บทที่ 221: ภูตหมาป่ากำลังมา

-A A +A

บทที่ 221: ภูตหมาป่ากำลังมา

“โอ้โห! ท่านพ่อสุดยอดมาก!” หลงเหยาอ้าปากกว้างด้วยความอิจฉาพร้อมกับอุทานเสียงดัง

 

เมื่อหลงโม่ได้ยินเสียงเอ่ยชมของลูกชายคนเล็ก เขาก็เชิดคางขึ้นพลางทำหน้าภาคภูมิใจ

 

แล้วนัยน์ตาสีทองก็เลื่อนไปหาหูเจียวเจียวที่นั่งอยู่ด้านข้างเงียบ ๆ

 

“หลงโม่ เจ้าทำเกี๊ยวออกมาสวยมาก ฝีมือของเจ้าเกือบจะไล่ทันข้าแล้ว”

 

จิ้งจอกสาวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเรียนรู้ได้เร็วขนาดนี้

 

ด้วยทักษะการทำอาหารของมังกรหนุ่ม เธอเดาว่าการทำเกี๊ยวของเขาคงจะยุ่งเหยิงกว่านี้

 

อีกทั้งหญิงสาวไม่คิดว่าเกี๊ยวที่ชายหนุ่มปั้นจะกินได้ด้วยซ้ำ เธอเลยขอให้เขาสับเนื้อให้ก่อนเป็นอย่างแรก

 

ทันทีที่หลงโม่ได้ยินคำพูดของหูเจียวเจียว เขาก็กระแอมเบา ๆ และแสร้งทำเป็นนิ่งเฉยพลางขยับมือเอาเกี๊ยวไปวางไว้ข้าง ๆ เกี๊ยวของภรรยาสาว

 

“อะแฮ่ม...มันก็แค่การห่ออาหารธรรมดา ๆ มันไม่ได้ยากขนาดนั้น”

 

ในความเป็นจริงผลงานทั้งหมดผ่านการฝึกฝนระหว่างที่เขาแกะสลักปิ่นหยกให้จิ้งจอกสาว 

 

ที่ผ่านมามือหยาบกร้านของมังกรหนุ่มไม่เคยทำงานละเอียดอ่อนมาก่อน เขาต้องควบคุมพละกำลังในตอนที่แกะสลักปิ่นปักผม จนตอนนี้เขามีความชำนาญในการควบคุมแรงของตัวเองแล้ว มันจึงส่งผลให้เขามีความสามารถในการเรียนรู้ที่สูงขึ้นและยังมีประโยชน์ในการทำเกี๊ยวอีกด้วย

 

“ท่านพ่อ” หลงจงถามขึ้นมาอย่างหนักแน่นว่า “ท่านรู้วิธีการทำเกี๊ยวได้ดีขนาดนี้ แต่ทำไมท่านถึงทำอาหารไม่อร่อยล่ะ?”

 

“...”

 

ทันใดนั้นพ่อมังกรก็รู้สึกว่าครอบครัวของตนมีลูกมากเกินไป และคงจะดีถ้ามีเด็กน้อยลงกว่านี้สัก 2 คน

 

มันจะสายเกินไปหรือเปล่าหากเขาจะโยนเจ้าเด็ก 2 คนนี้ทิ้งในป่า?

 

“ฮ่า ๆๆๆ!” หูเจียวเจียวกลั้นหัวเราะไม่ไหวจึงเปล่งเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น

 

เมื่อเธอเห็นว่าใบหน้าของหลงโม่หม่นหมองลงอย่างรวดเร็วจนมองเห็นได้ชัด เธอก็หยุดหัวเราะแล้วพูดปลอบเขา

 

“หลงโม่ เจ้าอย่าคิดมากเลยนะ เจ้าแค่ทำอาหารไม่เก่ง แต่อย่างอื่นเจ้าทำได้ดีมาก ภูตทุกคนมีทั้งข้อดีและข้อเสียของตัวเองอยู่แล้ว”

 

พอชายหนุ่มได้ยินคำพูดของคนรักก็มีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย

 

จากนั้นเขาหันหน้าไปมองภรรยาสาวและถามอย่างไม่แน่ใจ “จริงหรือ?”

