไม่มีใครโชคร้ายไปมากกว่าฉันแล้วล่ะ ฉันอยู่ของฉันดี ๆ นายก็ไปเอากฎแห่งความโกลาหลมาทำให้พวกเราซวยแบบนี้ แม้ว่าฉันจะมีบ้านแต่ฉันก็กลับไปบ้านของตัวเองไม่ได้ ต้องมาซ่อนตัวอยู่ในสนามรบโบราณเพื่อไม่ให้ตาเฒ่าพวกนั้นตามมาเจอตัว!” เทพขาวกล่าวอย่างเย็นชา
“นายไม่เคยได้ยินเหรอว่าสถานที่ที่อันตรายที่สุดคือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด ตาเฒ่าพวกนั้นมันคงไม่คิดหรอกว่าพวกเราจะมาซ่อนตัวอยู่ในสนามรบโบราณแบบนี้ ต่อให้พวกเขาจะออกค้นหาพวกเราทั้งจักรวาล แต่มันก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะหาเราจนเจอ” เทพดำตบหน้าอกพูดขึ้นมาอย่างพึงพอใจโดยไม่สนใจคำตัดพ้อของเทพขาวเลย
“ถ้าไม่ใช่เพราะว่านายเป็นน้องชายของฉัน สาบานเลยว่าฉันคงจะฆ่านายตายไปแล้ว” เทพขาวบ่นพึมพำพร้อมกับถอนหายใจ
เทพดำยังคงพูดจาอย่างอารมณ์ดี โดยพยายามหาอะไรสนุก ๆ ทำไปเรื่อย เพื่อไม่ให้เขารู้สึกเบื่อจากการต้องมาใช้ชีวิตอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ ในสนามรบโบราณแห่งนี้
หากเซี่ยเฟยได้มาพบกับเทพทั้งสองเขาก็คงจะต้องรู้สึกตกใจ เพราะคนธรรมดาอย่างเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าการใช้ชีวิตของเทพที่ถูกยกย่องว่าสูงส่งกลับไม่ได้แตกต่างจากคนทั่ว ๆ ไปมากนัก
เทพขาวกับเทพดำยังคงแต่งกายเหมือนกับครั้งแรกที่เซี่ยเฟยพบ โดยทั้งคู่สวมชุดเกราะปิดบังร่างทั้งร่างเหลือให้เห็นเพียงแค่ดวงตาเท่านั้น
อย่างไรก็ตามแบล็คกี้กับไวท์ตี้กลับดูแตกต่างไปจากเดิมพอสมควร เพราะย้อนกลับไปในตอนที่เซี่ยเฟยได้พบกับอสูรเทวะทั้งสอง พวกมันต่างก็ล้วนแล้วแต่มีความสูงมากกว่า 2 เมตร แต่ในตอนนี้พวกมันกลับมีขนาดเท่า ๆ นกแก้วธรรมดา และยืนเกาะไหล่เจ้านายของพวกมันราวกับว่าพวกมันเป็นเพียงแค่นกแก้วจริง ๆ
เทพดำกับเทพขาวยังคงเดินไปรอบ ๆ ห้องควบคุมเพื่อหาอะไรดู และในทันใดนั้นเองเทพดำก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
“ฮ่า ๆ ๆ นั่นมันเซี่ยเฟยที่ได้พลังกฎแห่งความโกลาหลไปไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาถึงมาปรากฏตัวที่สนามรบโบราณได้ล่ะ”
“นี่นายคิดว่าการที่นายสอนกฎแห่งความโกลาหลให้กับเขาเป็นความคิดที่ดีแล้วจริง ๆ เหรอ? บางทีเขาอาจจะถูกฆ่าเพราะกฎที่นายสอนให้กับเขาไปก็ได้” เทพขาวกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
ในเวลาเพียงแค่ไม่นานเทพขาว, เทพดำ, ไวท์ตี้และแบล็คกี้ต่างก็มาที่หน้าจอที่ใหญ่ที่สุดเพื่อจ้องมองไปยังภาพของเซี่ยเฟย
“เดี๋ยวก่อนนะ! ตอนนี้เขาเป็นราชากฎของตระกูลสกายวิง แต่เขากลับใช้เข็มทิศมิติของตระกูลไลอ้อนฮาร์ทเพื่อเดินทางมายังสนามรบโบราณ? จู่ ๆ สกายวิงกับไลอ้อนฮาร์ทมามีความสัมพันธ์กันแบบนี้ได้ยังไง?” เทพดำจ้องไปยังข้อมูลบนหน้าจอด้วยความสับสน
“ราชากฎ!? แค่ไม่นานเด็กคนนี้ก็ได้กลายเป็นราชากฎแล้ว ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าเขาฝึกฝนกฎแห่งความโกลาหลไปได้ไกลมากแค่ไหน จะว่าไปเขาก็เป็นคนเพียงคนเดียวที่สืบทอดกฎแห่งความโกลาหลต่อจากพวกเราไปนี่นะ…”
เทพดำกล่าวขึ้นมาด้วยความพึงพอใจ และยิ่งเขาพูดมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งชื่นชมผู้สืบทอดกฎแห่งความโกลาหลของเขามากเท่านั้น
ในทางกลับกันเทพขาวก็ไม่ค่อยรู้สึกอารมณ์ดีมากเท่าไหร่นักเลย เพราะกฎแห่งความโกลาหลเป็นสาเหตุที่ทำให้เขากับน้องชายต้องถูกไล่ล่ามาแบบนี้ เขาจึงไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าการที่เซี่ยเฟยสืบทอดกฎแห่งความโกลาหลของพวกเขาไป มันถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีหรือโชคร้ายกันแน่
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ทั้งคู่ได้อ่านข้อมูลของเซี่ยเฟย พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะหลังจากที่พวกเขาไม่ได้พบกับชายหนุ่มคนนี้เป็นเวลานานกว่า 3 ปี เด็กหนุ่มจากมนุษย์โลกคนนั้นกลับได้กลายมาเป็นสมาชิกของสกายวิงแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังไม่สามารถทำความเข้าใจได้จริง ๆ ว่าเซี่ยเฟยใช้เข็มทิศมิติของตระกูลไลอ้อนฮาร์ทเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ได้ยังไง หรือว่าเซี่ยเฟยจะมีความสัมพันธ์กับพวกมารด้วยงั้นเหรอ?
