ตอนที่ 566 นางพญาแมงมุม
ตอนที่ 566 นางพญาแมงมุม
เซี่ยเฟยสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ามันมีแรงสั่นสะเทือนขึ้นมาเล็กน้อยจากพื้นด้านใต้ทุ่งน้ำแข็งนิรันดร์
สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากสุสานของโอโร่มากกว่า 500 กิโลเมตร แต่เนื่องจากชายหนุ่มเป็นผู้มีพลังสายความเร็ว ระยะทางเพียงแค่นี้จึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเลยแม้แต่น้อย
เมื่อสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือน เซี่ยเฟยก็เคลื่อนตัวไปยังภูเขาน้ำแข็งทางด้านขวาและคอยสังเกตการณ์พื้นที่ด้านล่างอย่างอยากรู้อยากเห็น ว่าแรงสั่นสะเทือนที่กำลังเกิดขึ้นมันมีต้นเหตุมาจากอะไรกันแน่
“ดูเหมือนว่ามันกำลังจะมีอะไรบางอย่างมุดออกมาจากพื้นดิน” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างจริงจัง
“มันอาจจะเป็นพวกแมงมุมขาวหรือเปล่า? โอโร่เคยบอกว่าพวกแมงมุมมันอาศัยอยู่ใต้พื้นดินไม่ใช่เหรอ?” อันธถามอย่างสงสัย
“ฉันก็ไม่รู้ เดี๋ยวรอดูไปก็น่าจะรู้เอง” เซี่ยเฟยกล่าว
แรงสั่นสะเทือนจากพื้นดินเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหลังจากที่เวลาได้ผ่านพ้นไปอีกหลายนาที แม้แต่ภูเขาน้ำแข็งที่เซี่ยเฟยยืนอยู่ก็ยังได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือนบนพื้นดินด้วย
เปรี๊ยะ!
แรงสั่นสะเทือนในครั้งนี้รุนแรงมากจนทำให้ภูเขาน้ำแข็งเริ่มแตกแยกออกจากกัน
ระหว่างนั้นเซี่ยเฟยก็รีบเปลี่ยนรูปแบบของชุดเกราะโลหะเหลวให้กลายเป็นตะขอ เพื่อยึดจับพื้นผิวของภูเขาเอาไว้ไม่ให้ร่างของเขากลิ้งไถลไปตามพื้นน้ำแข็ง
ทันใดนั้นขนอุยก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องมองออกไปในระยะไกลด้วยแววตาอันแข็งกล้า ราวกับว่ามันกำลังสัมผัสได้ถึงอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามา
“ครั้งนี้นายไม่ต้องทำอะไรเลย หน้าที่ของนายหลังจากนี้คือกิน ๆ ๆ แล้วก็กิน บางทีในวันหนึ่งฉันอาจจะต้องพึ่งพานายก็ได้” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับกดหัวของขนอุยเพื่อบอกว่าไม่ให้มันเข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้
เจ้าตัวเล็กเม้มริมฝีปากออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจ เพราะการที่เซี่ยเฟยเน้นย้ำคำว่ากินถึงสามครั้งมันก็ค่อนข้างจะฟังดูแปลกประหลาดไปสักหน่อย
ตูม!
ในที่สุดพื้นน้ำแข็งก็พังทลายลงไปยังด้านล่างอย่างรุนแรง เผยให้เห็นถ้ำขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางนับ 10 กิโลเมตร และมันก็มีความลึกลงไปใต้พื้นดินชนิดที่เซี่ยเฟยไม่สามารถมองเห็นอีกฟากหนึ่งของถ้ำได้
กี๊ด!!
ทันใดนั้นมันก็มีเสียงร้องคำรามดังออกมาจากภายในถ้ำ จนทำให้แก้วหูของเขาได้รับความเจ็บปวดอย่างรุนแรง
พริบตาต่อมาแมงมุมสีขาวตัวใหญ่ก็เริ่มคลานออกมาจากก้นหลุม เผยให้เห็นว่ามันคือเจ้าของเสียงร้องคำรามเมื่อสักครู่นี้นั่นเอง
“ใหญ่มาก! นั่นมันนางพญาแมงมุมงั้นเหรอ?” อันธอุทานขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ตกใจ
เซี่ยเฟยยังคงนิ่งเงียบโดยไม่พูดอะไร เพราะสิ่งที่เขากำลังสนใจไม่ใช่ร่างของแมงมุมขนาดใหญ่ แต่เป็นร่างของชายคนหนึ่งที่อยู่บนร่างของแมงมุมตัวนี้ต่างหาก
มู่ฉิวโป๋!
