บทที่ 220: ครอบครัวทำเกี๊ยวด้วยกัน
ในตอนที่หูเจียวเจียวกลับบ้าน ลูกทุกคนก็กลับมาถึงบ้านกันหมดแล้ว
หลังจากที่เด็ก ๆ สวมเสื้อผ้ากันหนาวแล้ว พวกเขาก็มาเบียดเสียดกันที่มุมหนึ่งในห้องนั่งเล่นเพื่อรอแม่จิ้งจอก พร้อมกับมีท่าทีรังเกียจเกล็ดหิมะที่กำลังโปรยปรายอยู่ข้างนอกมาก แต่ก็ไม่มีใครอยากขึ้นไปอยู่ชั้นบน
เมื่อเปรียบเทียบกับหลงโม่ที่ยืนรอภรรยาของเขาอยู่ที่ประตู เด็กพวกนั้นก็เหมือนกับฝูงนกกระทาตัวเล็ก ๆ
ส่วนหูเจียวเจียวเดินเข้าประตูมาและถอดเสื้อกันหนาวแบบมีหมวกตัวใหญ่ออก
ยามนี้เด็กตระกูลหลงเกาะกลุ่มซุกตัวเข้าหากัน ถึงแม้ว่าหยินชางจะไม่ได้ไปซุกรวมกับลูกทั้ง 5 ของจิ้งจอกสาว แต่เขาก็ไม่ยอมเข้าใกล้ประตู ประหนึ่งว่าถ้าเขาได้สัมผัสหิมะที่อยู่ด้านนอก มันจะทำให้เขาโดนพิษ
“เกิดอะไรขึ้น?” หญิงสาวรู้สึกสับสนกับท่าทางของพวกเด็ก ๆ มาก
แต่เด็กกลุ่มนั้นกลับพากับส่ายหัวตอบ
ทางด้านพ่อมังกรเมื่อรู้สึกว่าถูกแม่จิ้งจอกเมิน เขาจึงก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยอีกฝ่ายถอดเสื้อคลุมออก ก่อนจะสลัดปุยหิมะออกไปข้างนอกประตู ซึ่งมันส่งผลให้อากาศเย็นแพร่กระจายเข้ามาในบ้าน
“หลงโม่ เจ้ารังแกลูกหรือเปล่า?” หูเจียวเจียวอดไม่ได้ที่จะหันไปมองชายหนุ่มอย่างสงสัย
ไม่เช่นนั้นเด็กทุกคนจะทำท่าทางแบบนี้ทำไม?
“เปล่า” มังกรหนุ่มตอบอย่างตรงไปตรงมา เขากลัวว่าจะถูกภรรยาสาวเข้าใจผิด เขาจึงกล่าวเสริมว่า “พวกเขาแค่เกลียดฤดูหนาว”
เป็นเรื่องจริงที่ภูตเด็กเกลียดฤดูกาลอันแสนหดหู่ใจนี้
ในสายตาของพวกเขา ฤดูหนาวก็เท่ากับความอดอยากและความหนาวเหน็บสุดขั้วหัวใจ
เด็กทั้งหลายรู้สึกทรมานมากในช่วงฤดูหนาวของทุกปี พอทุกคนได้เห็นเกล็ดหิมะที่ร่วงโรยลงมาจากท้องฟ้า พวกเขาก็รู้สึกเกลียดมันโดยสัญชาตญาณ
อีกทั้งหลงโม่ไม่คิดว่าปฏิกิริยาของลูก ๆ ดูผิดปกติตรงไหน
ก่อนหน้านี้เจียวเจียวออกไปตะลอนทั่วเผ่าเพื่อทำโน่นนี่ให้คนอื่นทุกวัน แต่ตอนนี้ฤดูหนาวมาถึงแล้ว เจียวเจียวจะเป็นของเขาคนเดียว
ในขณะเดียวกัน แม่จิ้งจอกตกตะลึงเมื่อได้เห็นท่าทางหวาดกลัวของลูก ๆ และเธอก็รู้สึกเป็นทุกข์อยู่พักหนึ่ง
หญิงสาวใช้เวลามองดูเด็กที่เกาะกลุ่มกันเหมือนลูกนกกระทาอยู่พักหนึ่ง หลังจากนั้นไม่นานเธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้แล้วพูดว่า “วันนี้แม่จะทำอาหารอร่อย ๆ ให้พวกเจ้ากิน มีเด็กคนไหนสนใจช่วยแม่ทำไหม?”
