ตอนที่ 660 ผลข้างเคียงของสารสกัด

-A A +A

ตอนที่ 660 ผลข้างเคียงของสารสกัด

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 660 ผลข้างเคียงของสารสกัด

ในที่สุดเซี่ยเฟยก็ถือขวดสารสกัดอยู่ภายในมือ และถึงแม้ว่าสารสกัดนี้จะไม่ได้มีพิษโดยตรง แต่มันก็มีความสามารถมากพอที่จะทำให้ผู้สัมผัสถูกสังหารอย่างน่าอเนจอนาถ

สารสกัดจากหงอนไก่รัญจวนเป็นของเหลวโปร่งแสงที่มีสีเหลืองเจือปนอยู่เล็กน้อย ซึ่งตามนิสัยของนักปรุงยาที่เซี่ยเฟยได้ถูกฝึกฝนมา เขาก็ไม่เพียงแต่จะสังเกตสารสกัดด้วยดวงตาเท่านั้น แต่เขายังพยายามจะดมกลิ่นด้วยจมูกของเขาด้วย 

อย่างไรก็ตามในคราวนี้เขาก็ไม่กล้าที่จะดมกลิ่นของมันเข้าไปมากนัก เพราะสารสกัดชนิดนี้ห้ามสัมผัสถูกตัวของเขาอย่างเด็ดขาด และมันก็โชคดีที่ในระหว่างกระบวนการไม่มีอุบัติเหตุใด ๆ มันจึงไม่มีสารสกัดกระเด็นมาถูกเขาเลยแม้แต่หยดเดียว

“เอาล่ะที่เหลือก็เพียงแค่เทสารสกัดของหงอนไก่รัญจวนลงบนต้นพลัมเก้าราตรี แล้วรอให้หงส์ครามกลืนกินอาวุธมายาชิ้นนั้นเข้าไป ซึ่งกระบวนการนี้จะสำเร็จไปได้ด้วยดีหรือไม่มันก็ขึ้นอยู่กับการควบคุมหงส์ครามของนายด้วย” โอโร่กล่าว

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น ซึ่งกระบวนการนี้มันก็สร้างแรงกดดันให้กับเขามากพอสมควร เพราะถ้าหากว่ากระบวนการหลอมรวมครั้งนี้ล้มเหลว มันก็อาจจะทำให้เขาสูญเสียหงส์ครามไปตลอดกาลได้ด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ได้หมายความว่ากระบวนการหลอมรวมจะผ่านไปอย่างราบรื่นเสมอไป

“ต้นพลัมเก้าราตรีตอนนี้เป็นเพียงแค่อาวุธที่ยังไม่ได้ผูกพันพันธสัญญา ขณะที่หงส์ครามกับนายผ่านการต่อสู้ด้วยกันมาสักพักหนึ่งแล้ว โดยรวมแล้วหงส์ครามย่อมแข็งแกร่งกว่าต้นพลัมเก้าราตรีอย่างแน่นอน”

“ยิ่งไปกว่านั้นคุณลักษณะเด่นของหงส์ครามยังเป็นความดื้อรั้นที่ไม่ยอมแพ้ ดังนั้นตราบใดก็ตามที่นายกับหงส์ครามร่วมมือกัน มันก็มีโอกาสสูงมากที่กระบวนการหลอมรวมจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี” โอโร่กล่าวให้กำลังใจ

ในความเป็นจริงโอโร่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการหลอมรวมครั้งนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะการหลอมรวมอาวุธมายาเข้าด้วยกันเป็นเพียงแค่สิ่งที่บรรพบุรุษของเขาได้บันทึกเอาไว้ตั้งแต่สมัยโบราณ 

ด้วยเหตุนี้เรื่องทั้งหมดที่เขาเล่าให้เซี่ยเฟยฟังจึงเป็นเพียงแค่การพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวในตระกูลเข้าด้วยกันเท่านั้น แต่เขาก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์เห็นอาวุธมายาหลอมรวมเข้าด้วยกันด้วยตาตัวเองเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ความมั่นใจของโอโร่จึงเกิดขึ้นมาจากสิ่งที่เซี่ยเฟยเคยแสดงออกมาในอดีตเท่านั้น เพราะชายหนุ่มคนนี้ให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาดมากเกินไป และมันก็มีอะไรหลาย ๆ สิ่งหลาย ๆ อย่างที่ซ่อนอยู่ในตัวเซี่ยเฟยแต่มันยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้