ชายชราคนนี้คือคนที่พยายามไล่ล่าเขานับตั้งแต่ที่พวกเขาได้มาปรากฏตัวบนดาวดวงนี้ แต่เซี่ยเฟยก็ไม่รู้ว่ามู่ฉิวโป๋ได้ใช้วิธีการอะไร แต่ในปัจจุบันร่างกายท่อนล่างของเขาได้หลอมรวมเข้ากับหัวของนางพญาแมงมุม คล้ายกับว่าร่างของทั้งสองได้หลอมรวมจนกลายเป็นร่างเดียวกัน
ถ้าหากว่ามู่ฉิวโป๋สามารถควบคุมร่างของนางพญาแมงมุมได้จริง ๆ และใช้ร่างของนางพญาแมงมุมในการควบคุมพวกแมงมุมขาวอีกที มันก็หมายความว่าหลังจากนี้แมงมุมขาวทุกตัวจะกลายเป็นศัตรูของเซี่ยเฟย และมันย่อมไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่เดิมสาเหตุที่เซี่ยเฟยสามารถออกมาเดินเล่นบนทุ่งน้ำแข็งได้อย่างอิสระ นั่นก็เพราะว่าพวกแมงมุมขาวไม่เพียงแต่จะจู่โจมใส่เขาเท่านั้น แต่พวกมันยังจู่โจมเข้าใส่มู่ฉิวโป๋อีกด้วย ชายหนุ่มจึงมักที่จะใช้พวกแมงมุมเป็นอุปสรรคขัดขวางการเคลื่อนไหวของชายชราเอาไว้ และใช้ความเร็วของเขาในการหลบหนีไปทำให้มู่ฉิวโป๋ไม่สามารถที่จะไล่ตามจับเขาได้
แต่ในตอนนี้สถานการณ์ก็ดูเหมือนกับว่าแมงมุมขาวจะได้กลายเป็นลูกน้องของมู่ฉิวโป๋ไปแล้ว ซึ่งมันก็หมายความว่าหลังจากนี้เขาจะถูกรุมโจมตีจากทั้งมู่ฉิวโป๋และพวกแมงมุม
เมื่อแมงมุมยักษ์คืบคลานออกมาจากถ้ำใต้พื้นดิน เหล่าบรรดาแมงมุมนับไม่ถ้วนก็เริ่มคืบคลานออกมาจากถ้ำขนาดใหญ่แห่งนั้นด้วย แต่ในคราวนี้พวกมันไม่ใช่แมงมุมขาวเหมือนเดิมอีกต่อไป แต่พวกมันเป็นแมงมุมร่างเล็กอันว่องไวและมีสีสันที่สวยงาม
สีสันที่สวยงามในธรรมชาติมักจะแฝงไปด้วยอันตรายที่น่ากลัวอยู่เสมอ ยกตัวอย่างเช่น กบมีพิษแต่ละชนิดต่างก็ล้วนแล้วแต่มีสีสันที่จัดจ้าน แต่ถ้าหากว่าใครก็ตามพลาดไปสัมผัสกับพวกมันเข้า พวกเขาก็จะได้รับรู้ว่าสีสันพวกนั้นสามารถนำพามาซึ่งอันตรายที่ถึงแก่ชีวิตของพวกเขาได้
ในทำนองเดียวกันการที่แมงมุมพวกนี้มีสีสันที่สวยงาม มันก็อาจจะหมายความว่าพวกมันได้กลายเป็นแมงมุมที่มีพิษร้ายแรง
นอกจากนี้อากาศที่ถูกพ่นออกมาจากปากของแมงมุมยังกลายเป็นสีดำ ชายหนุ่มจึงสันนิษฐานว่าพวกมันน่าจะสามารถพ่นพิษได้อีกด้วย
ต่อมาแมงมุมที่คลานออกมาจากถ้ำก็เป็นแมงมุมสีขาวดำ โดยร่างกายของพวกมันฟากหนึ่งเป็นสีขาว ขณะที่ร่างกายอีกฟากหนึ่งเป็นสีดำสนิท
บนหลังของแมงมุมชนิดนี้มีหนามขนาดใหญ่คล้าย ๆ เม่น ซึ่งถ้าหากว่าใครไม่ได้พิจารณามองดูพวกมันให้ดี พวกเขาก็อาจจะคิดว่าแมงมุมพวกนี้เป็นเม่นตัวใหญ่ก็ได้
