บทที่ 179: กังวลเกี่ยวกับสติปัญญาของหูชิงหยวน

-A A +A

บทที่ 179: กังวลเกี่ยวกับสติปัญญาของหูชิงหยวน

การที่หูชิงหยวนทิ้งเสื้อหนังสัตว์ตัวนี้ไว้ นั่นหมายความว่ามันเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักที่เขามีต่อนางหรือไม่?

 

แก้มของหู่จิงร้อนผ่าวเมื่อคิดได้เช่นนั้น ในขณะที่หัวใจเจ้ากรรมเต้นระรัวไม่หยุด

 

ส่วนหมอเฒ่าที่อยู่ข้างหลังเสือสาวพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า “เจ้าบอกว่าหูชิงหยวนอยู่ที่นี่ แล้วเจ้าก็ไปเรียกข้าให้มาดูเขาไม่ใช่หรอกหรือ แล้วตอนนี้เขาไปไหนเสียล่ะ?”

 

“ไม่… ไม่ต้องดูแล้ว”

 

หู่จิงเม้มริมฝีปากกลั้นรอยยิ้มที่เผยออกมาตรงมุมปากโดยไม่รู้ตัว จากนั้นนางก็หันกลับมาดันอีกฝ่ายไปที่ประตูอีกครั้ง

 

“หูชิงหยวนหายดีแล้ว ข้าจะพาท่านกลับไปส่ง”

 

“...” หมอชราถึงกับพูดอะไรไม่ออก 

 

มุมปากของเขากระตุกอย่างห้ามเอาไว้ไม่ได้ก่อนจะโบกมือปฏิเสธไว ๆ

 

“ไม่ ข้าจะกลับเอง เจ้าไม่จำเป็นต้องไปส่งข้า”

 

ตอนที่เขาถูกหญิงสาวพามาที่นี่ เขาก็เหมือนสูญเสียชีวิตไปแล้วครึ่งหนึ่ง ขณะนี้เขาจึงไม่ต้องการสูญเสียชีวิตอีกครึ่งที่เหลือไปด้วย!

 

ก่อนที่หู่จิงจะพูดจบ หมอสูงวัยก็เดินจากไปพร้อมกับประคองเอวของตัวเองเดินในสภาพที่สั่นเทาไปทั้งร่าง

 

เสือสาวที่ยังคงมีความสุขจึงไม่ได้ขัดอะไร

 

 

อีกด้านหนึ่ง

 

เมื่อหูชิงหยวนกลับมาถึงบ้าน เขาก็พบกับหูชิงหลู่ผู้เป็นพี่สามที่กำลังจะออกไปล่าสัตว์

 

“ชิงหยวน เจ้าเพิ่งกลับมาหรือ เมื่อคืนเจ้าหายไปไหนมา?” คนเป็นพี่ชายก้าวไปข้างหน้าและยกแขนโอบไหล่ของอีกคน

 

“ข้าไม่ได้ไปไหน ข้าแค่... นอนเฉย ๆ”

 

หูชิงหยวนลังเลใจที่จะตอบอีกฝ่าย โดยตั้งท่าจะกลับบ้านลูกเดียวหลังจากทำเรื่องโง่ ๆ ลงไป

 

เนื่องจากพี่น้องจิ้งจอกทั้ง 2 อายุไล่เลี่ยกัน ตอนที่ยังเป็นลูกจิ้งจอกแรกเกิด พวกเขาก็อยู่ด้วยกันตลอด ดังนั้นทั้งคู่จึงสังเกตเห็นความผิดปกติของกันและกันได้ทันที 

 

ขณะนี้หูชิงหลู่สามารถบอกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับน้องชาย

 

ชายหนุ่มจึงจับแขนของหูชิงหยวนเพื่อดึงอีกคนกลับมาและจ้องหน้าเขานิ่ง

 

“เจ้าทำตัวแปลก ๆ นะ เมื่อวานเจ้าไปที่ไหนมา? อย่าบอกนะว่าเจ้าไปมีนัดกับผู้หญิงบางคน! รีบสารภาพออกมาซะเดี๋ยวนี้”