“พวกเรามาเริ่มกันเถอะ” โอโร่กล่าวอย่างเคร่งขรึม

เซี่ยเฟยค่อย ๆ เทสารสกัดจากหงอนไก่รัญจวนลงบนกล่องบรรจุต้นพลัมเก้าราตรีอย่างช้า ๆ ซึ่งกล่องบรรจุนี้ผลิตขึ้นมาจากเทคโนโลยีระดับสูงที่สามารถป้อนสารอาหารให้กับต้นพืชด้านในได้ตลอดเวลา

สารสกัดเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เซี่ยเฟยจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่าสารสกัดสีม่วงค่อย ๆ ถูกดูดซึมเข้าไปภายในต้นพลัมเก้าราตรีอย่างช้า ๆ ก่อนที่ในเวลาเพียงแค่ไม่นานสารสกัดสีม่วงจะได้กระจายไปทั่วทั้งลำต้น

“ถึงเวลาปล่อยหงส์ครามออกมาแล้ว แต่จำคำพูดของฉันเอาไว้ให้ดี ๆ ความสำเร็จในครั้งนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับหงส์ครามเท่านั้น แต่มันยังขึ้นอยู่กับว่านายกับหงส์ครามจะร่วมมือกันได้ดีมากแค่ไหนด้วย” โอโร่กล่าวย้ำเตือน และเนื่องมาจากว่าครั้งนี้เป็นประสบการณ์ครั้งแรกของเขาด้วยเหมือนกัน มันจึงทำให้เขาค่อนข้างที่จะรู้สึกประหม่ามากพอสมควร

ใบหญ้าสีฟ้าทั้งสองใบค่อย ๆ งอกออกมาจากแขนของชายหนุ่มอย่างช้า ๆ ทันใดนั้นพวกมันก็เริ่มจ้องมองไปยังต้นพลัมเก้าราตรีจากระยะไกลคล้ายกับว่าพวกมันกำลังสื่อสารเข้าหากันและกัน

บางทีมันอาจจะเป็นเพราะหงส์ครามตระหนักได้ว่าพิษของต้นพลัมเก้าราตรีมีความรุนแรงมาก หลังจากที่มันจ้องมองอยู่สักพักมันก็เว้นระยะห่างจากอีกฝ่ายประมาณ 10 เมตรเพื่อเฝ้ารอหาโอกาส

ระหว่างนั้นกลิ่นอันเย้ายวนของหงอนไก่รัญจวนก็เริ่มมีผล เพราะมันทำให้หงส์ครามเริ่มรู้สึกกระสับกระส่าย และใบหญ้าทั้งสองใบของมันก็กำลังสั่นสะท้านราวกับว่ามันต้องการจะพุ่งเข้าไปตะครุบต้นพลัมเก้าราตรีตั้งแต่เดี๋ยวนั้นเลย

เมื่อเซี่ยเฟยเห็นความกระสับกระส่ายของหงส์คราม เขาก็ได้รู้แล้วว่าตอนนี้มันถึงเวลาของเขาแล้ว

“ไปเลย! นั่นคืออาหารอันโอชะ อาวุธมายาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แม้ว่าทั่วทั้งจักรวาลจะมีอาวุธมายาทั้งสิ้น 30 ชนิด แต่นายคืออาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดแล้วไม่มีใครสามารถที่จะต่อต้านนายได้” เซี่ยเฟยพยายามสื่อกระแสจิตเข้าหาอาวุธมายาที่เชื่อมต่อเข้ากับร่างกาย ก่อนที่เขาจะนำพาใบหญ้าทั้งสองเข้าไปใกล้ต้นพลัมเก้าราตรี

ผลพลัมทั้งเก้าที่เต็มไปด้วยพิษร้ายชี้ไปยังหงส์ครามอย่างเตรียมพร้อมเช่นเดียวกัน และเมื่อหงส์ครามได้รับการกระตุ้นจากเจ้านาย มันก็เริ่มพุ่งตัวไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว

การเผชิญหน้าระหว่างอาวุธมายาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!!