ดูเหมือนกับว่าแมงมุมขาวที่เขาได้เจอในก่อนหน้านี้น่าจะเป็นสายพันธุ์แมงมุมที่อ่อนแอที่สุดภายในดาว และพวกมันก็น่าจะมีหน้าที่คล้ายกับมดงานที่คอยจัดหาอาหารให้แมงมุมระดับสูงพวกนี้ที่อาศัยอยู่ใต้พื้นดินอีกที
“โอ้แม่จ้าว! นี่มันมีแมงมุมเป็นล้าน ๆ ตัวเลยนะเนี่ย!! เจ้าแก่นั่นมันได้ควบคุมแมงมุมออกมาทั้งดาวเลยหรือยังไง” อันธอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
แต่เดิมระดับพลังของมู่ฉิวโป๋ก็สูงกว่าเซี่ยเฟยมากอยู่แล้ว และในตอนนี้เขาก็ยังมีกองทัพแมงมุมคอยอยู่เคียงข้าง แล้วมันก็ไม่มีทางที่ชายหนุ่มจะสามารถต่อกรกับกองทัพแมงมุมพวกนี้ได้เลย
‘ฉันต้องรีบหนี’ เซี่ยเฟยคิดภายในใจ
ตราบใดก็ตามที่เขาสามารถหนีเข้าไปในสุสานได้สำเร็จ สถานที่แห่งนั้นย่อมเป็นฐานที่มั่นอันปลอดภัยให้กับเขาได้อย่างแน่นอน แล้วในอนาคตเขาค่อยคิดว่าเขาจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงดี
ในระหว่างที่เซี่ยเฟยกำลังจะวิ่งหนี ขนอุยก็ส่งเสียงร้องคำรามของมันออกมา ซึ่งมันก็ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไรแต่ขนอุยมองเห็นแมงมุมพวกนี้เป็นศัตรูของมันตั้งแต่แรก
เสียงคำรามของขนอุยไม่ได้ดังมากนัก แต่มันกลับมีพลังอำนาจแฝงอยู่ในนั้นอย่างรุนแรง ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกแมงมุมจะอยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร แต่พวกมันก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงเสียงร้องคำรามของเจ้าตัวน้อยได้อย่างชัดเจน
พวกแมงมุมเริ่มส่งเสียงกรีดร้องออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ท้ายที่สุดเสียงร้องคำรามของอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ สำหรับพวกมัน ขณะเดียวกันถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นสัตว์ประหลาดที่อาศัยอยู่กับเผ่ามารมาอย่างเนิ่นนานแล้ว แต่เสียงคำรามของขนอุยก็ยังทำให้พวกมันรู้สึกประหม่าอยู่มาก
มู่ฉิวโป๋เริ่มสะบัดแขนออกไปด้วยท่าทางอันเย้ยหยัน และในทันใดนั้นแมงมุมนับแสนตัวก็เริ่มเคลื่อนที่เข้าหาเซี่ยเฟยที่อยู่บนภูเขาน้ำแข็ง
การเคลื่อนไหวของแมงมุมเหล่านี้คล้ายกับการเดินทัพของกองทัพขนาดใหญ่ ซึ่งในระหว่างนั้นเซี่ยเฟยก็ต้องรีบวิ่งหนีไปโดยไม่มีเวลาที่จะตำหนิขนอุยเลยแม้แต่นิดเดียว
