บทที่ 178: พาหูชิงหยวนกลับบ้าน

-A A +A

บทที่ 178: พาหูชิงหยวนกลับบ้าน

หู่จิงช่วยพยุงตัวหูชิงหยวนมาตลอดทางจนในที่สุดก็กลับมาถึงบ้านและวางเขาไว้บนเตียงหนังสัตว์ของนาง

 

ในขณะเดียวกัน จิ้งจอกหนุ่มรู้สึกวิงเวียนจากการถูกแบกอยู่นาน แต่โชคดีที่เขาเพิ่งสำรอกสิ่งที่อยู่ในท้องออกไปจนหมด ดังนั้นเขาจึงไม่อาเจียนระหว่างเดินทางกลับบ้านอีก

 

“หูชิงหยวน มาดื่มน้ำหน่อย”

 

เสือสาวหันกลับมาและนำชามน้ำมาป้อนให้อีกคน

 

เนื่องจากระหว่างทางกลับ หูชิงหยวนเอาแต่คร่ำครวญอย่างเจ็บปวด นางจึงคิดว่าเขารู้สึกไม่สบาย

 

ขณะนี้ชายหนุ่มถูกหญิงสาวช่วยพยุงขึ้นมานั่ง จากนั้นเขาก็ดื่มน้ำเข้าไปโดยสัญชาตญาณ 

 

“หูชิงหยวน เจ้าไม่สบายหรือเปล่า ให้ข้าไปตามหมอมาดูเจ้าดีไหม?”

 

หู่จิงกล่าวพลางเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าที่ยังคงแดงก่ำของเขาเพื่อวัดอุณหภูมิ แต่ทันใดนั้นจิ้งจอกหนุ่มก็เงยหน้าขึ้นมองนางแล้วยิ้มจาง ๆ

 

“ข้าสบายดี ไม่ได้ป่วยอะไร ข้าไม่ต้องการพบหมอ แล้วอีกอย่าง น้องสาวของข้าเป็นหมอผีที่ทรงพลังที่สุดในเผ่า”

 

หูชิงหยวนพูดเจื้อยแจ้วขณะปรือตาลงครึ่งหนึ่งและยิ้มอย่างสดใส เผยให้เห็นเขี้ยวสีขาวคู่หนึ่ง

 

ทางด้านเสือสาวที่ได้เห็นภาพตรงหน้าตกตะลึงอยู่ชั่วครู่

 

พอนางดึงสติกลับมาได้ก็รีบหันหน้าหนีไปทางอื่น พร้อมกับใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นยืน

 

“เจ้า-เจ้าคงจะป่วย ข้าจะไปเรียกท่านหมอให้มาดูเจ้า...”

 

หู่จิงพูดตะกุกตะกัก ตั้งท่าจะเดินออกไปราวกับกำลังหนีอะไรบางอย่าง

 

ทันทีที่หญิงสาวหันหลัง หูชิงหยวนก็คว้ามือนางแล้วดึงกลับมาหาตน

 

นั่นทำให้เสือสาวที่ไม่ทันได้ตั้งตัวหงายหลังทิ้งตัวลงบนร่างของจิ้งจอกหนุ่มจนเขาอุทานเสียงดัง

 

“โอ๊ย! หนัก...”

 

เมื่อหู่จิงได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย แก้มของนางก็ยิ่งแดงขึ้น ก่อนที่นางจะกุลีกุจอลุกออกจากตัวชายหนุ่มทันที

 

“ขอโทษ ข้าทำเจ้าเจ็บหรือเปล่า ข้าไม่ได้ตั้งใจ”

 

แต่คาดไม่ถึงว่าหูชิงหยวนจะเอื้อมมือไปรั้งเอวของหญิงสาวเข้ามากอดไว้แนบอกอีกครั้ง

 

บัดนี้ร่างกายของทั้งคู่เบียดชิดกันแน่น

 

