ตอนที่ 629 การต่อสู้ชี้ขาด
ตอนที่ 629 การต่อสู้ชี้ขาด
ในอดีตเซี่ยเฟยเคยทำเรื่องบ้า ๆ มาแล้วมากมาย จนทำให้เขาถูกขนานนามว่าเป็นคนบ้าในทุก ๆ ที่ที่เขาได้เดินทางไป
แม้ว่าทั่วทั้งจักรวาลจะมีคนบ้าอยู่อีกเป็นจำนวนมาก แต่เซี่ยเฟยค่อนข้างที่จะแตกต่างจากคนบ้าคนอื่น ๆ เพราะการตัดสินใจของเขาทุกครั้งผ่านการคิดวิเคราะห์มาแล้วเป็นอย่างดี นอกจากนี้สัญชาตญาณของเขายังเฉียบคมมากกว่าคนบ้าทั่ว ๆ ไป
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่างก็ล้วนแล้วแต่หวาดกลัวความตาย มีเพียงเฉพาะนักรบที่แท้จริงเท่านั้นที่พร้อมจะรักชีวิตของตัวเองกับชัยชนะด้วยทัศนคติที่พร้อมจะยืนหยัดต่อสู้อย่างไม่ยอมแพ้
ปัจจุบันสภาพร่างกายของเซี่ยเฟยใกล้ที่จะถึงขีดจำกัดแล้วเต็มที และถึงแม้ว่าเขาจะมีคริสตัลต้นกำเนิดในแหวนมิติอยู่อีกมาก แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะนำคริสตัลเหล่านั้นขึ้นมาดูดซับพลังงานได้
ท้ายที่สุดศัตรูของเขาในขณะนี้ต่างกันล้วนแล้วแต่เป็นราชากฎด้วยกันทั้งหมด แล้วเขาจะสามารถดูดซับพลังงานในระหว่างเผชิญหน้ากับราชากฎเหล่านี้ได้ยังไง
ขณะเดียวกันลูกบอลพลังงานสีรุ้งภายในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเขาก็เกิดมาจากการดูดซับพลังงานของชานหยิงซึ่งเป็นถึงราชากฎขั้นที่ 5 มันจึงไม่จำเป็นจะต้องพูดเลยว่าพลังงานที่บรรจุอยู่ภายในนั้นจะมีปริมาณมหาศาลมากแค่ไหน
ชานหยิงใช้ชีวิตอยู่มานานมากกว่า 100 ปีและถึงแม้บลัดบิวเทียสจะส่งผ่านพลังงานให้กับเซี่ยเฟยเพียงแค่บางส่วน แต่มันก็ยังคงเป็นพลังงานปริมาณมหาศาลมาก ซึ่งถ้าหากว่าชานหยิงที่เป็นวิญญาณได้รู้ว่าพลังงานของเขาถูกเซี่ยเฟยช่วงชิงไปง่าย ๆ แบบนี้ มันก็อาจจะทำให้เขารู้สึกโกรธจนกระอักเลือดออกมาเลยก็ได้
เมื่อได้เห็นศัตรูเป็นจำนวนมากกำลังรอเขาอยู่บนพื้นดิน เซี่ยเฟยก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะต้องทะลวงผ่านการป้องกันบนท้องฟ้าหนีออกไปให้ได้เท่านั้น ซึ่งมันก็หมายถึงเขาจะต้องเคลื่อนที่ผ่านราชากฎทั้งสองคนที่ขวางหน้าเขาไป
ดินแดนกฎเป็นดินแดนที่จำเป็นจะต้องใช้พลังงานในทุก ๆ ที่ เพราะเมื่อสิ่งมีชีวิตใดไม่มีพลังงานพวกเขาก็จะไม่มีแรงที่จะเคลื่อนไหวร่างกายได้ด้วยซ้ำ ดังนั้นในระหว่างที่พลังงานภายในร่างของชายหนุ่มกำลังจะหมดลง เขาจึงคิดถึงลูกบอลพลังงานที่ซ่อนอยู่ภายในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของตัวเอง
ในช่วงเวลาวิกฤตเซี่ยเฟยถูกบังคับให้ต้องทำทุกอย่างเพื่อเอาชีวิตรอด ซึ่งในที่สุดเขาก็ตัดสินใจบีบลูกบอลพลังงานหลากสีในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเขา จนทำให้ลูกบอลพลังงานนั้นแตกสลายในทันที
