ตอนที่ 481 ป่าเอเวอร์ไนท์

-A A +A

ตอนที่ 481 ป่าเอเวอร์ไนท์

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 481 ป่าเอเวอร์ไนท์

ดาวพูลตอนเป็นดาวที่แปลกประหลาด โดยมีพื้นที่ฝั่งหนึ่งเป็นกลางวันเสมอ และมีพื้นที่อีกฝั่งหนึ่งอยู่ในช่วงกลางคืนเสมอ ซึ่งจะมีเส้นแบ่งระหว่างพื้นที่กลางวันกับกลางคืนให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน

เมื่อเซี่ยเฟยได้ก้าวเท้าเข้าสู่พื้นที่ยามค่ำคืนวิสัยทัศน์บริเวณโดยรอบก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มจึงเปิดระบบมองกลางคืนผ่านทางชุดต่อสู้ เพื่อให้เขาสามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างสว่างไสวอีกครั้ง

“จากร่องรอยดูเหมือนจัสทิสจะเร่งความเร็วหลังจากที่เขาได้เข้าสู่ป่าเอเวอร์ไนท์ ทำให้ร่องรอยที่เขาทิ้งเอาไว้ยากต่อการแยกแยะขึ้นกว่าเดิม”

“ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ ความเร็วในการแกะรอยของพวกเรายังช้ามากเกินไป” เซี่ยเฟยกล่าวขณะมองไปยังรอยเท้าตื้น ๆ ที่ถูกทิ้งเอาไว้ ซึ่งมันดูเหมือนจะเป็นรอยเท้าของแมวตัวใหญ่ที่เข้ามากลบรอยเท้าของคนที่พวกเขากำลังแกะรอยอยู่

“แล้วพวกเราควรจะทำยังไงกันดีครับ?” ซุนซานถามอย่างสงสัย

“พวกเราต้องเดิมพัน”

“เดิมพัน?”

“ใช่ ฉันเดิมพันว่าปลายทางของพวกเขาจะต้องเป็นบ่อน้ำใจกลางป่าเอเวอร์ไนท์ และเนื่องจากความเร็วของฉันสูงกว่าพวกเขาหลายเท่า ดังนั้นถ้าหากพวกเรามีเป้าหมายเดียวกัน ฉันจะต้องไล่ตามพวกเขาทันอย่างแน่นอน” เซี่ยเฟยวิเคราะห์สถานการณ์อย่างใจเย็น

แม้ว่าเซี่ยเฟยพอจะมีความสามารถในการแกะรอยอยู่บ้าง แต่การเคลื่อนไหวในตอนนี้ก็เชื่องช้ามากเกินไป แล้วอย่าลืมว่าสมาชิกในสมาพันธ์หนานหมิงถูกสังหารมาแล้วเป็นเวลากว่า 7 วัน ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ฆาตกรก็อาจจะบรรลุเป้าหมายของตัวเองได้ทุกเมื่อ และเมื่อฆาตกรบรรลุเป้าหมายของตัวเองแล้ว เขาคนนั้นก็ไม่จำเป็นจะต้องไว้ชีวิตพ่อแม่ของซุนซานอีกต่อไป ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาจำเป็นจะต้องทำคือการพยายามหาฆาตกรให้พบโดยเร็วที่สุด

“นอกจากบ่อน้ำกลางป่าแล้ว ในป่ายังมีสถานที่แปลก ๆ อะไรอยู่อีกบ้างไหม?” เซี่ยเฟยถาม

“พอจะมีอยู่บ้างครับ แต่บ่อน้ำกลางป่าเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดแล้ว” ซุนซานกล่าวตอบหลังจากใช้เวลานึกอยู่ครู่หนึ่ง

