ตอนที่ 762 ขับเคลื่อนระบบอย่างบ้าคลั่ง
ตอนที่ 762 ขับเคลื่อนระบบอย่างบ้าคลั่ง
“ผมไม่เข้าใจ กฎมันบอกเอาไว้ตรงไหนว่าผมจะต้องหนี?” เซี่ยเฟยพูดขึ้นมาด้วยความเหลืออดหลังจากต้องทุกข์ทรมานจากการหลบหนีมาเป็นเวลานาน
“ระบบบอกว่านี่คือการทดสอบเอาชีวิตรอดไม่ใช่เหรอ? การเอาชีวิตรอดมันก็คือการพยายามหลบหนีไม่ใช่หรือยังไง” โอโร่กล่าวอย่างหงุดหงิดเช่นเดียวกัน เพราะเขาก็ไม่เคยตั้งคำถามกับกฎเกณฑ์ของระบบแบบที่เซี่ยเฟยถามขึ้นมาก่อนเลย
“ทำไมต้องหนี?” เซี่ยเฟยถามอย่างไม่เข้าใจ
“มันเป็นกฎของระบบอัตโนมัติที่ต้องการทดสอบความสามารถในการหลบหนีของนายไม่ใช่เหรอ” โอโร่กล่าวขึ้นมาด้วยความปวดหัว เมื่อจู่ ๆ เซี่ยเฟยก็กลายเป็นคนขี้สงสัย
“ช่างหัวมันสิ! ผมขี้เกียจจะหนีพวกมันแล้ว”
“นั่นนาย... นายกำลังจะทำอะไร?”
ฟุบ!
เซี่ยเฟยไม่สนใจคำแนะนำโอโร่อีกต่อไป ก่อนที่เขาจะรีบวิ่งไปยังนักรบสวมเกราะเหล็กที่กำลังไล่ตามเขามา
“ผมไม่ชอบเป็นเหยื่อ ไม่คิดจะเป็นและไม่มีวันเป็นด้วย!”
ในเวลาเพียงแค่พริบตาเซี่ยเฟยก็เปลี่ยนจากเหยื่อเป็นนักล่า โดยการหันหลังและมุ่งหน้าตรงไปยังศัตรูที่กำลังไล่ล่าเขา
เหล่าบรรดานักรบเกราะเหล็กต่างก็มองไปยังชายหนุ่มตรงหน้าอย่างตกใจ เพราะพวกเขาไม่คิดว่าจู่ ๆ เหยื่อจะแว้งมากัดพวกเขาแบบนี้ และเซี่ยเฟยก็เป็นบุคคลแรกที่ตัดสินใจหันมาจู่โจมเข้าใส่พวกเขา
ฝ่ามือใบไม้ร่วง!
ตูม!
นักรบคนหนึ่งถูกพลังของกฎแห่งความโกลาหลทำลายจนกลายเป็นชิ้น และทำให้นักรบจากระบบลดลงมาเหลือเพียงแค่ 107 คนเท่านั้น
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็หยิบบลัดบิวเทียสออกมาพร้อม ๆ กับปล่อยขนอุยและหงส์ครามเพื่อเตรียมพร้อมสู้รบอย่างเต็มรูปแบบ
“ฆ่าพวกมันให้หมด!!”
“2!”
“3!”
“5!”
ตูม!
“อย่าหยุดจนกว่าพวกมันจะหมด!!”
