วิถีธาตุออนไลน์ : บทที่ 7 การโจมตียามวิกาล
บทที่ 7 การโจมตียามวิกาล
“นั่นไง!” ทัศน์พูดขึ้น “ฉันว่าแล้ว ไอ้เมย์ท้วงอะไรไม่เคยพลาด พวกเราถูกโจมตีจริงๆ ด้วย”
“อะไร! ไม่เกี่ยวกับฉันสักหน่อย นายก็พูดไป มันโจมตีของมันเองต่างหาก” หญิงสาวเอ่ยกระเง้ากระงอด
“พวกเราเตรียมตัวกันเถอะ กลุ่มอื่นๆ เริ่มรวมตัวกันแล้ว” พลอยพูดขึ้นระหว่างมองดูไปรอบๆ
“รีบเก็บของกันเถอะพวกเรา...ก่อนที่จะไม่มีเวลาได้เก็บ” ชัยเอ่ยชวนคนอื่นๆ ถึงเต็นท์ที่ใช้นอนจะหลังไม่ใหญ่เท่าไหร่ แต่ราคาก็สูงเอาเรื่อง ดังนั้นหากพอเก็บได้ เขาก็อยากจะเก็บเอาไว้ก่อน เพราะหากการปะทะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ ถึงตอนนั้นก็คงโดนลูกหลงจากการโจมตี หมดสภาพนำกลับมาใช้งานต่อไม่ได้อีก
หลังจากเก็บข้าวของลงกระเป๋ามิติกันหมดทุกคน กรกชและกลุ่มเพื่อนก็ได้พากันเดินเข้าไปรวมตัวกันกับกลุ่มอื่นๆ โดยมีคนของกิลด์มังกรซ่อนเป็นแกนนำหลัก ส่วนตัวหัวหน้ากิลด์เช่นเงาดาบนั้น ในเวลานี้กำลังยืนพูดคุยกับสมาชิกกิลด์ที่มาแจ้งข่าวเมื่อครู่อยู่
เมื่อเงาดาบสอบถามรายละเอียดจากลูกกิลด์จนพอใจ เขาจึงเดินออกมายืนที่ลานกว้างด้านหนึ่ง โดยเว้นช่องว่างห่างจากกลุ่มคนที่ยืนออกันอยู่ไปพอสมควร
“ทุกคนกรุณาเงียบ แล้วฟังทางนี้สักนิดนะครับ”
หัวหน้ากิลด์มังกรซ่อนพูดเสียงดัง ทำให้คนที่กำลังคุยกันอยู่หยุดชะงัก ก่อนจะหันมองตัวของเขาเป็นจุดเดียว เมื่อดึงความสนใจจากทุกคนได้แล้ว เขาจึงเริ่มกล่าว
“เมื่อสักครู่ สมาชิกกิลด์ที่ผมส่งออกไปลาดตระเวนพบว่า ห่างจากที่พักของเราไปประมาณหนึ่งกิโลได้มีหมาป่าฝูงใหญ่กำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเรา จากความรีบร้อนมาแจ้งข่าว ทำให้รู้เพียงว่าหมาป่าฝูงนี้มีจำนวนมาก ไม่สามารถบอกจำนวนที่แน่ชัดได้ กะโดยคร่าวๆ น่าจะไม่ต่ำกว่าร้อยแน่นอนครับ” เขาเอ่ยพลางสังเกตสีหน้าของทุกคน เมื่อเห็นว่ายังตั้งใจฟังเป็นอย่างดีเขาจึงพูดต่อ
“ซึ่งตอนนี้เราก็เหลือเวลาไม่มากแล้ว ผมจึงอยากจะขอร้องทุกคนช่วยกันต่อสู้กับพวกมันด้วยกัน เพราะถ้าเราหนีไปในช่วงกลางคืนแบบนี้ อาจจะอันตรายมากกว่าเจอฝูงหมาป่าพวกนี้ก็ได้ ทุกคนจะว่ายังไงครับ หรือถ้าใครไม่เห็นด้วย แล้วอยากจะเดินทางจากไปในตอนนี้ ทางผมก็ไม่บังคับนะครับ”
“แต่กลุ่มพวกเราทั้งหมดรวมกันแล้ว ก็แค่ราวๆ หกสิบคนเองนะครับ จะไหวเหรอ?” ชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ทำให้มีคนพยักหน้าเห็นด้วยพอสมควร
