บทที่ 27: ฝันร้ายกลายเป็นจริง!
หูเจียวเจียวฝันว่าหลงเหยากำลังถูกฝูงหมาป่ารุมทึ้งอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าที่แห้งแล้ง ภาพในตอนนั้นร่างมังกรครึ่งหนึ่งเหลือเพียงกระดูก และดวงตาสีแดงบริสุทธิ์มองมาที่เธออย่างเศร้าสร้อย
แต่ในชั่วพริบตา ความโศกเศร้าในแววตาของหลงเหยาเปลี่ยนเป็นความเกลียดชัง และความเยือกเย็นที่ส่งออกมาเปรียบดั่งมีดทิ่มแทงหัวใจของผู้เป็นแม่
แล้วเธอก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที
ในฝันนั้นเป็นเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้าแล้ว แต่ตอนนี้ยังเป็นเวลาบ่ายคล้อยอยู่
และเนื่องด้วยเหตุผลบางอย่าง หูเจียวเจียวก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
แม้ว่าเธอจะรู้ว่ามันเป็นแค่ความฝันก็ตาม
ต่อมา หญิงสาวรีบลุกขึ้นเตรียมตัวจะไปเรียกลูก ๆ กลับบ้าน เพราะวิธีนี้เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้น
หลังจากที่จิ้งจอกสาวเดินค้นหารอบบ้านไม้ เธอก็ไม่พบเด็กแม้แต่คนเดียว นั่นยิ่งทำให้ความกังวลใจที่อยู่ในส่วนลึกของหัวอกคนเป็นแม่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เธอจึงรีบออกไปค้นหาพวกเขาที่อื่น
บ้านของพวกหูเจียวเจียวตั้งอยู่ไกลที่สุดทางฝั่งตะวันออก โดยที่รอบ ๆ ถูกรายล้อมไปด้วยป่า เธอต้องใช้เวลาเดินสักพักถึงจะเจอบ้านของภูตคนอื่นในเผ่า
ยิ่งแม่จิ้งจอกนึกถึงฉากในความฝันก็ยิ่งรู้สึกกระวนกระวาย พลางแหวกกิ่งไม้ใบหญ้าในป่าด้วยมือทั้ง 2 ข้าง
ทันใดนั้น หูเจียวเจียวก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านหน้า
พอเธอเข้าไปใกล้ก็เห็นเด็ก 2-3 คนยืนอยู่ไม่ไกล
นั่นคือลูกของหูเจียวเจียว!
หญิงสาวแอบรู้สึกลิงโลดในใจแล้วตั้งท่าจะเดินเข้าไปหาพวกเขา
แต่ก่อนที่เธอจะเดินไปถึงตัวลูกน้อย เธอก็เห็นผู้หญิงรูปร่างผอมเพรียวยืนอยู่ตรงข้ามเด็กกลุ่มนั้นพร้อมพูดกับพวกเขาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
“อวี้เอ๋อ นี่คือเนื้อย่างที่ข้าเพิ่งทำเสร็จ เจ้าเอาไปแบ่งพี่น้องกินนะ ตอนนี้เจ้าคงจะหิวมากใช่ไหม? มันเป็นความผิดของข้าเอง ช่วงก่อนข้าไม่มีเวลาว่างมาส่งอาหารให้พวกเจ้า แต่ต่อจากนี้ไปข้าจะพยายามเอาของกินมาให้พวกเจ้ามากขึ้น”
น้ำเสียงนั้นทั้งนุ่มนวล อ่อนโยนและอบอุ่น
หูเจียวเจียวรู้สึกคุ้นเคยกับเสียงนั้นมาก จึงหันไปมองแล้วพบว่าคนที่พูดคือลู่เมี่ยนเอ๋อ ซึ่งเธอพบผู้หญิงคนนี้ตอนที่ตนเพิ่งจะทะลุมิติเข้ามาในนิยาย
ทำไมนางถึงมาอยู่ที่นี่?
