ตอนที่ 760 เปิดบัญชีระดับ 2

-A A +A

ตอนที่ 760 เปิดบัญชีระดับ 2

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 760 เปิดบัญชีระดับ 2

หลังจากที่เซี่ยเฟยพัฒนาจนกลายเป็นราชากฎ เขาก็มีคุณสมบัติที่จะเข้าถึงห้องแห่งความลับของชาวแอตแลนติสในธนาคารฟารซีได้เสียที เขาจึงเดินทางมายังธนาคารแห่งนี้เพื่อดูว่าภายในห้องแห่งความลับระดับ 2 มันได้เก็บสิ่งของอะไรเอาไว้กันแน่

แน่นอนว่าสิ่งที่เขาสนใจมากที่สุดนั่นก็คือวิชามนตราอสูร 3 ขั้นสุดท้าย ซึ่งถ้าหากว่าเขาสามารถเรียนรู้วิชาครบทั้งเก้าขั้นได้ บางทีเขาก็อาจจะสามารถควบคุมสัตว์อสูรได้ทุกชนิดทั่วทั้งจักรวาล

พลังของวิชามนตราอสูรถือได้ว่าเป็นพลังที่น่ากลัวมาก เพราะมันช่วยให้เขาสามารถผูกพันธสัญญากับอสูรศักดิ์สิทธิ์อย่างขนอุยได้ แน่นอนว่าสาเหตุหลักที่เขาสามารถทำพันธสัญญาได้สำเร็จนั้น มันก็เป็นเพราะมันมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ช่วยเอื้ออำนวยให้เขาสามารถทำพันธสัญญาครั้งนั้นสำเร็จด้วย

น่าเสียดายที่ในห้องแห่งความลับขั้นแรกยังไม่มีวิชามนตราอสูรถูกเก็บเอาไว้ เซี่ยเฟยจึงหวังว่าในห้องแห่งความลับระดับ 2 นี้มันจะมีวิชา 3 ขั้นสุดท้ายเก็บเอาไว้ให้กับเขา

ท้ายที่สุดสนามรบโบราณย่อมเป็นสถานที่ที่อันตรายมาก ซึ่งถ้าหากว่าเขาได้รับสมบัติอะไรมาสักอย่าง มันก็อาจจะช่วยให้เขาสามารถสำรวจสนามรบโบราณได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ทันทีที่ชายหนุ่มแสดงบัตรสีทองเข้ม เขาก็ได้รับเชิญให้เข้าไปในห้องวีไอพีด้วยความเคารพในทันที ซึ่งสังคมของสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญาทุกที่ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นแบบนี้ ตราบใดก็ตามที่เขาแสดงความมั่งคั่งออกมา มันก็จะทำให้พนักงานบริการในร้านต่าง ๆ ต้อนรับเขาด้วยความเคารพ

“ฉันต้องการเปิดห้องแห่งความลับระดับที่ 2” เซี่ยเฟยกล่าว

“คุณผู้ชาย ห้องแห่งความลับระดับ 2 ที่ผูกติดกับบัตรของคุณมีข้อกำหนดว่าจะเปิดให้กับผู้ที่มีพลังระดับราชากฎเท่านั้น ไม่ทราบว่า…” พนักงานกล่าวถามอย่างสุภาพ

“ตอนนี้ฉันได้กลายเป็นราชากฎจากตระกูลสกายวิงแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

แม้ว่าชายหนุ่มจะกล่าวตอบกลับไปอย่างสบาย ๆ แต่มันกลับทำให้พนักงานคนนั้นรู้สึกตกใจมาก เพราะครั้งสุดท้ายที่เซี่ยเฟยมาใช้บริการธนาคารเขาก็เป็นคนคอยต้อนรับชายหนุ่มในช่วงเวลานั้นด้วยเหมือนกัน

เขาจำได้ดีว่าตอนนั้นเซี่ยเฟยเพิ่งจะเป็นอัศวินกฎขั้นที่ 7 เท่านั้น แต่หลังจากเวลาได้ผ่านพ้นไปไม่นาน ชายหนุ่มคนนี้กลับบอกว่าเขาได้กลายเป็นราชากฎเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมันเป็นความเร็วในการพัฒนาที่น่าตกตะลึงมาก

