ตอนที่ 2 เจอกันครั้งแรก
ตอนที่ 2
เจอกันครั้งแรก
ชายร่างสูงปรี่เข้ามาหาเธอ มือใหญ่จับแขนเธอทั้งสองข้าง หน้าเขาอยู่ห่างจากใบหน้าของเธอไม่ถึงคืบ โดยที่เธอยังไม่ทันระวังตัว จนหญิงสาวตกใจตัวสั่นทำอะไรไม่ถูกเลยในตอนนี้ เอาแต่จ้องหน้่าอันหล่อเหลาของเขาและพูดอะไรไม่ออก
“ฉันถามว่าเธอเข้ามาอยู่ในบ้านฉันได้ยังไง”
พอเธอดึงสติกลับมาได้ ก็ผละมือเขาออกและพาร่างบางถอยมาตั้งหลักก่อนจะตอบคำถามคนที่อยู่ตรงหน้า
“ฉันชื่อ ชโลธร ฉันจะมาดูแลคุณท่านและก็มาทำงานให้ท่านด้วย”
“เธอว่าอะไรนะ มาดูแลคุณพ่องั้นหรอ”เขาย้ำ น้ำเสียงแข็งกร้าวและเอาจริงของธิวากร ทำให้ชโลธรหวั่นใจอยู่ไม่น้อย
‘ธิวากร จิระถาวร’ นักธุรกิจหนุ่มวัย 35 ปี ลูกชายคนเดียวของคุณ ‘สุพล จิระถาวร’ เจ้าของธุรกิจแปรรูปและส่งออกอาหารทะเล ซึ่งเขาเองก็ไม่ลงรอยกับพ่อตัวเองสักเท่าไหร่โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง ตั้งแต่แม่เขาป่วยพ่อของเขาก็ควงผู้หญิงหลายคนไม่ซ้ำหน้า จนมีข่าวหนาหูเมื่อแม่เขารู้และรับไม่ได้จึงตรอมใจตายในที่สุด เพราะเหตุนี้เองที่ทำให้เขาเกรียดผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาในชีวิตพ่อเขา และไม่ลงรอยกันมาจนป่านนี้
ธิวากร ยืนเท้าสะเอวและมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเหยียดหยัน และใช้สายตามองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วพยักหน้าช้าๆ
“หึ!! เธอก็คงจะเป็นพวกผู้หญิงหิวเงินสินะ หน้าตาก็สะสวยดี น่าจะหาผัวให้มันดีกว่านี้นะ”
หญิงสาวหน้าร้อนผ่าว สั่นไปทั้งตัวไม่คิดว่าผู้ชายแปลกหน้าที่เพิ่งจะเจอกันจะดูถูกเธอได้เพียงนี้ เธอมีศักดิ์ศรีพอเกินกว่าจะยอมให้ใครมาว่าเธอแบบนี้...
“เพลี้ย!!” ฝ่ามือเรียวเล็กฟาดลงบนหน้าของเขาอย่างสุดแรงด้วยความโกรธจัดในตอนนี้ ไม่นานนักร่างบอบบางของเธอก็ถูกเขารวบเข้ามาหาแผงอกแกร่งของเขา พร้อมกับริมฝีปากอวบอิ่มของเขาที่ประกบลงหาปากบางๆชมพูระเรื่อของเธออย่างแม่นยำและไม่เกรงใจ ลิ้นของเขาตวัดลุกล้ำเข้าไปภายในเรียวปากของเธออย่างดูดดื่ม หญิงสาวได้แต่เอากำปั้นเล็กๆทุบลงบนไหล่เขาแต่เอ่ยอะไรออกมาไม่ได้ เขาถอนริมฝีปากเขาออกจากใบหน้าเธอหลังจากเขาสัมผัสเรียวปากบางนั้นอย่างพอใจแล้ว
เขาปล่อยมือจากเธอแล้วยิ้มเยาะอย่างพอใจ เขาโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้เธอแล้วพูดข้างหูเธอเหมือนกับว่าสะใจยิ่งนัก
หญิงสาวใบหน้าแดงก่ำ กำมือแน่นกัดริมฝีปากตัวเอง เก็บอาการสั่นเครือนั้นไว้
“ฉันชื่อธิวากร ลูกชายคนเดียวของคุณสุพล เขาจะรู้สึกยังไงนะถ้ารู้ว่าเมียเด็กของเขาโดนลูกชายสุดที่รักจูบเข้าให้แล้ว”
“คนสารเลว ฉันไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนหยาบคายได้เท่าคุณ”
“ถ้าคิดจะอยู่บ้านนี้ เดี๋ยวก็รู้ว่าฉันสารเลวได้มากกว่าที่เธอคิด”
พอพูดจบเขาก็หันหลังไปจากตรงนั้น แต่ก็ไม่วายที่จะหันมาส่งจูบให้กับหญิงสาวที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้นอย่างยั่วยวน ชโลธรอยากจะเอามือฟาดหน้าเขาอีกสักที ถ้าไม่กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบเมื่อกี้นี้ เธอได้แต่ถอนหายใจ และโล่งใจที่เขาไปได้สักที
“ลืมความหิวไปเลยเรา ไอ้ผู้ชายปากแบบนี้น่าจะโดนสากกะเบือสักที หึ..”
