บทที่ 18 ปะทะ 1

บทที่ 18 ปะทะ 1

ณ ที่ที่แสนห่างไกลจากอาณาจักบาบิโลเนีย หนึ่งหญิงสาวกำลังปะทะกับสองหญิงสาวและสามชายหนุ่มที่มีพลังสภาวะ

แข็งแกร่งเป็นอันดับต้นของอาณาจักร

มิคาเอลกืนน้ำลายก่อนที่จะกวาดตามองไปยังเบื้องหน้าที่มีผู้คนจำนวญห้าคนที่กำลังจับจ้องเธออยู่

หญิงสาวรับรู้ได้ในทันทีว่าหากพวกนั้นจู่โจมมาพร้อมกันเพียงไม่นานพวกของโยดาก็คงสามารถปิดชีพเธอได้โดยง่ายเป็นแน่ ทว่าในเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้แล้วจะให้มิคาเอลทำเช่นไรได้ นอกเสียจากจะต้องใช้พลังที่มีททั้งหมดเพื่อนำชัยกลับมา

“ทำไมเธอถึงต้องการสังหารหลานชายของพวกเรา ผู้ข้ามมิติ หลานของเราไปทำอะไรให้กับเธอกันแน่”

มิคาเอลมองหญิงสาวที่มีอายุสูงวัยหากเทียบเฉพาะหน้าตา ทว่าหญิงสาวผู้นี้กับไม่ได้รู้ความจริง ความจริงที่ถูกปิดผนึกเอาไว้เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด

“เรื่องนั้นฉันไม่จำเป็นต้องตอบพวกคุณ

แอนนาพยักหน้ารับ “อย่างนี้นี่เอง เข้าใจแล้ว ถ้าแบบนั้นก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะออมมือ ว่าแต่ฉันมีเรื่องอยากจะถามเธอสักหน่อย เธอเป็นลูกน้องของใคร”

“เรื่องนั้น ต่อให้พวกคุณรู้แล้วพวกคุณจะทำอะไรได้ มันไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะต้องเสียเวลาที่ต้องบอกคนอย่างพวกคุณ”

“ต่อให้เป็นลูกน้องของใคร พวกเราก็ไม่คิดจะสนใจ ยังไงพวกเราจะไม่ให้เธอมีชีวิตกลับไปแน่นอน” ศิลากล่าว  พลังของชายหนุ่มนั้นทำให้ท้องฟ้าต้องกบสั่นไหว แผ่นดินสั่นสะเทือน

“ยังนั้นหรือ หน้ากลัวจริง  ๆ เลยนะ ว่าแต่ฉันให้พวกคุณเข้ามาพร้อมกันเลยก็ได้ แต่ว่าต่อให้จะพยายามมากมายแค่ไหนก็คงไม่มีทางเอาชนะฉันได้หรอก ต่อให้จะเข้ามาพร้อมกันทั้งหมดก็ตาม”

“เธอรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้เธอกำลังต่อสู้กับผู้ที่มีพลังแข็งแกร่งเป็นอันดับหนึ่งของอาณาจักร ถึงสองคน แล้วก็ต้องเจอกับนักเวทที่มีพลังในระดับราชาอีกถึงสาม ต่อให้เธอจะมีพลังรับจักรพรรดิก็คงไม่สามารถเอาชนะพวกเราที่รวมกำลังกันโดยง่าย”

“มันก็จริงว่าตอนนี้ดูยังไงทางของฉันก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบพวกคุณ พลังจักรพรรดิของโยดากับสุริยะนั้นถ้าใช้มันได้ก็คงหน้ากลัว แต่ว่าตอนนี้ใคร ๆ ก็รู้ดีว่าพลังนั้นไม่สามารถใช้มันได้ดังใจ”

สิ้นคำกล่าวของมิคาเอล ทั้งสามสหายก็ต้องหยุดชะงัก พวกเขาที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้จำต้องประเมินหญิงตรงหน้าเสียใหม่ เดิมทีคิดว่าหญิงตรงหน้านั้นคงมีแต่ความสามารถท่องมิติกับเวลา แต่ตอนนี้กับต้องประเมินความสามารถเสียใหม่

