บทที่ 18 ปะทะ 2
บทที่ 18 ปะทะ 2
ทุกสายตาจับจ้องยังผู้ที่ปรากฏกายขึ้นเบือ้งหน้า เส้นผมสีดำยาวใบหน้าที่มีบาดแผลนั้นถึงแม้จะไม่ได้ดูเหมือนในอดีต แต่ทว่ามันกลับไม่ได้หายไปจากความทรงจำของผู้ที่ยังคงตราตรึงเขา เรื่องโหดร้ายที่ชายผู้นี้ได้กระทำนั้นมันคงฝังงแน่ในใจของผู้คนทั้งหมด ไม่เว้นแต่ชายผู้หนึ่งที่รักความยุติธรรมและเกลียดชังความอยุติธรรมเหนือกว่าสิ่งใด
ชายหนุ่มผู้มาใหม่ปดป่อยออล่ารอบ ๆ ร่าง พลังสภาวะแผ่พุ่งราวกับน้ำหลากใช่แม้แต่ผู้ที่อาศัยอยู่แต่ที่แห่งนี้ แม้แต่คนที่อยู่ห่างไปก็ยังสัมผัสกับพลังสภาวะที่มหาสารนี้ได้
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะศิษย์แห่งข้า เป็นเช่นไรบ้าง ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะใช้สิ่งนั้นทำให้เจ้าสามารถหลุดรอดจากการโจมตีได้ แต่ว่าเจ้าควรที่จะหยุดเคลื่อนไหวแล้วใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไม่ดีกว่าหรือ หรือว่าพอเจ้ามีพลังคล้ายคลึงกับเจ้านั่นเจ้าจึงคิดจะกลับมาต่อสู้ พลังของเจ้ายังเทียบไม่ได้กับชายผู้นั้น หากข้าคิดไม่ผิดพลังของเจ้ายังไม่มีถึง”
ชายหนุ่มโบกมือ ก่อนที่จะก้มศีรษะ “ขิ้าขออภัยท่านจริงๆ อาจารย์ของข้า วันนี้ข้าไม่ได้คิดจะมาต่อสู้กับพวกท่านทั้งสาม อาจารย์แห่งข้าตัวท่านเองก็ชรามากแล้ว พลังที่มีก็ถดถอยไปตามการเวลา หากพวกท่านทั้งสามคิดว่าจะสามารถเอาชนะตัวของข้าโดยที่มีพลังระดับนี้ ข้าเกรงว่าพวกท่านคงคิดผิด ต่อให้พวกท่านชนะได้จริวง ๆ แต่ว่าพวกท่านคงไม่สามารถมีชีวิตกลับไปได้ทุกคนอย่างแน่นอน”
“ข้าเองตั้งหากที่จะกล่าวเช่นนีั้น ต่อให้พวกข้าไม่มีชีวิตกลับไปหมด แล้วมันจะเป็นเช่นไร ในที่สุดผลรับก็ยังเป็นดังเดิม ข้าสามารถข้าเจ้าได้”
“แต่ท่านก็คงรู้ดีว่า ต่อให้ท่านจะจัดการสังหารข้า แต่ว่าข้าก็สามารถคืนชีพกลับมาได้อีก ต่อให้จะต้องใช้ระยะเวลานานเป็นสิบปี แต่ว่าพวกท่านละ พวกท่านตายแล้วก็ตายเลย พวกท่านคงลืมไปแล้วว่าหากพวกท่านตายไปจะเกิดอันใดขึ้น พวกเด็กที่พวกท่านรักนักหนาคงจะปราศจากแผ่นดินอยู่เป็นแน่ สมดุลทั้งสามคงต้องพังลง อาณาจักรทั้งสองคงบุกมายังอาณาจักแห่งนี้ โดยเฉพราะอาณาจักรวิทาเรีย พวกนั้นคงไม่ปล่อยอาณาจักรของพวกเราเอาไว้ แล้วอีกอย่างท่านคงไม่ลืมว่าชายผู้นั้นเป็นคนของอาณาจักรวิทาเรีย ไม่ใช่เป็นคนของอาณาจักรของเรา หากเกิดการนั้นท่านคิดหรือว่าวินจะยังคงอยู่ข้างอาณาจักรของพวกท่าน ตัวชของข้าก็ตาย วินก็คงไม่เข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ ส่วนศิษย์รักของท่านก็คงมีความคิดเช่นเดียวกับวิน ข้าไม่อยากจะคิดเลยว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น”
ชายหนุ่มโบกมือให้มิคาเอลเข้าไปหา ก่อนที่จะมองอาจารย์ของตนเองอีกครั้ง “ครังนี้ข้าต้องการสงบศึก ข้าจะไม่ให้คนของข้าเข้ามายุ่งในอาณาจักรอีกเป็นเวลาสองปี จนกว่าลูกของข้าจะเติบใหญ่ หลังจากนั้นข้าจะค่อยมาปรากฏตัวให้เขาเห็น พวกท่านจะตกลงหรือไม่”