ทันใดนั้นหญิงสาวก็จำได้ว่าในฐานะที่ลู่เมี่ยนเอ๋อเป็นนางเอกของเรื่อง นางเกลียดสิ่งที่ร่างเดิมทำ แต่นางก็ทำดีกับเด็ก ๆ ในบางครั้งนางจะเอาอาหารมาให้พวกหลงอวี้กิน บ้างก็มาเล่นด้วย ซึ่งนางถือได้ว่าเป็น 1 ในไม่กี่คนในเผ่าที่ใจดีกับเด็กพวกนี้
ทางด้านหูเจียวเจียวที่กำลังเฝ้าดูจากระยะไกลสามารถมองเห็นใบหน้าของผู้หญิงที่อ่อนโยนซึ่งเต็มไปด้วยรอยยิ้มผ่านกิ่งก้านใบไม้ที่บดบังตรงหน้า
ตอนนี้เด็กน้อยกลุ่มนั้นยืนอยู่ข้างหน้าหญิงสาวอย่างเชื่อฟัง
ภาพนี้เป็นภาพที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนเลยจริง ๆ
จู่ ๆ แม่จิ้งจอกก็มีความคิดที่ไม่กล้าเข้าไปขัดจังหวะพวกเขา...
ในปัจจุบันลูก ๆ คงเกลียดเธอมาก สิ่งที่เด็กพวกนั้นต้องการมากที่สุดน่าจะเป็นแม่อย่างลู่เมี่ยนเอ๋อใช่ไหม? ถ้าเธอผลีผลามออกไป พวกหลงอวี้จะต้องเกลียดเธอมากขึ้นกว่าเดิมแน่ ๆ
“ขอบคุณ แต่ไม่จำเป็น เราไม่หิว” หลงอวี้ยังคงมีสีหน้านิ่งเฉยและปฏิเสธอย่างเย็นชา
ส่วนหลงเซียวกับหลงจงกำลังยืนเคียงข้างกัน ในขณะที่หลงจงทำเพียงแค่เหลือบมองไปที่เนื้อย่างในมือของลู่เมี่ยนเอ๋อโดยไม่พูดอะไรสักคำ
พวกเขาทั้งหมดเชื่อฟังพี่ใหญ่เสมอ
แม้แต่หลงหลิงเอ๋อที่ตามปกติแล้วเป็นคนพูดเก่งที่สุดก็ไม่ได้คุยกับหญิงสาวตรงหน้าในเวลานี้ และยืนอยู่ข้างหลังพี่ชายคนโตด้วยท่าทางสงบพลางมองดูลู่เมี่ยนเอ๋อด้วยดวงตาสีเข้ม
ตอนที่เหล่าเด็กน้อยออกมาเล่นในวันนี้ พวกเขาได้ยินภูตคนอื่นคุยกันว่าสาเหตุที่แม่ใจร้ายคนนั้นหัวแตกเป็นเพราะลู่เมี่ยนเอ๋อเป็นคนทำร้ายนาง
สำหรับพี่น้องมังกร ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะเลวร้ายเพียงใด แต่นางก็ยังเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของตนเอง พวกเขาจึงไม่สามารถทนให้พวกภูตคนอื่นมาทำอันตรายกับนางได้
คำตอบประกอบกับท่าทีของเด็กทั้ง 4 คนทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของลู่เมี่ยนเอ๋อนิ่งค้างไปชั่วขณะ ก่อนจะแสดงสีหน้างุนงง จากนั้นนางก็ตอบสนองอีกครั้ง
ถัดมา นางคุกเข่าลงถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “หูเจียวเจียวตีพวกเจ้าอีกแล้วหรือ… หรือนางรู้ว่าข้าเอาอาหารมาให้พวกเจ้า นางเลยสั่งให้พวกเจ้าห้ามรับของจากข้า”
“ไม่เป็นไรนะ พวกเจ้ารีบกินให้หมดตอนนี้เลย พอพวกเจ้ากลับไป นางไม่รู้เรื่องนี้หรอก แล้วข้าก็จะไม่บอกให้ใครรู้ด้วย เอ้านี่ รีบกินเถอะ...”