 

เนื่องจากเสียงของหูชิงหลู่นั้นมีเสน่ห์ ทำให้คนที่ได้ฟังหลงใหลคล้อยตามไปกับเขาราวกับหนามที่ขึ้นบนเถาวัลย์ที่อ่อนนุ่ม ซึ่งสามารถเจาะเข้าไปในหัวใจของผู้คนได้อย่างง่ายดาย

 

อีกทั้งตอนนี้จิ้งจอกหนุ่มกำลังถามคำถามแทงใจดำตรง ๆ

 

“เปล่าสักหน่อย ท่านพี่อย่ามาพูดไร้สาระ” หูชิงหยวนตอบโต้ทันควันด้วยใบหน้าที่มืดมน

 

ทันทีที่เขาพูดจบ ผู้เป็นพี่ชายก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าเสื้อของน้องสี่หายไป ดวงตาที่เรียวยาวอันเป็นเอกลักษณ์ของสุนัขจิ้งจอกจึงหรี่ลง 

 

“จุ๊ ๆ เจ้ายังจะกล้าปฏิเสธอีก เจ้ามาในสภาพไม่ใส่เสื้อผ้า แถมเมื่อคืนยังไม่ได้นอนที่บ้านของตัวเองอีก เจ้าจะอายไปทำไม รีบบอกพี่สามมาเดี๋ยวนี้นะว่าเจ้าไปนัดพบผู้หญิงคนไหนมา?”

 

หูชิงหลู่พูดจบแล้วก็ชกไหล่ของน้องชายเบา ๆ ก่อนจะขยับออกไปรอให้อีกฝ่ายเปิดปากพูด

 

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” หูชิงหยวนก้มหน้าตอบเสียงอ้อมแอ้ม แต่เขาก็ไม่ได้ปิดบังพี่ชายอีกต่อไป

 

“ไม่รู้?” หูชิงหลู่โพล่งขึ้นมา แล้วจู่ ๆ จินตนาการของเขาก็เตลิดไปไกลยิ่งขึ้น “เป็นไปได้ยังไงที่จะไม่รู้ หรือว่ามีผู้หญิงบางคนปิดตาเจ้าและบังคับเจ้าหรือเปล่า?”

 

พอคนเป็นน้องชายนึกถึงผู้หญิงคนนั้นก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

 

“เมื่อคืนนี้ ข้ากอดผู้หญิงในสภาพไม่ค่อยมีสติ...” เขาสารภาพกับพี่ชายคนที่ 3 ด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

 

ทางด้านหูชิงหลู่ที่ได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

 

เสียงหัวเราะชัดเจนของพี่สามทำให้หูชิงหยวนรู้สึกละอายใจไปชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะทันได้โต้ตอบอะไร เขาก็ได้ยินเสียงเยาะเย้ยจากคนตรงหน้า

 

“เจ้าโง่หรือเปล่า เจ้าไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนเนี่ยนะ? แค่ดูบ้านที่เจ้าตื่นขึ้นมาก็รู้แล้วไหมว่าเป็นของใคร?”

 

“…!”

 

หลังจากที่หูชิงหยวนได้ฟังคำพูดของพี่ชายก็ตัวแข็งทื่อไปทันที ในขณะที่เขาหันไปมองคนพูดด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

 

ทว่าหูชิงหลู่รู้สึกหวาดหวั่นต่อสายตาของอีกฝ่าย พลางคิดว่าตนพูดอะไรผิดไปหรือไม่ และกำลังจะขอโทษซึ่งเป็นเวลาเดียวกับตอนที่มุมปากของน้องชายโค้งขึ้น

 

ใช่แล้ว! ข้าลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไงกัน

 

สมองของเขาดูเหมือนจะมีปัญหาไปหลังจากกินอาหารเมื่อคืน

 

จากนั้นชายหนุ่มก็ตบไหล่ของผู้เป็นพี่ชายแรง ๆ 

 

“ขอบคุณนะพี่สาม!”

