จดหมายลอยตามลม ฉบับสาม: เรื่อง บุญ, บาป ที่ใครคิดไม่มีจริง
สวัสดีเคียงรัก เพื่อนรักสุดสายลมถึง
จดหมายฉบับนี้เป็นฉบับที่สามแล้วสินะที่ฉันเคียงถึงเธอ ไม่รู้เบื่อกันแล้วรึยัง หรือยังคอยจดหมายต่อๆไปจากฉันอยู่บ้างรึเปล่า ก็หวังว่าเธอจะได้รับทุกฉบับ และใส่ใจซักนิดกับสิ่งที่ฉันเล่าให้ฟังนะ
สองฉบับก่อนหน้านี้ จำได้ว่าฉันพูดถึงเรื่อง "กรรม" ให้รู้สินะ ฉันคิดว่าเรื่องที่เล่าให้เธอฟังนั้นชาวพุทธหลายคนยังเข้าใจไม่ถูก ก็เลยอยากเล่าให้เธอฟังเผื่อเธอจะได้ช่วยฉันอธิบายในสิ่งที่ถูกให้คนอื่นฟังน่ะ
หลังจากที่เธออ่านจดหมายสองฉบับที่ผ่านมาแล้ว เธอเป็นอย่างไรบ้าง เข้าใจอะไรมากขึ้นมั้ย หรือเอาไปปรับใช้ในชีวิตยังไง เขียนส่งมาเล่าให้ฟังบ้างนะ ฉันจะรออ่านแน่นอน
ว่าแต่มาจดหมายฉบับนี้ ฉันก็อยากชวนคุยเรื่อง "บุญ" และ "บาป" น่ะ เห็นมีหลายคนชอบพูดประโยคเด็ดว่า "บุญ, บาป หน้าตาเป็นยังไง ไม่เคยเห็นซักที" คำพูดนี้มักเป็นเหตุผลของคนที่ไม่เชื่อเรื่อง
กฎแห่งกรรม ซักเท่าไหร่ วันนี้ก็เลยขอแบ่งปันความรู้ซักหน่อย ไม่รู้เธอเองจะคิดยังไง หรือมีความรู้ต่อเรื่องนี้แค่ไหนนะ เอาเป็นว่า อยากให้เธอทำเหมือนตอนอ่านจดหมายสองฉบับก่อนหน้า
คือ ทำใจเป็นกลาง เปิดกว้าง และไตร่ตรองโดยไม่มีอคติก็พอ
บุญ และ บาป เป็นพลังงานที่ไม่มีรูปร่าง แต่สามารถบันดาลให้เกิดสิ่งต่างๆได้ ฉันขอพูดถึง "บุญ" ก่อนแล้วกัน
เบื้องต้นย้ำเลยว่า บุญ มีจริง แต่เธอจะมองเห็นบุญด้วยตาเปล่ามั้ย ก็ต้องตอบว่า ถ้าเธอไม่ได้ผ่านการปฏิบัติธรรมมามากพอก็ยากจะเห็นได้ ก็นะ แม้เธอจะไม่สามารถเห็นมันด้วยตาเปล่า แต่ฉันคิดว่ารู้วิธีช่วยให้เธอเห็นมันด้วยหัวใจ และสติปัญญาล่ะ สนใจลองดูรึเปล่า ฉันบอกเลยว่าไม่ใช่วิธีเสี่ยงอะไรหรอก ขอเพียงเธอใช้การสังเกตเป็นสำคัญเท่านั้นแหละ ฉันคิดว่า คนฉลาดอย่างเธอ เมื่อมีโอกาสได้เปิดโลกกว้างโดยไม่อันตรายตนเองเกินไปก็น่าจะลองดูนะ ไม่ขาดทุนเห็นๆ จะบอกให้
งั้นเอาเป็นว่า ขอเข้าเรื่องเลยแล้วกัน การมองเห็นบุญด้วยหัวใจนั้น คือการวัดจากความรู้สึกที่เกิดกับใจ อย่างตัวบุญนี่ จะเป็นพลังงานที่ทำให้รู้สึกดี หรือมีความสุข จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับปริมาณของพลังบุญณเวลานั้น แต่ความสุขที่เกิดจากบุญนั้น มีข้อแม้ว่าจะต้องเกิดจากการกระทำ หรือเหตุการณ์ ที่ไม่เป็นไปในเชิงเกี่ยวเนื่องกับความชั่ว ความเศร้าหมอง หรือความเสื่อมทั้งหลาย ถ้าเธอมีความสุขที่เห็นศัตรูโดนทำร้าย อย่างนี้นับว่าไม่ใช่ความสุขที่เกิดจากบุญ แต่ความสุขที่เกิดจากบุญนันจะต้องอยู่ในกรอบของการไม่เบียดเบียน ทำให้เกิดความเดือดร้อนทั้งกาย ใจ ต่อตนเองและผู้อื่น