“เจ้าคิดจะนำเอาหลานของข้าไปยังงั้นหรือ” หญิงสาวกล่าว ออล่าปกคลุมรอบ ๆ ร่างของแอนนา ไอแห่งเหมันค่อย ๆ แผ่พุ่งไปรอบ ๆ อาณาบริเวณ
ชายหนุ่มยิ้ม “ไม่ใช่ยังงั้นท่านแอนนา ข้าไม่คิดจะนำหลานของท่านไป เพียงแต่จะไปพบหน้าเท่านั้น ท่านนี่ยังคงชอบเล่นกับ”
ชายหนุ่มยังกล่าวมมิทันจบ เขาพลันต้องเอี้ยวร่างหลบศรที่พุ่งตรงมา เขากวาดตามองยังคนที่ยิ่งศรสีขาว “สมแล้วที่เป็นลูกศิษย์ของชายผู้นั้น ไอยราไม่ได้เจอกันนานเลย”
“แกไม่มีสิทธิ์พูดถึงไบรท์แบบนั้น”
“มีจิตใจอ่อนโยนเหมือนแม่ของเจ้า แต่ว่าข้าหวังว่าเจ้าคงไม่อ่อนแอเช่นเดียวกับนาง การที่เจ้าห่วงความรู้สึกของน้องชายเจ้ามันเป็นเรื่องดี แต่ว่ายังไรความจรริงก็ยังคงเป็นความจริง ข้าจะคอยดูว่าพวกเจ้าจะปกปิดมันได้นานเพียงใด”
“ข้ามีวิธีที่จะปกปิดเรื่องทั้งหมด” แอนนากล่าว
หญิงสาวผนึกพลังเวทไว้ทั่งร่างกาย ก่อนที่จะกระโจนร่างเข้าหาชายหนุ่มที่ยืนทำท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว “นั่นก็คือ กำจัดเจ้าเสียตั้งแต่นี้ แล้วความลับจะได้หายไปตลอดการ”
แอนนาสร้างดาบน้ำแข็งก่อนที่จะทะยานร่าง เพียงพริบตาหญิงชราก็โผล่ขึ้นตรงหน้าของชายหนุ่ม ทว่าชายหนุ่มกับยกแค่นิ้วเพียงหนึ่งนิ้วมาตั้น รับ เมื่อดาบน้ำแข็งโดนนิ้วของชายหนุ่ม มันพลันแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ทว่าหญิงสาวกลับไม่คิดจะยุติการต่อสู้ เธอผนึกพลังไว้ที่หมัดก่อนที่จะเตียมต่อยเข้าไปยังชายเบื้องหน้า ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนที่จะกำหมัดเบา ๆ และชกสวนกลับมา
หมัดทั้งสองปะทะกัน น้ำแข็งพลันแตกสลายกลายเป็นไอน้ำ แออนารีบชักมือกลับมา มือของหญิงสาวมีบาดแผลเลือดสีแดงไหลรินลงเบื้องล่าง แออนามองมือของชายหนุ่มที่ปราศจากพลังเวทหญิงสาวกัดฟัน
“นี่เจ้า ได้พลังนั้นมาแล้ว แถมยังเป็นระดับที่สามารถต่อสู้กับนักเวทได้ นี่หรือว่าพลังนั้นคือ”
“ใช่แล้วท่านแอนนา พลังนั้นเป็นพลังระดับเดียวกับชายผู้นั้น ชายที่ตั้งตนเป็นผุคุมกฎของโลกนี้ มันริอาจจะตั้งตนแป็นพระเจ้า แต่มันไม่ใช่พระเจ้า ชายผู้นั้นเป็นคนที่ได้พลังของพระเจ้ามาเฉย และตอนนี้ข้าเองก็ใกล้เคียงที่จะได้พลังแห่งพระเจ้ามา ข้าจะนำพลังนั้นมาแบ่งปันให้กับโลกแห่งนี้”
“เจ้านี่มันบ่าสิ้นดี ริอาจจะตั้งตนเป็นผู้คุมกฎ ริอาจจะตั้งตนแป็นพระเจ้า หรือว่าความต้องการที่แท้จริงของเจ้าก็คือ”
ชายหนุ่มยิ้ม “ใช่แล้ว ความต้องการที่แท้จริงของข้าก็คือการเปิดมิติ และรวบรวมโลกทั้งสามให้เป็นหนึ่งอีกครั้ง คนเป็นจะไม่ใช่คนเป็น คนตายจะไม่ใช่คนตาย เมื่อสามารถรวบรวมโลกทั้งสาม โลกนี้ก็จะกลับเป็นดังเดิม กลายเป็นโลกของผู้ชายเวทที่แท้จริง”
คำกล่าวของชายหนุ่ม ทำให้ผู้ที่ยืนอยู่ที่แห่งนี้ต้องอ้าปากกับความต้องการ มิติทังสามถูกแยกออกจากกันเมื่อหลายร้อยปีก่อน แต่ถึงวันนี้กลับมีชายผู้หนึ่งต้องการรวมมันเป็นเอกภาพอีกครั้ง