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะรีบมุ่งหน้าไปใกล้บ่อน้ำให้เร็วที่สุด ถ้าหากว่าฉันไม่กลับมาภายใน 2 ชั่วโมงแสดงว่ามันจะต้องมีอะไรผิดปกติอยู่ใกล้ ๆ ในเวลานั้นให้นายใช้วิธีของสมาพันธ์เข้าไปใกล้บ่อน้ำได้เลย แต่จำเอาไว้ว่านายจะต้องอดทนอย่าทำอะไรผลีผลาม และพยายามให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก” เซี่ยเฟยกล่าว

“เข้าใจแล้วครับ” ซุนซานกล่าวพร้อมกับพยักหน้ารับ

เมื่อตกลงกันเรียบร้อยแล้วเซี่ยเฟยก็มุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่ใจกลางป่าเอเวอร์ไนท์ด้วยความรวดเร็ว โดยอาศัยการนำทางจากเข็มทิศอิเล็กทรอนิกส์

ยิ่งชายหนุ่มเคลื่อนที่เข้าใกล้จุดศูนย์กลางของป่ามากเท่าไหร่ เขาก็ได้พบกับต้นไม้ที่หนาแน่นและสูงใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยต้นไม้หลาย ๆ ต้นมีความสูงมากถึง 1 กิโลเมตร และมีลำต้นขนาดใหญ่มากกว่า 30 คนโอบ

ระหว่างทางชายหนุ่มได้พบกับสมุนไพรล้ำค่าหลากหลายชนิดเช่นเดียวกัน แต่เซี่ยเฟยก็ยังไม่หยุดเก็บพวกมันเข้าใส่แหวนมิติ เพราะท้ายที่สุดสมุนไพรก็ยังคงอยู่ที่เดิมไม่หนีไปไหน ดังนั้นสิ่งที่เขาจำเป็นจะต้องทำในตอนนี้คือจัดการกับฆาตกรให้ได้เสียก่อน

เมื่อเคลื่อนที่ลึกเข้ามาใจกลางป่ามากขึ้นเรื่อย ๆ วัชพืชบริเวณโดยรอบก็มีความสูงเกินศีรษะของเซี่ยเฟยไป จึงทำให้เขาไม่สามารถสังเกตสภาพแวดล้อมบริเวณรอบ ๆ ตัวของเขาได้ ด้วยเหตุนี้ชายหนุ่มจึงกระโดดขึ้นไปบนกิ่งไม้ก่อนที่จะเริ่มเคลื่อนที่จากต้นไม้ต้นหนึ่งไปยังต้นไม้อีกต้นหนึ่งเหมือนกับลิง

ด้านหน้าของเขาเป็นเนินเขาที่ค่อย ๆ สูงชันขึ้นไปยังด้านบน ชายหนุ่มจึงค่อย ๆ เร่งความเร็วปีนขึ้นไปจนถึงยอดเขาก่อนที่จะมองลงมายังด้านล่าง

พื้นที่บริเวณโดยรอบของกลางป่าถูกล้อมรอบด้วยภูเขาเป็นจำนวนมาก กลางหุบเขาเหล่านี้เป็นบ่อน้ำที่มีจุดศูนย์กลางมากกว่า 80 กิโลเมตร และมีต้นไม้ตั้งสูงตระหง่านเป็นเหมือนกำแพงที่สูงชันล้อมรอบบ่อน้ำนั้นเอาไว้

“ในบ่อน้ำมีความผันผวนของพลังงานที่สูงมาก ฉันคิดว่าที่พืชพันธ์ุภายในป่าเติบโตได้อย่างรวดเร็วน่าจะเป็นเพราะผลกระทบของพลังงานที่แผ่กระจายออกมา” อันธกล่าว

ขนอุยสัมผัสถึงพลังงานในบ่อน้ำได้เหมือนกัน จนทำให้มันน้ำลายไหลออกมาจากปากอย่างห้ามไม่อยู่ ซึ่งถ้าหากว่าเซี่ยเฟยไม่ได้หยุดเจ้าตัวน้อยตัวนี้เอาไว้ มันคงจะรีบวิ่งลงจากเนินเขาและดื่มน้ำภายในนั้นจนพอใจ

“มีคนซ่อนตัวอยู่!”