 

จิ้งจอกหนุ่มพูดจบแล้วก็รีบหันกลับไปค้นหาความจริงทันที

 

ส่วนหูชิงหลู่มองตามน้องชายที่กลายร่างเป็นจิ้งจอกไปอย่างมึนงง “...”

 

หากใครที่ไม่รู้เรื่องมาเห็นหูชิงหยวนในตอนนี้ พวกเขาคงคิดว่าอีกฝ่ายกำลังไล่ตามเหยื่อไปอย่างหิวกระหาย 

 

“ไอ้บ้าชิงหยวน...” ชายหนุ่มขนลุกซู่ไปทั้งตัว ก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

หลังจากที่เขาคิดไตร่ตรองเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

 

ในเวลาเดียวกัน หูชิงซานผู้เป็นพี่ใหญ่เดินออกมาจากบ้านไม้ข้าง ๆ

 

ปัจจุบันเขาเปลือยกายท่อนบนซึ่งเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรงและมีเพียงกระโปรงหนังสัตว์ผูกท่อนล่างไว้ เนื่องจากเขาลังเลที่จะสวมใส่เสื้อผ้าใหม่เพราะเขากลัวว่าการล่าสัตว์จะทำให้ชุดที่น้องสาวของตนทำให้สกปรก

 

เมื่อจิ้งจอกหนุ่มเห็นสภาพน้องชายอีกคนยืนตกใจอยู่ เขาจึงถามขึ้นมาอย่างสงสัย “ชิงหยวนกลับมาแล้วหรือ?”

 

“อืม เขากลับมาแล้วก็วิ่งหนีออกไปเหมือนคนบ้าแล้วเช่นกัน” หูชิงหลู่ยักไหล่ตอบกลับพี่ชาย

 

“เขาเป็นบ้าไปแล้วงั้นรึ?” หูชิงซานที่ได้ยินคำพูดนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น 

 

แล้วน้องชายคนที่ 3 ก็เล่าในสิ่งที่หูชิงหยวนบอกเมื่อกี้นี้

 

เมื่อพี่ชายคนโตได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดก็ขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้นและพูดว่า “เจ้าหมอนั่นจำกลิ่นผู้หญิงคนนั้นไม่ได้หรือไง?”

 

หลังจากที่ภูตกลายเป็นคู่กัน พวกเขาจะส่งกลิ่นพิเศษให้กับทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อแสดงให้ภูตทุกคนรู้ว่าพวกตนเป็นคู่กันแล้ว และภูตในเผ่าจะได้เลิกมาตอแยกับคู่ของตัวเอง ซึ่งภูตที่โตเต็มวัยจะได้กลิ่นดังกล่าว

 

ยกเว้นภูตที่แอบไปมีอะไรกันเองแล้วพยายามปกปิดกลิ่นเพื่อไม่ให้คนอื่นรู้

 

จากนั้นหูชิงหลู่ก็ตบหน้าผากตัวเองอย่างสิ้นหวัง

 

“ใช่แล้ว! เจ้าบ้านั่น...ไม่คิดหรือไงว่าตัวเองตื่นมาก็มีผู้หญิงอยู่ในอ้อมแขนแล้วกลายเป็นคู่นอนกับผู้หญิงคนนั้น!”

 

ไม่น่าแปลกใจที่ก่อนหน้านี้น้องสี่จะมีปฏิกิริยาลิงโลด

 

“ไม่ เขาเสียสติไปแล้ว และเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรลงไป” หูชิงหลู่อดที่จะบ่นออกมาไม่ได้

 

ชายหนุ่มกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสมองของน้องชายคนเล็กคนนี้

 

หากเขาถูกลักพาตัวไปเป็นทาสของคนอื่น เขาอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะหนีออกมาได้อย่างไร

 

 

หูชิงหยวนที่วิ่งกลับมาทางเดิมจู่ ๆ ก็หยุดกะทันหัน

 

“ทำไมข้าดีใจขนาดนี้ แต่ข้าต้องรู้ให้ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ข้ายังต้องรับผิดชอบ!”