แม้ว่าก่อนหน้านี้เด็ก ๆ จะไม่ค่อยพูดและปฏิบัติกับนางอย่างเย็นชา แต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยปฏิเสธอาหารที่นางมอบให้
ปรากฏว่าวันนี้พวกเขาทำตัวแปลกไปมาก
ลู่เมี่ยนเอ๋อตำหนิหูเจียวเจียวโดยที่ไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงที่เด็กน้อยปฏิเสธตน
เมื่อเด็กทุกคนได้ยินคำพูดของหญิงสาว นอกจากหลงจงแล้ว เด็กคนอื่นก็ขมวดคิ้วมุ่นทันที
“นางไม่ได้ตีเรา แล้วเราก็ไม่ได้หิวด้วย ท่านเอาอาหารท่านกลับไปเถอะ” หลงอวี้พูดขัดด้วยใบหน้าจริงจัง
“ท่านพี่พูดถูกแล้ว”
“แม่ไม่ได้ตีเรา ท่านอย่ามาพูดไร้สาระ” หลงหลิงเอ๋อพยักหน้าเห็นด้วยซ้ำ ๆ
ก่อนหน้านี้เหตุผลที่หลงอวี้กับน้อง ๆ รับอาหารของนางมากินเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่อยากอดตาย หลังจากนี้หากทุกคนสามารถหาเลี้ยงตัวเองได้แล้ว พวกเขาก็คิดว่าจะตอบแทนนางในสักวัน และในเมื่อตอนนี้พวกหลงอวี้ไม่ได้อดอยากเหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่ละคนจึงไม่อยากจะกินอาหารที่ผู้หญิงคนนี้นำมาให้อีก
หลงเซียวผู้เงียบขรึมมาตลอดก็พูดว่า “ท่านป้าลู่ พวกข้าขอขอบคุณสำหรับความเมตตาของท่าน ท่านกลับไปเถอะ”
ท่านป้าลู่?
เมื่อลู่เมี่ยนเอ๋อได้ยินแบบนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็แข็งกระด้างขึ้นเล็กน้อย
แม้ว่านางจะมีอายุไล่เลี่ยกับหูเจียวเจียว แต่เด็ก ๆ ทุกคนในเผ่ามักจะเรียกนางว่าน้าลู่เมี่ยนเอ๋อ ซึ่งไม่เคยมีเด็กคนไหนเรียกนางว่าป้ามาก่อนเลย
“ฮ่าๆๆ! อุ๊บ…”
ทางด้านหูเจียวเจียวซึ่งอยู่ห่างออกไปเมื่อได้ยินหลงเซียวเรียกอีกฝ่าย เธอก็อดไม่ได้ที่จะปิดปากหัวเราะเสียงดัง
ลูกชายคนรองของเจ้าของร่างเดิมนั้นที่จริงแล้วเป็นคนปากร้ายที่สุดในบรรดาลูกทั้งหมด ในยามที่หลงเซียวเปิดปากพูด เขาก็ไม่ต่างจากงูที่พ่นพิษออกมาเลยสักนิด
แม้ว่านางเอกลู่เมี่ยนเอ๋อจะยังเป็นหญิงสาวอายุน้อยกว่า 20 ปี แต่หลงเซียวก็เรียกนางว่าป้า
“นั่นใครน่ะ!”
ทันใดนั้นร่องรอยของความระแวดระวังปรากฏก็ขึ้นบนใบหน้าที่ไร้เดียงสาของหลงอวี้ เขาตวัดสายตาที่ดุดันมองไปยังจุดที่หูเจียวเจียวยืนอยู่
แม่จิ้งจอกรีบปิดปากตัวเอง แต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว
จากนั้นหลงจงก็เดินไปแหวกพุ่มหญ้าที่บังตาอยู่ทันที เมื่อเขาเห็นแม่ใจมาร รอยแผลเป็นบนใบหน้าของเขาก็กระตุก “ทำไมท่านถึง...”
ผู้หญิงชั่วคนนี้มาแอบฟังพวกเขาคุยกันอยู่นานแล้วหรือ?