พอหันไปเจออุปกรณ์ทำครัวก็อดที่จะบ่นไม่ได้ มือเล็กๆก็ยื่นไปจับเอาสากกะเบือทำท่าทางไปตามที่บ่น
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จธิวากรก็เตรียมตัวจะนอน พอเอนตัวลงถึงที่นอนทันใดนั้นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องครัวเมื่อสักครู่ก็ผุดขึ้นมาในหัว พร้อมกับยกมือเรียวขึ้นมาแตะริมฝีปากของตัวเองแล้วเขาก็อมยิ้มกับตัวเอง ก่อนจะเรียกสติตัวเองกลับคืนมา
“ไอ้กรเอ้ย คิดอะไรว่ะ ไม่เข้าท่า”
เช้าวันรุ่งขึ้น ชโลธรตื่นแต่เช้าเพื่อมาเข้าครัวและจัดอาหารเช้าช่วยป้าสำรวย จะได้เรียนรู้ไว้ว่าการจะดูแลคุณสุพลต้องทำอย่างไรบ้าง
‘ชโลธรหรือชล’ ปีนี้เธออายุครบ 28 ปีบริบูรณ์เธอจบสาขาวิชาบัญชีเพราะชอบตัวเลข ชอบเรียนรู้และเป็นคนว่านอนสอนง่ายมาตั้งแต่เด็ก เพราะคุณสุพลเพื่อนของพ่อเธอช่วยซื้อบ้านคืนมาให้ หลังจากครอบครัวเธอล้มละลาย ถูกยึดทรัพย์สินไปหมดทุกอย่าง เธอจึงต้องมาทำงานช่วยคุณสุพลเพื่อเป็นการตอบแทนและใช้หนี้ให้กับครอบครัว
“เสร็จแล้วจ้ะป้า น่าทานเนอะ”
“ค่ะคุณชล คุณท่านลงมาพอดีเลยค่ะ”
“ป้าสำรวยวันนี้ทำไรทานครับหอมจังเลย”
“ข้าวต้มกุ้ง ของโปรดคุณกรเลยค่ะ”
ชายหนุ่มที่เดินตามหลังพ่อมาติดๆเอ่ยขึ้นมา ชโลธรรู้สึกตกใจนิดนึงพอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใคร
“มานั่งด้วยกันสิหนูชล” คนเป็นพ่อกล่าวเชื้อเชิญ
“ค่ะ คุณท่าน” ชโลธรตอบรับทันที
“ไม่ต้องเรียกคุณทง คุณท่านหรอกน่า เรียกฉันว่าคุณอาก็ได้ ยังไงฉันกับพ่อเธอก็เป็นเพื่อนกันนะ หนูไม่ต้องเกรงใจ”
“ค่ะ คุณอา”
“แหวะ ข้าวต้มกุ้งชักจะเลี่ยนนะป้า”
คนเป็นลูกชายแทรกขึ้นด้วยความหมั่นไส้หลังจากสองคนนั้นสนทนากันเสร็จ
“เอ้อ นี่หนูชโลธรหรือชลลูกสาวเพื่อนพ่อ จะมาดูแลพ่อและทำงานช่วยพ่อ”
“หนูชล นี่ธิวากรลูกชายของอาเอง”
“สวัสดีคะ” หญิงสาวยกมือไหว้
“ไม่เห็นจะอยากรู้เลย หอบผ้าหอบผ่อนมาอยู่นี่ก็หวังแค่เรื่องเดียวแหละผู้หญิงของพ่อก็เป็นแบบนี้ทุกคนนิ ไม่เห็นต้องแนะนำเลย”
พูดพรางจ้องหน้าหญิงสาวที่นั่งร่วมโต๊ะ แต่ชโลธรเลือกที่จะหลบตาเขาเพราะรู้ว่าเขาอันตรายแค่ไหน
“ไอ้กร!! มันจะมากไปแล้วนะ ให้เกียรติหนูชลบ้าง”
คุณสุพลอารมณ์เสียกับคำพูดของลูกชายตัวเองไม่น้อย เขาเองรู้ดีว่าลูกชายต้องเป็นแบบนี้แน่ เพราะเรื่องผู้หญิงของตนสองคนพ่อลูกจึงเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน
“ไปทำงานก่อนนะป้ารวย ผมทานข้าวไม่ลงล่ะครับ เซ็ง”
หลังจากลูกชายลุกเดินออกไปคนเป็นพ่อได้แค่ส่ายหน้าไปมา
“อาต้องขอโทษแทนเจ้ากรด้วยนะ มันเป็นคนปากร้ายแบบนี้แหละ”
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูเข้าใจ” แต่ในใจนี้หมั่นไส้ไม่หายจากเหตุการณ์เมื่อคืน
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 365
แสดงความคิดเห็น