ฟุบ!

เซี่ยเฟยเปลี่ยนดาบดราก้อนสเกลให้กลายเป็นดาบสองมือ ก่อนที่เขาจะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเข้าหาพุ่มไม้ต้องสงสัย

พริบตาต่อมาพุ่มไม้ที่มีขนาดความสูงเท่ากับตัวคนก็ถูกตัดออกเป็น 3 ท่อน ก่อให้เกิดเศษกิ่งไม้ใบหญ้ากระจัดกระจายไปจนทั่วหลงเหลือเพียงแค่ตอไม้ที่ตั้งอยู่บนพื้นเท่านั้น

“เป็นไปไม่ได้! ทำไมมันถึงไม่มีใครอยู่? เมื่อกี้ฉันสัมผัสถึงคนที่กำลังแอบดูฉันอยู่แน่ ๆ” เซี่ยเฟยพึมพำกับตัวเองด้วยความประหลาดใจ

“ว่าไงไอ้หนุ่ม? ดูเหมือนความเร็วของนายจะเร็วมากขึ้นกว่าเดิมนะ เมื่อกี้นายเกือบจะฆ่าฉันลงไปแล้ว” เสียงชายชราดังขึ้นมาจากระยะไกล และเมื่อเซี่ยเฟยหันศีรษะไปเขาก็ได้พบกับชายชราคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่บนกิ่งไม้และถือชามหมูตุ๋นภายในมือ

“คุณตาสาย!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ เมื่อได้พบว่าชายชราคนนี้เป็นคนรู้จักเก่าของเขาเอง

ปัจจุบันเซี่ยเฟยกับหยูจื่อเทานั่งเคียงข้างกันบนกิ่งไม้ใหญ่ และสังเกตการเคลื่อนไหวของบ่อน้ำ ที่อยู่กลางหุบเขา

“อยากลองกินดูบ้างไหม? หมูตุ๋นฝีมือฉันรสชาติดีนะ” หยูจื่อเทาถามขณะยื่นชามหมูตุ๋นไปทางเซี่ยเฟย

เซี่ยเฟยชำเลืองมองไปยังชิ้นเนื้อติดมันภายในชามเล็กน้อย และได้เห็นว่าเนื้อแต่ละชิ้นต่างก็ล้วนแล้วแต่มีน้ำหนักไม่น้อยกว่าครึ่งกิโล แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ของชิ้นเนื้อกลับไม่ใช่ชิ้นเนื้ออย่างที่ควรจะเป็น แต่เป็นพื้นที่ส่วนของไขมันไม่น้อยไปกว่า 80%

“ตามสบายเลยครับ ผมไม่ค่อยชอบกินไขมันแบบนี้เท่าไหร่” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่ายหัวอย่างรวดเร็ว

“นี่มันเนื้อของหมูป่าใบพายเชียวนะ! ฉันล่ามันได้จากป่าเมื่อวานนี้” หยูจื่อเทากล่าวพร้อมกับมองไปทางเซี่ยเฟยด้วยแววตาที่ว่างเปล่า

“พวกเราไม่ได้เจอกันมาปีกว่าแล้วสินะครับ ว่าแต่ทำไมคุณตาถึงมาที่ดาวดวงนี้คุณได้? คุณตาขับยานรบของจัสทิสมาด้วยใช่ไหมครับ?” เซี่ยเฟยถาม

“อ๋อ! พอดีว่าซุนกวงที่เป็นประธานสมาพันธ์หนานหมิงคนปัจจุบันเป็นลูกศิษย์ของฉันเอง เมื่อก่อนพ่อของเขาก็เคยให้ผลไม้ดี ๆ กับฉันมามากมาย จะว่าไปฉันก็ถือว่าเป็นหนี้บุญคุณสมาพันธ์หนานหมิงอยู่เหมือนกัน”