วินาทีนั้นหูของหลงเหยาที่ไวต่อคำว่าอาหารขยับทันที เขารีบคลานออกมาจากวงล้อมข้างใน ก่อนจะลุกขึ้นวิ่งไปหาผู้เป็นแม่อย่างกระตือรือร้นพร้อมกับยกมือป้อมสั้นขึ้น
“เสี่ยวเหยา ๆ ท่านแม่ เสี่ยวเหยาจะช่วย~”
คราวก่อนแค่เขาช่วยท่านแม่ปอกทับทิม เขาก็ได้ทับทิมลูกใหญ่ 2 ลูกมาเป็นรางวัลตอนแทนแล้ว แถมเขายังได้แอบกินมันอีกด้วย!
เขาจะไม่พลาดของดีแบบนี้แน่นอน!
“ท่านแม่ ข้าก็จะช่วยท่านด้วย!” หลงหลิงเอ๋อวิ่งไปที่ด้านข้างของแม่จิ้งจอกพลางจับขากางเกงของเธอแล้วตะโกนเสียงดัง
พอเด็กที่เหลือเห็นพี่น้องของตนอาสาออกไปช่วยงานหูเจียวเจียว พวกเขาก็มองหน้ากันก่อนจะเดินตามไปอย่างไม่เต็มใจ
ทางด้านหลงโม่ซึ่งยังคงพึงพอใจกับการที่คิดว่าตนจะได้อยู่ในโลกส่วนตัวกัน 2 คนกับภรรยาสาวก็ทำหน้ามืดมนทันที
ส่วนจิ้งจอกสาวเมื่อเห็นว่าความคิดนี้เรียกความสนใจจากลูก ๆ ได้ เธอจึงยิ้มกว้างพลางหันไปมองมังกรหนุ่ม
“หลงโม่ จุดเตาถ่านให้ข้าหน่อย เสร็จแล้วก็เอามาวางไว้ที่ห้องนั่งเล่นนะ ข้าจะไปเตรียมวัตถุดิบในครัว”
เนื่องจากหิมะข้างนอกเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งยังเปลี่ยนจากเกล็ดหิมะเล็ก ๆ เป็นหิมะที่จับตัวกันเป็นก้อนหนาและอุณหภูมิก็ลดลงอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ลูก ๆ ลดความหวาดกลัวต่อฤดูหนาว เธอต้องทำให้พวกเขารู้สึกหนาวน้อยลงก่อน
“อืม” ชายร่างสูงตอบแล้วเดินไปเผาถ่านโดยไม่พูดอะไรอีก
ด้วยกังวลว่าหูเจียวเจียวจะหนาว หลงโม่จึงจุดเตาถ่าน 2 เตา แล้วเอามาวางไว้ในห้องนั่งเล่น
หลังจากพ่อมังกรปิดประตูบ้าน ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ก็อบอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็ว
หูเจียวเจียวเองก็รีบนำวัตถุดิบทั้งหมดออกมาจากในครัว
วันนี้เธอคิดเอาไว้ว่าจะทำเกี๊ยว
ตามปกติภูตกินจุมาก ที่ผ่านมาเธอพยายามทำอาหารง่าย ๆ ให้ได้มากที่สุด เธอจึงไม่เคยคิดจะทำเกี๊ยวเลย เพราะถ้าเธอทำเองคนเดียวให้มีปริมาณเพียงพอสำหรับทั้งครอบครัวต้องใช้เวลานานถึง 1 วัน
แต่ตอนนี้ทุกคนไม่ได้ออกไปทำงานนอกบ้านเพราะเป็นฤดูหนาว พวกเธอจึงสามารถช่วยกันทำอาหารด้วยกันได้
“ท่านแม่ นี่คืออะไร?” หลงหลิงเอ๋อมองดูแป้งที่แม่จิ้งจอกเทลงในกะละมังผสมแล้วถามอย่างสงสัย
หลงจงเองก็โผล่หน้ามามองด้วยความอยากรู้อยากเห็น ก่อนที่เขาจะขมวดคิ้วพร้อมทำหน้าขยะแขยง “ท่านจะเอาขี้เถ้าให้เรากินหรือ?”