การกระทำของชายหนุ่มส่งผลให้หู่จิงหน้าแดงไปจนถึงใบหูแล้ว ขณะที่นางรู้สึกว่าไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ตรงไหนจึงได้แต่กำหมัดตัวเองอย่างงุ่มง่าม

 

นอกจากนี้ เสือสาวรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิจากตัวอีกฝ่ายที่แผ่ไปทั่วร่างกายของตนผ่านเสื้อผ้าที่กั้นอยู่ โดยที่มีกลิ่นแปลก ๆ ลอยเข้ามาในจมูก

 

นางสงสัยว่ามันเป็นกลิ่นที่ทำให้หูชิงหยวนทำตัวแปลกไปหรือไม่?

 

แต่ยามนี้หัวสมองของหญิงสาวขาวโพลนไปหมด และลมหายใจที่เต็มไปด้วยฮอร์โมนเพศชายยังติดอยู่ที่ปลายจมูก ทำให้นางควบคุมสติตัวเองไม่ได้ พอแขนที่แข็งแรงกระชับกอดตัวเองมากขึ้น นางก็อธิบายเสียงเบาว่า

 

“หูชิงหยวน จริง ๆ แล้ว... จริง ๆ แล้ว ข้าไม่ได้แข็งแรงขนาดนั้น ข้าแค่ต้องการให้เจ้าได้พักผ่อน ฉะนั้นข้าแค่...”

 

นางเกรงว่าจิ้งจอกหนุ่มอาจเข้าใจบางอย่างผิด

 

อันที่จริงนางก็เป็นเพียงผู้หญิงบอบบางและอ่อนแอคนหนึ่ง… อย่างน้อยก็ต่อหน้าหูชิงหยวน

 

หลังจากนั้นหู่จิงก็รอคำตอบของอีกคนอย่างประหม่าโดยหวังว่าเขาจะพูดอะไรบางอย่างออกมาบ้าง

 

“อืม ถ้าเจ้าอยากคบหาดูใจกับข้า ข้าเต็มใจ...”

 

เสียงที่นางเปล่งออกมาประโยคสุดท้ายเบามากจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ

 

อย่างไรก็ตาม…

 

เสือสาวรอฟังคำตอบจากอีกฝ่ายอยู่นาน แต่ผู้ชายที่อยู่ใต้ร่างก็ยังคงนิ่งเงียบ

 

จนกระทั่งมีเสียงกรนดังขึ้น หู่จิงจึงรู้ตัวว่าเขาหลับไปแล้ว ทว่ามือของเขายังคงกอดนางไว้แน่น ซึ่งทำให้นางคิดว่าเขายังตื่นอยู่

 

“…”

 

บัดนี้หญิงสาวตัวแข็งเป็นหิน ก่อนจะจับแขนของชายหนุ่มออกจากเอว แล้วลุกขึ้นนั่งขณะที่ในสายตาของนางมีเพียงแค่ความผิดหวัง

 

“ในเวลาแบบนี้เขากลับผล็อยหลับไปเนี่ยนะ...”

 

เสือสาวกัดริมฝีปากพลางจ้องมองหูชิงหยวนที่กำลังนอนหลับสนิท จากนั้นนางหยิบหนังสัตว์มาห่มให้เขาเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายต้องทนหนาวในตอนกลางคืน 

 

แม้ว่าภูตชายจะไม่รู้สึกหนาวในฤดูใบไม้ร่วงและไม่จำเป็นต้องห่มหนังสัตว์ ซึ่งมีเพียงภูตหญิงเท่านั้นที่กลัวความหนาว แต่ถึงอย่างไร นางก็ยังห่วงใยจิ้งจอกหนุ่มอยู่ดี

 

“หู่จิง” ในตอนนั้นเอง หูชิงหยวนที่นอนอยู่ก็ส่งเสียงขึ้นมา “ขอบคุณ...”