“แต่ถึงแม้ว่าสมาพันธ์หนานหมิงมักที่จะส่งสมุนไพรดี ๆ มาให้กับฉัน แต่เขาก็ไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือใด ๆ จากฉันเลย จนกระทั่งเมื่อ 1 เดือนก่อนซุนกวงบอกว่าเขากำลังมีปัญหาภายในสมาพันธ์ และเขาก็อยากจะให้ฉันมาอยู่ที่สมาพันธ์หนานหมิงสักพัก”

“คนเราเกิดเป็นลูกผู้ชายต้องรู้จักคำว่ากตัญญู ดังนั้นเมื่อพวกเขาร้องขอให้ฉันช่วยเหลือเพียงแค่เล็กน้อย ฉันจึงได้รีบมุ่งหน้าตรงมายังดาวดวงนี้” หยูจื่อเทาเล่าที่ไปที่มาว่าเขามาอยู่ที่ดาวดวงนี้ได้ยังไง

“จากนั้นคุณตาก็คงจะมาสายและได้พบว่าสมาชิกของสมาพันธ์ถูกฆ่าตาย คุณตาก็เลยพยายามติดตามฆาตกรมาจนถึงที่นี่สินะครับ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เฮ้ย! ไอ้หนูเอ็งรู้ได้ยังไง?”

“เพราะฉายาของคุณตาคือตาสายไงล่ะครับ ฉายานี้คุณเป็นคนเล่าให้ผมฟังเองนะ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเบา ๆ

“ทำไมยิ่งโตนายถึงยิ่งดูเหมือนฉินหมางมากขึ้นทุกวัน สมแล้วที่นายเริ่มบ่นฉันเหมือนอาจารย์ของนายเลย” หยูจื่อเทากล่าวพร้อมกับทำหน้ามุ่ย

“ผมเคยบอกไปแล้วนะครับว่าผมไม่ใช่ลูกศิษย์ของคุณตาฉินหมาง และมันก็ไม่ใช่ความผิดของผมด้วยที่คุณตามาสาย” เซี่ยเฟยกล่าว

“อะไรกัน! รอบนี้ฉันมาสายแค่สัปดาห์เดียวเองและสมาพันธ์หนานหมิงก็แค่เกือบถูกกวาดล้างทั้งสมาพันธ์”

“ผมว่าไม่ใช่แค่เกือบหรอกนะครับ ตอนนี้จะเรียกว่าถูกกวาดล้างทั้งสมาพันธ์ก็ไม่ผิด” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับยักไหล่

“ไม่! ซุนกวง, ภรรยาและลูกสาวของเขายังมีชีวิตอยู่ และพวกเขาก็ถูกคุมตัวอยู่ในป่าข้างบ่อน้ำโน้น” หยูจื่อเทากล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปยังป่าทางด้านล่าง

เมื่อเซี่ยเฟยมองตามทิศทางที่หยูจื่อเทาชี้ไป เขาก็ได้พบกับร่างภายในป่าที่อยู่ไกล ๆ แต่เนื่องจากพุ่มไม้ที่หนาทึบเขาจึงยังไม่สามารถระบุรายละเอียดของสิ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่บริเวณนั้นได้

“ว่าแต่นายเถอะ นายมาที่นี่ได้ยังไง?” หยูจื่อเทาเริ่มถามกลับถึงที่ไปที่มาของเซี่ยเฟย

“ผมรู้จักกับซุนซานที่เป็นลูกชายของคุณซุนกวง ก่อนหน้านี้เขารู้สึกกังวลที่ติดต่อครอบครัวไม่ได้ เขาเลยขอให้ผมเดินทางมาด้วยเพื่อดูว่าครอบครัวเขาเป็นอะไรหรือเปล่า” เซี่ยเฟยกล่าว

“อ๋อ! ลูกชายหัวแข็งของซุนกวงก็ยังมีชีวิตอยู่สินะ อย่างน้อยเรื่องนี้ก็ยังเป็นโชคดีท่ามกลางเรื่องร้าย ๆ” หยูจื่อเทากล่าวพร้อมกับพยักหน้าให้กับตัวเอง