…
โอโร่อ้าปากค้างมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง และถึงแม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าเซี่ยเฟยเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบทำตัวอยู่ในกรอบ แต่เขาก็ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะเลือกเป็นฝ่ายไล่ล่านักรบของระบบแบบนี้ ซึ่งการตัดสินใจของชายหนุ่มมันก็ไม่ต่างไปจากการแหกกฎเกณฑ์ที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติมานับแสนนับล้านปี เรียกได้ว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นพวกชอบแหกกฎโดยสมบูรณ์
ปัจจุบันป่าดิบชื้นได้ถูกเปลี่ยนเป็นสนามรบอันน่ากลัว โดยเซี่ยเฟย, ขนอุยและหงส์ครามต่างก็จู่โจมเข้าใส่ศัตรูอย่างโหดร้ายเพื่อทำลายร่างของศัตรูให้กลายเป็นชิ้น ๆ
“พวกมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตจริง ๆ แต่เป็นแค่นักรบจำลองจากระบบที่ไม่มีพลังงานงั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยส่ายหัวอย่างผิดหวังเมื่อบลัดบิวเทียสไม่สามารถดึงพลังงานมาจากร่างของศัตรูได้
“นี่นายกำลังเข้ารับบททดสอบหรือกำลังออกมาล่าเหยื่อกันแน่? กฎมันก็บอกเอาไว้ว่านายต้องหนี ทำไมนายถึงเลือกไปโจมตีใส่พวกเขาแบบนั้น?” โอโร่ตะโกนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“กฎมีเอาไว้แหก! แม้ว่าพวกเขาเป็นนักล่าแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเป็นเหยื่อไม่ได้สักหน่อย” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างเฉยเมย ซึ่งในระหว่างที่เขากำลังพูดอยู่นั้นเขาก็ยังคงจู่โจมเข้าใส่ศัตรูโดยไม่คิดที่จะหยุดชะงักเลยแม้แต่วินาทีเดียว
ถ้าหากว่าเขาเป็นพวกสนใจกฎเกณฑ์ เขาคนนี้ก็คงจะไม่ใช่คนที่ชื่อว่าเซี่ยเฟย!
—
เมื่อเซี่ยเฟยแหกกฎเกณฑ์ที่มีอยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณ ระบบประมวลผลการทดสอบก็กำลังตกอยู่ในความสับสน จนทำให้อุณหภูมิภายในห้องเก็บเครื่องประมวลผลเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างรวดเร็ว เพราะระบบอัจฉริยะกำลังพยายามประมวลผลเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างบ้าคลั่ง
มันอยากจะรู้ว่าทำไมเซี่ยเฟยถึงสู้กลับ?
ผู้เข้าร่วมการทดสอบคนนี้กล้าดียังไงถึงมาโจมตีนักรบของระบบ?
น่าเสียดายที่การตัดสินใจของเซี่ยเฟยไม่ใช่สิ่งที่ระบบอัจฉริยะจะสามารถประมวลผลได้ง่าย ๆ และในระหว่างที่เซี่ยเฟยยังคงสังหารนักรบของระบบต่อไป ระบบอัจฉริยะก็เริ่มตื่นตระหนกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ผู้ที่กำลังทดสอบเพื่อเข้าร่วมสนามรบโบราณไม่ได้มีเซี่ยเฟยเพียงแค่คนเดียว บนหน้าจอของระบบอัจฉริยะจึงมีหน้าจอต่าง ๆ ของผู้เข้าร่วมการประเมินอีกเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน
แต่ในทันใดนั้นเองภาพหน้าจอทั้งหมดก็ถูกเปลี่ยนเป็นภาพของเซี่ยเฟย มันจึงทำให้ผู้ประเมินคนอื่น ๆ ตกอยู่ในความมืดมิดคล้ายกับว่าระบบอัจฉริยะจะทอดทิ้งพวกเขาไปแล้ว
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!” นักรบผิวเขียวหยุดวิ่งพร้อมกับหอบหายใจอย่างหนัก เพราะเขาวิ่งไม่หยุดมาเป็นเวลานานกว่า 7 ชั่วโมงแล้ว แต่จู่ ๆ สภาพแวดล้อมก็มืดมิดลงอย่างกะทันหัน เขาจึงพยายามใช้โอกาสนี้ในการพักเพื่อฟื้นฟูพละกำลังกลับมา