“ไหวไม่ไหวก็ต้องลองดูครับ เพราะหากเดินทางตอนกลางคืน ก็อย่างที่ผมบอกในตอนแรก มันอันตรายกว่าสู้กับหมาป่าอยู่ที่นี่มาก อย่าลืมนะครับ ถ้าเดินทางช่วงนี้ เราอาจจะถูกซุ่มโจมตีจากนักล่าที่มีขนาดใหญ่ และฝูงใหญ่กว่านี้ก็ได้” เงาดาบเอ่ยอธิบาย
เมื่อดูแล้วว่าไม่มีกลุ่มไหนคิดจะจากไป เงาดาบจึงได้แบ่งกลุ่มคนออกเป็นสามกลุ่ม โดยในกลุ่มแรกก็คือคนที่ถนัดในการต่อสู้ในระยะประชิด ส่วนกลุ่มที่สองคือกลุ่มที่มีการโจมตีระยะไกล และกลุ่มสุดท้ายก็คือ กลุ่มที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บให้คนอื่นๆ ได้
ซึ่งเขาให้กลุ่มแรกสร้างแนวตั้งรับให้เป็นวงกลม แล้วให้กลุ่มที่สองและสามสร้างวงกลมซ้อนเอาไว้ข้างในอีกชั้น เพื่อให้คนที่โจมตีระยะไกลและทำการรักษา ได้อยู่ภายใต้วงล้อมของคนจากวงนอก ซึ่งก็จะได้โจมตีและทำการรักษาได้อย่างวางใจ โดยไม่ต้องห่วงว่า ในระหว่างนั้นจะมีหมาป่าตัวใดเข้ามาโจมตี
เนื่องจากกลุ่มของกรกชมีเพียงพลอยคนเดียวที่ใช้ธนูในการโจมตี ดังนั้นหญิงสาวจึงได้ไปอยู่กับกลุ่มที่สองอย่างช่วยไม่ได้ ส่วนกรกชและคนที่เหลือ ต่างก็ใช้อาวุธในระยะประชิดกันทั้งหมด เลยได้อยู่ประจันหน้ากับพวกหมาป่ากันที่วงนอก
ฝ่ายผู้เล่นเพิ่งเตรียมการรับมือเสร็จไม่ทันเท่าไหร่ เสียงเห่าหอนของฝั่งสัตว์อสูรก็ดังถี่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ สร้างความตื่นเต้นให้กับกลุ่มผู้เล่นที่เฝ้ารออยู่ไม่น้อย เสียงลมพัดใบไม้ไหวดังแสกสาก พาให้ผู้เล่นบางคนเผลอเหลียวมองฝ่าความมืดรอบข้างออกไปอย่างหวาดระแวง
กรกชโคจรพลังธาตุไปทั่วร่างกายอย่างเตรียมพร้อม สายตาเฝ้าจับอย่างระวังระไวไปที่ราวป่าเบื้องหน้า ทางด้านข้างยังมีเมย์ ชัยและทัศน์ที่ยืนอยู่ โดยเว้นช่วงว่างเอาไว้ระดับหนึ่ง เผื่อเวลาต่อสู้ขึ้นมา จะได้ไม่ขัดแข้งขัดขากันเอง
เสียงเห่ากรรโชก ดูเหมือนจากที่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ในเวลานี้ต่างแยกออกไปหลายทิศทาง ทำให้ยากต่อการคาดเดาว่า ทางด้านไหนจะถูกบุกจู่โจมก่อน
ประกายจากดวงตาอำมหิตหลายคู่ค่อยๆ ทยอยปรากฏออกมาจากชายป่า มันใช้ฝีท้าวอันแผ่วเบาเดินวนไปรอบๆ แนวรับของกลุ่มผู้เล่นราวกับจะข่มขู่ให้หวาดกลัว ทำให้ผู้เล่นมีโอกาสมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน
รูปร่างสูงขนาดเท่าม้า เขี้ยวขาววาววับตัดกับขนสีดำสนิท มาพร้อมกับเล็บท้าวอันแหลมคม ทำให้ใครหลายคนเผลอกำอาวุธแน่นกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว เสียงหอนลากยาวอันทรงอำนาจเป็นเหตุให้เหล่าหมาป่าหยุดชะงักไปชั่วขณะ ระหว่างที่ฝ่ายมนุษย์คอยตั้งท่าดูเชิงอยู่อย่างแปลกใจ เหล่าหมาป่าที่หยุดนิ่งไปเมื่อครู่...ก็พุ่งวาบเข้าโจมตีในบัดดล!
