บทที่ 5 ห้านาที 1
บทที่ 5 ห้านาที 1
สองชรากับหนึ่งหนุ่มมองยังผู้ที่เคลื่อนร่างมาใหม่ เส้นผมสีดำยาวประกอบกับดวงตาสีแดงดุจโลหิตที่ทอประกายเห็นความ”แต่ตรงข้ามกับตัวของข้า หากไม่ใช่เพราะความโง่เขาของลูกศิษย์ของเจ้าตัวของข้าก็คงไม่สามารถยืนอยู่ณจุดๆนี้ได้ เพราะเพียงต้องการแค่ยืดอายุของลูกสาวของเจ้ามันถึงยอมทำทุกๆสิ่งทุกอย่าง มันคงไม่คิดเหมือนกันว่าสิ่งที่มันทำจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นเช่นนี้”
สิ้นคำกล่าวของชายหนุ่ม ทันใดนั้นเองพลันมีจิตสังหารของชายอีกผู้นึงปรากฏขึ้น ชายหนุ่มผู้นั้นขยันร่างมาอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า เพียงไม่นานเขาก็ปรากฏตัวตรงหน้าของคนทั้ง 3 เส้นผมสีดำกับดวงตาสีแดงที่คล้ายคลึงกันผู้ใดมองก็คงคิดว่าชายทั้งสองเป็นแฝดกัน แต่ความจริงแล้วมันหาใช่เป็นเช่นนั้นไม่
“ในที่สุดเจ้าก็มาสักที เมฆา”
“ไม่ได้เจอกันนานเลย ผู้ที่ลอกเลียนแบบร่างของฉันไป และจักรพรรดิเวทมนตร์ ผู้ที่สามารถเอาชนะมหาสงครามของเทพและปีศาจ”
ไอยรามองลูกศิษย์ทั้งสี่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า หล่อนมองจดหมายลาปวยอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก
“ไหน มีอะไรจะแก้ตัวไหม”
สิ้นคำของไอยรา เนกิรูรุจอนห์และนากิก็มองหน้ากันไปกันมา ทั้งสามคนไม่มีอะไรจะกล่าวเมื่ออยู่ต่อหน้าไอ ผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนและครูในเวลาเดียวกัน
สำหรับทั้งสี่คนแล้ว ไอครูคนนี้ไม่ได้เป็นแค่แค่ครูเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนที่พวกเขามีปัญหาอะไรพวกเขาก็จะนำเรื่องไปปรึกษาได้ด้วย
“ใครเป็นคนคิดเรื่องนี้”
สิ้นคำกล่าวของไอสามสหายก็ชี้นิ้วมายังเนกิ ชายหนุ่มเบ้หน้าเมื่อพบว่าเพื่อน ๆ ของตนกำลังโยนความผิดทุกอย่างมาให้กับตนเองเพียงคนเดียว
หญิงสาวมองหน้าของเนกิ ก่อนที่จะผายมือให้เด็กหนุ่มกล่าวคำแก้ตัว “มีอะไรจะพูดก็รีบพูดมาจะได้รีบไปเรียนวิชาต่อไป”
สิ้นคำของหญิงสาวเด็กชายผมแดงก็อธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้หญิงสาวฟังจนหมด ทำการทาบทามตัวของหน่วยความมั่นคงรวมไปถึงการหาพลังเวทย์ที่ตกค้างจากอาณาเขตของอาณาจักร
หลังจากที่หญิงสาวฟังลูกศิษย์ของตนเองบรรยายให้ฟังเธอก็ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ
“ครูคิดไว้แล้วว่าพวกเธอต้องทำสิ่งนี้แน่ ดังนั้นกูเลยจะเตียมภารกิจพิเศษให้พวกเธอ ภารกิจนี้ได้รับการรับรองจากผู้คุมกฎทั้ง 3 ของโรงเรียนเวทย์มนต์ก็คือครูท่านศิลาและท่านเฟรย่า โดยคนที่จะรวมภารกิจก็คือ”
จากพลังมหาสารของศิลาทำให้ร่างกายของไบรท์ลอยกระเด็นไปไกล แต่ทว่าก่อนที่ร่างกายของเด็กหนุ่มจะออกนอกสนามประลอง ไบรท์พลันดีดร่างกลับมาอย่างรวดเร็ว ไบรท์มองศิลาที่ยืนยิ้มเขาอยู่
“ทำไมไม่พุ่งเข้ามา หรือว่าจะรอให้เวลาหมด ถ้าจะทำแบบนั้นก็ได้นะฉันไม่ว่าอยู่แล้ว แต่ถ้าจะทำแบบนั้นมันเสียเวลา ฉันมีทางเลือกให้เธอ”
“ฉันไม่มีทางที่จะยอมแพ้”
“นี่เธอรู้หรือเปล่า ว่าสิ่งที่เธอไม่ควรทำที่สุดก็คือการรีบมาต่อสู้กับฉันเป็นคนแรก พลังเวทของเธอก็น้อยกว่าเพื่อน ๆ ทุกคนในห้องเรียนนี้ แถมยังพลังกายของเธอก็ไม่ได้มีสูงอะไร ถึงแม้ว่าเธอจะสามารถใช้พลังเวทเสริมกำลังได้ก็ตาม แต่หากเธอต้องเจอกับนักเวทที่มีพลังสูงกว่านี่ละก็”
“ถ้ายังนั้น ฉันควรที่จะทำยังไง หรือว่าจะให้ฉันรอ”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับ “ใช่แล้ว สิ่งที่เธอควรที่จะทำมากที่สุดก็คือการรอ ถ้าหากเธอรอพลังเวทของฉันก็จะลดลง เธอก็จะมีโอกาสที่จะชนะมากขึ้น แต่การที่เธอโจมตีมาแบบนี้ โอกาสของเธอจากที่ไม่มีเลย มันก็จะยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้”
