บทที่ 1 ลืมตา 2/2
บทที่ 1 ลืมตา 2/2
สองหนุ่มกับหนึ่งสตรีมองหน้ากันอย่างฉงนหลังจากที่พวกเขาปฏิบัติภาระกิจที่ได้รับมาอย่างกระทันหัน พวกสามสหายก็เตียมการที่จะเดินทางกลับไปที่ที่พวกเขาได้เดินทางจากมา แต่ทว่าก่อนที่จะได้เดินทางกลับพวกเขากับได้รับคำสั่งอีกครั้ง คำสั่งครั้งนี้ทำให้สามสหายนั้นต้องพักแผนการที่คิดจะดำเนินต่อ แต่วดูเหมือนว่าในกลุ่มของสามสหายนั้นจะมีบุรุษผู้หนึ่งที่ไม่สนใจคำสั่งที่ได้รับมาแม้เพียงนิด
ชายหนุ่มที่มีนามว่าเลโอขยับร่างกายละสายตาไปจากจดหมายที่อยู่เบื้องหน้า ก่อนที่จะตักอาหารเข้าปากอีกครั้งอย่างไม่ยี่หระ
หลังจากนั้นเลโอจึงไปกล่าวกับโทระและเนโกะที่นั่งมองจดหมายด้วยท่าทางไม่อยากจะเชื่อสายตา
“ความจริงเรื่องในครั้งนี้มันเกิดจากเธอรู้ไหม เดิมทีแล้ว ถ้าเธอตรวจสอบให้ดีเสียก่อน มันก็คงไม่เกิดเรื่องยุ่งยากแบบนี้ พวกเราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหลังจากนั้นพวกเราจะได้ไปทำการทำงานของพวกเราเสียที ไม่ต้องมาเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้จริงไหม” เลโอหันไปถามโทระที่นั่งอยู่ข้าง
“เรื่องแบบนี้มันไม่น่าจะเกิดขึ้นกับหน่วยของพวกเรา แต่ว่าก็ไม่น่าจะมีปัญหาใหญ่อะไร แค่กลับไปตรวจสอบอีกครั้งก็จบแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราจะมาโต้เถียงกันให้เสียเวลา หรือคุณไม่เห็นด้วยหรือเลโอ”
“ผมไม่เห็นด้วย ความจริงงานแบบนี้ผมก็ไม่อยากจะรับตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถ้าหากไม่ใช่เพราะอาจารย์กับผู้มีพระคุณในสมัยเด็กขอร้อง ผมก็คงไม่รับทำ แล้วอีกอย่างแค่งานธรรมดาที่ต้องทำส่งมันก็ยุ่งยากมกาพออยู่แล้ว คุณอย่าลืมสิว่าพวกเราต้องไปยังที่แห่งนั้นอีก เพื่อให้โลกของเราไม่มีเจ้าพวกนั้นออกมาได้อีก”
“พูดแบบนั้นมันก็ไม่ถูก ยังไงประมาณสองถึงสามปีพวกมันก็ไม่เคยออกมาให้พวกเราเห็นเลย แล้วตอนนี้ลูกน้องของพวกเราก็ยังคงดูแลที่แห่งนั้นอย่างใกล้ชิด พวกเราคงไม่มีอะไรให้เป็นกังวล ไม่สิหากมีจริง ๆ พวกเราคงจะสามารถเดินทางไปยังที่นั่นได้ทันทีอยู่แล้วจริงไหมเนโกะ”
หญิงสาวในกลุ่มพยักหน้าเห็นพ้อง “นายอย่าลืมสิว่านายมีวิชาข้ามมิติที่ได้มา ถึงเรื่องนี้พวกเราจะปิดบังเบื้องบนเอาไว้ แต่ว่าพวกเราก็ไม่สามารถปิดบังมันได้ตลอด แล้วอีกอย่างต่อให้พวกนั้นจะรู้พวกนั้นก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนพวกเรา ต่อให้พวกมันยกันมาทั้งหมด พวกมันก็ไม่สามารถทำอะไรพวกเราได้ ยังน้องก็ตายฟรี อย่างมาก็คง”