ผลพลัมเริ่มอ้าปากเหมือนสัตว์ประหลาด ก่อนที่มันจะกัดเข้าใส่ใบหญ้าสีฟ้าซึ่งพื้นที่ส่วนที่ถูกกัดลงไปนั้นถูกเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอย่างรวดเร็ว ก่อนที่มันจะแห้งเหี่ยวลงไปคล้ายกับว่ามันไม่หลงเหลือพลังชีวิต

อย่างไรก็ตามหงส์ครามก็ยังคงมุ่งมั่นใช้อัตราการฟื้นฟูที่น่าอัศจรรย์ เพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดจากพิษร้าย

“ใช่แบบนั้นแหละ หงส์ครามคือวัชพืชที่ดื้อรั้นที่สุดในจักรวาล บาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้จะทำให้มันยอมแพ้ได้ยังไง ตอนนี้การต่อสู้มันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว อย่ายอมแพ้อย่างเด็ดขาด!” โอโร่พยายามตะโกนส่งเสียงเชียร์อย่างตื่นเต้นเช่นเดียวกัน

ในพริบตาหงส์ครามกับต้นพลัมเก้าราตรีก็ผลัดกันรุกผลัดกันรับมากกว่า 300 รอบ ซึ่งการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างอาวุธมายาธาตุพืชทั้งสองชนิดนั้น มันก็ไม่ด้อยไปกว่าการเผชิญหน้าระหว่างผู้เชี่ยวชาญ 2 คนเลยแม้แต่น้อย

บางทีมันอาจจะเป็นเพราะว่าต้นพลัมเก้าราตรีสัมผัสได้ถึงชีวิตที่กำลังถูกคุกคาม การต่อต้านของมันจึงยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ

ทางด้านหงส์ครามก็ยังคงแสดงความดื้อรั้นของมันออกมาอย่างเต็มที่ โดยใช้ใบหญ้าสีฟ้าทั้งสองใบโบยบินในอากาศตลอดเวลาพร้อมกับรุก, รับ, จู่โจม, ป้องกันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างอิสระ

การเคลื่อนไหวเหล่านี้ทำให้มีเหงื่อไหลท่วมออกมาทางร่างกายของชายหนุ่ม เพราะการเคลื่อนไหวส่วนใหญ่ของหงส์ครามต่างก็ล้วนแล้วแต่เกิดมาจากการบงการของเขา ซึ่งในระหว่างการจู่โจมเขาก็พยายามให้หงส์ครามจู่โจมด้วยท่าทางแปลก ๆ ของวิชาเล่ห์สังหาร

แต่ถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะมีความเชี่ยวชาญในวิชาเล่ห์สังหารวิชานี้แล้ว แต่การพยายามบังคับใบหญ้าให้เหมือนกับแขนขาของตัวเองมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถทำได้ง่าย ๆ เลย

ยิ่งเวลาผ่านพ้นไปความเข้าขากันระหว่างเซี่ยเฟยกับหงส์ครามก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกประหลาดใจมาก เพราะอย่าลืมว่าอาวุธมายาคืออาวุธที่มีความคิดเป็นของตัวเอง การพยายามควบคุมอาวุธประเภทนี้จึงจำเป็นจะต้องเพ่งสมาธิเพื่อคอยควบคุมอย่างต่อเนื่อง

ก่อนหน้านี้เซี่ยเฟยกลัวคนอื่นจะรู้ว่าเขาได้ครอบครองอาวุธมายา เขาจึงพยายามนำมันออกมาใช้งานให้น้อยที่สุด เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้ใช้งานมันในที่สาธารณะ เขาก็จะตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนในทันที ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาไม่ต้องการอย่างแน่นอน

ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่เขากับหงส์ครามจะได้มีเวลาฝึกฝนร่วมกัน แล้วมันก็ช่วยทำให้พวกเขามีความเข้าขากันมากขึ้นตามระยะเวลาที่ผ่านไป

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างยาวนาน ซึ่งก่อนที่ใครจะทันได้รู้ตัวหงส์ครามก็ได้เผชิญหน้ากับต้นพลัมเก้าราตรีมาเป็นเวลา 1 วัน 1 คืนแล้ว

