ตอนที่ 6 คนขายขนมจีบ
ชโลธรตกลงไปทำงานตามที่คุณสุพลบอกวันนี้เธอตื่นแต่เช้า อาจคงเป็นเพราะความตื่นเต้นที่เป็นวันทำงานวันแรก เธอนั่งทานข้าวเช้าอยู่บนโต๊ะไม่นานนักคนร่างสูงก็เดินลงมาจากบันได
“วันนี้เธอไปทำงานวันแรกไปพร้อมกับฉันเลยละกัน”
หญิงสาวไม่พูดอะไรแค่พยักหน้าเล็กน้อย เพราะหล่อนคิดไว้แล้วว่าวันนี้ก็คงต้องอาศัยเขาไปก่อนพอรู้ที่ทางดีกว่านี้หล่อนไม่ไปกับคนแบบเขาแน่นอน
07.45 ทั้งคู่ก็เดินทางมาถึงที่ทำงาน ธิวากรไม่ใช่คนที่จะมาทำงานสายเว้นแต่ว่าจะติดธุระจริงๆ
“เธอนั่งรอตรงนี้ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวถึงเวลาจะมีคนมาสอนงานเธอ”
“ อ่อ.. ค่ะ” เธอนั่งรออยู่ในห้องทำงานของเขา ซึ่งตอนนี้ก็มีแค่เขากับเธอสองคนเพราะคนอื่นๆยังไม่มาทำงานกัน ธิวากรนั่งลงบนโต๊ะทำงานของตัวเองทำท่าวุ่นๆกับการดูเอกสารแต่ไม่ใช่เลย เพราะสายตาเขานั้นกลับสนใจและจ้องมาทางคนที่นั่งรอการเริ่มงานใหม่อย่างไม่ละสายตา
ทุกคนในออฟฟิตเริ่มทะยอยมาทำงานกันเกือบจะครบล่ะ และเหมือนทุกคนจะรู้ว่าวันนี้จะมีพนักงานบัญชีคนใหม่มาเริ่มงาน ที่สำคัญคนนี้คุณธิวากรเป็นคนหามาเองซะด้วย
“คุณชาญชัยพนักงานบัญชีคนใหม่พร้อมเริ่มงานแล้ว เข้ามารับไปสอนงานด้วยนะ”
หลังจากธิวากรวางสายลงชาญชัยก็มาเคาะประตูห้องทันที
“เข้ามา… นี่ชโชโลธรคนที่จะเข้ามาเป็นพนักงานบัญชีคนใหม่ ชโลธรนี่คุณชาญชัยหัวหน้าแผนกบัญชีเขาจะเป็นคนสอนงานเธอ เรียนรู้งานให้เป็นเร็วๆเหมือนทำอย่างอื่นล่ะ ผมฝากด้วยนะคุณชาญชัย”
“ครับ คุณกร” เขาก็ไม่วายจะพูดแขวะ เธอได้แต่ลอบกลืนน้ำลายและพาตัวเองเดินตามหัวหน้าแผนกออกไปจากห้องทำงานเขา
“ทุกคนครับ นี่คุณชโลธรพนักงานบัญชีคนใหม่ มีอะไรแนะนำน้องเขาด้วยนะครับ”
“สวัสดีค่ะชโลธรค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ยังไงก็ช่วยแนะนำด้วยนะคะ”
ชโลธรแนะนำตัวเองหลังจากชาญชัยพูดจบ ด้วยใบหน้าที่สะสวยของเธอทำให้หนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่อดแซวไม่ได้แม้แต่ผู้หญิงด้วยกัน ยังมองว่าเธอสวยมาก โดยเฉพาะ’เอกลักษณ์’ที่เป็นหัวหน้าฝ่ายการตลาดมองเธอแบบไม่ละสายตา
“แหม๋ พี่เอกนี่มองไม่ละสายตาเลยนะพี่” น้องในแผนกเดียวกันแซวขึ้น