การตัดสินใจครั้งนี้ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่บ้ามาก เพราะพลังงานพวกนี้ไม่ใช่พลังงานของเซี่ยเฟยแต่เป็นพลังงานจากศัตรู มันจึงไม่มีอะไรรับประกันว่าเขาจะสามารถควบคุมพลังงานเหล่านั้นได้ และที่สำคัญคือพลังงานพวกนี้ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการสะสมเป็นเวลานานจนทำให้มันระเบิดออกมาเอง
เซี่ยเฟยเชื่อว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้และในบางครั้งเขาก็จำเป็นจะต้องเสี่ยงเพื่อที่จะประสบความสำเร็จ
“ไม่! พลังงานพวกนั้นมันรุนแรงเกินไป มันจะฉีกกระชากพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของนายออกจากกัน!!” อันธตะโกนขึ้นมาอย่างร้อนใจ แต่น่าเสียดายที่เซี่ยเฟยไม่สนใจคำเตือนของเขาแล้ว
พริบตาต่อมาพลังงานปริมาณมหาศาลจากราชากฎขั้นที่ 5 ก็ไหลท่วมพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของชายหนุ่มในทันที นอกจากนี้ร่างกายของเขายังเริ่มขยายออกราวกับลูกโป่งที่ถูกสูบลมเข้าไปอย่างต่อเนื่อง
ถ้าหากว่าเซี่ยเฟยไม่สามารถที่จะดูดซับพลังงานเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วมากพอ ร่างของเขาย่อมจะต้องระเบิดออกจากภายในแล้วมันก็ไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงผลกระทบที่จะตามมาหลังจากนั้นเลย
“ห๊ะ!”
ราชากฎชุดดำ 2 คนบนฟ้าอ้าปากกว้างด้วยความประหลาดใจ เพราะจู่ ๆ พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังงานที่เป็นอันตรายไหลรอดออกมาจากร่างของเซี่ยเฟย
หากพลังงานพวกนั้นเกิดการระเบิดออกมา มันย่อมสร้างหายนะขึ้นมาได้เป็นวงกว้างไม่ต่างจากการระเบิดตัวเองของอสูรเทวะในก่อนหน้านี้
พยัคฆ์จันทร์คำราม!
คลื่นพายุฟาดฟัน!
ราชากฎทั้งสองไม่กล้าที่จะประมาทเซี่ยเฟยที่ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยพลังงาน พวกเขาจึงรีบใช้วิชาที่รุนแรงที่สุดของตัวเองออกมาในคราวเดียว
พลังงานภายในร่างของเซี่ยเฟยขาดความเสถียรจนพร้อมจะระเบิดออกมาได้ทุกเวลา และถ้าหากว่าพลังงานพวกนั้นระเบิดออกมาจริง ๆ พวกเขาที่อยู่ในระยะใกล้เพียงแค่นี้ย่อมได้รับผลกระทบจากแรงระเบิดโดยไม่ต้องสงสัย
พลังงานรูปร่างคล้ายเสือตัวสีขาวกระโดดจู่โจมเข้าใส่เซี่ยเฟยอย่างรวดเร็ว ขณะที่การจู่โจมอีกชนิดหนึ่งนั้นคือการบีบคลื่นมิติเข้าหากันจนกลายเป็นคมมีดที่ยากจะต้านทานได้
ภาพการต่อสู้กลางอากาศทำให้หยูฮัวที่กำลังตกอยู่ในวงล้อมของโครงกระดูกสีทองเงยหน้าขึ้นมา แม้แต่จักรพรรดิกฎผู้สวมหน้ากากก็กำลังเงยหน้าขึ้นไปมองการต่อสู้ครั้งนี้เช่นเดียวกัน
แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้ไม่ใช่วิชาการต่อสู้อันทรงพลังของราชากฎทั้งสอง แต่เป็นพลังงานปริมาณมหาศาลที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของเซี่ยเฟยต่างหาก