สิ่งที่ทำให้พนักงานธนาคารรู้สึกตกใจมากที่สุดคือการที่ชายหนุ่มคนนี้บอกว่าเขามาจากตระกูลสกายวิง เพราะสงครามที่เพิ่งผ่านพ้นไปได้ไม่นานโด่งดังไปทั่วทั้งดินแดนกฎ จนทำให้แม้แต่ดินแดนมารที่อยู่ห่างไกลก็ยังได้รับข่าวสารในเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน

การที่ตระกูลหนึ่งสามารถบีบตระกูลใหญ่อีกตระกูลหนึ่งให้ออกไปจากดินแดนบ้านเกิดของตัวเองเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก มันจึงยิ่งทวีความน่ากลัวให้กับชื่อเสียงของตระกูลสกายวิงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

เหงื่อเม็ดใหญ่ค่อย ๆ ไหลออกมาจากหน้าผากของพนักงานธนาคารอย่างช้า ๆ ก่อนที่เขาจะรีบนำอุปกรณ์ทดสอบพลังมาเพื่อตรวจสอบพลังของชายหนุ่ม

“คราวนี้ตระกูลนายทำเรื่องใหญ่ไปมากจริง ๆ ลองสังเกตดูสิเมื่อไหร่ก็ตามที่ใครได้ยินชื่อสกายวิง พวกเขาจะกลัวจนลนลานไปหมด” โอโร่กล่าวพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง

“ผมไม่สนใจหรอกว่าคนอื่นจะคิดยังไง ตราบใดก็ตามที่มันไม่สร้างปัญหาให้กับผมก็พอแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าว

การทดสอบพลังผ่านอุปกรณ์ทดสอบเป็นการทดสอบที่ง่ายดายมาก เพราะเมื่อเซี่ยเฟยวางมือตรงกลางเครื่องแสงสว่างบนตัวเครื่องจะค่อย ๆ สว่างขึ้นมาทีละดวง และเมื่อไหร่ก็ตามที่ไฟเขียวดวงสุดท้ายส่องสว่าง มันก็เป็นเครื่องยืนยันว่าตอนนี้เขาได้มีพลังอยู่ในระดับราชากฎแล้วจริง ๆ

“ทางเราได้ทำการอัปเกรดบัญชีให้กับคุณผู้ชายเรียบร้อยแล้วครับ ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายต้องการจะไปตรวจสอบห้องแห่งความลับเลยหรือเปล่าครับ?” พนักงานกล่าวด้วยความเคารพ

“อืม” เซี่ยเฟยพยักหน้าเป็นคำตอบ

การมีชื่อสกายวิงต่อท้ายช่วยอำนวยความสะดวกให้เขาเยอะมาก เพราะหลังจากพนักงานรู้ว่าเขาคือสมาชิกของตระกูลสกายวิง เขาก็สามารถตรวจสอบบัญชีระดับ 2 ได้ในเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 1 นาที

เมื่อบัญชีถูกอัปเกรดเป็นระดับ 2 เขาก็มีเงินอยู่ในบัญชีมากถึง 11,000 คริสตัลเขียว ซึ่งแตกต่างจากบัญชีระดับแรกที่มีเพียงแต่คริสตัลต้นกำเนิดระดับ 4 เท่านั้น

คริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 ที่มีสีเขียวนั้นคือสกุลเงินสำหรับชนชั้นสูงในดินแดนกฎ อย่างแท้จริง ซึ่งในสถานการณ์ปกติมันก็ไม่มีใครคิดจะใช้คริสตัลเขียวแทนสกุลเงิน

พลังงานต้นกำเนิดที่บรรจุอยู่ในคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 มีความบริสุทธิ์และมีความหนาแน่นมากกว่าคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 4 ถึง 100 เท่า 

โดยในก่อนหน้านี้ด้วยความช่วยเหลือจากคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 จำนวน 14,000 ก้อนที่ถูกบรรจุอยู่ภายในศูนย์ฝึกสายลม มันก็ช่วยทำให้เขาสามารถพัฒนาพลังความเร็วขึ้นมาจนถึงระดับ 9 ภายในช่วงระยะเวลาเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น ซึ่งมันก็เป็นหลักฐานที่พิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าพลังงานภายในคริสตัลต้นกำเนิดสีเขียวบริสุทธิ์นี้มีประสิทธิภาพในการใช้งานมากเพียงใด