“ต้นพลัมเก้าราตรียืนหยัดต่อสู้มานานขนาดนี้ได้ยังไง? ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่ามันจะเข้มแข็งมากขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่าไม่ใช่แค่ฉันกับหงส์ครามที่มีพัฒนาการ แต่ต้นพลัมเก้าราตรีก็คงจะมีพัฒนาการในระหว่างการต่อสู้ด้วยเหมือนกัน” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

“อย่าลืมนะว่าต้นพลัมเก้าราตรีก็เป็นอาวุธมายาเหมือนกัน ถึงมันจะมีพัฒนาการเติบโตขึ้นมาบ้างมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ยิ่งไปกว่านั้นยิ่งต้นพลัมเก้าราตรีแข็งแกร่งขึ้น มันก็จะยิ่งทำให้หงส์ครามที่ดูดกลืนมันเข้ามาแข็งแกร่งขึ้นเช่นเดียวกัน ดังนั้นการพัฒนาของมันจึงถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับนายแล้ว” โอโร่กล่าว

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับแต่ภายในใจของเขายังคงเต็มไปด้วยความกังวล เพราะยิ่งเวลาได้ผ่านพ้นไปต้นพลัมเก้าราตรีก็ยิ่งต่อสู้อย่างบ้าคลั่งมากยิ่งขึ้น

หลังจากเวลาได้ผ่านพ้นไปอีกสองวันบริเวณพื้นใต้เท้าของเซี่ยเฟยก็เต็มไปด้วยคริสตัลอันว่างเปล่าอย่างมากมาย การต่อสู้อันดุเดือดในครั้งนี้ทำให้เขาจำเป็นจะต้องบริโภคพลังงานเข้าไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งยังดีที่ว่าก่อนหน้านี้เขาได้รับมรดกจากชาวแอตแลนติสมา มันจึงทำให้เขาสามารถดูดซับพลังงานเข้าไปได้ตามต้องการโดยไม่รู้สึกเสียดาย

ขณะที่การต่อสู้ยังคงดำเนินการไปอย่างดุเดือด จู่ ๆ มันก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

ทันใดนั้นต้นพลัมเก้าราตรีก็ทวีความสูงมากขึ้นกว่าเดิม จากตอนแรกที่มันมีความสูงเพียงแค่ 2 เมตร แต่ในตอนนี้มันเพิ่มความสูงขึ้นไปมากกว่า 100 เมตรจนเกือบจะทะลุออกไปจากโดมแห่งนี้แล้ว

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ

“ฉันมัวแต่สนใจการต่อสู้ของพวกนายจนลืมไปเลยว่าหงอนไก่รัญจวนจะมีผลข้างเคียงในเวลา 72 ชั่วโมง” โอโร่กล่าวขึ้นมาอย่างสำนึกผิด

“ผลข้างเคียงอะไร?”

“หงอนไก่รัญจวนไม่เพียงแต่จะหลอกล่อสิ่งมีชีวิตอื่นให้เข้ามากลืนกินสิ่งมีชีวิตที่สัมผัสกับสารสกัดของมันเท่านั้น แต่สารสกัดของมันยังช่วยรวบรวมพลังงานเข้าสู่ร่างกายของผู้ที่สัมผัสสารสกัดของมันอีกด้วย” 

“ตอนนี้ต้นพลัมเก้าราตรีได้ระเบิดศักยภาพทั้งหมดของมันออกมาแล้ว และมันก็จะทำลายทุกสิ่งไปเรื่อย ๆ จนกว่ามันจะไม่หลงเหลือพลังชีวิตอีกต่อไป”

คำอธิบายนี้ถึงกับทำให้เซี่ยเฟยชะงักค้างไปด้วยความตกใจ เพราะอย่าลืมว่าต้นพลัมเก้าราตรีคืออาวุธมายาในตำนาน แล้วมันก็คงจะไม่มีใครรู้ว่าอาวุธมายาพวกนี้มีพลังงานสะสมภายในร่างมากเท่าไหร่ 

ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้มันยิ่งทวีความดุร้ายขึ้นมามากขึ้นกว่าเดิม จนทำให้เศษใบหญ้าของหงส์ครามถูกฉีกกระชากจนปลิวว่อนไปทั่ว