สิ่งที่ขนอุยทำลงไปเป็นเพียงแค่สัญชาตญาณของมันเท่านั้น เพราะเมื่อมันได้เห็นศัตรูที่แข็งแกร่งสัญชาตญาณของมันจึงถูกปลุกขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
ถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะเว้นระยะห่างเอาไว้ค่อนข้างไกล แต่พวกแมงมุมสีขาวดำกลับปล่อยหนามบนหลังขึ้นไปในอากาศ ก่อนที่หนามพวกนั้นจะร่วงหล่นลงมาราวกับพายุฝนที่โหมกระหน่ำ
“แมงมุมพวกนั้นโจมตีระยะไกลได้ด้วยงั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่เขาจะเริ่มวิ่งอย่างรวดเร็วเพื่อหลบหลีกแท่งหนามที่ร่วงหล่นมาจากบนอากาศ
ในเวลาเดียวกันนั้นนางพญาแมงมุมก็เริ่มส่งเสียงร้องคำราม และทำให้พื้นน้ำแข็งใต้ฝ่าเท้าของชายหนุ่มเริ่มเปลี่ยนสภาพไปในทันที ซึ่งในพริบตาต่อมาขาของเขาก็จมลงไปในพื้น คล้ายกับว่าเขากำลังยืนอยู่ในบ่อโคลน
“สัตว์ประหลาดตัวนั้นมันมีพลังพิเศษ!” อันธตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจ
เมื่อพื้นผิวของทุ่งน้ำแข็งเปลี่ยนไปคล้ายกับบ่อโคลน ชายหนุ่มก็สามารถที่จะออกวิ่งได้ด้วยความเร็ว 3,000 เมตรต่อวินาทีเท่านั้น ซึ่งความเร็วเป็นทั้งการโจมตีและการป้องกันของเขามาเป็นเวลานาน การที่เขาสูญเสียความเร็วไปจึงไม่ต่างไปจากการสูญเสียจุดแข็งของตัวเอง
ในทางกลับกันถึงแม้ว่าบ่อโคลนน้ำแข็งพวกนี้จะทำให้ความเร็วของพวกแมงมุมลดน้อยลง แต่ความเร็วของพวกมันก็ลดลงน้อยมาก โดยมันได้อาศัยขาทั้งแปดทิ่มแทงลงไปในบ่อโคลนที่เหนียวหนืด ทำให้พวกมันยังคงเคลื่อนไหวได้ด้วยความเร็วประมาณ 80% จากความเร็วเดิม
สถานการณ์ในตอนนี้ไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะเซี่ยเฟยไม่เพียงแต่จะต้องเผชิญกับพวกแมงมุมที่กำลังวิ่งไล่ตามหลังเขามาเท่านั้น แต่เขายังต้องคอยหลบหลีกแท่งหนามที่กำลังตกลงมาจากฟ้าได้ทุกเมื่ออีกด้วย
ในไม่ช้าพวกแมงมุมหลากสีสันก็เริ่มไล่ตามเซี่ยเฟยได้สำเร็จ และเนื่องมาจากว่าตัวของพวกมันค่อนข้างเล็ก บ่อโคลนน้ำแข็งจึงไม่สามารถที่จะสร้างปัญหาให้กับพวกมันได้
ปู๊ด!
เมื่อร่างของเซี่ยเฟยเข้ามาอยู่ในระยะ พวกมันก็เริ่มพ่นหมอกพิษออกไปจากปากเพื่อทำให้ชายหนุ่มกลายเป็นอัมพาตเพื่อที่พวกมันจะสามารถจับกินได้อย่างง่ายดาย
พายุมิติปิดล้อม!