คงจะมีเพียงแต่นายน้อยตระกูลเฝิงอย่างเฝิงซินเหนียนเท่านั้นที่สามารถนำคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 ไปใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายได้ ยกตัวอย่างเช่น ในครั้งสุดท้ายที่เขาได้ไปรับประทานอาหารกับนายน้อยคนนี้ เฝิงซินเหนียนก็นำคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 นับ 10 ก้อนออกมาแจกจ่ายให้กับพวกสาว ๆ ซึ่งถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะเซี่ยเฟยกลัวเสียหน้า เขาก็คงจะแย่งคริสตัลสีเขียวพวกนั้นมาจากสาว ๆ แล้ว

ว่ากันว่าสาเหตุที่ตระกูลเฝิงมีคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 อยู่ในครอบครองอย่างมากมาย นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขาทำงานให้กับเผ่าเทพ ดังนั้นตระกูลของพวกเขาจึงไม่ได้ขาดแคลนคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 เหมือนกับตระกูลอื่น ๆ ซึ่งในความเป็นจริงแม้แต่คริสตัลต้นกำเนิดระดับ 6 ก็คงจะมีให้พบเห็นในตระกูลเฝิงอยู่เหมือนกัน

หากแปลงคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 พวกนี้ด้วยอัตราการแลกเปลี่ยนปกติ มันก็คงจะเป็นจำนวนเงินที่ดูไม่ค่อยน่าสนใจนัก แต่ถ้าหากว่าเขานำพวกมันไปปล่อยในตลาดมืด มันก็มีโอกาสสูงมากที่เขาจะได้รับเงินกลับมา 5-6 ล้านคริสตัลเหลือง

ในที่สุดเซี่ยเฟยก็ตัดสินใจเก็บคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 ไว้ภายในแหวนมิติจำนวน 3,000 ก้อน เพื่อเตรียมความพร้อมเอาไว้สำหรับการใช้เองและเผื่อแผ่ขนอุย นอกจากนี้เขายังฝากคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 4 เกือบทั้งหมดเอาไว้ในธนาคาร โดยเหลือติดตัวเอาไว้เพียงแค่ 10,000 ก้อนเท่านั้น 

ท้ายที่สุดการจ่ายเงินผ่านบัตรก็เป็นเรื่องที่สะดวกสบายกว่า และเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพกพาคริสตัลต้นกำเนิดเป็นจำนวนมาก

“ตอนนี้ยอดคงเหลือบัญชีธนาคารของคุณผู้ชายคือ 8,000 คริสตัลเขียวกับอีก 6,732,100 คริสตัลเหลืองนะครับ คุณลูกค้าเชิญตรวจสอบความถูกต้องและลงนามในเอกสารนี้ด้วยครับ” พนักงานกล่าวด้วยความสุภาพ

เซี่ยเฟยแอบคิดในใจว่าก่อนหน้านี้เขาได้สูญเสียเงินก้อนใหญ่ไปให้กับเซี่ยเหล่าสือ ไม่อย่างนั้นในบัญชีของเขาก็คงจะมีคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 4 อยู่มากกว่า 8 ล้านก้อนแล้ว อย่างไรก็ตามชายหนุ่มก็ลืมเลือนไปแล้วว่าความเป็นจริงพวกเขาได้ใช้งานพลังงานภายในศูนย์ฝึกสายลมอย่างคุ้มค่ามากกว่าเงินที่เขาจ่ายไปมาก

เซี่ยเฟยจับปากกาขึ้นมาอย่างลังเลเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเซ็นชื่อลงไปบนเอกสารว่า

เซี่ยเฟย สกายวิง

หลังจากเดินผ่านประตูมิติของธนาคาร ในที่สุดชายหนุ่มก็ได้มาปรากฏตัวในห้องแห่งความลับระดับ 2 ของชาวแอตแลนติกส