“เฮ้ย!! ใช่เลยว่ะแม่ของลูกชัดๆ” เอกลักษณ์ออกตัวแรง เขาเป็นหนุ่มไฟแรงทำงานเก่งอายุ 30 ต้นๆทำงานมา5ปีก็ได้เป็นหัวหน้าแผนกการตลาดเพราะพูดเก่ง ตั้งแต่เขาเลิกกับแฟนที่คบกันมาสองปีเขาก็ยังไม่มีใครเข้ามาในชีวิตแต่ตอนนี้สิแค่เขาเห็นชโลธรใจเขาก็เต้นไม่เป็นจังหวะ
12.00 น. “สวัสดีครับน้องชล เออ.. ถ้าไม่มีเพื่อนเที่ยงนี้ไปทานข้าวกับพี่นะครับ” เอกลักษณ์เอ่ยชวนชโลธรก่อนจะไปพัก
“ไปด้วยกันนะป่ะๆๆ” หลายคนส่งเสียงเจี๋ยวจ๋าวชวนเธอไปกินข้าวรวมทั้งเอกลักษณ์ที่เป็นคนเริ่มชวนคนแรกๆ พนักงานที่นี่มักจะรวมตัวไปทานข้าวพร้อมๆกันในเวลาพักเที่ยง ชโลธรเองก็ไม่ปฏิเสธที่จะไปกับเพื่อนๆ เพราะเธอเองก็เป็นคนอัธยาศัยดีเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ในระหว่างทานข้าวเธอก็ทำความรู้จักกับเพื่อนๆ ฝั่งเอกลักษณ์นั้นเทคแคร์เธอออกนอกหน้าจนเพื่อนๆต่างพากันแซว ชโลธรเองก็ดีใจที่เพื่อนร่วมงานต่างเป็นกันเองเธอดูออกว่าเอกลักษณ์นั้นกำลังขายขนมจีบ แต่เธอก็ไม่ได้คิดไกลเกินกว่าเพื่อนร่วมงานเหมือนกับคนอื่นๆ
ชโลธรเรียนรู้งานได้เร็วและทุกคนก็ต่างพากันชื่นชมเธอ วันนี้ก็เป็นวันที่เหนื่อยอีกหนึ่งวันและตอนนี้ก็ใกล้ถึงเวลาเลิกงานซักที
“พนักงานคนใหม่เป็นไงบ้างคุณชาญชัย”
“เธอเก่งครับ และเรียนรู้งานได้เร็ว และยังอัธยาศัยดีด้วยครับ” ชาญชัยบอกแก่คนเป็นเจ้านายหลังจากธิวากรเรียกเขาเข้าไปถามเพราะเห็นว่าใกล้จะเลิกงานแล้ว
“วันนี้กลับบ้านพร้อมฉันนะ” ธิวากรเดินมาหาเธอที่โต๊ะทำงานเขารู้สึกหงุดหงิดตั้งแต่ชาญชัยบอกว่าเธออัธยาศัยดีกับคนอื่น เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันทำไมต้องหงุดหงิดเธอแทนที่จะดีใจที่เธอเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ดี
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกลับเองได้” คนที่ได้ยินคำตอบทำหน้าทมึนตึงใส่เธอ เธอเองก็ไม่เข้าใจนี่เขาเป็นอะไรไปอีก อยู่ดีๆก็มาทำหน้าบึ้งใส่ทั้งที่เธอยังไม่ได้ทำอะไรให้เขาเลย
“น้องชลกลับกับพี่นะครับ เดี๋ยวเราแวะทานข้าวเสร็จพี่ขอไปส่งนะครับ”
จู่ๆเสียงของเอกลักษณ์ก็แทรกขึ้นมาเพราะยังไม่ทันมองคนเป็นเจ้านายยิ่งทำให้เขานั้นหงุดหงิดเพิ่มขึ้นและยังมองหน้าลูกน้องอย่างเอาเรื่องทำเอาเอกลักษณ์หลบสายตาแทบไม่ทัน
“ไม่ได้!! เธอต้องกลับพร้อมฉัน มาทำงานวันแรกเดี๋ยวคุณพ่อจะหาว่าฉันไม่ดูแลเธอ” เขาเอาคนเป็นพ่อมาอ้าง เธอได้แต่ลอบถอนหายใจเบาๆ
