บทที่ 595: ขอแค่ท่านไว้ชีวิตนาง ข้ายอมตาย
หูเจียวเจียวอยากปรึกษากับหูหลินให้แก้ไขปัญหาเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด
ปัจจุบันภูตเผ่าไป๋ผีสร้างความปั่นป่วนครั้งใหญ่ อีกทั้งทุกคนที่อยู่ข้างในคงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว
หากพวกเขาพบว่าหัวหน้าเผ่าของตนเสียชีวิตอีก คนพวกนั้นอาจจะสร้างปัญหาอะไรเพิ่มก็ได้ แล้วเผ่าก็จะไม่ปลอดภัย
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีผู้ป่วยโรคร้ายอาศัยอยู่ภายใน แม้ว่าภูตเผ่าไป๋ผีจะถูกคนล้อมเอาไว้ แต่ก็มีความเสี่ยงที่เชื้อจะแพร่กระจายออกไปเช่นกัน ดังนั้นทุกคนควรระวังไว้จะดีกว่า
แต่หูหลินดันมาเปลี่ยนใจก่อนที่หญิงสาวจะทันได้เปิดปากพูดอะไร
เมื่อหูเจียวเจียวเห็นสีหน้าโกรธเกรี้ยวของพ่อรอง พร้อมกับที่เขากำหมัดและถกแขนเสื้อขึ้น เธอก็ตกตะลึง
หลังจากที่ผู้เป็นหัวหน้าเผ่าเยว่หูกล่าวจบ เขาก็รีบไปเตรียมการทันที
“ท่านตาหลิน บอกให้พวกเขานำสิ่งนี้ไปด้วย” หลงหลิงเอ๋อร้องเรียกหูหลิน ก่อนจะก้มศีรษะลงหยิบบางอย่างที่มีลักษณะเป็นห่อคล้าย ‘ถุงทอง’ ออกมาจากย่ามใบเล็กที่นางพกติดตัวอยู่เสมอ
เพียงแต่ว่า ‘ถุงทอง’ นี้ทำมาจากผ้าป่านซึ่งเป็นผ้าป่านที่ถูกตัดแบบลวก ๆ โดยมีเชือกสีเทาเขียวที่มัดปลายทั้ง 4 ด้านรวมกัน
ตอนที่เด็กหญิงแบมือออกมา ในนั้นมีสิ่งที่รูปร่างหน้าตาเหมือนถุงทองประมาณ 20 ชิ้น
“นี่คืออะไรหรือ?” ผู้เป็นตามองสิ่งที่หลานสาวยื่นมาให้ด้วยสีหน้าฉงน
“ในนี้มีสมุนไพรที่สามารถป้องกันการแพร่กระจายของโรคระบาดได้ ท่านตาหลิน ท่านเอาของพวกนี้ไปมอบให้ท่านลุงคนอื่นพกติดตัวไปด้วย พวกเขาจะได้ไม่ติดโรค” หลงหลิงเอ๋ออธิบาย
แน่นอนว่ายาสมุนไพรเพียงอย่างเดียวคงไม่สามารถป้องกันการแพร่กระจายของโรคระบาดได้อย่างสมบูรณ์
ถุงสมุนไพรพวกนี้นางเป็นคนปรับลดตัวยาด้วยตัวเอง ดังนั้นนางจึงสามารถรับประกันได้ว่ามันจะไม่มีทางผิดไปจากที่ตนพูด
เดิมทีเด็กหญิงตัวน้อยอยากจะทำถุงสมุนไพรดังกล่าวให้ท่านพ่อกับท่านแม่ใช้ก่อน แต่ปัจจุบันดูเหมือนว่าจะมีคนต้องการใช้มันมากกว่า
“โอ้ เจ้ามีของดี ๆ อยู่ในมือด้วยหรือ?” ก่อนหน้านี้ใบหน้าของหูหลินยังคงถมึงทึงอยู่ แต่แล้วจู่ ๆ มันก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้าง
“หลิงเอ๋อ งั้นตาไม่เกรงใจแล้วนะ ยังไงก็ขอบคุณแทนพวกเขาด้วย”
ต่อมา คนเป็นหัวหน้าเผ่าเยว่หูก็รีบนำของไปแจกจ่ายให้กับภูตคนอื่น
