ตอนที่ 764 เมื่อเผ่ามารแข็งแกร่งกว่าเผ่าเทพ

-A A +A

ตอนที่ 764 เมื่อเผ่ามารแข็งแกร่งกว่าเผ่าเทพ

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 764 เมื่อเผ่ามารแข็งแกร่งกว่าเผ่าเทพ

“อย่าบอกนะว่าเซี่ยเฟยเด็ดขาดกว่านายในตอนนั้นซะอีก ดูนั่นสิเขาลงมือฆ่าสหายร่วมรบได้โดยไม่ลังเลเลยด้วยซ้ำ” เทพดำกล่าวขณะมองภาพที่ปรากฏบนหน้าจอ

เมื่อเซี่ยเฟยตอบตกลงเข้าร่วมโครงการอัลฟ่า เขากับมนุษย์อีกสองคนก็ถูกส่งตรงเข้าไปยังสนามรบที่มีศัตรูปรากฏตัวขึ้นมาตลอดเวลา โดยมนุษย์ทั้งสองคนนั้นบอกกับเซี่ยเฟยว่าพวกเขาถูกบังคับให้เข้าร่วมกับโครงการอัลฟ่าด้วยเหมือนกัน ทั้งสามจึงต่อสู้เคียงข้างกันเป็นเวลานานและสังหารศัตรูจากระบบไปได้อย่างมากมาย

น่าเสียดายที่เมื่อเวลาผ่านไปเซี่ยเฟยก็ได้พบว่าสหายทั้งสองคนนี้ไม่ใช่ผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกันกับเขาจริง ๆ แต่ทั้งคู่เป็นศัตรูที่ถูกจำลองขึ้นมาจากระบบ และพวกเขาก็กำลังหาโอกาสที่จะสังหารเซี่ยเฟยในตอนที่ชายหนุ่มเผลอ

เมื่อเซี่ยเฟยเริ่มระแคะระคายใจเขาก็ลงมือสังหารสหายร่วมรบทั้งสองคนโดยไม่ลังเล และเมื่อนักรบทั้งสองคนนี้ได้หายตัวไปแล้วการต่อสู้อันยาวนานก็สิ้นสุดลง คล้ายกับว่าการทดสอบในคราวนี้คือการทดสอบความเด็ดขาดในการตัดสินใจสังหารสหายร่วมรบของเขา

เทพขาวแบะริมฝีปากขึ้นมาอย่างไม่พอใจเมื่อถูกน้องชายขุดคุยเรื่องในอดีตขึ้นมา แล้วถึงแม้ว่าในตอนนี้เขาจะเป็นนักรบที่แข็งแกร่งอย่างสมภาคภูมิ แต่สมัยก่อนเขาก็เป็นนักรบที่ไม่มีความเด็ดขาดอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว

“นายท่าน ผมว่ามันแปลก ๆ นะตั้งแต่ต้นจนจบมันไม่มีการทดสอบประสิทธิภาพในการต่อสู้ของเซี่ยเฟยเลยแม้แต่นิดเดียว คล้ายกับว่าการทดสอบชุดนี้เป็นการทดสอบลักษณะนิสัยของเซี่ยเฟยมากกว่า” แบล็คกี้พยายามพูดเปลี่ยนเรื่อง เมื่อได้เห็นว่าเจ้านายทั้งสองกำลังจะทะเลาะกันอีกแล้ว

คำพูดของแบล็คกี้ทำให้เทพทั้งสองรู้สึกตกใจ เพราะพวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการทดสอบนี้มันจะไม่ใช่การทดสอบเพื่อวัดประสิทธิภาพในการสู้รบของผู้เข้าร่วมทดสอบจริง ๆ

ในระหว่างที่พวกเขากำลังสับสนกับระบบการประเมินผลอันแปลกประหลาดอยู่นั้น จู่ ๆ มันก็มีตัวเลขปรากฏขึ้นบนหน้าจอ และยิ่งเซี่ยเฟยเข้าร่วมการประเมินมากเท่าไหร่ตัวเลขนี้มันก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นไปมากเท่านั้น

“นี่มันตัวเลขดัชนีนี่นา มันกำลังวัดอะไรอยู่กันแน่?” เทพดำจับคางพึมพำอย่างใช้ความคิด

ช่วงเวลานี้เซี่ยเฟยกำลังรู้สึกหดหู่ใจมาก เพราะช่วงเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเขาถูกระบบหลอกลวงซ้ำ ๆ ด้วยวิธีการต่าง ๆ อย่างมากมาย