ห้องแห่งความลับในระดับนี้มีพื้นที่มากกว่า 400 ตารางเมตร นอกจากนี้มันยังมีกล่องเก็บของโลหะที่ถูกสร้างขึ้นอย่างปราณีตเรียงรายอยู่อย่างมากมาย แต่น่าเสียดายที่กล่องพวกนั้นครอบคลุมพื้นที่เพียงแค่ 1 ใน 3 ของห้องแห่งความลับเท่านั้น พื้นที่ส่วนใหญ่จึงเป็นเพียงแค่ที่ว่างโล่ง ๆ ทำให้มันดูค่อนข้างวังเวงพอสมควร

หลังจากใช้เวลาคิดอยู่สักพักเซี่ยเฟยก็ตัดสินใจรวมห้องแห่งความลับระดับ 1 กับห้องแห่งความลับระดับ 2 เข้าด้วยกัน เพื่อที่ครั้งต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องเดินทางสลับไปสลับมาเพื่อตรวจสอบห้องแห่งความลับทั้งสองระดับ

การรวมห้องแห่งความลับทั้งสองระดับเข้าด้วยกันไม่ใช่เรื่องยาก เพราะชายหนุ่มมีแหวนมิติขนาดใหญ่อยู่ในมืออยู่แล้ว เขาจึงขนของทั้งหมดใส่ในแหวนมิติเพื่อทำการเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็ว และทุกสิ่งทุกอย่างก็เสร็จสิ้นภายในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น

“ไหนดูซิว่ามีอะไรพอจะใช้การได้บ้าง?” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้มหลังจากที่ได้เห็นห้องแห่งความลับถูกเติมเต็มไปมากกว่าเดิมแล้ว

ชายหนุ่มทำการเปิดกล่องโลหะทีละกล่องอย่างรวดเร็ว โดยเลือกเก็บสิ่งที่มีประโยชน์เอาไว้ในแหวนมิติและเก็บสิ่งที่ไม่จำเป็นเอาไว้ภายในกล่อง นอกจากนี้สิ่งของไม่จำเป็นภายในแหวนมิติของเขาก็ถูกโยนลงไปเก็บในกล่องเก็บของด้วยเหมือนกัน เพราะถึงแม้ว่าแหวนมิติของเขาจะมีขนาด 10,000 ลูกบาศก์เมตร แต่เขาก็จำเป็นจะต้องบริหารพื้นที่ภายในแหวนมิติของเขาให้ดี

หลังจากจัดเก็บของทุกอย่างอยู่ 5 นาที เซี่ยเฟยก็สามารถเคลียร์ของออกจากแหวนมิติของเขาได้จนเสร็จ ซึ่งเรื่องนี้ก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในข้อดีของผู้มีพลังสายความเร็ว

“น่าเสียดายที่มันไม่มีวิชามนตราอสูรถูกเก็บเอาไว้ในห้องแห่งความลับระดับนี้” เซี่ยเฟยบ่นพร้อมกับถอนหายใจออกมา เพราะเขาไม่สามารถหาจารึกมนตราอสูรท่ามกลางสิ่งของทั้งหมดได้

สิ่งของที่ล้ำค่าที่สุดในห้องแห่งความลับระดับ 2 คืออาวุธอุปกรณ์ชั้นยอดเป็นจำนวนมากที่ถูกเก็บเอาไว้อย่างระมัดระวัง ซึ่งอาวุธอุปกรณ์แต่ละชิ้นต่างก็มีประวัติของพวกมันเขียนเอาไว้ แต่เนื่องจากว่าเซี่ยเฟยไม่ใช่ชาวแอตแลนติสประวัติพวกนั้นจึงไม่มีประโยชน์สำหรับเขาเลย

ยิ่งไปกว่านั้นมันก็อาจจะเป็นเพราะอาวุธอุปกรณ์ของเขาอยู่ในระดับที่สูงมากจนเกินไป สมบัติของชาวแอตแลนติสจึงกลายเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์สำหรับเขาอย่างแท้จริง เพราะไม่ว่าอาวุธชิ้นใดก็ไม่สามารถนำมาเทียบเคียงกันกับบลัดบิวเทียสได้ และอุปกรณ์ป้องกันชิ้นไหนก็ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นได้ด้วยเหมือนกัน