 

ปัจจุบันชายหนุ่มหลับไปแล้ว เขากำลังฝันละเมอถึงครั้งล่าสุดตอนที่หู่จิงช่วยแก้ไขความเข้าใจผิดระหว่างเขากับหลงโม่

 

“พูดขอบคุณแล้วก็หลับไปเลยเนี่ยนะ ไร้ความจริงใจชะมัด”

 

หู่จิงพ่นลมอย่างไม่พอใจพร้อมกับกำหมัด ก่อนตั้งท่าหมายจะทุบไปที่หน้าอกของเขา แล้วในที่สุดนางก็ล้มตัวลงนอนอยู่ข้างกายเขา แต่ถึงกระนั้น นางก็นอนไม่หลับอยู่ทั้งคืน

 

 

วันต่อมา

 

เนื่องจากหู่จิงนอนไม่หลับ นางจึงออกไปแต่เช้าเพื่อไปหาหมอในสภาพที่ดวงตาเหมือนหมีแพนด้า

 

ไม่นานหลังจากที่นางออกจากบ้านไป หูชิงหยวนก็ตื่นขึ้นมา

 

“โอย... ทำไมหัวของข้าถึงเจ็บมากขนาดนี้?” ชายหนุ่มขมวดคิ้วพลางเอามือข้างหนึ่งกุมหัว ขณะนี้เปลือกตาของเขาหนักอึ้งซึ่งเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการลืมตา 

 

“ที่นี่ที่ไหน? ดูเหมือนจะไม่ใช่บ้านของข้า”

 

เมื่อจิ้งจอกหนุ่มเห็นสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยรอบตัวอย่างชัดเจน เขาก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง

 

เวลาผ่านไปไม่นาน เขาก็ได้กลิ่นของผู้หญิงโชยมาในอากาศ ทำให้เขาผงะไปชั่วขณะ และภาพบางส่วนก็แล่นเข้ามาในหัว

 

ดูเหมือนว่าเขาจะ... เมื่อคืนนี้เขานอนกอดผู้หญิง?

 

“!!”

 

ข้าทำแบบนั้นกับผู้หญิงจริงหรือ!? 

 

ยามนี้ดวงตาของหูชิงหยวนเบิกกว้าง เขาสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว เขามอบมันให้กับผู้หญิงคนหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ!

 

เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร และต่อจากนี้ไปเขาจะต้องอยู่กับอีกฝ่าย

 

พอจิ้งจอกหนุ่มคิดแบบนี้ก็เผยสีหน้าผิดหวัง ในใจเขาอยากจะร้องไห้ออกมา แต่เขาก็ต้องตบหน้าเพื่อเรียกสติตัวเอง “หูชิงหยวน เจ้าทำเรื่องแบบนี้ลงไปได้ยังไง!”

 

ความรู้สึกเสียใจแล่นวาบขึ้นในหัวใจ ถ้ารู้ตัวเร็วกว่านี้ เขาควรจะ…

 

หูชิงหยวนรู้สึกหดหู่มากในขณะที่เขากำลังนวดขมับเนื่องจากปวดหัว จากนั้นเขาตัดสินใจลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ ห้อง แต่เขากลับไม่พบผู้หญิงที่เป็นเจ้าของบ้าน เขาจึงถอดเสื้อหนังสัตว์ออกทิ้งมันไว้ในเรือนหลังนี้แล้วกลับบ้านไป

 

เหตุผลที่เขาทำแบบนี้เพราะตนเกรงว่าหญิงสาวคิดว่าเขาจะไม่รับผิดชอบนาง

 

ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ตราบใดที่เขาทำลงไปแล้ว เขาต้องรับผลที่ตามมาให้ได้

 

ขณะนี้หูชิงหยวนเดินกลับบ้านด้วยอาการปวดหัวเพราะยังไม่สร่างเมา 

 

หลังจากนั้นไม่นาน หู่จิงก็พาหมอเฒ่าประจำเผ่ามาที่บ้าน

 

“หู่จิง ช้าลงหน่อย แฮ่ก… ข้าแก่แล้ว ข้าเดินตามเจ้าไม่ทัน...”