อย่างไรก็ตามการทดสอบในลักษณะนี้มันก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่เลวร้าย เพราะท้ายที่สุดการหลอกจากระบบก็เป็นการหลอกที่แนบเนียนมาก มันจึงถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีที่เขาจะได้ฝึกฝนทำความเข้าใจเล่ห์เหลี่ยมของสิ่งมีชีวิตระดับสูง

ปัจจุบันชายหนุ่มกำลังหลับตาตั้งสมาธิเพื่อรอคอยการประเมินในรอบต่อไป

“ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าเข้าร่วมการทดสอบแปลก ๆ นี่ แต่นายก็ไม่ฟังคำแนะนำจากฉันเลย นายรู้ไหมว่าการทดสอบในช่วง 4 สัปดาห์นี้ถือว่าเป็นระบบฝึกฝนที่มีประสิทธิภาพมาก นักรบหลาย ๆ คนเคยพัฒนาถึงสองระดับในช่วง 4 สัปดาห์นี้เลยด้วยซ้ำ”

“แต่ตอนนี้นายเสียช่วงเวลาดี ๆ ไป 2 สัปดาห์แล้ว แต่นายยังไม่สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพในการสู้รบของตัวเองได้เลย เรียกได้ว่านายเสียโอกาสที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของนายไปแล้ว” โอโร่กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

เซี่ยเฟยรู้สึกอายอยู่เล็กน้อยที่ดื้อรั้นไม่ฟังคำแนะนำของโอโร่ แต่เขาก็ไม่เคยรู้สึกเสียใจกับเส้นทางที่เขาเลือก เพราะท้ายที่สุดถ้าหากเขาสามารถผ่านพ้นการทดสอบครั้งนี้ได้สำเร็จ เขาก็จะได้รับแหวนสายรุ้งที่มีพื้นที่จัดเก็บสูงถึง 1 ล้านลูกบาศก์เมตร แล้วมันย่อมชดเชยโอกาสในการฝึกฝนที่หายไปในช่วง 4 สัปดาห์นี้ได้

เมื่อเขาตัดสินใจแล้วมันก็ไม่มีช่องทางให้เขาถอยกลับอีกต่อไป เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะต้องรอคอยบททดสอบบทต่อไปที่กำลังจะมาถึงเท่านั้น

อย่างไรก็ตามหลังจากเวลาได้ผ่านพ้นไป 4 ชั่วโมง มันก็ยังไม่มีบททดสอบใหม่ปรากฏขึ้นมาจากระบบเลย เซี่ยเฟยกับโอโร่จึงคิดว่าตอนนี้การทดสอบในโครงการอัลฟ่าอาจจะสิ้นสุดลงไปแล้วก็ได้

แต่ในทันใดนั้นมันก็มีแสงสว่างที่ดูศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน พร้อมกับชายชราผู้มีผมเผ้าสีขาวค่อย ๆ ร่อนลงมาจากบนท้องฟ้า คล้ายกับว่าเขาเป็นเทพที่กำลังเสด็จลงมาจากสรวงสวรรค์

ทั้งเซี่ยเฟยและโอโร่ต่างก็มองภาพชายชราตรงหน้าด้วยความตกตะลึง เพราะกลิ่นอายที่ชายชราคนนี้แผ่ออกมามันดูสง่างามมากยิ่งกว่าเทพไซที่พวกเขาได้พบในก่อนหน้านี้เสียอีก

“ยินดีด้วย คุณคือนักรบคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถผ่านการทดสอบในโครงการอัลฟ่าได้สำเร็จ” เสียงอันสง่างามดังกึกก้องขึ้นมาจากทั่วทิศทาง

“แย่แล้ว! นั่นมันราชันย์กราวิตี้ เขาคือหนึ่งในผู้ที่สร้างดินแดนกฎแห่งนี้ขึ้นมา” โอโร่พึมพำพร้อมกับเหงื่อที่ไหลออกมาท่วมทั้งใบหน้า

“คนที่สร้างดินแดนกฎขึ้นมางั้นเหรอ? แบบนี้เขาก็จะต้องเก่งมากเลยใช่ไหม?” เซี่ยเฟยกล่าวถามด้วยความตกตะลึง

“เก่งสิ เก่งมาก ๆ ด้วยและเขาก็ยังเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในการใช้กฎแห่งแรงโน้มถ่วง” โอโร่กล่าวด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว

ในเวลาเดียวกันเทพดำที่กำลังอยู่ในห้องควบคุมก็กำลังส่งเสียงกรีดร้องและพยายามที่จะหาทางหนีทุกวิถีทาง

“มันจบแล้ว ตาเฒ่าพวกนั้นมันตามหาฉันจนเจอแล้ว”

อย่างไรก็ตามในขณะที่เทพดำกำลังจะเข้าไปในประตูมิติเพื่อหลบหนี เทพขาวที่อยู่ห่างไปไม่ไกลก็เหยียดมือออกไปคว้าร่างของเขาเอาไว้เสียก่อน