การกระทำของเซี่ยเฟยทำให้ระบบอัจฉริยะไม่สามารถที่จะประมวลผลเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง มันจึงตัดสินใจใช้ทรัพยากรทั้งหมดในการจัดการกับเซี่ยเฟยก่อน และมันก็ใช้ข้อมูลเกือบทั้งหมดในการคำนวณพฤติกรรมของผู้เข้าร่วมการทดสอบที่แปลกประหลาดคนนี้
“คนสุดท้ายแล้วสินะ” เซี่ยเฟยค่อย ๆ เดินเข้าไปหานักรบจากระบบคนสุดท้าย โดยข้าง ๆ เขาได้มีขนอุยกับหงส์ครามกำลังค่อย ๆ เดินเข้าหาเหยื่อของพวกมันอย่างโหดเหี้ยมเช่นกัน
ทั้งขนอุยและหงส์ครามต่างก็ได้รับอิทธิพลมาจากเซี่ยเฟย พวกมันจึงกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สนใจกฎเกณฑ์อะไรทั้งนั้น เพราะแม้กระทั่งกฎแห่งจักรวาลที่จะดึงศิลาหางฟินิกซ์กลับไปยังจักรวาลอันว่างเปล่าก็ยังถูกชายหนุ่มคนนี้ทำลายต่อหน้าต่อตาพวกมันมาครั้งหนึ่งแล้ว มันจึงไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงเพียงแค่กฎเกณฑ์ที่ระบบอัจฉริยะได้สร้างขึ้นมาเพื่อคอยควบคุมผู้ประเมินเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น
“อย่าพึ่งทำอะไร ฉันมีเรื่องที่จะต้องทดสอบสักหน่อย” เซี่ยเฟยออกคำสั่ง
เมื่อถูกสั่งห้ามขนอุยกับหงส์ครามต่างก็สะบัดหน้าหนีด้วยสีหน้าอันบูดบึ้ง นักรบระบบที่กำลังจะยอมแพ้ก็ทำได้แค่เพียงมองไปยังเซี่ยเฟยอย่างสงสัย
“นั่นนายกำลังจะทำอะไร?” โอโร่กล่าวถามพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างหนัก
“ผมแค่รู้สึกแปลก ๆ พวกมันควรจะเป็นเพียงแค่นักรบที่ระบบจำลองขึ้นมาเท่านั้น แต่ในตอนที่ใบดาบเสียบผ่านร่างของพวกมันเข้าไป ผมกลับรู้สึกราวกับกำลังตวัดดาบเข้าใส่สิ่งมีชีวิตที่มีเลือดเนื้อจริง ๆ”
“ผมคิดว่าผมควรจะต้องตรวจสอบเรื่องนี้สักหน่อยว่านักรบที่ถูกจำลองมันเป็นนักรบประเภทไหนกันแน่? พวกมันถึงให้ความรู้สึกสมจริงได้มากขนาดนี้” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างจริงจัง
“หา!”
โอโร่อ้าปากค้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เพราะตอนแรกเซี่ยเฟยก็ละเมิดกฎที่คนอื่นไม่เคยทำมาก่อน และตอนนี้ชายหนุ่มก็ทำท่าเหมือนจะจับนักรบคนนั้นไปผ่าชำแหละ คล้ายกับว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงแค่หนูทดลอง
นี่มันบททดสอบสำหรับการเข้าร่วมสนามรบโบราณนะ!
“แล้วนายจะผ่าร่างศึกษานักรบพวกนี้ไปทำไม!?”
ในเวลาเดียวกันระบบอัจฉริยะที่ซ่อนตัวอยู่ภายในห้องลึกลับก็กำลังเกิดเหตุขัดข้องจนเกือบจะพังทะลาย
ตั้งแต่สมัยโบราณมาจนถึงปัจจุบัน ชายหนุ่มคนนี้คือผู้ประเมินคนแรกที่ต้องการจะศึกษาตัวมันเอง จนทำให้ระบบอัจฉริยะไม่รู้ว่าจะประมวลผลเหตุการณ์ในครั้งนี้ยังไงดี
ฟี้ ๆ ๆ
อุณหภูมิภายในห้องเพิ่มขึ้นในระดับที่สูงมากพร้อมกับกลิ่นเหม็นไหม้ที่ค่อย ๆ ถูกปล่อยออกไปจากตัวเครื่อง ชิพประมวลผลนับล้านกำลังส่องแสงสว่างขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง คล้ายกับว่าระบบอัจฉริยะกำลังพยายามใช้ทรัพยากรทั้งหมดในร่างกายเพื่อหาทางออกให้กับเหตุการณ์อันแปลกประหลาดในครั้งนี้
เซี่ยเฟยไม่เคยรู้เลยว่าการกระทำของเขาจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่อันร้ายแรง ซึ่งในปัจจุบันชายหนุ่มก็กำลังใช้บลัดบิวเทียสค่อย ๆ ผ่าร่างของนักรบคนสุดท้ายอย่างเลือดเย็น
ขวับ!