 

“จริง ๆ!” หูเจียวเจียวพยายามกลั้นหัวเราะเต็มที่พลางพยักหน้าแบบจริงจัง

 

หลงโม่หรี่ตาลงแล้วยังคงถามต่อไปด้วยเสียงทุ้มต่ำ

 

“แล้วเจ้าบอกข้าได้ไหมว่าข้าทำอะไรได้ดีบ้าง?”

 

“ก็... ทำเกี๊ยวกับล่าสัตว์ ทั้ง 2 อย่างนี้เจ้าเก่งมาก…”

 

จิ้งจอกสาวนับนิ้วอย่างตั้งใจเพื่อแสดงว่าตนไม่ได้โกหก

 

มังกรหนุ่มที่ได้ยินเช่นนั้นเลิกคิ้วขึ้น ดวงตาสีทองฉายแววแปลก ๆ ราวกับว่าเขาไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการ แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ

 

แล้วในช่วงเวลาที่เหลือ ทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนรู้วิธีการทำเกี๊ยว

 

หยินชางเป็นเด็กที่โตที่สุดในบ้าน เขาทำเกี๊ยวอยู่เงียบ ๆ โดยไม่ส่งเสียงอะไร แม้ว่ามันจะออกมาไม่สวยนัก แต่ก็เห็นได้ว่าเขาพยายามทำมากแค่ไหน

 

ในยามที่เด็กหนุ่มวางเกี๊ยวลงบนจาน เขาก็รู้สึกอับอายขึ้นมา

 

ตอนนี้มีจานวางอยู่ข้างหน้าเด็ก ๆ แต่ละคนซึ่งเอาไว้ให้พวกเขาใส่เกี๊ยวของตัวเอง

 

หลงอวี้เป็นคนที่ 2 ที่ทำเกี๊ยวสำเร็จ เกี๊ยวของเขาคล้ายกับของหยินชาง อาจจะเป็นเพราะมันมีไส้มากเกินไปจึงทำให้เกี๊ยวดูอ้วนเหมือนพุงของหลงเหยา

 

ปัจจุบันสายตาของหลงเซียวยังมองได้ไม่ชัดเจนนัก เขาเลยเคลื่อนไหวช้าและระมัดระวังมากกว่าคนอื่น และเขาใส่เนื้อสัตว์น้อย ดังนั้นเกี๊ยวของเขาจึงออกมาสวยงาม

 

“พี่รอง เกี๊ยวที่ท่านทำดูดีมากเลย” ระหว่างที่หลงหลิงเอ๋อทำเกี๊ยว นางก็คอยมองไปรอบโต๊ะก่อนจะเห็นเกี๊ยวของพี่ชายคนรองที่สวยกว่าใคร ๆ นางเลยเอ่ยปากชม

 

จากนั้นสาวน้อยก็ถือเกี๊ยวด้วยมือทั้ง 2 ข้างพลางยื่นให้แม่จิ้งจอกดูเกี๊ยวที่ตนทำ

 

“ท่านแม่ ข้าก็ห่อเกี๊ยวได้แล้วเหมือนกัน!”

 

หูเจียวเจียวหันไปมองทางต้นเสียงแล้วจ้องมองเกี๊ยวในมือของหลงหลิงเอ๋อ

 

เธอเห็นว่าฝีมือการห่อเกี๊ยวของลูกสาวราวกับว่ามันถูกแกะสลักด้วยมีดที่ไร้ตำหนิใด ๆ แม้แต่แป้งก็ยังถูกบีบเป็นชั้น ๆ อย่างประณีต รูปร่างหน้าตาของมันไม่ต่างจากดอกไม้สีขาวเลย

 

เกี๊ยวชิ้นนี้ทั้งดูเรียบร้อยและสะอาดตา

 

หากใครไม่รู้ก็คงนึกว่านี่เป็นงานศิลปะที่อยู่ในตู้โชว์

 