หลังจากที่เด็กคนอื่น ๆ เห็นแม่ใจร้ายก็พากันผงะจนร่างกายที่ผอมบางหดเล็กลงโดยไม่รู้ตัว นี่คือนิสัยที่หูเจียวเจียวคนเก่าสร้างไว้ติดตัวลูกทุกคน ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตอบสนองทางกายภาพแบบอัตโนมัติ
ภาพความโหดร้ายที่แม่ใจยักษ์ทิ้งไว้ยังไม่อาจลบเลือนไปจากใจของพวกเขาได้ทั้งหมด
ในตอนนั้นหลงหลิงเอ๋อคิดไปทันทีว่า ท่านแม่ได้รู้แล้วว่าลู่เมี่ยนเอ๋อแอบนำอาหารมาให้พวกตน ถ้านางเห็นว่าพวกเขายอมรับอาหารมา นางคงจะใช้เป็นเหตุผลในการเฆี่ยนตีพี่น้องและตัวนางเองอีกแน่นอน
ขณะที่เด็กคนอื่น ๆ ต่างตกอยู่ในภวังค์ หลงหลิงเอ๋อกลับยิ้มกว้างแล้ววิ่งเข้าไปหาผู้เป็นแม่
“ท่านแม่!” นางเรียกด้วยเสียงแหลมสูง
เมื่อเด็กที่เหลือได้ยินเสียงของสาวน้อย พวกเขาก็ดูเหมือนเพิ่งตื่นจากฝันร้าย แล้วจู่ ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าแม่ใจร้ายของตัวเองได้สาบานไว้แล้วว่าจะไม่ตีพวกเขาอีก
ส่วนหูเจียวเจียวที่เห็นว่าลูก ๆ รู้ว่าเธออยู่ที่นี่แล้ว เธอจึงซ่อนตัวไม่ได้อีกต่อไป ตอนนี้เธอทำได้เพียงยิ้มทักทายทุกคนด้วยท่าทางเขินอายก่อนจะอธิบายว่า “แม่ไม่ได้ตั้งใจจะมาแอบฟังพวกเจ้าคุยกันนะ แม่แค่มาตามพวกเจ้ากลับบ้านก็เลยบังเอิญเจอ...”
“เอ่อ…พวกเจ้าคุยกันต่อสิ แม่ไม่รบกวนพวกเจ้าแล้ว...”
พอหญิงสาวเห็นว่าเด็ก ๆ ยังสบายดีไม่มีอะไรบุบสลาย หินที่คอยถ่วงอยู่ในใจเธอก็อันตรธานหายไปเช่นกัน
ทว่าเด็กน้อยทั้งหลายกลับแสดงสีหน้าประหลาดใจเมื่อได้ยินคำพูดของผู้เป็นแม่
นางกำลังพยายามทำบ้าอะไร?
ผู้หญิงเลวทรามคนนี้เคยเกลียดลู่เมี่ยนเอ๋อมาก หากพวกหลงอวี้ไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยกับอีกฝ่าย นางจะตะคอกต่อว่าพวกเขาแม้ว่าลูกทุกคนจะไม่เคยพูดกับผู้หญิงคนนั้นเลยแม้แต่คำเดียว แต่วันนี้ท่าทางของนางกลับนิ่งเฉยไม่เหมือนดังวันวาน?
ยามที่หลงหลิงเอ๋อเห็นว่าหูเจียวเจียวหันหลังกลับตั้งท่าจะเดินออกไป นางก็รีบวิ่งไปคว้ากระโปรงหนังสัตว์ของคนเป็นแม่ด้วยมือเล็ก ๆ
เมื่อแม่จิ้งจอกหันมามอง เธอก็เห็นเด็กสาวที่มีใบหน้าผ่ายผอมไม่ต่างจากลูกลิงกำลังเงยหน้ามองเธอด้วยดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำสีใส “ท่านแม่ อย่าไปเลยนะ...”
“เราไม่ได้ตั้งใจจะมาหานาง นางเดินเข้ามาหาเราเอง และเราก็ไม่ได้อยากกินอาหารของนางด้วย ท่านแม่อย่าโกรธไปเลย อย่าเกลียดพวกเราเลยนะ”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 266
แสดงความคิดเห็น