 

จิ้งจอกหนุ่มตบหน้าผากตัวเอง ในขณะที่ความสุขก่อนหน้านี้จางหายไปในอากาศ

 

จากนั้นความคาดหวังอันเลือนรางในใจของเขาก็สั่นไหว ไม่กี่นาทีที่ผ่านมา เขาไม่ตระหนักด้วยซ้ำว่าทำไมตนถึงรู้สึกตื่นเต้นไปชั่วขณะ

 

หลังจากที่หูชิงหยวนคิดไตร่ตรองให้ดีแล้ว เขาก็ยังตัดสินใจที่จะตามหาผู้หญิงคนนั้นต่อไป

 

เพราะไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องได้รู้ความจริงอยู่ดี 

 

ปัจจุบันใบหน้าของชายหนุ่มดูเคร่งขรึม แล้วเขาก็เดินไปที่บ้านไม้ทีละก้าวอย่างใจเย็น

 

 

“หวงเยว่ เจ้าจะไปไหนแต่เช้า?

 

“ข้าวิ่งเร็ว ข้าจะพาเจ้าไปส่งเองหวงเยว่!”

 

ยามนี้หญิงสาวกำลังถือกระโปรงหนังสัตว์ตัวใหม่ และทันทีที่นางออกมาจากบ้าน นางก็ถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มภูตชาย

 

“ขอบใจ เดี๋ยวข้าไปเอง”

 

หงส์สาวยิ้มพลางกล่าวปฏิเสธทุกคนแล้วเดินออกไปทันที

 

ในขณะที่เหล่าภูตชายไม่กล้าขัดขวางนาง พวกเขาจึงได้แต่มองดูสาวงามเดินจากไปเงียบ ๆ

 

ณ ช่วงเวลานี้ นางกำลังค่อย ๆ ปรับตัวเข้ากับชีวิตของเผ่าใหม่ ผู้หญิงในเผ่าจะได้รับอาหารและเกลือทุกวัน ซึ่งเพียงพอให้กินอิ่มท้อง นอกจากนี้ ท่านผู้เฒ่ายังส่งหนังสัตว์ 3 ผืนให้นางเพื่อป้องกันไม่ให้นางป่วยไปเสียก่อน

 

ส่วนผู้ชายในเผ่าก็มักจะให้สิ่งของต่าง ๆ แก่นาง แม้ว่าหญิงสาวจะไม่มีคู่ครอง แต่ตนก็ไม่เคยขาดแคลนเสบียง จนถึงขั้นมีเสบียงมากมายในบ้านไม้ด้วยซ้ำ 

 

แต่นางก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นต่อไปได้ 

 

ตอนนี้หวงเยว่เป็นผู้หญิงของเผ่าใหม่ ถ้านางยังยอมรับสิ่งของของพวกเขาแต่ไม่ยอมเป็นคู่กับอีกฝ่าย นางจะถูกคนอื่นเอาไปวิพากษ์วิจารณ์

 

เนื่องจากผู้หญิงต่างเผ่าที่ต้องการเข้าร่วมเผ่าใหม่ด้วยตัวเองจะต้องเป็นคู่กับภูตของเผ่า

 

ปีศาจตนนั้น... คำสั่งของเขาก็คือให้นางเข้าร่วมกับเผ่าอย่างสมบูรณ์ และนางต้องหาคนที่เหมาะสมเพื่อครองคู่กับเขา

 

บัดนี้เลือดหงส์ไฟกำลังสูบฉีดอยู่ในร่างกายของหวงเยว่ นางควรจะสร้างความสัมพันธ์กับคนที่เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันเพื่อรักษาสายเลือดให้บริสุทธิ์ แต่ปัจจุบันนางทำได้เพียงคัดเลือกภูตชายสักคนหนึ่งมาจัดการตามแผนให้เร็วที่สุด 

 

นางควรจะเลือกผู้ชายที่ดีพร้อมและแข็งแกร่ง

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.