โยดาผนึกพลังเวทไว้ก่อนที่จะหันไปมองยังเพื่อนของตน “ผู้หญิงคนนี้อันตรายจริง  ๆ ถ้าปล่อยเอาไว้พวกเรามีหวัง”

“ใช่ ดูก็รู้ว่าหญิงคนนี้อันตราย แต่ว่าคนที่หญิงคนนี้ต้องการสังหารดูเหมือนว่าจะเป็นอันตรายมากยิ่งกว่า” ศิลาคำนึงกับตนเอง ก่อนที่จะเปลี่ยนสายตาไปมองยังหญิงตาสองสี 

“ผู้ทที่ฝืนกฎของสวรรค์ต่อให้จะใช้อะไรมาเป็นข้ออ้างก็ไม่มีทางหลีกหนีความจริงนี้ไปได้ พวกเธอต้องการจะเปลี่ยนแปลงกระแสแห่งเวลาที่ เวลามันจะไหลเป็นเส้นตรงเสมอ ต่อให้มันจะดูเหมือนว่าจะวนเวียนไร้จุดหมาย แต่ก็ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งมันได้  มันเหมือนสายน้ำที่ไหลไม่มีวันย้อนกลับ”

มิคาเอลยิ้มกับคำกล่าว “เดิมทีกฎของการข้ามเวลาไม่ใช่พวกเราที่กำหนด เป็นฝั่งของพวกคุณที่คิดกฎนั้นขึ้นมาเอง ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถยอมรับได้ ถึงแม้ว่าทุกคนจะไม่สามารถสามารถแก้เวลาของตนเองได้ดังใจ แต่ว่าหากทุกคนมีพลังเช่นฉันแล้ว ทุกคนที่สามารถเลือกได้ว่าจะให้อนาคตของตนเองนั้นเป็นเช่นไรก็คงต้องเลือกแก้ไขอดีตที่ผิดพลาดแน่นอน”

“ใช่ เธอพูดถูก” โยดากล่าว

“ดังนั้นพวกเราจึงได้ฝังเวทบทนี้ไว้กับประวัติศาสตร์ที่แสนยาวนาน ในอาณาจักรทั้งสามนี้ไม่มีคน ไม่สิ ถ้าจะกล่าวให้ถูกเวทบทนี้มีคนส่วนน้อยที่รู้จักและยังสามารถใช้มันได้ หนึ่งในนั้นก็คือชายผู้นั้น แต่ว่าถึงจะใช้มันได้แต่สิ่งที่เขาแตกต่างจากเธอก็คือ เขาไม่ได้ใช้เวทเพื่อเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์แบบนี้”

“ประวัติศาสตร์แบบนั้น เป็นประวัติศาสตร์ที่ดีหรือไม่กันแน่ เรื่องนั้นพวกคุณยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ”

“จะดีหรือไม่ มันเป็นเรื่องของอนาคต”

“พูดไปพวกคุณทั้งห้าคนก็ยังไม่เข้าใจหรอก เข้ามาได้เลย”

ก่อนที่พวกโยดาจะได้เคลื่อนร่าง หญิงชราในกลุ่มพลันโบกมือห้ามเสียก่อน “เข้าไปทั้งห้าคน ดูยังไงมันก็เป็นการรังแกคนอย่างเธอ ยังไงให้ฉันเข้าไปสู้กับเธอก่อน หากเธอสามารถเอาชนะได้ค่อยสู้กับคนอื่นต่อก็ยังไม่สาย”

“จะให้ฉันฆ่ายายแก่แบบคุณนะหรอ เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยสมกับฝีมือ แต่ว่าจะช่วยสนองให้ก็ได้นะ”

สิ้นคำกล่าว หญิงสาวพลันผนึกพลังทั่วร่าง มิคาเอลจับคทาเวทมนตร์ในมือ ก่อนที่จะเปลี่ยนให้มันเป็นดาบขนาดเล็กแล้วพุ่งทะยานร่างเข้าหายอดฝีมือของโลกนี้