หญิวงสาวหยุดกล่าว ก่อนทีจะเปลี่ยนเรื่อง “ยังไงพวกที่สนใจแต่เวทมนตร์ก็ไม่มีทางเข้าใจคนที่มีพลังทั้งสามได้หรอก ยังห่างไกลกับพวกเรา”
เลโอยิ้ม “เดิมทีพวกที่อยู่แต่เมืองหลวงก็คงไม่เข้าใจพวกที่ไปยังมหาเอเชียอาคเนย์ด้วยซ้ำ พวกเขาก็แค่อยู่ในสามอาณาจักรในทวีปนี้จะไปเข้าใจโลกอันแสงกว้างใหญ่ได้ยังไง เอาเถอะยังไงงานนี้ผมก็ไม่คิดจะสนใจ พวกคุณไปจัดการกันเองก็แล้วกันส่วนผมจะกลับแล้ว ถ้ามีอะไรก็ค่อยติดต่อมาก็แล้วกัน”
เนโกะจะกล่าว แต่เขาก็ได้ยินโทระกล่าวเสียก่อน “ทำเช่นนี้จะดีหรือ ยังไงก็ตามจดหมายฉบับนี้มันไม่ได้เป็นคำสั่งเสียทีเดียว แต่ว่าหากพิจารณาดูดีดีแล้ว ผู้เขียนก็แสดงความว้อวรผ่านทางจดหมายมีด้วยนะ ขนาดผมมองไม่เห็นผมยังสามารถสัมผัสได้เลย”
“ผมไม่คิดจะสนใจ คนที่จะจัดการงานนี้มีแค่คุณเนโกะเท่านั้น ส่วนคุณกับผมจำเป็นต้องกับไปเฝ้าที่แห่งนั้นต่อ ถ้าพวกเราอยู่ด้วยกันเกินสามคนมันจะผิดข้อตกลงของทางศาสนจักรและอาณาจักรแห่งนี้ก็คงไม่พอใจ ถ้าพวกเขารู้ว่าเราคนที่เป็นลูกศิษย์ของชายผู้นั้นมาอยู่ด้วยกันมากมายขนาดนี้”
เลโอหันไปมองยังเนโกะ ก่อนทีจะกล่าว :”ตอนทำภาระกิจเธอก็ช่วยใช้ชื่ออื้นด้วย ถ้าทำเสร็จแล้วเธอค่อยกลับมา”
“นี่นายคิดจะสั่งฉันหรือไง”
“ใช่ แต่ไม่ใช่สั่งคุณในถานะเพื่อนร่วมรบ แต่ผมสั่งคุณในถานะหัวหน้าสูงสุด”
หญิงสาวนัยน์ตาสองสีมองท้องฟ้าอย่างไร้จุดหมาย เธอมาช้าไป หากเธอจำต้องลดพลังเวทของตนเองให้อยู่ระดับเดียวกับมนุษย์ทั่วไปเกร่งว่าเธอคงจำต้องตกตายไปเป็นแน่ แต่ว่าด้วยพลังที่มากมายมันจะทำให้พวกของเทพสูงสุดสามารถหาตัวของเธอได้โดยง่าย ดังนั้นหญิงสาวจำต้องใช้แผนการให้สามปีศาจเข้ามายุ่งเกี่ยว มันได้ผลตอนนี้นักปราชญ์เช่นเธอสามารถมายังมิติของชายที่ได้ชื่อว่าเทพที่มีความแข็งแกร่งที่สุด คาออสและวินจะไม่สามารถเข้ามายุ่งได้ในเมื่อเธอสามารถหลุดจากการตรวจสอบของพระเจ้าและวินได้
เธอมองร่างกายที่ยังไม่ได้เติบโตโดยสมบูรณ์ มันเป็นเรืองที่ดีนั่นก็เพราะว่าเธอจะได้สามารถเข้าไปหาพวกของไบรท์ได้ง่ายดายเช่นเดิม
“ได้เวลาทำตามแผน” หญิงสาวแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าอีกด้านหนึ่ง ได้มีชายคนหนึ่งได้เดินทางไปพบกับมหาเทพสูงสุดทั้งสามเช่นเดียวกัน
ชายหนุ่มทั้งสองมองชายที่คุ้นหน้าคุ้นตา ก่อนที่จะหันไปมองยังลูกแก้วที่กำลังฉายภาพเจ้าหล่อนท่กำลังยิ้มอย่างชั่วร้าย ก่อนที่ชายหนุ่มผมทองจะดีดนิ้วเพื่อเสกท นั่งให้กับชายตรงหน้า