“ใจเย็น ๆ นั่นเป็นแค่ภาพจำลองของระบบ ถ้าตาเฒ่าพวกนั้นเดินทางมาที่นี่จริง ๆ พวกเราจะไม่รู้ตัวก่อนได้ยังไง” เทพขาวกล่าวอย่างใจเย็น

“ระบบจำลอง? มันจะเหมือนจริงเกินไปหรือเปล่า ไม่ว่าจะดูยังไงแต่นั่นก็เป็นราชันย์กราวิตี้ชัด ๆ” เทพดำกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างหนัก

อย่างไรก็ตามในขณะที่เทพดำกำลังมองภาพตรงหน้าอย่างไม่แน่ใจ เซี่ยเฟยก็เดินเข้าไปหาเทพชราด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่ชายหนุ่มจะตวัดบลัดบิวเทียสเข้าใส่ราชันย์กราวิตี้โดยตรง

ทั้งเทพขาวและเทพดำต่างก็มองหน้ากันอย่างพูดไม่ออก ขณะที่อสูรเทวะทั้งสองตัวก็กำลังขนลุกซู่ไปทั่วทั้งตัวด้วยเช่นกัน

ทั้งเทพขาวและเทพดำต่างก็ล้วนแล้วแต่มีพลังในระดับที่ไม่ธรรมดา พวกเขาจึงสัมผัสได้ว่าชายชราคนนั้นไม่ใช่ราชันย์กราวิตี้ที่แท้จริง

แต่เซี่ยเฟยสามารถแยกแยะความจริงกับภาพลวงตาของระบบได้ยังไง?

ต้องบอกว่าภาพลวงตาตรงหน้าเป็นภาพที่เหมือนจริงมาก จนทำให้แม้แต่เทพดำและโอโร่ก็แทบที่จะเป็นลมด้วยความตกใจด้วยซ้ำ

ฉัวะ!

ชายชราที่มีร่างสูงใหญ่มากกว่า 100 เมตรถูกฟันร่างขาดจากกันอย่างรวดเร็ว จากนั้นภาพของระบบก็สลายหายไปเช่นเดิม ขณะที่เซี่ยเฟยยังคงเก็บบลัดบิวเทียสใส่เข้าไปในปลอก โดยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ผ่านออกมาทางสีหน้าของเขาเลย

“นายรู้ได้ยังไงว่าเขาคือตัวปลอม?” โอโร่กล่าวถามหลังจากใช้เวลาสงบสติอารมณ์เป็นเวลานาน

“ผมไม่รู้”

“อะไรนะ?! ถ้านายไม่รู้แล้วนายกล้าใช้ดาบฟันออกไปได้ยังไง?” โอโร่ตะโกนถามด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

“ผมรู้แค่ว่าตอนนี้ระบบกำลังพยายามหลอกลวงผมทุกวิถีทาง และราชันย์กราวิตี้ก็ไม่มีทางมามอบของรางวัลให้กับผมด้วยตัวเองอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นถึงแม้ว่าเขาจะเป็นตัวจริงแต่เขาก็คงจะสามารถหลบหลีกการโจมตีของผมได้ง่าย ๆ อย่างมากที่สุดถ้าหากเขาถูกฟันเขาก็แค่จะต้องสูญเสียพลังงานบางส่วนให้กับผมเท่านั้นเอง” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับยักไหล่

“นี่นายลองฟันเพื่อดูว่าเขาเป็นตัวจริงหรือตัวปลอมเนี่ยนะ?” โอโร่กล่าวพร้อมกับกลืนน้ำลาย0

“แล้วคุณมีวิธีที่ดีกว่านี้หรือเปล่าล่ะ?” เซี่ยเฟยกล่าวถาม

คำอธิบายของเซี่ยเฟยแทบจะทำให้โอโร่เป็นลมล้มพับไปตรงนั้นเลย เพราะถ้าหากว่าชายชราที่ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าคือตัวจริง การกระทำที่ไม่ให้เกียรติของเขาย่อมสร้างปัญหาที่ตามมาอย่างไม่รู้จบแน่นอน

“ตอนนี้ฉันรู้แล้วล่ะว่าตัวเลขดัชนีนี้มันคือตัวเลขดัชนีวัดอะไร” เทพขาวกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

“วัดอะไร?” เทพดำกล่าวถาม

“มันคือตัวเลขดัชนีวัดความบ้าของนักรบ!!”