ถ้าเขาปล่อยให้เวลายังคงผ่านไปต้นพลัมเก้าราตรีก็จะค่อย ๆ เหี่ยวเฉาตายลงไปเช่นเดียวกัน แน่นอนว่าการปล่อยให้เป็นแบบนั้นมันก็ยังคงเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับเขาอยู่ดี ซึ่งมันก็หมายความว่าเซี่ยเฟยจำเป็นจะต้องปราบต้นพลัมเก้าราตรีในช่วงเวลาที่มันกำลังแข็งแกร่งมากที่สุด

“ไม่มีเวลาแล้ว! รีบจัดการกับมันเร็ว ๆ เข้า!!” เซี่ยเฟยส่งเสียงร้องคำรามพร้อมกับปล่อยหงส์ครามให้ยืดยาวออกไปมากกว่า 500 เมตร

ใบหญ้าทั้งสองใบทั้งกวาด, ตัด, เฉือน, แทงเหมือนใบมีดเหล็กขนาดใหญ่ ซึ่งทุก ๆ การเคลื่อนไหวต่างก็ล้วนแล้วแต่แฝงเข้าไปด้วยพลังทำลายมหาศาล แต่น่าเสียดายที่ต้นพลัมเก้าราตรีก็กำลังปลดปล่อยศักยภาพทั้งหมดของมันออกมาเช่นเดียวกัน 

ดังนั้นไม่ว่าเซี่ยเฟยกับหงส์ครามจะพยายามจู่โจมด้วยกระบวนท่าไหน แต่มันก็ยังไม่สามารถที่จะปราบปรามต้นพืชที่มีพิษร้ายแรงมากที่สุดในจักรวาลต้นนี้ได้เลย

ลำต้นของต้นพลัมเก้าราตรียังคงเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยในตอนนี้มันมีความสูงขึ้นไปเหนือพื้นดินมากกว่า 150 เมตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จนทำให้โดมป้องกันทางด้านบนเริ่มถูกดันจนส่งเสียงดังลั่นขึ้นมาตลอดเวลา แสดงให้เห็นว่าต้นพลัมเก้าราตรีมีพลังในการเติบโตที่สูงมากขนาดไหน

ยิ่งเวลาผ่านพ้นไปต้นพลัมเก้าราตรีก็เข้าใกล้ความตายมากขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอนว่าเซี่ยเฟยย่อมไม่สามารถที่จะปล่อยอาวุธมายาชิ้นนี้ไปได้

ทันใดนั้นเขาก็ได้มีความคิดแปลก ๆ ปรากฏขึ้นมาภายในใจ เพราะในทุกครั้งที่เขากำลังตกอยู่ในทางตัน กฎแห่งความโกลาหลก็มักที่จะพลิกสถานการณ์ให้กับเขาได้เสมอ

กฎแห่งความโกลาหล!

ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาดีหรือร้าย แต่การเลือกทำอะไรสักอย่างมันย่อมดีกว่าการปล่อยให้อาวุธมายาชิ้นนี้หลุดรอดจากเขาไปโดยที่เขาไม่พยายามทำอะไรเลย

“ไม่!! คราวที่แล้วนายก็ใช้กฎประหลาดนี้จนทำให้บลัดบิวเทียสกลายเป็นอาวุธที่แปลกประหลาดมากที่สุดในจักรวาล ถ้าหากว่านายยังใช้กฎประหลาดนี้กับอาวุธมายาทั้งสองชิ้นอีก ใครจะไปรู้ว่ามันจะทำให้อาวุธมายาโดนผลกระทบอะไรขึ้นมา ฉันว่านายยอมแพ้ไปเถอะ อย่างน้อยการสูญเสียต้นพลัมเก้าราตรีไปมันก็ยังทำให้นายเหลือหงส์ครามให้ใช้งานอยู่” โอโร่พยายามห้ามปราม

“ฉันจะไม่ยอมแพ้!” เซี่ยเฟยตะโกนตอบด้วยน้ำเสียงที่ก้องกังวาน และยังคงใช้กฎแห่งความโกลาหลผ่านหงส์ครามภายในมือต่อไปเพื่อจู่โจมไปยังต้นพลัมเก้าราตรีอย่างไม่หยุดยั้ง

***************

ทุ่มขนาดนี้ ต้องได้แล้ว พี่เฟยสู้ๆๆ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2025 keangun. All Right Reserved.