ไม่มีใครเคยเห็นวิชาที่เซี่ยเฟยกำลังใช้มาก่อน เพราะจู่ ๆ เขาก็ได้เปลี่ยนร่างของตัวเองให้กลายเป็นระเบิดเวลาที่พร้อมจะทำลายร่างของศัตรูลงไปกับชีวิตของเขาได้ทุกเมื่อ
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังมองมาที่เขาด้วยความตกใจ มุมปากของชายหนุ่มก็กำลังยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
อย่างไรก็ตามขณะนี้มันก็ไม่ได้มีเพียงแต่เซี่ยเฟยเท่านั้นที่กำลังเผยรอยยิ้ม เพราะแม้แต่ขนอุยและโอโร่ก็กำลังหัวเราะออกมาด้วยเช่นเดียวกัน
“นายนี่มันเป็นพวกบ้าได้ใจฉันจริง ๆ” โอโร่ทำได้เพียงแต่ยอมรับภายในใจว่าเซี่ยเฟยบ้าคลั่งสิ้นดี แม้แต่ตัวเขาก็ต้องยอมรับว่าชายหนุ่มคือคนบ้ามากที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาในชีวิต
อิ้ว!
ขนอุยส่งเสียงร้องคำรามของมันออกมา และเหตุผลที่มันเกือบจะกลายเป็นบ้านั่นก็เพราะว่ามันติดตามเซี่ยเฟยมานานเกินไป เมื่อมันได้เห็นชายหนุ่มพยายามดิ้นรนต่อสู้อย่างสิ้นหวัง มันก็ไม่เพียงแต่จะแสดงความกลัวออกมาเท่านั้นแต่ภายในใจของมันกลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ฝ่ามือใบไม้ร่วง!
เซี่ยเฟยร้องคำรามพร้อมกับใช้วิชาเพื่อปลดปล่อยพลังของกฎแห่งความโกลาหลออกมาอย่างเต็มกำลัง
อย่างไรก็ตามการจู่โจมในครั้งนี้ได้พึ่งพาพลังงานจากชานหยิงที่ยังไม่ได้ย่อยสลาย มันจึงกลายเป็นการจู่โจมที่ดูพร้อมที่จะระเบิดออกมาได้ในทุกเวลา ชายหนุ่มจึงจำเป็นจะต้องปลดปล่อยพลังงานทั้งหมดออกไปในคราวเดียว
กฎแห่งความโกลาหลเริ่มถูกรวบรวมขึ้นมาในฝ่ามือของเซี่ยเฟย ก่อนที่มันจะเริ่มก่อตัวเป็นลูกบอลพลังงานโดยมีรูปร่างคล้ายกับใบไม้ที่แห้งเหี่ยว
“นี่มันพลังอะไรกันเนี่ย?” จักรพรรดิกฎผู้สวมหน้ากากพึมพำกับตัวเองด้วยความประหลาดใจ
เขาสามารถสัมผัสถึงความแตกต่างของกฎแห่งความโกลาหลได้ในทันที และพลังอันแปลกประหลาดนี้ก็ได้ปลุกจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ขึ้นมาภายในใจของเขา
ถ้าหากว่าเขาไม่ได้ยุ่งอยู่กับการจัดการช่องว่างมิติในตอนนี้ เขาก็คงจะมุ่งหน้าไปเพื่อเผชิญหน้ากับเซี่ยเฟยด้วยตัวเอง
ลูกบอลพลังงานจากพลังของกฎแห่งความโกลาหลเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญเพื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของราชากฎทั้งสอง
เสือขาวกระโจนออกไปข้างหน้าก่อนที่มันจะขย้ำเข้าที่ท้องของเซี่ยเฟยอย่างดุเดือด