“ขอบคุณมากนะพี่เอก เอาไว้โอกาสหน้าแล้วกันนะคะ” พูดเสร็จเธอก็เดินตามเขาไปขึ้นรถปล่อยให้เอกลักษณ์ยืนเก้ออยู่คนเดียวด้วยความมึนงง
“เอะ..นี่คุณ.. จะทำอะไร” เธอตกใจหลังจากขึ้นไปนั่งบนรถ แล้วจู่ๆเขาก็ยื่นหน้าและเอนตัวเข้ามาใกล้เธอโดยที่เธอยังไม่ทันรู้ตัว ไม่นานเขาก็ยื่นแขนไปฝั่งคนนั่งข้างเพื่อดึงเบลท์มาคาดให้เธอ ทำให้ใบหน้าเขายิ่งใกล้กับใบหน้าเธอจนได้เสียงลมหายใจ
“ฉันแค่จะคาดเบลท์ให้” “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันคาดเองได้” เธอบอกพร้อมกับผลักอกเขาออกไปให้ห่าง คนที่โดนผลักกลับยิ้มมุมปากอย่างพอใจ
“ทำงานวันนี้เป็นยังไงบ้าง” เขาเอ่ยทำลายความเงียบภายในรถยนต์ระหว่างเดินทาง กลับบ้าน
“ก็ดีค่ะ” ชโลธรตอบกลับด้วยท่าทางนิ่งเฉย จู่ๆเขากลับเบรครถและแวะจอดข้างถนนก่อนถึงบ้านทำเอาหญิงสาวแปลกใจ
“นี่คุณ.. จอดรถทำไม” หล่อนถามเขาเพราะเขาชอบทำอะไรให้ตื่นเต้นบ่อยๆโดยที่เธอเองไม่เคยได้ตั้งตัว เขาไม่ตอบคำถามของเธอแต่กลับเปิดประตูรถแล้วเดินอ้อมมาด้านที่เธอนั่งเพื่อเปิดประตูแล้วดึงแขนเล็กลงมาจากรถ ก่อนที่เขาจะล็อคประตูรถ
“นี่คุณ.. ปล่อยนะจะพาฉันไปไหน?? ” เขาไม่ตอบเธอแต่กลับเดินตรงมายังร้านก๋วยเตี๋ยวริมทาง นี่เขาจะทำให้เธอแปลกใจไปถึงไหน คนแบบเขากินอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ
“อย่าบอกนะว่าคุณจะมากินก๋วยเตี๋ยว”
“ก็ใช่สิ ฉันหิว เธอคิดว่าฉันจะพาเธอไปไหนงั้นเหรอ” ธิวากรทำท่ายักไหล่ ก่อนเขาจะหาโต๊ะที่ว่างนั่ง
“เอาเส้นเล็กหมูน้ำตกครับ เธอหล่ะจะเอาอะไร” เขาถามเธอหลังจากเขาสั่งก๋วยเตี๋ยวเสร็จ
“ฉันไม่หิวค่ะ” “ทำไม กินกับฉันไม่อร่อยเหมือนที่กินกับพ่อฉันหรือไง”
“ก็ฉันไม่หิวจริงๆนิคะ อีกอย่างหนึ่งกลับไปกินที่บ้านก็ได้”
“งั้นเอาเหมือนกันครับเป็นสองชาม” เขาสั่งไปโดยที่ไม่ได้ถามคนตรงหน้า นี่เขาจะบังคับให้เธอกินกับเขาให้ได้ใช่ไหม เขาช่างเป็นผู้ชายที่เอาแต่ใจตัวเองยิ่งนัก
“หืมมม อร่อยเหมือนกันนะคุณ” เธอเผลอเอ่ยปากหลังจากตั้งหน้าตั้งตาทานจนเสร็จโดยมีคนตรงข้ามแอบมองอยู่
“นี่นะคนไม่หิว เห็นกินไม่เงยหน้าเลย เธอชอบหรอ”
“ใช่ค่ะ ฉันชอบทานก๋วยเตี๋ยวแล้วคุณกรละคะ” “อืมม ฉันก็ชอบ”
บทสนทนาในร้านก๋วยเตี๋ยวทำเอาธิวากรอมยิ้ม แม้ว่าเธออาจจะลืมตัวไปแต่ทั้งคู่ก็คุยกันถูกคอ อาจเป็นเพราะชอบกินก๋วยเตี๋ยวเหมือนกัน
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 339
แสดงความคิดเห็น