8 That night and this one คืนวันนั้นและคืนวันนี้
ทันทีที่เจ้าหน้าที่ริชาร์ดสันพาผมเดินออกมาจากห้องได้ไม่กี่เมตร เขาก็ปล่อยผมเป็นอิสระ
“ผมขอโทษที่แสดงกิริยาไม่เหมาะสม” เขาพูดเบาๆ ถึงไม่มอง ผมก็ดูออกได้ง่ายมากว่าเขากำลังหงุดหงิด
“ไม่เป็นไรครับคุณริชาร์ดสัน ผมไม่ใช่ลูกค้าที่นี่ คุณไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตอง” ผมพูดและหัวเราะ เขาเป็นคนสุภาพ แต่ขี้หงุดหงิดเหลือเกิน
“กรุณาเรียกผมว่าฮวน” เขาพูดแบบไม่มองหน้าผม หน้ามองตรงไปที่อื่น
“ครับ คุณฮวน” ผมตอบและยิ้ม
“ฮวน...” เขาเน้นคำพร้อมกับมองผมผ่านดวงตาสีเขียว “..แค่ฮวนครับ” เขารอคำตอบ
“ได้ครับ ฮวน” ผมยื่นมือไปให้เขาจับ “ผมเพิร์ท ยินดีที่ได้รู้จัก” มันอาจจะช้าไปหน่อย แต่คนสุภาพก็ควรได้รับเกียรติในแบบที่ควรได้รับ เขายื่นมือหนาใหญ่มาจับมือผมเขย่าและปล่อยแทบจะทันที
เขาหมุนตัวและออกเดิน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับคุณเจฟเดินออกมาจากห้อง เขาสวมเสื้อผ้ามิดชิดมากขึ้น เขาเดินบ่นพึมพำ หน้าตาของเขาบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าหงุดหงิด
เฮ้อ!! มีแต่คนหงุดหงิด
เรานั่งอยู่ในห้องที่เราใช้เป็นห้องประชุม สมาชิกที่เหลือก็มีเพียงคุณราฟา คุณด๊าซ คุณบาร์ดี้ คุณเจฟ ฮวนและผม บรรยากาศไม่สดใสแต่ก็ไม่ได้หม่นหมองมาก โดยเฉพาะคุณราฟาที่ดูสดชื่นและใส่ใจคุณคุณด๊าซเป็นพิเศษ
กาแฟดูจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดในตอนนี้ ผมจึงสอบถามดูว่าใครต้องการบ้าง ทุกคนมีปฏิกิริยากับคำว่า ‘กาแฟ’ อย่างเห็นได้ชัด ผมจึงหัวเราะและเดินเข้าห้องครัวไป
กาแฟหอมกรุ่นทั้งหกถ้วยถูกเสิร์ฟจนหมด ห้องกลับมาคึกคักด้วยเสียงพูดคุยอีกครั้ง ผมเดินไปนั่งที่โซฟากลางห้องที่ที่ฮวนนั่งอยู่ก่อนแล้ว
“ผมอยากรู้ว่าเกิดออะไรขึ้นที่นี่ คุณพอจะบอกได้ไหมครับ?” ผมถามเขาเหมือนชวนคุยเรื่องทั่วๆ ไป หากเขาไม่อยากเล่าผมก็ไม่คาดคั้น แต่ผมก็ภาวนาให้เขาเล่า
เขามองหน้าผมก่อนจะบอกเรื่องราวที่เขารู้ให้พวกเราฟัง
‘เหตุการณ์นั้นเกิดในคืนวันอาทิตย์ ช่วงประมาณตีหนึ่ง ผมที่กำลังเดินตรวจดาดฟ้าของตึกตามปกติก็สังเกตเห็นว่ามีไอขาวๆ บริเวณรีสอร์ท มันลอยต่ำติดพื้น ผมจึงเข้าใจว่าเป็นหมอก นักท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณนั้นก็ยังเฮฮากันอยู่ ผมจึงไม่ได้ใส่ใจมัน แต่เดินไปจดบันทึกไว้ในสมุดรายงานและก็นั่งทำงานอื่นต่อ
หลังจากนั้นอีกสองสามชั่วโมง ผมลุกขึ้นมาเดินตรวจอีกครั้ง จึงเห็นว่าหมอกหนาขึ้น ปกคลุมส่วนที่เป็นรีสอร์ทไปเกือบหมด บางส่วนขยายตัวมาถึงโรงแรมแล้ว ผมสังเกตว่าเสียงนักท่องเที่ยวจากรีสอร์ทเงียบไปแล้ว แต่กลุ่มที่อยู่ที่โรงแรมยังรื่นเริงกันตามปกติ ผมจึงวิทยุไปถามเพื่อน รปภ. คนอื่น แต่ไม่มีใครรายงานความเสียหายใดๆ ผมจึงวางใจและลงไปเดินตรวจชั้นสิบห้าเรื่อยไปจนถึงชั้นสิบ ซึ่งใช้เวลประมาณหนึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นก็ขึ้นมานั่งพักที่โต๊ะทำงาน