เหตุการณ์นี้ทำให้จักรพรรดิกฎผู้สวมหน้ากากขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะเขาไม่คิดว่าเซี่ยเฟยจะพลาดถูกจู่โจมอย่างง่ายดายขนาดนี้ แล้วมันก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพลังทำลายที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคงจะทำลายร่างของเซี่ยเฟยออกเป็นชิ้น ๆ
จักรพรรดิกฎผู้สวมหน้ากากทำได้เพียงแค่ยักไหล่และคิดในใจว่าเขาคงจะเผลอประเมินเซี่ยเฟยสูงเกินไป เขาจึงหันกลับมาสนใจเพียงแค่การพยายามปิดช่องว่างมิติที่ไม่เสถียรลง
แต่ในทันใดนั้นมันก็มีแสงสว่างเจิดจ้าขึ้นมาบนท้องฟ้าราวกับว่ามันได้มีสายฟ้านับหมื่นสายพุ่งลงมาในเวลาเดียวกัน
ก่อนที่เสือขาวจะทำลายร่างของเซี่ยเฟยลงไป ลูกบอลพลังงานคล้ายรูปใบไม้ก็ฉีกกระชากพลังของราชากฎออกเป็นชิ้น ๆ
นี่มันพลังอะไรกันเนี่ย!!
นักรบทุกคนที่ได้เห็นภาพนี้ต่างก็ถามตัวเองขึ้นมาว่าพลังของเซี่ยเฟยคืออะไรกันแน่ ถึงขนาดที่เขาสามารถฉีกกระชากพลังกฎของคนอื่นออกเป็นชิ้น ๆ แบบนั้นได้
แต่ภาพเหตุการณ์นี้ก็ยังไม่ใช่ภาพเหตุการณ์ที่น่าตกใจมากที่สุด เพราะเหตุการณ์หลังจากนั้นต่างก็ล้วนแล้วแต่ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึง
คมดาบมิติยังคงเคลื่อนที่ไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อเผชิญหน้ากับลูกบอลพลังงานรูปใบไม้ของชายหนุ่ม ซึ่งถ้าหากพิจารณาจากตรรกะตามปกติแล้วลูกบอลพลังงานของเซี่ยเฟยย่อมไม่สามารถต้านทานคมดาบมิติของอีกฝั่งหนึ่งได้ คมดาบมิตินั้นจึงควรจะตัดผ่านลูกบอลพลังงานอย่างง่ายดายก่อนที่มันจะเคลื่อนที่เข้าไปผ่าร่างของชายหนุ่มให้แยกออกจากกัน
น่าเสียดายที่ทุกคนไม่เข้าใจว่าลูกบอลพลังงานที่ถูกสร้างขึ้นมานั้นไม่ใช่พลังของกฏธรรมดา แต่มันคือการรวมตัวกันของกฎแห่งความโกลาหลที่สามารถล้มล้างได้ทุกสิ่ง
นี่คือกฎที่สามารถเปลี่ยนขาวให้เป็นดำหรือเปลี่ยนบวกให้เป็นลบ มันคือกฎที่สามารถทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้กลายเป็นสิ่งที่เป็นไปได้
ตูม!
คมมีดมิติสีเขียวพุ่งเข้าปะทะกับลูกบอลพลังงานของเซี่ยเฟยจนก่อให้เกิดแสงสว่างวาบไปทั่วทุกที่ แต่มันกลับไม่มีเสียงใด ๆ เล็ดลอดออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นกลับกลายเป็นคมมีดมิติสีเขียวถูกสะท้อนกลับไปโดยไม่สามารถที่จะตัดลูกบอลพลังงานของเซี่ยเฟยให้ขาดออกจากกันได้
“มันถูกสะท้อนกลับมาเนี่ยนะ!” หยูฮัวอุทานพร้อมกับดวงตาอันเบิกกว้าง และแม้แต่จักรพรรดิกฎก็เผลอกลืนน้ำลายลงไปโดยไม่รู้ตัว
ส่วนทางด้านราชากฎทั้งสองคนบนท้องฟ้าต่างก็อ้าปากกว้างโดยไม่สามารถที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว เพราะเขาไม่เคยเห็นพลังที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนเลย
เซี่ยเฟยเป็นเพียงแค่นักรบตัวเล็ก ๆ ที่อ่อนแอ แล้วเขาได้ครอบครองพลังที่น่าเหลือเชื่อแบบนี้ได้ยังไง
ตูม!