คืนนั้นภูตกว่า 20 คนก็มุ่งหน้าไปยังที่พักของภูตเผ่าไป๋ผี
ทันทีที่พวกเขามาถึง กลุ่มคนที่ป่วยอยู่ข้างในกำลังพยายามจะหลบหนีกันตามที่หูเจียวเจียวคาดเดาเอาไว้
ด้วย ‘ยันต์’ ที่หลงหลิงเอ๋อมอบให้ เหล่าภูตเผ่าเยว่หูได้บุกไปจัดการกับภูตเผ่าไป๋ผีที่พยายามหลบหนีออกจากที่นั่นทีละคน
พอพวกเขาเข้าไปในบ้าน คนส่วนใหญ่ที่หลบอยู่ข้างในก็กลายเป็นศพไปแล้ว
จากสถานการณ์ที่รุนแรงเช่นนี้ เชื้อโรคได้แพร่ระบาดในหมู่ภูตเผ่าไป๋ผีอย่างรวดเร็ว
ยามค่ำคืนที่มืดมิด เมฆหมอกบนท้องฟ้าบดบังแสงจันทร์จนเหลือเพียงแค่แสงรำไร
แล้วภูตเผ่าไป๋ผีที่เหลืออยู่ก็ถูกกำจัดภายในช่วงเวลาสั้น ๆ
หลังจากผ่านเหตุการณ์ในช่วงหัวค่ำ หูเจียวเจียวก็รู้สึกนอนไม่หลับ เธอได้แต่รอฟังข่าวของภูตเผ่าไป๋ผีในบ้านหินที่พวกเธอใช้คุยกันก่อนหน้านี้
แม้แต่ลูก ๆ ก็ตาสว่างไม่ต่างกัน พวกเขาไม่มีอาการง่วงเหงาหาวนอนเลยสักนิด
จนเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง กลุ่มคนที่หูหลินส่งไปจัดการกับภูตเผ่าไป๋ผีก็กลับมา
ก่อนที่ทุกคนจะเข้ามารายงานตัวกับหัวหน้าเผ่า พวกเขาได้ทำความสะอาดเลือดบนร่างกายตามคำแนะนำของจิ้งจอกสาวเรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นการไม่นำเชื้อโรคมาแพร่กระจายให้กับครอบครัวของผู้เป็นหัวหน้า
“เป็นยังไงบ้าง?” หูเจียวเจียวเดินไปถาม
“พวกเราเก็บกวาดทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว สิ่งใดที่ควรเผาก็เผาหมดแล้วเช่นกัน”
หลังจากทุกคนได้ยินรายงานจากผู้ชายคนนั้น พวกเขาก็มองออกไปนอกบ้านในทิศทางที่พักอาศัยของภูตเผ่าไป๋ผี ก่อนจะเห็นไฟพุ่งขึ้นบนท้องฟ้าจากในระยะไกล
แสงไฟที่ลุกโชนได้บ่งบอกว่ามันเป็นเวลาแห่งจุดจบของชีวิต ทุกอย่างที่อยู่ข้างในถูกไฟกลืนกินไปจนสิ้น
“พ่อรอง พรุ่งนี้เราคงต้องทำความสะอาดเผ่าทั้งภายในและภายนอกเพื่อเป็นการป้องกันเอาไว้” หูเจียวเจียวเอ่ยเตือน
จากประสบการณ์การใช้ชีวิตมานานของจิ้งจอกสาว ตอนนี้เธอไม่กล้าที่จะทิ้งปัญหาจุดเล็ก ๆ เอาไว้ให้กลับมาทำร้ายตนและครอบครัวอีก
“เอาล่ะเจียวเจียว เจ้าพูดถูก พรุ่งนี้พ่อจะให้คนไปจัดการทำความสะอาดเผ่าและควบคุมพวกเขาด้วยตัวเอง” หูหลินเห็นด้วยโดยไม่ลังเล
เขาไม่กล้าจินตนาการเลยว่าถ้าวันนี้หูเจียวเจียวกับหลงโม่ไม่ได้ไปจัดการกับหยินซาง เผ่าเยว่หูของเขาจะต้องเผชิญกับภัยพิบัติที่หนักหนาแค่ไหน
เพราะฉะนั้นเขาจะต้องฟังคำพูดของลูกสาว!
