ตอนที่5 แผนการร้าย
วันที่แสนวุ่นวาย วันนี้เป็นวันทำงานปกติของธิวากร แต่วันนี้เขามีประชุมตั้งแต่เช้ายันบ่ายสองเลยทำให้เขามีอารมณ์ตึงเครียดกว่าทุกวันไปนิดหน่อย หลังบ่ายสองนี้เขาเองยังต้องไปพบลูกค้าต่ออีก จนจะหมดวันธิวากรถึงได้กลับมายังห้องทำงานของตน
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”
“เข้ามา” “มีไรหรือเปล่าครับคุณชาญชัย”
ธิวากรถามขึ้นเมื่อเห็นคุณชาญชัยหัวหน้าฝ่ายบัญชีเดินเข้ามาเหมือนมีเรื่องจะปรึกษา
“คุณกรครับคือตอนนี้พนักงานบัญชีคนนั้นลาออกไปอาทิตย์นึงแล้ว คือตอนนี้งานก็ยุ่งมากอยากจะขอให้เปิดรับตำแหน่งบัญชีมาเพิ่มอีกสักคนได้ไหมครับ”
“ก็ดีเหมือนกัน งั้นผมอนุมัติให้เปิดรับเพิ่มอีกหนึ่งตำแหน่งละกัน”
“ขอบคุณครับคุณกร”
หลังจากเจ้านายอนุมัติชาญชัยก็รีบขอตัวเพื่อไปทำเอกสารประกาศรับสมัครงานทันที แต่ยังไม่ทันได้นั่งเสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะทำงานเขาก็ดังขึ้น
“กริ่งๆๆๆ”
“สวัสดีครับผมชาญชัยพูดสายครับ”
“คุณชาญชัยเรื่องพนักงานบัญชีไม่ต้องเปิดรับแล้วนะ เดี๋ยวผมมีคนของผมมาให้ แค่นี้นะครับ”
พอวางสายจากลูกน้องคนที่เป็นเจ้านายก็นึกอะไรบางอย่างออก เขายิ้มมุมปากท่าทางเจ้าเล่ห์เหมือนเสือที่จะได้ตะครุบเหยื่อที่รอมานาน
หลังเลิกงานวันนี้ธิวากรรีบกลับมาบ้านเร็วกว่าทุกๆวัน เพราะเขามีเรื่องที่จะต้องคุยกับพ่อหลังจากที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยอยากจะคุยกับเขาเลย
บรรยากาศที่โต๊ะกับข้าวของเย็นวันนี้มีคนนั่งร่วมโต๊ะด้วยกันสามคน ซึ่งนานมากแล้วที่เขาไม่เคยทานข้าวเย็นพร้อมพ่อ แต่หลายวันมานี้ก็มีเธอที่ร่วมทานข้าวกับสุพลในทุกๆเย็น เธอจึงแปลกใจที่วันนี้เขามาทานข้าวกับพ่อได้และวันนี้เขาก็ทำท่าทางไม่สนใจเธอด้วยนั้นถือเป็นเรื่องดีสำหรับเธอ
“พ่อครับ ทานข้าวเสร็จผมมีเรื่องจะคุยด้วย” จู่ๆเขาก็พูดขึ้นมา
“มีเรื่องอะไร พูดมาตอนนี้ก็ได้หนูชลก็เหมือนคนในครอบครัวเรา คงไม่มีเรื่องอะไรปิดบังกัน”
คุณสุพลเป็นคนนิ่งๆแต่ทว่าสามารถมองคนได้ทะลุปรุโปร่ง เรื่องที่ลูกชายของเขาเคยรังแกชโลธรเช่นกันใช่ว่าเขาเองจะไม่รู้แต่ก็ทำเป็นเงียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เขาเองก็แอบคิดในใจหากได้ชโลธรมาเป็นลูกสะใภ้ของตนจริงๆก็ยิ่งดี แต่ลูกชายเขานี้สิยังเอาแต่ใจอยู่เลย
“ผมจะคุยกับพ่อเป็นการส่วนตัว ผมไปรอข้างนอกนะครับ” พูดเสร็จเขาก็วางช้อนกับส้อมแล้วเดินออกไปทางสระว่ายน้ำข้างบ้าน ทุกคนอยู่ในที่นั้นได้แต่มองตามคนร่างสูงไป
“มีอะไรจะคุยกับพ่อเหรอตากร?? ” เมื่อเดินมาถึงคนเป็นพ่อก็เอ่ยถามขึ้น
“ผมมีเรื่องจะรบกวนพ่อสักนิดนะครับ” เขาไม่รอช้าที่จะเล่าความต้องการของเขาให้พ่อฟังซึ่งพ่อเขาเองก็ไม่ขัดข้องคงจะดีซะอีกหากชโลธรธรได้ไปทำงานข้างนอกคงดีกว่าอุดอู้อยู่ในบ้านแบบนี้ แต่คุณสุพลเองก็ไม่วายสงสัยในตัวลูกชายเพราะก่อนหน้านี้เขาไม่เคยชอบผู้หญิงคนไหนเลยที่เข้ามาหาพ่อเขา
“กรรู้สึกยังไงกับหนูชล??” จู่ๆคนเป็นพ่อก็ถามขึ้นทำให้คนถูกถามถึงกับไปไม่เป็น
“เปล่าา.. ครับผมจะไปคิดอะไรกับเธอ นั่นเธอเป็นคนของพ่อนะครับ”
ลูกชายอึกอักตอบอย่างไม่เต็มปาก ก่อนจะขอตัวขึ้นห้องนอนของตัวเองเพราะทำตัวไม่ถูก ทางฝั่งของคนเป็นพ่อรู้ทันลูกชายตนเข้าแล้วแค่รอให้ถึงจังหวะของมันแล้วเขาจะบอกลูกชายเองว่าชโลธรเป็นลูกของเพื่อนเขาจริงๆไม่ได้เป็นเมียหรือเป็นผู้หญิงของเขาอย่างที่ธิวากรคิด คุณสุพลเอ็นดูและรักหนูชลเหมือนลูกหลานคนหนึ่งก็แค่นั้นเอง
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 353
แสดงความคิดเห็น