หัวใจมายา ตอนที่ 6 เปิดโรงพยาบาลแห่งที่สาม
“พี่จะทำอะไร ปล่อยผม” เขายื้อยุดอย่างไม่เต็มใจ ก่อนที่ปลายฝนจะกอดอกแล้วทอดมองชายหนุ่มอย่างแน่วแน่
“ไปสังสรรค์ แต่ไม่มีกลิ่นเหล้า หมายความว่าไง”
“ก็...” สายตาล่อกแล่กของกองทัพ ยิ่งทำให้ปลายฝนจับพิรุธ
“ผมไม่อยากดื่ม เพราะต้องขับรถกลับบ้าน คราวก่อนพี่บอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าถ้าผมเมาแล้วเกิดอุบัติเหตุมันจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย นี่ผมก็ยอมทำตามพี่บอกทุกอย่างละนะ ยังจะหาว่ากันอีก” ชายหนุ่มทำหน้าแสร้งทำหน้างอแล้วเบี่ยงตัวหลบไปอีกทาง ปลายฝนได้ยินดังนั้นจึงชักใจอ่อน
“ก็ถ้าคิดได้แบบนั้น..พี่ก็สบายใจ แต่จะดีกว่านี้หากนาย กลับเร็วขึ้นมาอีกหน่อย สักสามทุ่มไม่ได้เหรอ พี่กลัวว่าวันหนึ่ง พ่อจะรู้ความจริงว่านายกลับดึกแบบนี้ทุกวัน”
“ลำพังตัวเองผมไม่กลัวหรอก พ่อจะด่าจะว่าอะไรก็ปล่อยเขาไปสิ แต่พี่จำไว้นะ...ที่ผมกลับมาก่อนเวลา นั่นก็เพราะผมไม่อยากให้พี่โดนทำโทษไปด้วยต่างหาก เลิกห่วงผมซะที หัดห่วงตัวเองบ้าง” ปลายฝนได้ยินดังนั้นจึงก้มหน้าลงอย่างนึกน้อยใจวาสนา ที่ไม่เป็นที่ต้องการของบิดาอย่างที่ควร ก่อนสองเท้าของกองทัพจะเดินมายังพี่สาวของเขา
“พี่ปลายฝน” ชายหนุ่มเรียกหญิงสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนที่หญิงสาวจะเงยหน้ามองสบตา
“ผมเชื่อนะ ว่าสักวันพ่อจะลืมความเจ็บปวด และให้อภัยพี่”
“พี่ต้องรออีกนานเท่าไหร่ ตอนนี้พี่เรียนปีสุดท้ายแล้ว ไม่ว่าพี่จะตั้งใจเรียนให้ได้เกรดสี่ทุกเทอม หรือแม้แต่พยายามฝึกฝนตัวเอง เพื่อเป็นตัวแทนไปแข่งวิชาการแล้วได้เหรียญทองกลับมาอย่างไร พี่ก็ไม่เคยได้รับคำชมจากพ่อสักครั้ง”
“แต่ผมเชื่อว่าพ่อต้องรักพี่อยู่บ้างแหละ ไม่มีพ่อคนไหนไม่รักลูกหรอก พ่อก็แค่เสียใจที่แม่ของพี่ต้องจากไป พ่อรักแม่ของพี่มากนะ ในห้องทำงานของพ่อ ยังมีรูปแม่ของพี่ติดไว้เต็มไปหมด โชคดีหน่อยที่แม่ผมเข้าใจพ่อ ไม่งั้นบ้านคงแตกแน่ ๆ” หลังจากกองทัพพูดจบ ปลายฝนก็ยิ้มออกมาอย่างเห็นด้วย
“ขอบใจนะ ที่อยู่ข้างพี่มาตลอด นายไปพักผ่อนเถอะ แต่พรุ่งนี้ห้ามกลับดึกอีกนะ” หญิงสาวเปลี่ยนอารมณ์ แล้วชี้มือกำชับน้องชายอีกครั้ง นอกจากเขาจะไม่รับปากแล้ว ยังรีบปิดประตูหนีไปอีกด้วย
“เป็นอย่างนี้ทุกทีเลย ทำไมถึงดื้อขนาดนี้นะ” หญิงสาวยืนบ่นอยู่หน้าห้องเพียงลำพัง ก่อนครู่หนึ่งจะปล่อยยิ้มออกมาให้กับการเสียรู้ครั้งนี้
ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำสนิท อายุราวสามสิบปีเศษขึ้นเป็นประธานในพิธีเปิดโรงพยาบาลแห่งที่สามของเขา ซึ่งครั้งนี้ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้การดูแลความปลอดภัยอย่างแน่นหนาของเหล่าเจ้าหน้าที่ แสงแฟลชจำนวนมาก ที่นักข่าวหลายสำนักบันทึกไว้ เพื่อใช้ในการเสนอข่าวนั้น ไม่ได้ทำให้ธไนยมีอาการประหม่าแต่อย่างใด กลับทำให้เขาพูดเปิดงานด้วยความมั่นใจ พร้อมกับเสียงฮือฮาของเหล่าแฟนคลับ ที่กรี๊ดกร๊าดอยู่ด้านล่างเพื่อให้กำลังใจ
“หล่อจังเลย คนอะไรดูมุมไหนก็หล่อ” เสียงแฟนคลับคนหนึ่งเล็ดลอดออกมาให้นักข่าวได้ยิน
“สวัสดีทุกท่านนะครับ ผมธไนย ปัญญานนท์ เป็นบุตรชายคนเดียวของ ธเนตร ปัญญานนท์ เป็นที่รู้ ๆ กันดีอยู่แล้วว่าตอนนี้คุณพ่อของผมป่วยหนัก ไม่สามารถมาเป็นประธานเปิดงานในวันนี้ได้ ผมจึงเป็นตัวแทนของท่านหวังว่าจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังนะครับ
“ไม่ผิดหวังหรอกค่ะ จริงไหมพวกเรา” กะเทยกลุ่มหนึ่งที่กำลังชูป้ายไฟ ตะโกนขึ้นมาพร้อมเสียงเฮของบรรดาเพื่อน ๆ ที่มายืนรอตั้งแต่เช้า ทำเอาชายหนุ่มที่กล่าวเปิดงานถึงกลับชะงักพลันอมยิ้มตอบกลับเล็กน้อย
“ขอบคุณครับ เอาล่ะผมขอเข้าเรื่องเลยนะครับ โรงพยาบาลลาทีฟแห่งนี้เป็นแห่งที่สาม ที่ทางเราได้จัดสร้างขึ้นภายใต้คำจำกัดความที่ว่า เป็นโรงพยาบาลที่รวมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง จากในและต่างประเทศมารวมไว้ ให้คนไข้ทุกท่านวางใจในศักยภาพของทีมแพทย์ที่เรามี ด้วยประสบการณ์นานนับหลายสิบปี ฯลฯ” เขากล่าวเปิดงานไปเรื่อย ๆ พร้อมกับภาพของชายหนุ่มสุดหล่อ จะถูกแฟนคลับถ่ายลง Tik Tok อีกเช่นเคย
“ดิฉันขอถามหน่อยค่ะ จากการที่สาขาหนึ่งและสองประสบความสำเร็จอย่างมากแล้ว เป็นไปได้ไหมคะว่าจะมีสาขาที่สี่อีก”
“ตอนนี้เรากำลังสร้างแห่งที่สี่อยู่ครับ แต่ว่าไม่ได้อยู่กรุงเทพแล้ว อยู่ที่เชียงใหม่แทน คาดว่าอีกไม่นานก็จะถึงเวลาเปิดตัวเช่นกัน” ชายหนุ่มตอบพร้อมรอยยิ้ม
“แล้วอย่างนี้จะมีการนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ไหมคะ”
“ตอนนี้ยังไม่มีครับ ผมสะดวกบริหารในแบบที่เราเคยทำมากกว่าจะนำเข้าตลาดหลักทรัพย์” ชายหนุ่มตอบพร้อมกับเสียงหวีดของราตรี ที่นั่งมองหน้าจอมือถือแล้วกัดฟันพูดด้วยความปลื้มใจ
“คุณไนยของฉัน หล่ออย่างกับพระเอกเกาหลี” หญิงสาวในชุดนักศึกษา นั่งกัดด้ามปากกาด้วยสายตาเป็นประกาย จ้องมองไปยังหน้าจอมือถือ ใจของหล่อนทะลุไปอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วในตอนนี้ หากแต่คนอยู่ข้าง ๆ ได้ยินดังนั้นจึงเอี้ยวตัวมายังเพื่อนรัก แล้วเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
“ใครเหรอ” น้ำเสียงพร้อมดวงตากลมของปลายฝน ถามราตรีด้วยความใคร่รู้
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 566
ความคิดเห็น
รอครับ
แสดงความคิดเห็น