“นี่เจ้าไม่รู้หรือยังไง เมื่อก่อนที่มิติทั้งสามยังอยู่รวมกัน มนุษย์นั้นถูกเทพและมารรวมทั้งมอนสเตอร์ทำร้าย ต้องล้มตายไปมากแค่ไหน จนท่านมหาเทพตัดสินใจแยกโลกนี้ออก เพื่อให้ระดับพลังของมนุษย์สามารถพัฒนาได้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่เท่าเทียมกับเทพและมาร แต่ว่า”
“เรื่องนั้นทำไมข้าจะไม่รู้ แต่ว่าครั้งนี้ข้ามีวิธีที่จะผนึกเทพและมาร รวมไปถึงใช้พวกมัน พวกท่านมีสติปัญยาอันแสนโง่เขลาจึงไม่เข้าใจ ท่านทั้งสามลองคิดดูว่าทุกวันนี้ทรัพยากรของเราเป็นเช่นไร จำนวนประชากรที่มากขึ้นทำให้โลกของเราเล็กลงทุกวัน ทุกคนมีอายุยืนยาวขึ้น แต่ว่าหากพวกเราสามารถนำโลกทั้งสองมารวมกันได้ โลกของเราจะมีพื้นที่แสนกว้างใหญ่ ไม่ใช่แค่นั้นพลังเวทของเทพ ศาสมืดพลังเวทของมารก็จะตกเป็นของพวกเรา รวมไปถึงเวทนิรันดร์จะตกเป็นของพวกเราด้วย พวกเราจะมีอายุเท่ากับเทพพระเจ้า”
“เจ้ายังคงยึตติดกับนางสินะ” โยดาว่า
ชายหนุ่มพยักหน้ารับ “ใช่ สมแล้วที่เป็นอาจารย์ของข้า ข้ายังคงยึตติดกับนาง ต่อให้นางจะตายไปนานเท่าใดข้าก็ยังคงยึตติดกับนาง ข้าต้องการนางมาอยู่เคียงกายของข้า ไม่ว่าข้าจะต้องใช้วิธีใดก็ตาม นางก็ต้องมาอยู่กับข้า”
“เจ้า ต่อให้เจ้าจะพยายามสักเพียงใด แต่ลูกของข้าก็ไม่มีวันรักเจ้า คนที่นางมีใจและรักยังคงมีเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ”
ก่อนที่โยดาจะกล่าวจบ ชายหนุ่มพลันตะโกน “หุบปาก”
เข้ายกมือขึ้น ก่อนที่จะชี้หน้า “ยังไงข้าก็จะคืนชีพให้กับนาง ข้าไม่ได้เหมือนกับเจ้านั่นที่วัน ๆ ก็นั่งรอนางอยู่แต่หน้าหลุมศพ รอคอยอย่างไร้ซึ่งความหวัง นางจะต้องขอบคุณข้าที่ทำให้นางคืนชีพกับมา ได้มาเจอกับลูก ๆ ของนาง”
“หากเจ้าคิดเช่นนั้นจริง ๆ เกรงว่าทั้งชีวิตนี้เจ้าก็จะไม่ได้รับคำขอบคุณจากนาง ข้ารู้จักลูกสาวข้าดี นางจะไม่มีทางขอบคุณเจ้า หากนางยังคงมีชีวิตอยู่นางจะไม่ยอมให้เจ้าใช้คนจำนวนมากเป็นเครื่องทดลอง ไม่มีทางให้เจ้าคิดอะไรบ้า ๆ ที่จะใช้ชีวิตคนเปิดประตูทั้งสอง ทำให้โลกที่แสนสงบแห่งนี้กลับสู่ความวุ่นวายอีกครั้ง”
“เรื่องนั้นเป็นเรื่องของนาง วันนี้ข้าจะปล่อยพวกท่านไป”
“ใครจะไปยอม” ศิลากล่าว ก่อนที่จะเตียมทะยานร่าง ทว่าโยดากับโบกมือเป็นเชิงห้าม
“มันยังไม่ถึงเวลา ข้าขอร้องวันนี้เชื่อข้าสักครั้ง”
ชายหนุ่มยิ้มเยาะ ก่อนที่จะดีดนิ้ว ประตูมิติพลันปรากฏขึ้นก่อนที่ชายหนุ่มกับหญิงสาวจะค่อย ๆ เดินตรงเข้าประตูมิติไป “เรื่องนั้น คงมีเพียงเทพเท่านั้นที่จะรับรู้”
เมื่อร่างของชายหนุ่มหายไป โยดาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก พวกเขามองหน้ากัน ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดมิติเพื่อกลับไปยังบ้านของตน
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 137
แสดงความคิดเห็น