คมมีดมิติถูกสะท้อนกลับไปจนมันเคลื่อนที่เข้าไปจู่โจมใส่ม่านพลังที่ครอบคลุมทั่วทั้งเกาะ ก่อนที่คมมีดมิตินี้จะสูญสลายหายไปในที่สุด
ในเวลาเดียวกันลูกบอลพลังงานของเซี่ยเฟยก็ได้เคลื่อนที่เข้ามาจนถึงราชากฎทั้งสองแล้ว ก่อนที่มันจะกลืนกินร่างของทั้งสองคนเข้าไปและยังคงพุ่งตรงไปยังม่านพลังโดยไม่หยุดยั้ง
การจู่โจมในครั้งนี้รุนแรงมากและในที่สุดม่านพลังที่สามารถหยุดยั้งราชากฎได้ก็ถูกทำลายจนกลายเป็นรูกว้าง
เมื่อไม่มีม่านพลังค่อยขวางทางร่างของเซี่ยเฟยก็ยังคงบินไปบนท้องฟ้าด้วยความเร็วสูง
อุปสรรคถัดไปคือเกราะป้องกันที่ครอบท้องฟ้าของตระกูลหยูเอาไว้ ซึ่งถ้าหากว่าเขาสามารถทะลายเกราะป้องกันนี้ลงไปได้เขาก็จะมุ่งหน้าสู่อวกาศ
ขนอุยตัดสินใจใช้พลังงานก้อนสุดท้ายภายในร่างพ่นตาข่ายพลังงานออกมาเพื่อกรุยทางให้กับเจ้านายของมัน
ตูม!!
—
ท่ามกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ยานรบของเผ่าปีศาจขนาดเล็กลำหนึ่งกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วมากกว่า 10,000 ปีแสงต่อนาที
เมื่อเซี่ยเฟยเปลี่ยนระบบของยานให้เข้าสู่การบินโดยอัตโนมัติ เขาก็ทิ้งตัวลงนอนพักด้วยความเหนื่อยล้า
“ตำแหน่งที่คุณให้มันกำลังจะพาผมไปที่ไหน?” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างอ่อนแรง
“เรากำลังเดินทางไปที่เผ่ามาร” โอโร่กล่าวด้วยเสียงทุ้ม
***************
จบแล้วสำหรับเนื้อหาของ E-Book เล่ม 11 หลังจากนี้จะเป็นการเดินทางที่พี่เฟยต้องหนีการไล่ล่าแบบหัวซุกหัวซุน พี่แกจะเอาชีวิตรอดยังไงแล้วตระกูลหยูหลังจากนี้จะเป็นยังไงต้องติดตามกันต่อไปจ้า!!
ประกาศแจ้งข่าว E-Book เล่ม 11 (ตอนที่ 587-629) วางจำหน่ายแล้วน๊า ใครที่รอสอยอยู่จัดไปโล๊ด เราแปะลิงก์ไว้ให้แล้วหรือสามารถดูข้อมูลและติดตามข่าวสาวได้ที่เพจ สำนักพิมพ์เซียนอ่าน - Xianaan ได้เหมือนกันนะ (❁´◡`❁)
ช่องทาง MEB >> https://bit.ly/3NZ3Qca ช่องทางเด็กดี >> https://bit.ly/3LDePFC ช่องทางปิ่นโต >> https://bit.ly/3M9vXUI
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 197
แสดงความคิดเห็น