แมงมุมพวกนี้ย่อมมีพิษร้ายแรงอย่างไม่ต้องสงสัย และถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะค่อนข้างมั่นใจกับประสิทธิภาพของชุดเกราะโลหะเหลว แต่เขาก็ยังไม่อยากจะเผชิญหน้ากับพิษพวกนั้นโดยตรง เขาจึงทำการปล่อยคลื่นมิติจู่โจมออกไปในทันที
คลื่นมิติที่เซี่ยเฟยเรียกออกมาไม่เพียงแต่จะสามารถหยุดยั้งหมอกพิษได้เท่านั้น แต่พวกมันยังพัดหมอกพิษกลับไปหาพวกแมงมุมด้วย
เหล่าบรรดาแมงมุมร่างเล็กไม่สามารถต้านทานการจู่โจมของคลื่นมิติอันทรงพลังได้ ร่างกายของพวกมันจึงถูกตัดขาดออกเป็นชิ้น ๆ
ขณะเดียวกันหมอกพิษสีดำก็ฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งท้องฟ้า ก่อนที่มันจะตกลงมากลายเป็นเหมือนกับขี้เถ้าบนพื้นหิมะ
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกแมงมุมสีขาวดำได้สัมผัสกับหมอกพิษพวกนั้นไป ร่างของมันก็เริ่มเน่าเปื่อยลงในทันทีราวกับว่าร่างของพวกมันถูกโจมตีด้วยกรดกำมะถันอันรุนแรง
“มันคือพิษกัดกร่อน!!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาอย่างตกใจและแอบคิดภายในใจอย่างลับ ๆ ว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยให้พวกแมงมุมหลากสีเข้ามาใกล้เขาอย่างเด็ดขาด
ระหว่างทางชายหนุ่มพยายามหลบหนีและโจมตีโต้ตอบกลับไปเป็นระยะ ๆ ซึ่งในที่สุดเขาก็เริ่มมองเห็นอาณาเขตของสุสานปรากฏขึ้นมาในระยะไกล
ตราบใดก็ตามที่เขาสามารถเข้าไปในเขตพื้นที่สุสานได้สำเร็จ แมงมุมพวกนี้ก็จะไม่สามารถตามเข้ามาทำร้ายเขาได้อีกต่อไป เขาจึงจำเป็นจะต้องพยายามอีกเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
“แย่แล้ว! พวกเราถูกล้อม!!” อันธตะโกนเมื่อสัมผัสได้ว่ามันมีแมงมุมอีกกลุ่มหนึ่งอ้อมมาดักหน้าขวางทางเซี่ยเฟยเอาไว้
เมื่อไม่มีข้อได้เปรียบทางด้านความเร็วการพยายามฝ่าฝูงแมงมุมก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่าย ๆ โชคดีที่นางพญาแมงมุมทิ้งระยะห่างออกไปไกล ซึ่งมันก็อาจจะเป็นเพราะสัตว์ประหลาดตัวนี้กำลังทุ่มสมาธิไปกับการใช้พลังพิเศษของมันอยู่
เซี่ยเฟยกัดฟันตัดสินใจมุ่งหน้าออกไปทางด้านข้าง โดยหวังว่าเขาจะได้พบกับมุมที่มีฝูงแมงมุมอันเบาบาง แล้วเขาค่อยใช้เส้นทางนั้นเพื่อเดินทางกลับเข้าไปในพื้นที่ของสุสาน
ในระหว่างที่ชายหนุ่มพยายามวิ่งซิกแซกเพื่อหาช่องทางกลับไปด้านในสุสานอยู่นั้น เขาก็เผลอสูดแก๊สพิษเข้าไปในบางครั้งจนทำให้ทางเดินหายใจรู้สึกแสบร้อนจนแน่นหน้าอกไปหมด
ในความเป็นจริงปริมาณของแก๊สพิษที่เขาสูดดมเข้าไปมีปริมาณที่เล็กน้อยมาก แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังสร้างปัญหาให้กับอวัยวะภายในของเขาได้ นี่ถ้าหากว่าเขาได้สูดแก๊สพิษพวกนั้นเข้าไปโดยตรง มันก็คงจะทำให้ร่างกายของเขาไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป
ในที่สุดชายหนุ่มก็ตระหนักว่าเขาไม่สามารถที่จะเดินทางฝ่าฝูงแมงมุมกลับเข้าไปในสุสานได้แน่ ๆ เขาจึงรีบมุ่งหน้าฉีกออกไปทางด้านซ้ายอย่างรวดเร็ว โดยคิดว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาออกนอกระยะควบคุมของนางพญาแมงมุม เขาค่อยมองหาโอกาสกลับเข้าไปภายในสุสานอีกครั้ง
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 227
แสดงความคิดเห็น