“ในเมื่อคุณตาพบตำแหน่งของผู้บุกรุกแล้ว แล้วทำไมคุณตาถึงยังไม่ลงมือช่วยพวกเขาล่ะครับ?” เซี่ยเฟยกล่าวถาม

“ใจเย็น ๆ พวกนั้นระมัดระวังตัวมาก ถึงกับคอยส่งหน่วยลาดตระเวนเดินตรวจตราพื้นที่รอบ ๆ อยู่ตลอดเลย แม้ว่ามันจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับฉันที่จะบุกเข้าไปฆ่าพวกเขา แต่ถ้าหากว่าฉันทำอะไรผลีผลามขึ้นมามันก็อาจจะสร้างอันตรายให้กับพวกซุนกวงเหมือนกัน แค่ฉันมาสายแล้วทำให้เด็ก ๆ ในสมาพันธ์ตายก็ทำให้ฉันรู้สึกผิดมากพอแล้ว ถ้าหากว่าแม้แต่ซุนกวงก็ยังตายลงไปด้วยฉันก็ไม่รู้ว่าฉันจะไปสู้หน้าพ่อของเขาได้ยังไง”

“นายมาถูกเวลาพอดีเลย ฉันกำลังรอให้คนพวกนั้นเริ่มพักผ่อนแล้วเดี๋ยวฉันจะคอยดึงดูดความสนใจของพวกเขาเอาไว้เอง ระหว่างนั้นนายก็ใช้ความเร็วของนายช่วยพวกซุนกวงออกมาซะ แล้วพวกเราค่อยไปจัดการกับผู้บุกรุกทั้งแปดคนนี้” หยูจื่อเทากล่าวอย่างจริงจัง

“8 คนงั้นเหรอครับ? แต่นอกเหนือจากร่องรอยของคุณตาแล้วผมพบรอยเท้าเพียงแค่ 7 รอยเท่านั้นนะครับ?” เซี่ยเฟยถามอย่างสงสัย

“อ๋อ! มันมีผู้ชายคนหนึ่งไม่มีเท้าและพลังเสียงของเขาก็ค่อนข้างทรงพลังมาก ฉันว่านายควรจะต้องระวังเขาเอาไว้หน่อยนะ”

ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็นึกขึ้นมาได้ว่าซุนซานเคยเล่าว่าศิษย์พี่ของพ่อของเขาเคยขาขาด ก่อนที่จะถูกไล่ออกไปจากสมาพันธ์

ในที่สุดเซี่ยเฟยก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวต่าง ๆ ได้ และเขาก็สันนิษฐานว่าศิษย์พี่ของซุนกวงคนนี้น่าจะเข้ามาสำรวจบ่อน้ำตั้งแต่สมัยที่เขายังหนุ่ม ๆ และเขาจะต้องได้พบเข้ากับความลับอะไรบางอย่าง แต่หลังจากที่เขาถูกขับไล่ออกจากสมาพันธ์ มันก็คงจะทำให้เขารู้สึกคับแค้นใจจนเดินทางมาแก้แค้นสมาพันธ์ในวันนี้

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมผู้บุกรุกถึงรู้จักสมาพันธ์หนานหมิงเป็นอย่างดี ถึงขนาดบุกเข้าไปภายในห้องลับได้อย่างง่ายดาย และมันก็เป็นเหตุผลว่าทำไมสมุนไพรล้ำค่าในห้องใต้ดินถึงไม่ถูกขโมยไป เพราะจุดหมายของพวกเขาคือบ่อน้ำบ่อนี้ต่างหาก

เซี่ยเฟยอธิบายความคิดของเขาให้ชายชราฟัง ซึ่งหยูจื่อเทาก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

“เรื่องที่นายสันนิษฐานไว้มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง ฉันอยากจะรู้แล้วสิว่าในบ่อน้ำนั้นมีความลับอะไรซ่อนเอาไว้อยู่กันแน่”

