9
หลังจากแม่แสงไปต้มชาจีนตามที่เธอขอร้องแล้ว เธอก็รีบไปรอแม่แสงที่ห้องเปียโนที่มีตู้โชว์ที่เติมไปด้วยเหล้า รินรดากินขนมช่อม่วง สาลี่ หม้อแกงที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อเธอรับประทานขนมหมดเรียบร้อยแล้วปฏิบัติการก็เริ่มขึ้นโดยเปิดตู้หยิบขวดเหล้าออกมาทีละขวดสองขวดแล้วเปิดฝาขวดออกแล้วเทเหล้าลงในถังน้ำที่หยิบมาจากข้างสนามหญ้าหน้าบ้าน ตอนแรกเธอคิดจะเททิ้งลงหน้าต่างแต่พอเห็นแปลงดอกมะลิและดอกกุหลาบก็เปลี่ยนใจ ขณะที่รินรดาเทเหล้าทิ้งนั้นแม่แสงก็เดินเข้ามาพอดีจึงร้องทักเสียงดังจนเธอตกใจขวดเหล้าในมือเกือบหลุดมือ
“อุ๊ย!ตาเถร! คุณทำอะไรหรือค่ะ ถ้าคุณทัศรู้เข้ามีหวังบ้านแตกเป็นแน่ค่ะ”
แม่แสงที่เห็นหญิงสาวแปลกหน้าที่เพิ่งเจอเมื่อคืน ท่าทางแปลกตอนนี้ยิ่งแปลกกว่าเดิมอีกทั้งยังทำลายข้าวของอีก เธอก่อเรื่องอย่างอาจหาญเทเหล้าที่คุณทัศรักปานชีวิตทิ้งหมด แม่แสงไม่อยากจะคิดเลยว่าเป็นชะตากรรมของเธอจะเป็นอย่างไรเมื่อคุณทัศกลับมารู้เข้าเธอยังตอบหน้าตาเฉยว่า
“ก็นี่จะเป็นวิธีที่ทำให้คุณทัศของแม่แสงเลิกเหล้าได้อย่างแน่นอนค่ะ”
“พุธโธ่! ถ้าเป็นเช่นที่คุณว่า ก็จะดีมิน้อยค่ะ แล้วถ้าไม่ใช่เช่นนั้นล่ะค่ะ”
รินรดารู้สึกหวั่นใจไม่น้อยกับคำพูดแม่แสง แต่เมื่อทำไปแล้วซ้ำยังถอยก็ไม่ได้แล้วก็ต้องไปให้สุดทางตามที่ตั้งใจไว้ รินรดาปลอบใจตัวเอง อีกทั้งถ้าเธอคิดว่าต้องอยู่ร่วมชายคากับผู้ชายคนนี้แล้วและถ้าเขายังดื่มเมาหัวราน้ำแบบนี้สักวันไม่ช้าเธอกับเขาต้องได้เป็นผัวเมียกันจริงๆเข้าสักวันเพราะความเมาอย่างแน่นอน ดังนั้นการกระทำของเธอเป็นการตัดไฟแต่ต้นลมอีกทั้งยังช่วยให้เขาเลิกเหล้าได้อีก
ไม่นานนักแม่แสงก็ทะยอยยกหม้อต้มชาจีนที่ผสมน้ำเย็นเข้ามาให้กับรินรดา เธอจัดแจงเทใส่ในขวดเหล้าจนครบแล้วนำขวดเหล้ากลับเข้าไปเรียงไว้ในตู้เช่นเดิม เมื่อเสร็จก็ยืนดูผลงานโบแดงชิ้นแรกของเธออย่างภาคภูมิใจว่าสีของน้ำชาช่างเหมือนเหล้าจริงๆ โดยมีแม่แสงยืนอยู่ข้างๆที่ใจคอไม่ค่อยดีกลัวคุณทัศกลับมาอาละวาด
ทัศที่กลับเข้าบ้านมาก่อนเวลาอาหารเย็นเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่ารินรดานั่งรอเขาที่โต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้วซึ่งตอนแรกเธอจะรับประทานอาหารก่อนโดยไม่รอเขาเพราะคิดว่าเขาคงจะรับประทานมาจากข้างนอกแล้ว แต่ยายชื่นยืนยันอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า
“คุณทัศกลับมารับประทานแน่นอนค่ะ ชื่นเอาหัวเป็นประกัน คุณทัศไม่ทานอาหารนอกบ้านค่ะ”
ยายชื่นเผลอเล่าเรื่องของคุณทัศว่า
“คุณทัศโดนวางยาพิษตอนออกไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับอาจารย์ทรงแต่โชคดีที่คุณทัศถึงมือหมอเร็วล้างท้องได้ทัน ตั้งแต่นั้นคุณทัศก็ไม่เคยทานอาหารข้างนอกบ้านอีกเลยแม้กระทั่งน้ำเปล่าค่ะ”
รินรดาฟังถึงกับนิ่งไปพักหนึ่งแล้วทัศก็เดินมาถึงที่โต๊ะอาหารพอดี เมื่อรินรดาเจอหน้าเขาเธอก็ยิ้มให้เขาอย่างไม่มีเหตุผล รอยยิ้มของเธอยิ่งทำใจเขาหวั่นไหวอยากจะเข้าไปกอดให้หายคิดถึงแม้เพียงห่างกันไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเอง
ทัศเผลอใจในทันใดเมื่อเห็นรอยยิ้มที่ประทับใจและอยากเก็บรอยยิ้มของเธอไว้เพียงคนเดียว โดยที่เขาเองก็ไม่สามารถอธิบายหรือบรรยายออกมาเป็นคำพูดว่าเพราะอะไรเมื่อเห็นรอยยิ้มนี้ของเธอ