“เข้ามาได้ไง นายน่าจะกำลังมีปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไม่ใช่หรือไงผู้นำเผ่าเทพอสูร”
ชายหนุ่มที่ถูกกล่าวถึงยกเท้าขึ้นมาพลาดกับโต๊ะโดยที่ไม่คิดจะสนใจมหาเทพทั้งสอง “เรื่องในอดีตก็แค่เล่นตามมันไป ไม่เห็นต้องคิดอะไรมาก”
คาออสยิ้ม “อุส่าได้กลับไปทั้งที ไม่ทำให้มันสนุกกว่าเดิมล่ะ นี่ทำอะไรจะทำให้ตัวของแกไปพบจุดจบเร็วกว่าเดิมหรือไง”
ชายหนุ่มเทพอสูรพยักหน้า “ความจริงหากพวกท่านต้องการห้ามผมก็สามารถทำได้แค่ดีดนิ้ว ถึงแม้ว่าพวกผมจะต้องสู้แต่ความเสียหายคงไม่ได้มากมายอนใดหรอก”
ชายหนุ่มผมทองสั่นศีรษะ “ทำแบบนั้นไม่ได้หรอ ตอนนี้ทามมันกำลังดำเนินตามทางของมัน เดิมทีมันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว แต่ว่าครั้งนี้มันมีอะไรที่ผิดไปสักหน่อย หนึ่งก็คือยายนั่นสามารถไปยังโลกของฉันได้ ซึ่งฉันกับคาออสรวมไปถึงพระเจ้าบอกเอไว้แล้วว่าพวกเราจะไม่ไปยุ่งเกี่ยว แต่ให้มันจะเป็นเช่นไรก็ตาม อีกอย่างหนึ่งฉันคงจะไว้ใจตัวของฉันเองได้ ยัไงตัวของฉันก็คงไม่ปล่อยเรื่องนี้เอาไว้”
เทพอสูรยิ้ม “แล้วตอนนั้น ตัวของท่านจุติพลังเทพหรือยัง หรือว่าเป็นผู้ที่สามารถใช้พลังเหนือขอบเขตได้เฉย ๆ “
วินยิ้ม “ไม่แน่ใจ แต่ว่าคิดว่าคิดว่าน่าจะอ่อนแอมากกว่านั้น รู้สึกว่าแค่สามารถใช้พลังทั้งสามได้แค่นั้น รินกับจีน่าแล้วก็อาโออิก็ใช้เวทได้แค่ขั้นต้นของดินแดนแห่งเทวา ถ้าพวกเราต้องเจอนักปราชญ์โจมตีก็คงสามารถสกัดได้ แต่คงไม่สามารถเอาชนะ”
“แต่ว่าดูเหมือนว่านักปราชญ์จะไม่รูตัวใช่ไหม ว่าเมื่อเธอไปยังโลกของนายพลังแห่งเทพก็จะถูกระบบดูดไปช้า ๆ อีกไม่นานพลังของยายนั่นคงลดต่ำลงอย่างหน้าใจหายเลยล่ะ” คาออสกล่าวยิ้ม
วินกับเทพอส๔รหันมองเทพแห่งความโกลาหล อย่างตกใจ “ทำไมคุณคาออสถึงรู้ละครับ ว่าผมเขียนให้ระบบของโลกเป็นแบบนั้น”
“เรื่องนั้นนะเหลือ นั นก็เป็นเพราะว่า” เสียงของพระเจ้าดังขึ้น ก่อนที่ชายหนุ่มจะค่อย ๆ ปรากฏร่างขึ้นตรงหน้าของชายหนุ่มทั้งสาม
“นั่นก็เป็นเพราะว่า ฉันเป็นคนบอกเองยังไงล่ะ ว่าแต่เรื่องของไบรท์ที่ได้สิ่งนั้นไปจะทำย งไงก น
ชายหนุ่มทั้งสามยิ้มกับคำกล่าวของพระเจ้า ก่อนที่วินจะกล่าว “เมื่อได้สี๋ดไปแล้ว พวกเราก็คงไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว พวกเราทำได้แค่รอเท่านั้น รอให้เทพองค์ใหม่ได้จุติ”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 182
แสดงความคิดเห็น