ผมรู้สึกถึงความผิดปกติเมื่อผมเรียกวิทยุไปแล้วไม่มีคนตอบ ซึ่งนั่นก็ใกล้หกโมงเช้าแล้ว’
“ปกติแล้วคุณรายงานวิทยุกันถี่แค่ไหนคะ?” คุณด๊าซเอ่ยถามหลังจากที่ฮวนหยุดพูด
“ไม่มีการกำหนดที่แน่นอนครับ เราจะรายงานต่อเมื่อพบเรื่องผิดปกติ” ฮวนตอบคำถามคุณด๊าซและก้มหน้าลง ผมไม่แน่ใจว่าเขากำลังตำหนิตัวเองหรือเปล่า
“แล้วนายก็มาปลุกฉัน หลังจากนั้นไม่กี่นาที” คุณเจฟพูดต่อและเกาคางเบาๆ
“ครับ ห้องคุณอยู่ใกล้ที่สุด” ฮวนตอบคำถามของคุณเจฟ “ผมไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้างที่ด้านล่าง แต่บ้านที่รีสอร์ทถูกเปิดทิ้งไว้เหมือนกับมีคนเข้าหรือออกอย่างเร่งรีบและเผลอเปิดประตูทิ้งไว้ ผมมั่นใจว่าไม่เห็นใครซักคนในละแวกนั้นเลย ผมเฝ้ามองอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะเดินสำรวจชั้นสิบห้าและพบว่ามีเพียงไม่กี่ห้องที่มีนักท่องเที่ยวกลับขึ้นมาพัก คุณคือหนึ่งในนั้นครับ คุณเจฟ”
เรานั่งเงียบและมองหน้ากันไปมา
“ถ้า...” คุณบาร์ดี้เอ่ยขึ้นมา “ถ้าหมอกนั่นคือสาเหตุ แสดงว่าเกาะนี้มีแหล่งพิษและหมอกพวกนั้นก็พามายังชายหาด”
“ไม่แน่ใจนะ” คุณราฟาเอ่ยขึ้นมาบ้าง “ผมมาที่นี่ทุกปี ตลอดห้าปีมานี้ไม่เคยได้ยินว่าเกาะนี้จะมีไอพิษหรืออะไรทำนองนั้นเลย และถึงจะมีจริง มันก็ไม่น่าถูกหมอกพามา มันไม่เข้ากับทฤษฎีน่ะครับ”
พวกเราเงียบกันอีกครั้งและมันก็เป็นความเงียบที่กินเวลาเนิ่นนานพอสมควรกว่าที่ผมจะกล้าถาม
“สมมติว่าหมอกคือสาเหตุ” ผมเอ่ยขึ้นอย่างไม่มั่นใจ “บางส่วนของมันเล็ดลอดเข้ามาในตัวโรงแรมด้วยใช่ไหมครับ?”
“ใช่ครับ ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพราะนักท่องเที่ยวเดินเข้าออกโรงแรมตลอดเวลา ประตูจึงเปิดออกบ่อยๆ” ฮวนตอบผม
“หรือไม่ก็ทางหน้าต่าง ช่วงที่แม่บ้านกำลังเข้าไปทำความสะอาด” คุณเจฟพูดเสริมขึ้นมา
“ก็เป็นไปได้นะ หมอกที่หนาแน่นมากๆ มันจะสูงพอๆ กับต้นสนเลยทีเดียว” คุณด๊าซเสริมขึ้นมาบ้าง
ตอนนี้ผมพอจะสรุปได้แล้วว่า ในเช้าวันจันทร์หลังจากที่หมอกจู่โจมเข้ามา นักท่องเที่ยวที่อยู่ภายนอกได้หายสาบสูญไป แถมหมอกบางส่วนยังเล็ดลอดเข้ามาโจมตีนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในตัวโรงแรมอีกด้วย พ่อผมปลอดภัยจากหมอกแน่นอน แต่หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้ว่าเขาจะเจออะไรบ้าง
เราทำอาหารและรับประทานอาหารเย็นด้วยกันตอนที่ท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันกลับไปห้องตัวเอง ฮวนได้เสนอให้ผมนอนที่ห้องประชุมนี้ เพราะผมเป็นคนเดียวที่ไม่มีห้องพักซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย คุณเจฟถึงกับมองหน้าฮวนทันทีแต่ก็ไม่ได้แย้งอะไรออกมา หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไป ทิ้งให้ห้องประชุมเงียบลงอีกครั้ง