ส่วนรินรดารู้สึกทำหน้าไม่ถูกหลังจากที่ถูกเขาจ้องหน้าเธออย่างจริงจังและนานเช่นนี้ เธอรู้สึกร้อนๆหนาวๆใจสั่นๆเเป็นบางครั้งเพราะเรื่องที่ทำไปทำให้อาหารมื้อนี้ไม่ค่อยอร่อยหรือเพราะเธอกินขนมไปจนอิ่มแล้วแต่คงเป็นทั้งสองเหตุผลนั้น เธอจึงถามเขาว่า
“ธุระเรียบร้อยดีใช่มั้ยค่ะ”
“ครับ อยู่บ้านเป็นเช่นไรบ้าง”
“ยังงัยค่ะ ก็ดีนะ”
ทัศมองหญิงสาวที่เขาคิดว่าเขาชอบเธออย่างรวดเร็วได้อย่างไรอีกทั้งยังเป็นห่วงเธออยู่ตลอดจริงๆที่เขาถามเช่นนั้นเพื่ออยากจะรู้ว่าวันนี้เธอทำอะไรบ้าง ไม่รู้ทำไมถึงเขาถึงอยากรู้ความเป็นไปของเธอนัก
หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จทั้งทัศและรินรดาต่างแยกย้ายไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ซึ่งทัศต้องยอมให้เธอใช้ห้องนอนของเขาซึ่งเขาเองก็ยินดีให้เป็นเช่นนั้น โดยที่เขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะอะไรถึงยอมเธอมากถึงเพียงนี้ และก่อนที่เขาจะเข้าห้องไปอาบน้ำเขาก็ได้แวะเข้าไปในห้องพระที่อยู่ข้างๆห้องนอนชั่วคราวของเขา เมื่อเขาก้าวเข้าไปในห้องพระก็ต้องสุดเพราะเจอยายชื่นที่ขึ้นมาเปลี่ยนพวงมาลัยถวายพระ
“คุณทัศไปอาบน้ำอาบท่าเสียก่อนค่ะจะมาสวดมนต์ไหว้พระตอนนี้ได้อย่างไรค่ะ” ยายชื่นถึงกับดุทัศ
“ยายชื่น ผมจะมาเอาน้ำมนต์ไปผสมน้ำอาบครับ”
ยายชื่นถึงกับต้องถามซ้ำเพราะไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเพราะคุณทัศไม่เคยเชื่อเรื่องเช่นนี้ เขาเล่าให้ยายชื่นฟังถึงเรื่องที่ลุงจรัสเล่าให้ฟังระหว่างที่เขาออกไปทำธุระลุงจรัสเล่าให้ฟังว่า
คุณพระฯบ้านที่อยู่บ้านฝั่งตรงข้ามถูกคนทำเสน่ห์ใส่เสียผู้เสียคนยังไม่พอยังเสียเงินเสียทองอีกเพราะผู้หญิง ตอนแรกที่ฟังเขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อแต่ก็คิดว่าสิ่งที่ทำก็ไม่ได้เสียหายอะไร ที่สำคัญเขาเองรู้ตัวว่าตกหลุมรักและชอบเธอตั้งแต่แรกเห็น
ยายชื่นได้ฟังสิ่งที่ทัศพูดแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองด้วยเหตุที่คุณหนูที่เธอเลี้ยงมาไม่ได้มีจิตศรัทธาที่จะเชื่อในเรื่องที่พูดแม้แต่น้อย ยายชื่นสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาอย่างแน่นอน
“อาการเป็นอย่างไรหรือบอกยายมาเถอะค่ะ”
“พักนี้สติไม่ค่อยอยู่กับตัวครับ”
“โดยเฉพาะตอนเจอแม่หนูคนสวยหรอกหรือค่ะ” ยายชื่นรู้ทันใจเขามากกว่าที่เขารู้ใจตัวเองเสียอีก
ทัศมองหน้ายายชื่นพร้อมกับพยักหน้าแทนคำตอบ และเขาคิดว่าตัวเองอาจจะถูกเธอวางยาเสน่ห์เป็นแน่น แต่ยายชื่นกลับหัวเราะขึ้นมาพร้อมกับจับแขนเขาแล้วเอ่ยบอกว่า
“เรื่องธรรมชาติของหนุ่มสาวที่เป็นเหมือนน้ำมันกับไฟอยู่ใกล้ทีไรก็เป็นเช่นนี้ล่ะคะ ไม่ใช่อย่างคุณหนูคิดดอกค่ะ”
“ยายชื่นรู้ได้อย่างไรล่ะ”
“สายตาของคุณหนูที่มองแม่หนูคนสวยตั้งแต่คืนแรกใครเห็นก็ย่อมรู้กันทั้งนั้น”
ทัศถึงกับหัวเราะออกมาพร้อมกับหยิบขวดน้ำมนต์จากหิ้งพระมาผสมน้ำอาบเพื่อความสบายใจ อีกทั้งวันนี้ทั้งวันเขากลับมีอาการแปลกๆบางครั้งก็อยากจะดื่มวิสกี้ แต่พอจะดื่มจริงๆก็ไม่อยากดื่มอยากจะลองเลิกด้วยซ้ำ อาการของเขาทำให้คนในบ้านแปลกใจไม่น้อย โดยปกติเขาจะพกขวดเหล้าเล็กๆที่เป็นขวดสแตนเลสสีเงินติดตัวไว้จิบดื่มได้สะดวกแต่วันนี้เขากลับไม่พกไว้ใกล้ตัวเช่นเคย เขาไม่เคยคิดว่าชีวิตจะต้องดำเนินไปเช่นไรจนกระทั่งเจอเธอ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 232
แสดงความคิดเห็น