กรกชมองดูฝูงสัตว์ร้ายที่พุ่งเข้ามาหาเขาและคนอื่นๆ อย่างตื่นเต้น เพราะตั้งแต่ชายหนุ่มเข้าเกมมา นี่คือสิ่งที่ถึงจะเรียกได้ว่า...เป็นการต่อสู้ของเขาอย่างแท้จริง
กรกชตั้งท่ายืนอย่างมั่นคงพลางฟันดาบออกไป โดยมีเป้าหมายที่ฝีข้างของหมาป่าตัวที่ใกล้ที่สุด มีหรือที่มันจะยอมให้ร่างของมันบาดเจ็บได้ง่ายๆ หมาป่าตัวนั้นย่อตัวลงจนท้องเกือบจะถึงพื้น ส่งผลให้ดาบของกรกชฟันโดนเพียงอากาศ
ระหว่างที่เขาเสียหลักจากการโจมตีพลาด หมาป่าก็ฉวยโอกาสดีดตัวพุ่งขึ้นโจมตีกรกชในระยะประชิด เห็นแน่ชัดว่าบริเวณหน้าท้องของชายหนุ่มคงต้องโดนคมเขี้ยวกัดกระชากจนฉีกขาด...ทว่าโชคดีเป็นของกรกช เพราะมีทวนยาวเล่มหนึ่งตวัดฟาดเข้าตัดคอของหมาป่าอย่างแม่นยำ ทำให้มันดิ้นพราดๆ ด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะทิ้งร่างลงกองกับพื้นสิ้นใจตายไป
“ระวังหน่อยสิพี่ หมาป่าพวกนี้มันเก่งใช่ย่อยนะ” ทัศน์เอ่ยเตือนพลางกระชากทวนกับไปป้องกันคมเขี้ยวของหมาป่าอีกตัวที่โจมตีเข้ามา
กรกชตั้งสติอีกครั้ง ชายหนุ่มฉวยโอกาสขณะที่ชัยกับทัศน์ตรึงหมาป่าส่วนใหญ่เอาไว้ เขาค่อยๆ โคจรพลังธาตุไปยังมือที่ถืออาวุธ ชายหนุ่มเคลื่อนพลังซึ่งอัดแน่นตรงบริเวณท่อนแขนขวาให้เข้าไปในดาบ เสี้ยววินาทีนั้น...คมอาวุธธรรมดาพลันบังเกิดประกายสายฟ้าสีส้มสดส่องสว่าง เป็นการบอกชายหนุ่มไปในทีว่า สิ่งที่เขาทำ...มันได้ผล!