“ฉันควรเอาของพวกนี้ไปขายเป็นเงินดีไหม?” เซี่ยเฟยพึมพำกับตัวเอง

“อย่าโลภมากเกินไปหน่อยเลย แค่นายได้คริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 มามากกว่า 10,000 ก้อน มันก็ถือว่าเป็นกำไรของนายมากแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นถึงแม้ของพวกนี้จะไม่ใช่ของดีสำหรับนาย แต่นายก็เก็บพวกมันเอาไว้ให้คนอื่นมาใช้งานได้” 

“ลองดูอย่างวิญญาณหวนของนายสิ สำหรับคนอื่นอาวุธชิ้นนี้ถือว่าเป็นอาวุธที่ล้ำค่า แต่เมื่อมันได้มาอยู่ในมือของนาย มันกลับกลายเป็นอาวุธที่นายมักจะเลือกเอามันมาใช้เพียงแค่ครั้งคราวเท่านั้น” โอโร่กล่าว

“วิญญาณหวนมันไม่ได้สารพัดประโยชน์เหมือนกับบลัดบิวเทียสนิครับ ประโยชน์ของมันแค่มีเอาไว้ใช้สำหรับการก่อกวนศัตรูในบางครั้งก็มากพอแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวตอบ

“ฉันว่าตอนนี้โอกาสที่นายจะหาอาวุธอุปกรณ์ที่ดีกว่าที่นายครอบครองอยู่คงจะไม่ใช่สิ่งที่จะหาได้ง่าย ๆ แล้ว พูดตามตรงนะว่าแม้แต่ภายในสองเผ่าพันธุ์ระดับสูงสุด อาวุธในระดับเดียวกันกับบลัดบิวเทียสก็ไม่ใช่สิ่งที่จะหาได้ง่าย ๆ” โอโร่กล่าว

เซี่ยเฟยยังคงนิ่งเงียบโดยไม่พูดอะไร แต่เขาก็ตัดสินใจเก็บอาวุธชุดเกราะที่เขาคิดว่าดี 2-3 ชิ้นเอาไว้ในแหวนมิติเผื่อที่เขาจะนำพวกมันไปมอบให้กับคนอื่น จากนั้นเขาก็เดินทางออกมาจากห้องแห่งความลับ

“ฉันจะเข้าห้องแห่งความลับระดับ 3 ได้ก็ต่อเมื่อฉันมีพลังระดับจักรพรรดิกฎใช่ไหม?” เซี่ยเฟยกล่าวถามพนักงานหลังจากออกมาจากห้อง

“คุณผู้ชายครับ บัญชีของคุณไม่มีห้องแห่งความลับระดับ 3 มีเพียงกล่องเก็บของขนาดเล็กจำนวน 3 กล่องเท่านั้นที่ถูกผูกติดกับบัญชีระดับ 3 ของคุณเอาไว้” พนักงานกล่าวตอบ

ในที่สุดเซี่ยเฟยก็พอจะยืนยันได้แล้วว่าวิชามนตราอสูรทั้ง 3 ขั้นที่เขากำลังตามหาจะต้องผูกติดอยู่กับบัญชีระดับ 3 ของบัญชีนี้เอาไว้แน่ ๆ

“ถ้าฉันกลายเป็นจักรพรรดิกฎ ฉันก็จะสามารถเปิดบัญชีระดับ 3 ได้ใช่ไหม?” เซี่ยเฟยกล่าวถามอย่างเร่งรีบ

“บัญชีระดับ 3 ไม่ได้มีข้อผูกมัดเกี่ยวกับระดับพลังครับ ข้อกำหนดเพียงข้อเดียวในการเปิดบัญชีระดับนี้คือคุณจะต้องลงทะเบียนเพื่อขึ้นสู่เบื้องบน” พนักงานกล่าวพร้อมกับชี้นิ้วขึ้นไปบนฟ้า

บัญชีระดับ 3 ถูกผูกติดกับสองเผ่าพันธุ์ระดับสูงสุด! หรือมันก็หมายความว่าหากเขาต้องการที่จะครอบครองวิชามนตราอสูร 3 ขั้นสุดท้าย เขาก็จำเป็นจะต้องขึ้นไปยังเผ่าเทพให้ได้เสียก่อน!!

***************

ยากเย็นเหลือเกินนนน

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2025 keangun. All Rights Reserved.