 

หมอชราที่มีเคราสีขาวถูกเสือสาวลากวิ่งออกมาจากบ้าน เขารู้สึกว่าช่วงชีวิตที่เหลือของเขานั้นไม่ปลอดภัยยิ่งกว่าเดิมแล้ว

 

“อีกนิดเดียว ใกล้จะถึงแล้ว ท่านหมอ ท่านอดทนอีกสักหน่อยนะ” หู่จิงพูดขณะเร่งความเร็วโดยไม่เปิดโอกาสให้คนเป็นหมอได้พัก

 

เมื่อหมอสูงวัยหมดลมหายใจและใบหน้าขึ้นสีแดงจากการวิ่งมาเป็นเวลานาน ในที่สุดเขาก็หยุดฝีเท้า

 

“แฮ่ก ๆๆ... ข้าแทบขาดใจตายแล้ว...”

 

หมอเฒ่าพยุงต้นไม้ด้วยด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างเท้าไว้ที่หลังเอวตัวเอง เขารู้สึกว่าหากต้องวิ่งต่อไปแบบนี้ เขาต้องหัวใจวายตายก่อนจะได้รักษาคนป่วยแน่

 

“ท่านหมอ ท่านรีบช่วยข้าทีเถอะ ไปดูว่าหูชิงหยวนป่วยหรือไม่ เขานอนนิ่งทั้งคืนโดยไม่ขยับเขยื้อนอะไรเลย”

 

หู่จิงหอบหายใจไม่กี่ครั้งแล้วดันหลังหมอชราเข้าไปในบ้านของตน

 

ทางด้านผู้เป็นหมอเดินโซเซพลางพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเหมือนคนขาดอากาศหายใจ

 

“ตอนกลางคืน ถ้าเจ้าไม่นอน แฮ่ก ๆ... เจ้าจะทำอะไรจนกว่าจะรุ่งสางล่ะ...”

 

การที่คนเราจะนอนแน่นิ่งตลอดทั้งคืนโดยไม่มีการเคลื่อนไหวมันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ!

 

ทว่าเขาไม่เหลือแรงจะพูดประโยคข้างต้นอีกแล้ว

 

เสือสาวที่ได้ยินเช่นนั้นแสดงสีหน้าซับซ้อน แล้วนางก็รีบอธิบายด้วยใบหน้าขึ้นสีระเรื่อว่า “ไม่! ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ยังไงก็เถอะ ท่านหมอ ท่านช่วยไปดูเขาหน่อย เขาต้องป่วยแน่ ๆ”

 

เมื่อทั้งคู่เข้าไปในบ้านกลับพบว่าภายในห้องว่างเปล่าไม่มีใครอยู่เลย

 

“เขาหายไปไหนแล้ว?” เจ้าของบ้านตกตะลึง

 

ในที่สุดหมอเฒ่าก็มีโอกาสหยุดพักหายใจ “หูชิงหยวนอยู่ไหน เจ้าเรียกข้ามาดูเขาไม่ใช่หรือ?”

 

สถานการณ์นี้ทำให้หู่จิงผ่อนคลายลง ในเมื่อเขากลับไปแล้ว นั่นหมายความว่าเขาน่าจะสบายดีใช่ไหม?

 

แต่สิ่งที่ตามมาคือความรู้สึกเหมือนกับสูญเสียอะไรบางอย่างไป…

 

ครู่ต่อมา เสือสาวหลุบตาลงต่ำ ทันใดนั้นนางก็เหลือบไปเห็นเสื้อหนังสัตว์ที่วางไว้อย่างเรียบร้อย ดวงตาของนางจึงเป็นประกายก่อนจะวิ่งไปคว้าหนังสัตว์มาดมกลิ่นใกล้ ๆ

 

นี่คือเสื้อหนังสัตว์ของหูชิงหยวน!

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.