เซี่ยเฟยตัดผ่าหมวกเกราะของศัตรูด้วยการตวัดดาบออกไปเพียงแค่ครั้งเดียวเผยให้เห็นใบหน้าที่ดูคล้ายลิงที่ซ่อนอยู่ โดยมันมีเขี้ยวสีเขียว 4 เขี้ยวยื่นออกมาจากมุมปากของมันในแต่ละด้าน
“คุณรู้จักมันไหมว่ามันคือตัวอะไร?” เซี่ยเฟยถาม เพราะเขาไม่ค่อยรู้จักเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ในจักรวาลมากนัก เขาจึงตั้งคำถามกับโอโร่ที่รู้เรื่องเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ในจักรวาลมากกว่าเขา
“เลิกล้อเล่นสักทีเถอะ! นี่เป็นรูปลักษณ์ที่ระบบเป็นคนสร้างขึ้นมา แล้วมันจะมีเผ่าพันธุ์แบบนี้ในจักรวาลได้ยังไง” โอโร่รู้สึกปวดหัวจนเกือบจะเป็นลม
“เป็นไปไม่ได้! ปกติระบบคอมพิวเตอร์อัจฉริยะจะต้องมีต้นแบบถึงจะสามารถจำลองร่างแบบนี้ขึ้นมาได้ หรือว่าระบบของสนามรบโบราณจะเป็นระบบอัจฉริยะที่สามารถจำลองสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งขึ้นมาได้จริง ๆ..”. เซี่ยเฟยพึมพำกับตัวเองโดยไม่สนใจคำตอบของโอโร่เลย
ฉัวะ!
เซี่ยเฟยตัดชุดเกราะออกอย่างประณีตเผยให้เห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและมีขนปกคลุมอยู่ทั่วทั้งตัวของนักรบ
นักรบจากระบบยืนอยู่นิ่ง ๆ อย่างทำอะไรไม่ถูก คล้ายกับว่าตอนนี้มันถูกเปลืองผ้าท่ามกลางสายตาของสาธารณะ
“ระบบจะจำลองระบบสืบพันธุ์ของพวกมันขึ้นมาด้วยหรือเปล่านะ?” เซี่ยเฟยยกมือขึ้นมาจับคางด้วยความสงสัย
คำอุทานของเซี่ยเฟยแทบจะทำให้โอโร่เป็นลม!
ทำให้ระบบอัจฉริยะหยุดทำงาน!
ถ้าหากว่าใครมาได้ยินพวกเขาก็คงจะหยุดหายใจ!!
เซี่ยเฟยจะขี้สงสัยมากจนเกินไปแล้ว มันจำเป็นจะต้องมาศึกษาระบบสืบพันธุ์ของนักรบที่ถูกจำลองขึ้นมาจากระบบแบบนี้ด้วยไหม
ในที่สุดระบบก็ไม่สามารถประมวลผลความไร้เหตุผลของเซี่ยเฟยได้อีกต่อไป ด้วยเหตุนี้สนามทดสอบทั่วทุกสนามจึงถูกดับไฟและทำให้ทุกคนตกอยู่ในความมืดมิดทั้งหมด
“ระบบเกิดข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรง จำเป็นจะต้องทำการรีสตาร์ทอย่างเร่งด่วน…” เสียงหญิงสาวของระบบดังขึ้นมาอย่างฉับพลัน ซึ่งถ้าหากว่าเธอสามารถแสดงสีหน้าออกมาได้ใบหน้าของเธอก็คงจะสีขาวคล้ายกับคนที่หมดแรง
***************
แม้แต่ระบบก็ยังยอมแพ้ 555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 206
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น