“ท่านตาหลิน ภูตเผ่าไป๋ผีตายหมดแล้วหรือ?” หลงหลิงเอ๋อถามขึ้นมาพร้อมกับถือย่ามที่เบาหวิวของตัวเอง
เมื่อหูหลินได้ยินเช่นนี้ เขาก็หยุดพูดไปชั่วครู่
ต่อมา เขาหันไปมองหยินชางที่ยืนเงียบงันอยู่ตรงมุมห้อง ก่อนที่เขาจะตอบว่า
“ไม่... นอกจากหยินเสวี่ย ผู้หญิงจากเผ่าไป๋ผีคนอื่น ๆ อาศัยอยู่ในกระท่อมที่ปลูกแยกจากที่พักอาศัยของคนอื่น พวกนางไม่ได้ติดโรคระบาด แล้วยังมีคู่ของพวกนางด้วย”
ยกเว้นกลุ่มคนที่เขากล่าวถึง ปัจจุบันภูตเผ่าไป๋ผีคนอื่น ๆ ไม่มีใครรอดชีวิตเลยสักคน
“แล้วท่านตาหลินวางแผนจะทำยังไงกับภูตเผ่าไป๋ผีที่เหลือ?” หลงหลิงเอ๋อถามอย่างกระตือรือร้น
นางจำได้ขึ้นใจว่าหัวหน้าเผ่าไป๋ผีเป็นคนเอ่ยปากเองว่าทุกคนในเผ่าไป๋ผีได้ดื่มเลือดแม่ของหยินชาง
แม้ว่าเด็กหญิงจะไม่รู้ว่านั่นหมายความว่าอย่างไร แต่สิ่งที่นางรู้ก็คือ พวกเขาล้วนเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการฆ่าพ่อแม่ของหยินชาง พวกเขาไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์
คนพวกนี้สมควรตายไปเสียให้หมด!
“อืมมม…” ผู้เป็นตาคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดพลางขมวดคิ้วว่า “การที่คนของเผ่าไป๋ผีทำแบบนั้นได้ไม่น่าจะใช่คนดี ไม่งั้นอาจจะมีใครสักคนลุกขึ้นมาทำแบบหัวหน้าเผ่าไป๋ผีอีก”
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ หูหลินก็ไม่ได้อยากเก็บศัตรูไว้ข้างตัวอีก
ก่อนหน้านี้ที่เขายังสามารถเก็บภูตเผ่าไป๋ผีไว้ข้างตัวได้โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นคงเป็นแค่ความโชคดีของเขา มิฉะนั้นวิกฤตโรคระบาดคงไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังปรึกษาหารือกัน หยินชางก็ยืนก้มหน้าอยู่ที่มุมห้องอยู่ตลอดเวลา
พอเด็กหนุ่มได้ยินการตัดสินใจของพวกผู้ใหญ่ สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
หลงหลิงเอ๋อตอบรับเบา ๆ ก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
นางยังคงกังวลว่าท่านตาหลินจะปล่อยให้คนสมรู้ร่วมคิดในการฆ่าพ่อแม่ของหยินชางไปง่าย ๆ
“เอ่อ... คือว่า...” ในตอนนั้นเอง มือเล็ก ๆ ของใครบางคนก็ยกขึ้นท่ามกลางภูตคนอื่น
“จริง ๆ แล้ว พวกเขาไม่ใช่คนเลวทุกคน เมื่อกี้มีผู้ชายคนหนึ่งช่วยเราไว้...”