ศิลากวาดตามองนักเรียนของตนที่กำลังจับจ้องมองการต่อสู้ ชายหนุ่มยิ้มออกมากอย่างพึงพอใจกับการกระทำของนักเรียนพวกนั้น
“เธอคงไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงให้เหรียญมากมายขนาดนี้ มันมีเหตุผลเพียงข้อเดียวเท่านั้น นั่นก็เพราะว่าฉันรู้ดีว่ายังไงพวกเธอก็ไม่มีทางชนะฉันได้ ต่อให้พวกเธอจะใช้วิธีใดก็ไม่มีทางชนะ หากจะถามก็มีเหตุผลเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือพลังเวทของพวกเรามันต่างกันเกินไป”
สิ้นคำกล่าวของศิลา ไบรท์ก็ค่อยๆ ลดพลังเวทลงอย่างช้า ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนรู้ๆได้ทันทีว่าไบรท์กำลังที่จะยอมแพ้ แต่ทว่าก่อนที่ใครจะได้กล่าวอันใด พลังในร่างกายของไบรท์พลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มผนึกพลังไว้ที่หมัดขวาก่อนที่จะทะยานร่างเขาหาอาจารย์ของตน ก่อนที่หมัดจะได้สัมผัสร่างกายศิลาก็ยกมือขึ้นมาต้านรับ พลังสภาวะปะทะกัน แสงสีแดงแตกกระจายไปรอบ ๆ ข้าง
“เหลืออีกสามนาที”
ศิลาใช้หมัดชกมาที่หน้าของไบรท์ แต่เด็กหนุ่มกลับไม่เอี้ยวร่างหลบหลีก เขารับหมัดของศิลา แต่ก่อนที่ร่างกายของไบรท์จะถูกแรงทำให้กระเด็นออกไป เด็กหนุ่มพลันใช้มือจับหมัดของศิลา ไบรท์ใช้แรงทั้งหมดดึงร่างกายของอาจารย์ของตน แต่ต้องพบว่าร่างกายของศิลาไม่ได้ขยับเขยื้อน ไบรท์เห็นดังนั้นเด็กหนุ่มจึงตีลังกาออกมา
“เหลืออีกสองนาที แต่ดูจากท่าทางแบบนั้นคงยังไม่คิดจะยอมแพ้ใช่ไหม”
ชายหนุ่มมองหน้าอาจารย์ของตน เขาสูดหายใจเต็มปอดก่อนที่จะเตรียมตัวเคลื่อนไหว เด็กหนุ่มฝรั่งไว้ที่ 2 แขนก่อนที่จะทะยานร่างแต่เขากับหยุดการกระทำทั้งหมด ไบรท์รู้ดีว่าหากปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปการที่เขาจะชนะก็คงไม่สามารถเป็นไปได้ แต่ถึงจะรู้อย่างนั้นการที่พุ่งโจมตีไปอย่างเดียวก็ไม่สามารถทำให้เด็กหนุ่มนำชัยมาสู่ตนได้เช่นเดียวกันน
การทำสิ่งที่รู้อยู่แล้วนั้นมันไม่ได้ประโยชน์อะไร โดยเฉพาะถ้ารู้อยู่แล้วว่าไม่ชนะแล้วฝืนทำต่อก็ยิ่งไร้ประโยชน์ ทางที่เขาเจอก็คือเส้นทางของความพ่ายแพ้หากยังต่อสู้แบบนี้ต่อไป
ไบรท์ตัดสินใจเร่งเร้าพลังเวทของตนเองให้ถึงขีดสุด เปลวไฟสีแดงฉานปรากฏรอบ ๆ ตัวก่อนที่จะค่อย ๆ เผาผลาญอาณาเขตรอบ ๆ ข้าง เด็กหนุ่มทะยานร่างเข้าใส่ศิลาในมือค่อย ๆ รวบรวมพลังเวทไฟแล้วแปลเปลี่ยนให้มันเป็นดาบเล็กขนาดใหญ่ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็ผนึกเปลวเพลิงไว้รอบ ๆ กำปั้น ไบรท์ใช้หมัดชกเข้าไปยังหน้าของชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้า
ศิลาเอี้ยวร่างหลบ แต่ทว่าเขากับต้องเจอกับดาบเปลวไฟที่พุ่งตรงมาที่หัวใจของตน ชายหนุ่มผนึกพลังเวทไว้ที่มือก่อนที่จะใช้มันปัดป้อง เมื่อมือของชายหนุ่มปะทะกับดาบ ดาบเปลวไฟพลันแตกสลายหายไปในพริบตา แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้ประกาศว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าแพ้เขาพันรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่าง
ศิลาเคลื่อนร่างหลบหลีกอย่างรวดเร็ว เมื่อชายหนุ่มจับจ้องมายังนักเรียนของตนก็พบว่า ในมือของเด็กหนุ่มอีกข้างนึงนั้น จับบ่อนเปลวไฟ กลับกลายเป็นมีดขนาดเล็ก ถ้าเขาไม่ขึ้นร่างหลบหลีกก็เกรงว่าร่างกายของตนเองคงได้รับบาดเจ็บเป็นแน่
“เทคนิคการแปรธาตุเวทมนตร์ในชั่วพริบตา เป็นเทคนิคการแปรธาตุของเด็กที่ถูกขนานนามว่าเป็น 1 ใน 10 ยอดฝีมือ ไม่นึกเลยว่าเขาจะถ่ายทอดวิชานี้ให้กับเธอ”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 143
แสดงความคิดเห็น