ฮวนมองผมและเอ่ยขึ้น
“คุณพักห้องนี้แหละ นอนคนเดียวอาจปลอดภัยกว่า” เขาพูดเบาๆ
“ปลอดภัยจากอะไรครับ? ไม่มีศพบนนี้ซะหน่อย?” ผมถามเขากลับ
“คนบางคนก็อันตรายครับ อยู่ห่างๆ ดีกว่า” เขาตอบแบบกว้างๆ แต่ผมคิดว่าเขาน่าจะหมายถึงคุณเจฟ สองคนนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ
“แล้ว...” ผมมองเขาตรงๆ “คุณไม่อันตรายเหรอครับ? ฮวน”
เขาแค่ขมวดคิ้ว แต่ไม่ตอบอะไรกลับมา เขามองผมอยู่ครู่เดียวก็หมุนตัวอกไป
ผมอาบน้ำและเลือกเสื้อผ้าจากตู้ออกมาหนึ่งชุด ผมไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของห้องนี้ แต่ชุดที่เขาทิ้งไว้ ผมสามารถสวมใส่ได้พอดี
ผมนั่งอยู่กลางห้องคนเดียว พลางเหลียวซ้ายแลขวา ห้องสุดแพงของโรงแรมสุดหรูก็เหมือนกับที่อื่นๆ มันไม่มีอะไรน่าอยู่สักเท่าไรถ้าหากเราต้องอยู่คนเดียว
แล้วผมก็นึกถึงคุณเจฟ ชายตาดุที่เจอเมื่อเช้า เขาพยายามช่วยเหลือผมมาตลอดทั้งวัน แถมเมื่อบ่ายนี้นี้ข้อมือเขาก็บวมอีกด้วย ผมยังไม่ได้ตรวจสอบดูเลย ตอนนี้เขาคงยังไม่หลับหรอกนะ
ผมลุกขึ้นและเดินออกจากห้องประชุม ตรงไปยังห้องของเขาทันที
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” ผมเคาะประตูเบาๆ และเมื่อเขามาเปิด ผมก็ได้กลิ่นหอมจางๆ ของสบู่และเห็นว่าเขาเตรียมจะนอนแล้ว กางเกงนอนขายาวเป็นตัวยืนยันได้ดี
“หมอมาตรวจอาการน่ะครับ” ผมยิ้มให้เขา เขาหรี่ตาและเบี่ยงตัวหลบ ผมจึงเดินเข้าไป
ผมนอนหงายอยู่บนโซฟาเดย์เบดสีเข้มที่ทำให้สีผิวของผมยิ่งสว่างมากขึ้น ขาทั้งสองข้างถูกยกพาดบ่าชายร่างหนาที่โน้มตัวคล่อมผมอยู่ ก้นของผมถูกความแข็งเกร็งของเขารุกล้ำเข้ามาได้ซักพักแล้ว มันนานพอที่จะหายเจ็บ ผมจึงต้อนรับการบุกของเขาได้ดีขึ้น
เราใช้เวลากันอย่างเต็มที่ หลังจากอดทนมาตลอดทั้งวัน
เขาเปลี่ยนท่าทางอีกครั้ง ถึงแม้ผมจะอยากขึ้นนั่งบนตัวเขาสักเท่าไร เขาก็ไม่ให้โอกาสผมเลย เขาจับผมนอนคว่ำแยกขาออก แล้วเขาก็แทงเข้ามาอย่างหนักหน่วงและรัวเอวอย่างต่อเนื่อง ผมถึงกับต้องยกก้นลอย
“อูยยย เจฟ เอวคุณหนักมาก” ผมก้มหน้าครวญคราง ในขณะที่กระเด้งเอวรับการบุกไปด้วย เจฟถึงกับครางขึ้นมา
“โอย แน่นแถมยังเด้งเอวอีก เพิร์ท มันเสียวนะ” เจฟร้อง เขาใช้มือทั้งสองข้างขยำก้นผม
หลังจากนั้นเอวหนาของเขาก็กระแทกเข้ามาหนักๆ อีกเกือบสิบครั้งก่อนที่จะกดแช่ในครั้งสุดท้าย ผมตอดรัดเขาอีกสองสามครั้งส่งผลให้ตัวเขากระตุกเบาๆ
“ฉันดีใจที่ไม่ไปจากเกาะ” เขาบ่นพึมพำเบาๆ ก่อนจะเงียบเสียงไป
+-------------------------------------------+
เพิ่มคำติชมด้านล่างได้เลย ขอบคุณล่วงหน้าครับ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 352
แสดงความคิดเห็น