กรกชไม่รอช้า ชายหนุ่มเลือกสับท้าวก้าวย่างเข้าหาหมาป่าตัวหนึ่ง ขณะที่มันกำลังจะพุ่งเข้าโจมตีชัยทางด้านหลัง ดาบในมือของเขาก็แทงปราดออกไปหมายกลางลำตัวของมัน
ด้วยสัญชาตญาณระวังภัยอันว่องไวของสัตว์ป่า ทำให้มันย่อท้าวเตรียมกระโจนหนีขึ้นสูงเพื่อหลบให้พ้นจากปลายคมดาบที่จ่อจี้เข้ามาใกล้ถึงตัว
การกระโจนขึ้นสูงเพื่อหลบวิถีการโจมตีของหมาป่าเป้าหมายไม่ทำให้กรกชแปลกใจแต่อย่างใด ชายหนุ่มคิดไว้แต่แรกแล้วว่า การโจมตีอันธรรมดาของเขา ยังไงมันจะต้องหลบได้เป็นแน่ ดังนั้นกรกชจึงพลิกข้อมือ เปลี่ยนจากแทงตรงเป็นฟันจากล่างขึ้นบน ตามด้วยโคจรพลังธาตุเข้าไปในท่าโจมตีให้มากกว่าเดิม
ประกายแสงสีส้มพุ่งวาบจนแสบตาปรากฎขึ้น พร้อมกับที่เสียงเปรี้ยงสนั่นหูดังตามมาติดๆ ส่งให้ร่างของสัตว์อสูรเคาะร้ายลอยขึ้นฟ้าสูงราวสามเมตร เลือดเนื้อตรงช่วงท้องของมันสาดกระจายพร่างพรมลงสู่เบื้องล่าง ทำให้ใครหลายคนที่กลัวเปื้อนกระโดดหลบกันจ้าละหวั่น
กรกชไม่แน่ใจว่ามันจะตายหรือไม่ ดังนั้นชายหนุ่มจึงลองผนึกพลังไปที่ท้าว ก่อนจะกระโดดขึ้นไปสวนทางกับร่างของหมาป่าที่กำลังตกลงมา เมื่อร่างของเขาอยู่สูงกว่าร่างของหมาป่า กรกชก็ยกท้าวหวดจนสุดแรง
ผัวะ! ตูม!
ร่างของหมาป่าร่วงดิ่งลงมาด้วยความเร็วสูง ก่อนจะตกกระแทกพื้นอย่างแรง แน่นิ่งไม่มีวันลุกขึ้นมาได้อีก
พอกรกชลงถึงพื้น เขาก็ยังเสียการทรงตัวอยู่บ้าง เพราะด้วยอะไรหลายๆ อย่าง เขาเพิ่งลองใช้สู้เป็นครั้งแรก ดังนั้น แค่การจักการกับหมาป่าตัวเดียว เขาเลยต้องใช้เวลามากกว่าคนอื่นๆ ไปหลายเท่าตัว
จากการกวาดสายตาดูไปรอบๆ ทำให้กรกชรู้ว่า ถึงแม้หมาป่าที่บุกเข้ามาจะเยอะเอาเรื่อง แต่ด้วยผู้เล่นส่วนใหญ่ค่อนข้างมีฝีมืออยู่มาก อีกทั้งหมาป่าพวกนี้ก็ไม่มีพลังธาตุในการโจมตี ดังนั้น ฝั่งที่ได้เปรียบจึงตกเป็นของฝ่ายมนุษย์อย่างเห็นได้ชัด
ถึงแม้จะรู้ว่าต่อให้เขาไม่ลงมือ จะอย่างไรทางผู้เล่นก็คงชนะ แต่กรกชมีหรือจะอยู่นิ่งเฉย สำหรับเขา การต่อสู้ในครั้งนี้คือการฝึกฝนที่ดีที่สุด ดังนั้นเขาจะไม่พลาดโอกาสงามๆ เช่นนี้เป็นแน่