เด็กหนุ่มคิดแบบนั้นถึงแม้ว่ามันจะเป็นขี้เถ้าสีขาวก็ตาม
ในทางกลับกัน หลงเหยาที่แอบอยู่ข้างหลังหูเจียวเจียวยื่นนิ้วเข้าไปในกะละมังจนนิ้วของเขาเปื้อนแป้ง แล้วเขาก็ชักมือกลับมาอมไว้ในปากก่อนจะพึมพำเสียงเบา
“ทำไมมันไม่มีรสชาติเลย…”
บัดนี้ใบหน้าจ้ำม่ำเต็มไปด้วยความสงสัย
ครู่ต่อมา คนตัวเล็กยื่นมือออกไปเพื่อลองสัมผัสมันอีกครั้ง แต่คราวนี้หลงโม่สังเกตเห็นการกระทำของลูกชายเสียก่อน ส่วนหลงเหยาเองก็เหลือบไปเห็นพ่อมังกรจึงหลบไปซ่อนตัวอยู่ข้างหลังหยินชางแบบไม่คิดชีวิต
ปัจจุบันหยินชางเป็นที่พึ่งพิงหลักของเจ้าตัวแสบ
ทางด้านเด็กหนุ่มตัวโตและเด็กตระกูลหลงคนอื่น ๆ ก็เต็มไปด้วยความกระหายใคร่รู้เช่นกัน หลังจากเขามาอาศัยอยู่ร่วมกับครอบครัวนี้ เขาก็พบว่าหูเจียวเจียวสามารถสร้างสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นขึ้นมาได้เสมอ
ในสายตาของหยินชาง สถานที่แห่งนี้เป็นเหมือนแดนสวรรค์
“นี่เรียกว่าแป้งนะ ไม่ใช่ขี้เถ้า มันเอาไว้ใช้ห่อเกี๊ยว วันนี้แม่จะสอนทำเกี๊ยว” แม่จิ้งจอกตอบคำถามของลูกทีละคนด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“เกี๊ยวคืออะไรหรือ?” แม้แต่หลงอวี้ที่นิ่งขรึมที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถามพร้อมกับแสดงท่าทางฉงน
“เกี๊ยวคือ… อาหารที่เทพอสูรกินในฤดูหนาว” หูเจียวเจียวใช้เวลาคิดชั่วครู่ก่อนจะตอบ
ตอนนี้บอกได้เลยว่าเทพอสูรถือได้ไว้เป็นเกราะป้องกันปัญหาทั้งหมดของหญิงสาว
“ท่านแม่ เทพอสูรกินเกี๊ยวด้วยหรือ?” หลงเหยาเบิกตากว้างและถามแบบกระตือรือร้น “หลังจากกินเกี๊ยว เสี่ยวเหยาจะแข็งแกร่งพอ ๆ กับเทพอสูรไหม?”
ขณะที่คนตัวเล็กพูด เขาก็อดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น ประกอบกับมีสีหน้าที่ดูตื่นเต้น
แม้แต่เจ้าเด็กตัวจ้ำม่ำก็ยังอยากจะแข็งแกร่งกับเขาด้วย!