“หลิงเอ๋อ เกี๊ยวของเจ้า… สวยมาก” มุมปากของผู้เป็นแม่กระตุก ก่อนที่เธอจะเอ่ยปากชมเด็กสาว

 

ในตอนนั้นเองที่เธอเพิ่งรู้ว่าหลงหลิงเอ๋อเป็นคนที่รักความสมบูรณ์แบบ

 

“ฮี่ ๆๆ” สาวน้อยยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนจะยื่นเกี๊ยวไปให้หยินชางดูบ้างในขณะที่นางยิ้มจนตาแทบจะปิด

 

เด็กหนุ่มที่ได้เห็นเกี๊ยวในมืออีกฝ่ายรู้สึกละอายใจ และเขาก็มุ่งมั่นตั้งใจกับการทำเกี๊ยวมากขึ้น

 

ในทางกลับกัน ทางด้านหลงจง

 

มือของเขาดูเหมือนจะไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าตัว อีกทั้งแผ่นเกี๊ยวในมือเขาก็ไม่ยอมเชื่อฟังแต่โดยดี หลังจากใช้ความพยายาม 2-3 ครั้ง หน้าตาพวกมันก็ออกมาทั้งน่าเกลียดหรือไม่ก็บีบแป้งเข้าหากันไม่สำเร็จ

 

บัดนี้เด็กหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ และในที่สุดเขาก็ใส่เนื้อยัดลงในแผ่นเกี๊ยวแบบฉุนเฉียว แล้ววางมันไว้ในฝ่ามือของเขาก่อนจะบีบมืออย่างแรง

 

แผละ!

 

เกี๊ยวบ้า ๆ บอ ๆ  1 ชิ้นเสร็จแล้ว!

 

เขาวางเกี๊ยวลงบนจานแบบคนที่พร้อมจะคลั่งได้ทุกเมื่อ

 

แถมบนใบหน้าของหลงจงเหมือนกับมีประโยคที่เขียนไว้ตัวใหญ่ ๆ ว่า ‘ยุ่งยากน่ารำคาญชะมัด!’

 

“เจ้าต้องกินเกี๊ยวที่เจ้าทำเองนะ” หลงโม่ชำเลืองมองลูกคนที่ 3 และเอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

หูเจียวเจียวแอบสะกิดเอวของสามีด้วยข้อศอก และพูดปลอบลูกชายเบา ๆ ว่า “จงเอ๋อ ไม่ต้องกังวล เจ้าค่อย ๆ ทำสิ ไม่ต้องรีบ”

 

ในเวลาเดียวกัน พอหลงเหยาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ได้ยินคำพูดของพ่อมังกร ใบหน้าอวบอ้วนของเขาก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันที

 

เนื่องจากมือของเขาเล็กเกินไป เขาได้แต่วางแผ่นเกี๊ยวลงบนจานโดยตรงพลางบีบแผ่นเกี๊ยวไว้ครู่หนึ่งและเกาหน้าตัวเองอย่างคิดไม่ตกสักพัก

 

เด็กน้อยไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่าใบหน้าของตนถูกแต่งแต้มไปด้วยหนวดแมวสีขาวแล้ว

 

หลังจากหลงเหยาพยายามทำมันแบบ ‘จริงจัง’ ในที่สุดเขาก็ถือ ‘เกี๊ยว’ ฝีมือตัวเองอย่างตื่นเต้น ก่อนจะยืนขึ้นพร้อมกับพูดเสียงดังว่า

 

“ท่านแม่! เสี่ยวเหยาก็ทำเกี๊ยวได้แล้วเช่นกัน!”

 

หูเจียวเจียวและคนอื่น ๆ จึงหันไปมองตามเสียง

 

พวกเธอเห็นว่าเจ้าตัวแสบกำลังถือสิ่งที่มีรูปร่างคล้ายกับอุจจาระ หากมันไม่ใช่สีขาว ทุกคนคงคิดว่ามันถูกเจ้าตัวเบ่งออกมาแน่นอน

 

เมื่อหลงจงเห็นเกี๊ยวของน้องชาย อารมณ์ที่หดหู่ของเขาก็หายเป็นปลิดทิ้งทันที ก่อนที่เขาจะอ้าปากหัวเราะ “ฮ่า ๆๆๆ! เสี่ยวเหยา เจ้าเก็บอะไรมาน่ะ ขี้งั้นรึ?”