ตระหนักได้ดังนั้น กรกชก็พุ่งเข้าโจมตีอสูรหมาป่าตัวต่อไป ระหว่างการปทะกับสัตว์อสูร เขาก็อาศัยช่วงเวลานี้ฝึกการควบคุมพลังของตัวเองไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการโคจรพลัง การผนึกพลังเฉพาะส่วนของร่างกาย รวมไปถึงการผนึกพลังลงอาวุธอีกด้วย
การเคลื่อนไหวของกรกชในทีแรกเต็มไปด้วยช่องโหว่และเกินความจำเป็น ทะว่าจากการปะทะกับอสูรหมาป่าตัวแล้วตัวเล่า มันช่วยให้เขารู้จักจุดอ่อนของตัวเอง...และนั่นนำไปสู่การแก้ไขในการเข้าปะทะครั้งถัดไป
ทั้งการเคลื่อนไหว ทั้งการออกดาบจู่โจม รวมถึงท่วงท่าการหลบหลีก จากเชื่องช้าเปลี่ยนเป็นรวดเร็ว จากสะเปะสะปะกลับเป็นระบบเฉียบคมมากขึ้น ถึงแม้จะยังไม่ถึงกับสมบูรณ์แบบมากนัก ทว่าก็ยังเป็นการพัฒนาไปอีกก้าวใหญ่ เพราะจะอย่างไร กรกชก็เพิ่งจะเข้ามาเล่นเกมนี้ได้เพียงไม่นาน ดังนั้นทำได้ขนาดนี้ ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว
กรกชฟาดดาบในมือขวาเข้าใส่โคนขาหน้าของหมาป่าตัวหนึ่งจนทรุดลง ขณะเอี้ยวตัวหลบอุ้มท้าวที่เต็มไปด้วยเล็บแหลมคมจากอีกตัว เวลาเดียวกันนั้น ด้านหลังของเขาก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ชายหนุ่มจึงยกท้าวถีดหมาป่าที่พัวพันเขาอยู่ให้กระเด็นออกห่าง ตามด้วยรีบฝืนพลิกตัวกลับไปดูตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาบาดเจ็บ ก่อนจะพบเข้ากับหมาป่าตัวที่ลอบโจมตี
บัดนี้ตัวของมันอยู่ห่างจากเขาไปไม่มาก ปากที่เต็มไปด้วยคมเขี้ยวอ้ากว้างอย่างมุ่งร้ายพร้อมจะขย้ำเอาเนื้อของเขาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป้าหมายของมันในครั้งนี้ไม่ใช่กลางหลังเหมือนดังครั้งเมื่อครู่...ทว่ารอบนี้เป้าหมายของมันคือลำคอของเขา!
ใครจะไปยอมถูกหมากัดตายง่ายๆ...เขาคนหนึ่งละที่จะไม่ยอม!
กรกชทิ้งฝักดาบในมือซ้ายลงพื้น ก่อนจะจับดาบด้วยสองมือชูขึ้นเหนือหัว แล้วฟันลงมาใส่ไอ้หมาลอบกัดที่หัวของมันอยู่ห่างจากเขาไม่เกินสองศอกอย่างสุดแรง
เปรี้ยง!