ก่อนที่หูเจียวเจียวจะได้พูดอะไร หลงเซียวก็ตอบขึ้นมาทันควันว่า “มันอาจจะไม่ช่วยให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้น แต่เจ้าจะอ้วนขึ้นแน่นอน”
“อ๊ากกก!” หลงเหยาโกรธมากจนเปล่งเสียงคำรามเกรี้ยวกราดแล้วเขาก็เบะปากด้วยความไม่พอใจ
จากนั้นเด็กทุกคนก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
แม้แต่หยินชางที่เงียบขรึมมาโดยตลอดก็ยังมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าของเขา
นี่เป็นฤดูหนาวที่อบอุ่นที่สุดที่เขาเคยมีตั้งแต่เกิดมา…
ไม่นานหูเจียวเจียวก็เติมน้ำเพื่อนวดแป้งให้เป็นก้อน รีดแป้งเป็นแผ่นบาง ๆ ตัดเป็นชิ้น ๆ แล้วเก็บไว้ใช้ในภายหลัง
ในขณะที่หลงโม่รับหน้าที่สับเนื้อทั้งหมด
ยามนี้มีดทำครัวดูเหมือนจะกลายเป็นอุปกรณ์สร้างสรรค์งานศิลปะในมือของชายหนุ่ม การเคลื่อนไหวของเขาลื่นไหล และเขายังควงมีดให้ดูน่าตื่นตาในขณะที่เขาสับเนื้อชิ้นใหญ่ให้เป็นเนื้อสับละเอียด ซึ่งมันละเอียดกว่าที่ทำด้วยเครื่องบดเนื้อเสียอีก
แม้แต่การสับเนื้อด้วยมีดทำครัวก็ไม่อาจปกปิดออร่าเย็นชา เย่อหยิ่งและสูงส่งในตัวชายผู้นี้ได้
หลังจากเวลาผ่านไปสักครู่ ในที่สุดวัตถุดิบสำหรับทำเกี๊ยวก็พร้อมแล้ว
ในเวลานี้เด็ก ๆ ก็นั่งกันพร้อมหน้าอยู่บนโต๊ะด้วยท่าทางกระตือรือร้นอยากลองชิมอาหารแปลกใหม่
ส่วนหยินชางยืนอยู่ข้างโต๊ะอย่างงุ่มง่าม เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอกและกำลังจะหลบออกไปเงียบ ๆ แต่ก็มีมือขาวเล็ก ๆ ยื่นออกมาจับเขาไว้ก่อน
“หยินชาง มานี่เร็วเข้า”
หลงหลิงเอ๋อดึงชายเสื้อของคนตัวโตกว่ามาโดยจงใจเว้นที่ไว้ให้เขา
เมื่อเด็กหนุ่มเห็นสายตาคาดหวังของสาวน้อย เขาจึงเม้มปากแล้วเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้แต่โดยดี
ตอนนี้หลงหลิงเอ๋อนั่งทางขวามือของแม่จิ้งจอก ส่วนที่นั่งทางซ้ายยังว่างอยู่ ซึ่งหลงเหยากำลังลากเก้าอี้ขนาดเล็กเดินมา แต่จู่ ๆ ขายาวก็ก้าวเข้ามาขวางทางเขา
ทันทีที่เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย เขาก็เห็นดวงตาที่หรี่ลงของพ่อมังกร
ดวงตาสีทองคู่นั้นแสดงถึงความคุกคามที่ชัดเจนมาก
ราวกับชายหนุ่มต้องการจะพูดว่า: หลบไป นี่คือที่ของข้า
ท่าทางของผู้เป็นพ่อทำให้หลงเหยากัดฟันและสุดท้ายเขาก็จำใจต้องยอมสละที่นั่งข้าง ๆ ท่านแม่ไปโดยหางของเขาขดอยู่ที่หว่างขา
จากนั้นหลงโม่ก็นั่งบนเก้าอี้ทางด้านซ้ายของหูเจียวเจียวทันที
ปัจจุบันลูก ๆ ลืมไปแล้วว่าข้างนอกยังมีหิมะตกหนัก และความสนใจทั้งหมดของพวกเขาก็จดจ่ออยู่ที่ห่อเกี๊ยวในมือของแม่จิ้งจอก
“นี่คือแผ่นเกี๊ยว เอาน้ำมาทาที่ขอบแป้ง เอาเนื้อวางตรงกลาง พับสองด้านเข้าหากัน แล้วบีบตรงขอบให้แน่น แค่นี้ก็เสร็จแล้ว…”
หูเจียวเจียวทำเกี๊ยวชิ้นหนึ่งในขณะที่อธิบายให้ทุกคนฟัง
แม้ว่าฝีมือการทำอาหารของมังกรหนุ่มจะไม่ดีมาก แต่เขาก็ตั้งใจเรียนรู้วิธีทำเกี๊ยว หลังจากการสาธิตของจิ้งจอกสาว เขาก็สามารถทำเกี๊ยวที่เหมือนกันกับของเธอออกมาได้อย่างรวดเร็ว
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ขำพ่อลูกแข่งกันแย่งความรักจากแม่ เขม่นกันไม่หยุด 555555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 150
แสดงความคิดเห็น