หลงเหยากะพริบตากลมโตปริบ ๆ แล้วชี้มืออีกข้างออกไปนอกบ้าน
ในขณะนั้นหยินซื่อยืนฟังบทสนทนาของทุกคนในห้องเงียบ ๆ
เมื่อรู้สึกถึงสายตาของหลายคน เขาก็กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
จากนั้นคนในเผ่าเยว่หูก็รู้ว่าพวกเขาหลงลืมผู้ชายคนนี้ไป
“หัวหน้าหลิน คนของท่านยังไม่ได้สังหารอีกคนหนึ่ง” เมื่อหลงโม่เห็นหยินซื่อ ดวงตาที่เหมือนหลุมดำของเขาก็วาวโรจน์ในขณะที่เขาพูดเสียงเย็น
“ทำไมเจ้ายังตามเรามาอยู่อีก?” หูเจียวเจียวใช้สายตาแปลก ๆ มองอีกฝ่าย จากนั้นเธอก็นึกขึ้นได้ว่าเขาเป็นคนที่ปรากฏตัวพร้อมกับลูกชายทั้ง 4 คนของเธอ
ดูเหมือนเขาจะเคยพูดว่า… เขาให้หยินซางดื่มน้ำจากชามของผู้ติดเชื้อใช่ไหม?
ทางด้านหยินซื่อสัมผัสได้ถึงรังสีอันตรายผ่านสายตาของหลายคน เขาจึงรีบอธิบายว่า
“ข้าไม่ได้ติดโรค และข้าไม่ได้สัมผัสสิ่งของพวกนั้นโดยตรง หากพวกท่านไม่เชื่อข้า พวกท่านสามารถให้แม่หมอมาตรวจสอบข้าได้เต็มที่!”
เขายกมือขึ้นทำท่าทางยอมแพ้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง
ถัดมา หูเจียวเจียวหันไปมองหลงหลิงเอ๋อ
“ร่างกายของเขาแข็งแรงมาก และเป็นความจริงที่ว่าเขาไม่ได้ติดโรคอะไร” หมอผีตัวน้อยทำเพียงเหลือบมองไปที่หยินซื่อแล้วพยักหน้า
ไม่นานแววตาอำมหิตของหลงโม่ก็ลดลงเล็กน้อย
ส่วนหูหลินพ่นลมอย่างเย็นชาด้วยสีหน้าเฉยเมย
“เจ้าไม่ติดโรคแล้วยังไง? หัวหน้าเผ่าของเจ้าจงใจเอาโรคระบาดไปแพร่ให้คนอื่นในเผ่าเยว่หู มันทำให้เกือบทุกคนต้องถูกฝังไปพร้อมเขา ถึงแม้ว่าเจ้าจะอยากอยู่ต่อ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้หรอกนะ”
คำพูดของผู้เป็นหัวหน้าเผ่าทำให้หยินซื่อหน้าซีดเผือด
เขารีบคุกเข่าลงต่อหน้าทุกคนพร้อมกับก้มลงคำนับจนหน้าผากแนบกับพื้น
ยามนี้ร่างกายของเขาสั่นสะท้านจนทุกคนสังเกตเห็นได้ชัดเจน
“ไม่ ข้าไม่ได้อยากจะร้องขอชีวิตของตัวเอง ข้าแค่อยากขอให้ท่านหัวหน้าปล่อยคู่ของข้าไป แล้วก็อย่าไล่นางออกจากเผ่าเลย...”
“นางกำลังตั้งครรภ์ ถ้านางถูกไล่ออกจากเผ่า นางคงเหลือหนทางเดียวก็คือความตายเท่านั้น ข้าขอร้องท่านหัวหน้า ได้โปรดเมตตาช่วยเหลือนางด้วยเถอะ”
“ตราบใดที่ท่านอนุญาตให้นางอยู่ในเผ่า ไม่ว่าพวกท่านจะฆ่าข้าหรือจะสับข้าเป็นพัน ๆ ชิ้น ข้าก็ยอม!”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 227
แสดงความคิดเห็น