ทันการ...และได้ผล เพราะว่าก่อนที่ปากอันสกปรกของมันจะได้งาบคอเขาขาดครึ่งนั่นเอง กลางหลังของมันก็บังเกิดบาดแผลขนาดใหญ่ขึ้นเสียก่อน
ยังดีที่ดาบของเขาเร็วกว่าช่วงหนึ่ง จึงสามารถใช้คมดาบเรียกเอาเลือดจากมันได้ทัน ถ้าตัดสินใจช้ากว่านี้อีกนิด จุดจบคงมีสภาพไม่น่าดู
ชายหนุ่มไม่ปล่อยให้เสียจังหวะ เขาทำเพียงชำเลืองกลับหลังไปเล็กน้อย ก่อนจะดีดท้าวกลับหลังไป กระแทกถูกหมาป่าที่ฉวยโอกาสแอบเข้ามาโจมตีได้อย่างจัง ส่งให้มันกระเด็นไปชนเอาพวกเดียวกันล้มระเนระนาดอย่างไม่เป็นท่า
เสียงหอนลากยาวดังขึ้นจากภายในป่าอีกครั้ง ทำให้ทั้งหมาทั้งคมหยุดชะงักไปตามๆ กัน เหล่าหมาป่าต่างวิ่งผละออกจากคู่ต่อสู้ แล้วหันหลังวิ่งหายลับเข้าป่าไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ผู้เล่นหันมองหน้ากันด้วยความงงงันไม่เข้าใจ
“อะไรวะ นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป” ทัศน์บ่นอย่างเซ็งๆ ซึ่งคนอื่นๆ ก็มีอาการไม่ต่างกันสักเท่าไหร่
“จ่าฝูงของพวกมันคงเห็นว่าสู้เราไม่ได้ เลยยอมถอยทัพไปละมั้ง” กรกชเอ่ยพลางเดินไปเก็บฝักดาบขึ้นจากพื้น แล้วสอดดาบเก็บเอาไว้
“แต่ก็ยังแปลกอยู่ดี พวกมันเยอะกว่าเห็นๆ ถ้าสู้ต่อ ผลออกมาก็ยังไม่แน่ว่าเราจะเอาอยู่” ชัยที่ได้ยินบทสนทนาก่อนหน้าเอ่ยแสดงความคิดเห็น
“เมย์ว่ามันหนีไปก็ดีแล้ว ไม่งั้นไม่รู้ว่าจะต้องสู้ไปถึงเมื่อไหร่ เหนื่อยจะแย่” หญิงสาวพูด พลางพยายามจัดทรงผมที่ยุ่งเหยิงจากการต่อสู้ให้เข้าที่
“อืม...นั่นสินะ คิดไปก็ไม่รู้อะไรอยู่ดี” กรกชเอ่ยเป็นเชิงเห็นด้วย
“ทุกคนมีใครเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ?” พลอยที่เพิ่งเดินมาสมทบถามขึ้นอย่างเป็นห่วง เพราะเธออยู่ในวงล้อมคอยยิงธนูออกมาสังหารเพียงอย่างเดียว ดังนั้นจึงไม่ได้บาดเจ็บอะไร
“ก็มีบาดเจ็บนิดหน่อย แต่ก็ไม่เป็นอะไรมาก ไม่ต้องห่วง”
กรกชตอบ หลายคนพยักหน้าเห็นด้วย พลอยเห็นเช่นนั้นจึงสบายใจขึ้น
เมื่อเวลาผ่านไปพักหนึ่ง ฝ่ายผู้เล่นก็ยังไม่เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก ทุกสิ่งทุกอย่างกลับเข้าสู่ความปรกติอย่างที่ควรเป็น ถึงแม้จะมีคนส่วนหนึ่งยังคอยระวังกันอยู่อย่างไม่ประมาท แต่คนส่วนใหญ่ก็เริ่มจับกลุ่มพักผ่อนโอภาปราศรัยกันถึงเรื่องการต่อสู้ที่เพิ่งผ่านไปกันอย่างเฮฮา
กลุ่มของกรกชก็เป็นหนึ่งในคนส่วนน้อยนั้น เพราะหลังจากที่พูดคุยกันแล้ว ก็สรุปตรงกันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมันยังค่อนข้างวางใจยังไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องระวังกันไปก่อน
...ระหว่างที่บางคนเริ่มเผลอหลับเพราะความอ่อนล้า บางคนก็เริ่มเห็นว่าคืนนี้คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกแล้ว เพราะตอนนี้ก็เกือบจะล่วงเข้าตีสี่เข้าไปทุกที อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้า ควรจะพากันนอนหลับสักงีบ แล้วลุกขึ้นมาต้อนรับรุ่งอรุนวันใหม่ ไม่ว่าจะเป็นความคิดของใคร และแบบไหน ก็จำต้องหยุดคิดคำนึงอย่างกะทันหัน
...เพราะว่าท่ามกลางยามวิกาลลมหนาวเหน็บ เสียงหอนลากยาวทรงอำนาจพลันดังขึ้นอีกวาระหนึ่ง!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 1128
แสดงความคิดเห็น