สิ่งที่แปลกกว่านั้นคือผู้ทดสอบคนอื่นกำลังเข้าร่วมการทดสอบแบบปกติ แต่เซี่ยเฟยกลับถูกส่งตรงไปยังการทดสอบของโครงการอัลฟ่า ซึ่งมีความแตกต่างจากนักรบคนอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง
“โครงการอัลฟ่า มันหมายความว่ายังไง?” เทพดำอุทานพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง! สนามรบโบราณถูกสร้างขึ้นจากพวกตาเฒ่าของเผ่าพันธุ์ ว่ากันว่าตาเฒ่าพวกนั้นใช้เทคโนโลยีระดับสูงสุดของจักรวาลในการสร้างระบบขึ้นมา ถ้าหากว่านายอยากจะรู้ความลับของระบบจริง ๆ นายก็ลองกลับไปถามพวกเขาดูสิ” เทพขาวกล่าวอย่างประชดประชัน
“จ้างให้ก็ไม่ไปหรอก พวกเรามารอดูกันดีกว่าว่าเซี่ยเฟยจะมีอะไรสนุก ๆ ให้พวกเราได้ดูบ้าง” เทพดำกล่าวโดยพยายามพูดเปลี่ยนเรื่อง
—
แม้ว่าเซี่ยเฟยจะถูกส่งตรงมายังห้องโถงอีกห้องหนึ่ง แต่เขาก็ยังคงคิดว่าการทดสอบนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบระดับ S+ โดยไม่รู้เลยว่าเขาถูกส่งตรงมาทดสอบในโครงการลับพิเศษแล้ว และมันก็ยังมีเทพขาวกับเทพดำที่กำลังสังเกตการณ์ดูเขาอยู่อย่างห่าง ๆ อีกด้วย
“ยินดีด้วย คุณคือผู้มีสิทธิ์ได้เข้าร่วมทดสอบในโครงการอัลฟ่า หากคุณสามารถผ่านการทดสอบได้สำเร็จ ระบบจะทำการมอบแหวนสายรุ้งให้เป็นของรางวัล ไม่ทราบว่าคุณต้องการที่จะเข้าร่วมการทดสอบในโครงการอัลฟ่าหรือไม่?” ข้อความจากหน้าจอแสงปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของชายหนุ่ม
“นั่นมันแหวนมิติขนาด 1 ล้านลูกบาศก์เมตร!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ เมื่อเขาอ่านรายละเอียดของแหวนที่เขาจะได้รับเป็นรางวัลตอบแทนหากสามารถผ่านการทดสอบนี้ไปได้
แหวนมิติปัจจุบันของเขามีพื้นที่เพียง 10,000 ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น แต่มันก็ถือได้ว่าแหวนมิติของเขาคือแหวนมิติชั้นยอดของจักรวาลแล้ว อย่างไรก็ตามของรางวัลที่ระบบจะมอบให้กลับมีพื้นที่ใหญ่มากกว่าแหวนมิติวงปัจจุบันของเขาถึง 100 เท่า ของรางวัลชิ้นนี้จึงสามารถดึงดูดความสนใจของชายหนุ่มได้อย่างแท้จริง
“ฉันว่ามันไม่ได้มีดีแค่พื้นที่ขนาดใหญ่หรอก การที่มันเป็นแหวนมิติที่มีชื่อมันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าของชิ้นนี้จะต้องเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากแน่ ๆ” โอโร่กล่าว
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย เพราะแหวนมิติทั่วไปก็จะถูกเรียกว่าแหวนมิติเท่านั้น แต่แหวนมิติวงนี้กลับถูกระบบเรียกว่าแหวนสายรุ้งแตกต่างจากแหวนมิติโดยทั่วไป
“การที่ระบบจะมอบของรางวัลให้กับนายแบบนี้ หมายความว่ามันไม่ใช่การทดสอบแบบปกติ นายต้องตัดสินใจให้ดี ๆ เพราะการทดสอบระดับนี้ย่อมตามมาด้วยความเสี่ยงมหาศาล” โอโร่กล่าว
“ไม่จำเป็นต้องคิดหรอก ตอนนี้ผมกำลังต้องการแหวนมิติขนาดใหญ่อยู่พอดี” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก และทันทีที่เขาพูดจบเขาก็ใช้นิ้วจิ้มไปที่คำว่าตกลงในทันที
***************
ความเสี่ยงไม่สนในเมื่อของรางวัลมันล่อลวง อิอิ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 265
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น