พลังสภาวะของคนทั้งห้าพุ่งสูงขึ้น ท้องฟ้าเริ่มปิแตกออก ไอยราผนึกเวทน้ำแข็งก่อนที่จะตวัดมือแปลเปลี่ยนให้มันเป็นศรขนาดใหญ่ หลังจากนั้นจึงบังคับลูกศรให้จู่โจมใส่มิคาเอล หญิงสาวใช้ดาบปัดป้องก่อนที่จะสัมผัสถึงศัตรูอีกผู้ที่ปรากฏขึ้นยังด้านหลัง 

แอนนามองหญิงตรงหน้าที่กำลังวุ้นวายกับการหลบหลีกศรของไอยรา ทันใดนั้นเองหญิงสาวจึงเสกเวทน้ำแข็งไว้ที่ฝ่ามือ ก่อนที่จะนำมือของตนไปสัมผัสกับร่างของมิคาเอล หญิงสาวยังไม่ได้เอี้ยวร่างหลบ มือของหญิงสาวพลันมีน้ำแข็งปกคลุม 

มิคาเอลผนึกพลังเวทไฟไว้รอบร่างกายทำให้การโจมตีของไอปราศจากผล หญิงสาวนำมีดพุ่งเข้าจู่โจมทางแอนนา ทว่าหญิงชรากลับเรียกกำแพงน้ำแข็งขึ้นมาปกป้องร่างได้อย่างรวดเร็ว

“ไหนบอกว่าจะเข้ามาคนเดียวยังไงล่ะ”

“การต่อสู้มันก็เป็นแบบนี้” ไอยราว่า ก่อนที่จะผนึกพลังสภาวะไว้ทั่วร่าง ไอเย็นแห่งเหมันแผ่กระจายไปรอบ ๆ 

“พลังระดับนักรบเวทยังงั้นหรือ ไม่เล็วเลยนี่ สมแล้วที่เป็นสายเลือดของคนผู้นั้น แล้วยังเป็นศิษย์ของผู้ข้ามมิติ แต่ว่ามันก็เท่านั้น”

หญิงสาวรำพึงเสร็จ พลังสภาวะของมิคาเอลพลันพุ่งทะยานไปถึงรับจักรพรรดิเวทมนตร์ เพียงพริ้บตาหญิงสาวพลันปรากฏร่างเบื้องหลังของแอนนา เธอใช้ใบดาบฟันไปยังเบื้องหน้า ทว่าแอนนากลับดีดร่างหลบหลีก พลังคลื่ดาบของมิคาเอลพุ่งทำร้ายต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่รอบ ๆ เปลวไฟจากใบดาบส่องสีแดงดำทั่วฟ้า

แอนนารอบปาดเหงื่อในใจ หากเธอหลบหลีกช้ากว่านี้เพียงนิด ชีวิตของหญิงสาวคงสิ้นสุดเป็นแน่

ชายหนุ่มทั้งสามมองดูสถานการณ์แล้วอดตกตลึงกัวความรวดเร็วของมิคาเอล ต่อให้การโจมตีแบบนี้มันจะเป็นการโจมตีธรรมดา ทว่าหากตัดสินใจผิดพลาดก็คงต้องตกตาย ชายทั้งสามทะยานร่างเข้าต่อสู้ในทันที

โยดาผนึกเปลวไฟสีดำไว้ที่หมัดก่อนที่จะทะยานร่างเข้าโจมตีมิคาเอลื หญิงสาวเคลื่อนร่างหลบ ทว่ากับเจอโยดาที่ผนึกเวทลมเตียมสังหารเธอ หมัดทั้งสองค่อย ๆ ใกล้ร่างกายของมิคาเอล หญิงสาวผนึกพลังมาต้านรับ ทันทีที่เวททั้งสองเข้าปะทะร่างกายของหญิงสาวพลันกระเด็นไปไกล ไอเห็นดังนั้นเธอจึงทะยานร่างตามติด ก่อนที่จะเตียมปิดชีพหญิงที่ไร้ซึ่งการป้องกันตรงหน้า ไอเรียกศรน้ำแข็งขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กมากนัก เพื่อที่จะเสียบหัวใจของหญิงสาวให้ตายตก

ทันใดนั้นเอง ศรน้ำแข็งของหญิงสาวพลันต้องสลายหายไป ก่อนที่จะมีเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น “หยุดมือ”