สำหรับการใช้สติปัญญาเห็นบุญ เธอก็สังเกตเพียงว่า สิ่งที่ได้รับ ไม่ว่าเป็นความรู้สึก สิ่งของ คน หรือเหตุการณ์เหล่านั้นเป็นสิ่งมงคลกับเธอหรือไม่ ทำให้เธอเกิดความสุขในเบื้องต้นที่ฉันกล่าวไปก่อนหน้านี้หรือไม่ ถ้าสิ่งที่เธอได้รับให้ความรู้สึกแบบบุญบันดาล ก็นั่นแหละผลผลิตจากพลังงานที่เรียกว่า บุญ ล่ะ
ต่อมา ก็จะพูดถึง "บาป" กันบ้าง การเห็น บาป ก็ต้องใช้วิธีเดียวกับ บุญ เพียงว่า ความรู้สึกที่บาปจะให้แก่เธอนั้นจะเป็นไปในทางเศร้าหมอง หม่นมัว มืดทึบ อึดอัด คับข้อง ทรมาน เจ็บปวด ไม่โปร่งโล่งสบายเหมือนบุญ ถ้าหัวใจเธอเกิดความรู้สึกเหล่านี้ แสดงว่าเธอกำลังสัมผัสพลังงานบาปอยู่
ส่วนการใช้ สติปัญญา เห็นบาป เธอก็ต้องสังเกตว่า สิ่งต่างๆที่เข้ามา หรือเกิดขึ้น ในชีวิตณขณะนั้นเป็นไปในรูปแบบที่ทำให้เกิดความทุกข์ ความเดือดร้อน หรืออันตรายกับเธอหรือไม่ ถ้าใช่ นั่นก็คือผลผลิตของบาปนั่นเอง บาปนั่นแหละคือผู้บันดาล เมื่อมีผลเกิดขึ้น ก็ต้องมีผู้กระทำ
ทั้งนี้ อยากให้เธอจำไว้ดีๆว่า บุญ บาป เป็นผู้บันดาลก็จริง แต่ผู้สร้างตัวบุญ บาป ขึ้นก็ไม่พ้นพวกเรานั่นล่ะสร้างนะ แล้วกระบวนการใดๆก็จะดำเนินไปตามกฎแห่งกรรมที่ฉันเคยอธิบายให้เธอรู้นั่นแหละ
เป็นอย่างไรเคียงรัก สิ่งที่อธิบายไปข้างต้นทำให้เห็นตัว บุญ, บาป ชัดเจนขึ้นมั้ย แล้วในจดหมายฉบับต่อไป ฉันคิดว่าจะมาแลกเปลี่ยนความคิดเรื่อง "โลกหน้ามีจริงหรือ?" ให้ฟังนะ สำหรับตอนนี้ ฉันต้องขอจบจดหมายฉบับนี้ลงก่อนล่ะ
ด้วยปรารถนาดี..เป็นกำลังใจให้ทำดีเสมอ
ดินประกอบ
***รบกวนหากใครอยากมีส่วนส่งเสริมบทความธรรมะแบบนี้ ช่วยแสดงความเห็นกันหน่อยนะคะ ว่าอ่านแล้วได้อะไรกันบ้าง และบทความเป็นอย่างไร เพื่อจะนำไปเป็นกำลังใจ และข้อสำหรับพัฒนางานเขียนต่อไปค่ะ
- 👁️ ยอดวิว 1600
ความคิดเห็น
ถือว่าเป็นบทความที่ดีเลยครับ เพราะอธิบายง่ายๆ โดยที่ไม่ยกเรื่องอดีตชาติ หรือเรื่องเหนือธรรมชาติมาในเนื้อหา ทำให้เข้าถึงหลักธรรมได้โดยใช้ความเป็นจริง
แสดงความคิดเห็น