 

“...” หลงเหยาที่ถูกพี่ชายล้อเลียนถึงกับคิ้วกระตุก 

 

ทว่าหลงจงไม่สนใจใบหน้าโกรธเคืองของเจ้าตัวเล็กเลย และยังคงเติมเชื้อไฟต่อไป “ท่านพ่อบอกว่า เจ้าจะต้องกินเกี๊ยวที่ตัวเองทำ ฉะนั้นเจ้าอย่ามาแย่งของเรานะ แล้วเราก็จะไม่แย่งเจ้าแน่นอน”

 

เมื่อเด็กหนุ่มมองไปที่เกี๊ยวหน้าตาเหมือนก้อนอึซึ่งมันน่าเกลียดจนเขากินไม่ลง เขาก็รู้สึกมั่นใจในฝีมือตัวเองขึ้นมาในทันใด

 

“พี่สามแย่ที่สุด!” หลงเหยากัดฟันด้วยความโกรธ เขาทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเล็กแล้วโต้กลับว่า “เกี๊ยวที่พี่สามทำก็น่าเกลียด! ข้าไม่อยากกินของท่านหรอก!”

 

ตามธรรมเนียมแล้วการที่ครอบครัวทำเกี๊ยวด้วยกันก็เพื่อเสริมสร้าง ‘ความสามัคคีและความกลมเกลียว’

 

แม้ว่าภูตคนอื่น ๆ ในเผ่าจะไม่มีชีวิตชีวาเท่าครอบครัวนี้ แต่พวกเขาก็ซุกตัวนอนในเตียงคั่งและเพลิดเพลินกับความอบอุ่นในฤดูหนาวแรกของปี

 

...

 

ขณะเดียวกัน

 

ภูตหมาป่ากลุ่มหนึ่งในป่ากำลังวิ่งอย่างเต็มกำลังท่ามกลางลมหนาวและหิมะตกหนัก

 

ไม่นานพวกเขาก็พบถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งข้างในนี้มีฝูงภูตหลายร้อยคนรวมตัวกันอยู่ในถ้ำขนาดเล็กจนแทบไม่มีที่ว่างให้มดผ่านเข้าไปได้

 

เวลาต่อมา ภูตหมาป่าคนหนึ่งเดินเข้าไปในถ้ำที่อยู่ภายใต้พายุหิมะ เขาเดินไปสุดทางจนถึงส่วนด้านในสุดของถ้ำ จากนั้นเขาหมอบตัวลงกับพื้น และพูดกับภูตเกียจคร้านที่นั่งอยู่บนหินข้างหน้าด้วยความเคารพ

 

“หัวหน้า เผ่านั้นอยู่ข้างหน้าเราแล้ว”

 

ในตอนที่ภูตเหล่านี้ได้รับข่าวครั้งก่อน พวกเขาก็รู้ตำแหน่งโดยประมาณของเผ่าที่เป็นเป้าหมายเรียบร้อย

 

เพียงแต่ว่าสิ่งแปลกประหลาดที่ภูตมังกรใช้โจมตีในครั้งนั้นทรงพลังมากจนทุกคนต้องเลื่อนแผนการบุกออกไปจนกว่าจะถึงฤดูหนาวเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

 

“หืม? พวกมันส่งภูตมาลาดตระเวนกี่คน? แล้วมีภูตคอยปกป้องเผ่าอยู่กี่คน?”

 

หลางซัวเหล่ตาเรียวยาวไปมองคนพูดและถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

 

คนเป็นลูกน้องกลืนน้ำลายก่อนจะตอบอย่างลังเล

 

“หัวหน้า ไม่มีเลยสักคน…”

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.