“ระหว่างที่คุณตาติดตามผู้บุกรุกมา คุณตาเคยเห็นพฤติกรรมอะไรแปลก ๆ ของพวกเขาหรือเปล่าครับ?” เซี่ยเฟยถาม

“พวกเขาดูเหมือนจะระแวงบ่อน้ำมากและทุก ๆ ชั่วโมงจะมีคนโยนอะไรบางอย่างลงไปในบ่อน้ำ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าพวกนั้นกำลังทำอะไรอยู่เหมือนกัน” หยูจื่อเทากล่าว

“เอาแบบนี้ไหมครับ? พวกเรารอไปก่อนเพื่อดูว่ามันมีความลับอะไรซ่อนอยู่ในบ่อน้ำสีดำนั้น แล้วพวกเราค่อยฉวยโอกาสในระหว่างที่พวกเขากำลังตื่นเต้นลงมือช่วยเหลือพวกคุณซุนกวง” เซี่ยเฟยกล่าว

“นายจะหลอกใช้พวกมันเผยความลับของบ่อน้ำออกมาใช่ไหม?”

“ใช่ครับ”

“แบบนั้นมันไม่ถูกนะ ครอบครัวของซุนกวงมีบุญคุณกับฉัน ดังนั้นเราควรจะต้องช่วยเหลือพวกเขาก่อน ส่วนเรื่องความลับเราค่อยถามซุนกวงเอาทีหลังก็ได้”

“เอาแบบนั้นก็ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ลงไปเตรียมพร้อมลงมือกันเถอะ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“เดี๋ยวก่อน! ฉันเพิ่งกินหมูตุ๋นหม้อใหญ่เข้าไปตอนนี้อาหารในท้องฉันยังไม่ย่อยเลย ฉันขอเวลานอนพักสัก 2 ชั่วโมงระหว่างนั้นฉันฝากนายดูแลพวกซุนกวงด้วย”

กาลเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งพฤติกรรมของคนพวกนี้ก็เป็นเหมือนที่หยูจื่อเทาได้บอกเอาไว้ เพราะทุก ๆ ชั่วโมงพวกเขาจะโยนอะไรบางอย่างลงไปในบ่อ จากนั้นพวกเขาก็จะรีบวิ่งหลบไปในทันที คล้ายกับว่าพวกเขาไม่อยากอยู่ริมบ่อน้ำนานเกินไป

น่าเสียดายที่พื้นที่ตรงจุดนี้อยู่ในส่วนที่มืดมิดของดวงดาว ดังนั้นถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะใช้งานระบบมองกลางคืน แต่เขาก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าคนพวกนั้นโยนอะไรลงไปภายในบ่อน้ำกันแน่

ชั่วพริบตาเวลาก็ได้ผ่านพ้นมาแล้วถึง 3 ชั่วโมง แต่จู่ ๆ มันก็มีบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน เพราะอยู่ดี ๆ มันก็มีน้ำพุ่งขึ้นมาจากสระ ในขณะที่หยูจื่อเทาที่เดินทางไปพักผ่อนก็ยังไม่กลับมา แม้ว่ามันจะเกินเวลาที่พวกเขาได้ตกลงกันเอาไว้ที่ 2 ชั่วโมงแล้วก็ตาม

“ฉันโง่จริง ๆ ฉันลืมฉายาของเขาไปได้ยังไงกันเนี่ย!” เซี่ยเฟยตบหน้าผากของตัวเองอย่างแรงเมื่อนึกถึงฉายาตาสายของหยูจื่อเทา

ด้วยเหตุนี้เองชายหนุ่มจึงไม่อยากจะเสียเวลารออีกต่อไปแล้ว เขาจึงใช้วิชาพรางจิตพร้อมกับรีบเคลื่อนตัวไปยังบ่อน้ำเพียงลำพัง

***************

โอ๊ยคุณตาาาา!! จะสายทุกเรื่องแบบนี้ไม่ได้นะ เหนื่อยใจ…

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.