นอกเหนือจากเทพขาวกับเทพดำจะดูภาพหน้าจอการทดสอบของเซี่ยเฟยแล้ว พวกเขาก็ยังให้ความสนใจไปกับภาพอื่น ๆ ที่นักรบจากเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ กำลังเข้าร่วมการทดสอบของระบบด้วย

“ครั้งนี้สถานการณ์ค่อนข้างแย่เลยนะ” เทพดำกล่าวขณะใช้มือเคาะโต๊ะอย่างเคร่งเครียด

“ความแตกต่างระหว่างทั้งสองฝ่ายสูงเกินไปจริง ๆ นักรบ 6 คนจากทางฝั่งมารทำผลงานได้ดีมาก แต่มันกลับไม่มีนักรบคนไหนของทางฝั่งเทพที่สามารถทำผลงานได้ดีเทียบกับนักรบพวกนั้นเลย” เทพขาวกล่าวพร้อมกับถอนหายใจออกมาด้วยเช่นกัน

สนามรบโบราณไม่ใช่สถานที่ที่เปิดให้คนทั่วไปก้าวเท้าเข้ามา ทุกคนที่เดินทางมาที่นี่ต่างก็ล้วนแล้วแต่เดินทางมาอย่างลับ ๆ เหมือนกันหมด ความสมดุลย์ของพลังจึงมีความสำคัญมาก นายยังจำได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้นที่สมดุลย์พลังเอนเอียงฝั่งมาทางด้านเรา?” เทพดำถาม

“จำได้สิ ตอนนั้นนักรบทางฝั่งเทพเหนือกว่านักรบของทางฝั่งมารมาก พวกเราเลยไล่ล่าฆ่าพวกมารจนสนุกมือ” เทพขาวกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มที่หาได้ยากออกมา

สองเผ่าพันธุ์สูงสุดมักจะมีความขัดแย้งกันโดยตลอด และในกรณีที่พวกเขาเข้ามาสำรวจสนามรบโบราณหากทั้งสองฝั่งมีความสมดุลย์ของพลังในระดับใกล้เคียงกัน พวกเขาก็จะแยกย้ายกันออกสำรวจโดยพยายามที่จะไม่เข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน เว้นแต่ว่าพวกเขาจะได้พบกับนักรบที่อ่อนแอและแยกตัวออกมาสำรวจเพียงลำพัง พวกเขาก็จะสังหารนักรบพวกนั้นบ้างเป็นครั้งคราว

อย่างไรก็ตามถ้าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอ่อนแอกว่าอีกฝ่ายหนึ่งอย่างชัดเจน ในเวลานั้นมันก็จะก่อให้เกิดเหตุการณ์ล่าสังหารก่อนที่พวกเขาจะเริ่มออกสำรวจ

“เหตุการณ์ในวันนี้กลับตาลปัตรจากปีนั้นโดยสิ้นเชิง นักรบของทั้งฝั่งมารแข็งแกร่งมาก ขณะที่นักรบของทั้งฝั่งเทพอ่อนแอมากเกินไป หากพวกมารพบว่านักรบของทางฝั่งเทพมีพลังเทียบชั้นกับพวกเขาไม่ได้ ในเวลานั้นนักรบของทางฝั่งเทพคงถูกไล่ล่าสังหารอยู่ฝ่ายเดียวแน่ ๆ” เทพดำกล่าว

“ทางฝั่งมารมีราชากฎระดับสูงสุดอยู่ 6 คน ขณะที่ทางฝั่งเทพมีราชาฎระดับสูงสุดอยู่เพียงแค่ 2 คนเท่านั้น ที่แย่ยิ่งกว่าคือเซี่ยเฟยเดินทางมาสนามรบโบราณทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งจะพัฒนาขึ้นสู่ราชากฎได้เพียงแค่ไม่นาน นี่เขาไม่รู้หรือยังไงว่าสถานที่อย่างนี้ไม่ใช่ที่ตามหาสมบัติ แต่มันเป็นสนามรบที่ทุกคนพร้อมจะสังหารกันได้ทุกเมื่อ” เทพขาวกล่าวอย่างกังวล

แม้ว่าพวกเขาทั้งคู่จะถูกบังคับให้ต้องหลบหนีออกจากเผ่าเทพ แต่ท้ายที่สุดสายเลือดของเผ่าเทพก็ยังคงไหลเวียนอยู่ภายในร่างของพวกเขา เหตุการณ์ในปัจจุบันมันจึงทำให้พวกเขารู้สึกตึงเครียดอย่างแท้จริง

“ถึงยังไงพวกเราก็เข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ไม่ได้อยู่แล้ว พวกเราคงจะทำได้เพียงแค่รอดูความพยายามของเด็กรุ่นใหม่พวกนี้เท่านั้น” เทพขาวกล่าวอย่างเคร่งขรึม

***************

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2025 keangun. All Rights Reserved.