บทที่ 152 หาเงินอย่างบ้าคลั่ง
บทที่ 152 หาเงินอย่างบ้าคลั่ง
จินปู้ฮวนไม่ได้สนใจเรื่องน้ำยาชนิดพิเศษ แต่ในตอนนี้เขาได้เดินตามลู่หยางขึ้นไปยังชั้น 3 เมื่อได้เห็นอุปกรณ์ปรุงยาชุดใหม่ดวงตาของเด็กหนุ่มก็เบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น
“อาจารย์ พวกนี้มันเป็นของระดับกลางเลยนะ พวกมันจะต้องแพงมากแน่ ๆ”
“ไม่เท่าไหร่หรอก แค่ 10 เหรียญทองเอง” ลู่หยางตอบ
เครื่องมือระดับกลางจะช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการปรุงยาสูงกว่าเครื่องมือที่มีให้ภายในสมาคม 3% และถึงแม้ว่ามันจะเป็นตัวเลขที่ดูน้อยมาก แต่สำหรับนักปรุงยาตัวเลขนี้ถือว่าช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จได้มากพอสมควร
“โคตรแพง” จินปู้ฮวนคิดภายในใจ เพราะเงินทั้งเนื้อทั้งตัวของเขายังมีไม่ถึง 10 เหรียญเงินด้วยซ้ำ
ลู่หยางหยิบเงิน 20 เหรียญทองออกมายื่นให้จินปู้ฮวนพร้อมกับพูดว่า
“ฉันจะให้เงินพวกนี้เอาไว้เป็นเงินทุนสำหรับการซื้อสมุนไพร, จ่ายเงินเดือนนักปรุงยาและการบริหารเกี่ยวกับการขายยาทั้งหมด ฉันจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการบริหารงานร้านปรุงยาของนาย หลังจากนี้ร้านจะเติบโตได้แค่ไหนมันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของนายแล้ว”
จินปู้ฮวนมองลู่หยางอย่างซาบซึ้งเพราะเขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะไว้ใจเขามากขนาดนี้
“อาจารย์ไว้ใจได้ ผมจะทำให้ร้านขายยานี้กลายเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในเซิร์ฟเวอร์”
“ฉันเชื่อใจนายนะ” ลู่หยางกล่าวและเนื่องมาจากจินปู้ฮวนมีนักปรุงยาชั้นยอดมาทำงานให้อย่างมากมาย เขาจึงมีความมั่นใจว่าธุรกิจขายยาจะต้องดีกว่าเดิมขึ้นไปเรื่อย ๆ แน่นอน
เด็กหนุ่มพยักหน้ารับอย่างแรง ก่อนที่เขาจะขมวดคิ้วแล้วพูดว่า
“อาจารย์ แล้วเราจะทำยังไงกับเรื่องวัตถุดิบยาต้านพิษดีล่ะครับ ถ้าฉือมู่รู้เรื่องนี้เข้าเขาคงจะขึ้นราคาสมุนไพรแน่ ๆ”
“ไม่ต้องห่วง หลังจากนี้นายก็แค่ให้ลูกน้องของนายเอาน้ำยาต้านพิษไปขายแทน พวกเขาเซ็นสัญญาผูกมัดกับพวกเราเอาไว้แล้ว พวกเขาย่อมไม่กล้าเปิดเผยข้อมูลออกไปหรอก อีกอย่างยาต้านพิษทำเงินให้กับพวกเขาได้ขนาดนั้นแล้วพวกเขาจะทรยศพวกเราไปทำไม” ลู่หยางกล่าว
“ครับอาจารย์” จินปู้ฮวนกล่าว
“ส่วนเรื่องปัญหาวัตถุดิบ อีกสักพักฉันจะตั้งกิลด์แล้วว่าจ้างผู้เล่นมืออาชีพมาปลูกสมุนไพร ถ้าเรื่องทุกอย่างเป็นไปตามแผนฉันก็จะสามารถส่งวัตถุดิบให้นายผลิตน้ำยาได้วันละ 3,000 ขวด” ลู่หยางกล่าว
ในเกมเซคคัลเวิลด์หลังจากที่ผู้เล่นทำการก่อตั้งกิลด์แล้วพวกเขาก็สามารถที่จะเปิดพื้นที่กิลด์ของตัวเองขึ้นมาได้ ซึ่งในพื้นที่นี้ผู้เล่นก็สามารถที่จะเลือกทำการเกษตร, ปศุสัตว์หรือระบบไลฟ์สไตล์ใด ๆ ก็ได้ซึ่งมีให้เลือกสรรอยู่อย่างมากมาย
“มันมีระบบแบบนี้ด้วยเหรอครับเนี่ย? ดีจังเลยถ้ามันมีสมุนไพรสำหรับยาต้านพิษวันละ 3,000 ขวดจริง ๆ แบบนี้มันก็หมายความว่าพวกเราจะได้รับกำไรกลับมาวันละเกือบ ๆ 150 เหรียญทอง” จินปู้ฮวนกล่าวอย่างดีใจ
ลู่หยางทำได้เพียงแต่เผยรอยยิ้มออกมาอย่างขมขื่นภายในใจ เพราะถึงแม้เงินที่เขาหาได้ในตอนนี้จะดูเยอะมาก แต่หลังจากเกมเปิดระบบแลกเปลี่ยน มันก็จะกลายเป็นเงินเล็กน้อยในทันที เพราะถ้าหากเขาจำไม่ผิดชาติก่อนฉือมู่ก็ทำการแลกเงินเข้าในเกมตั้งแต่วันแรกถึง 200,000 เหรียญทองเลยทีเดียว
แม้กระทั่งบลัดไทแรนท์หรือฉงป้าก็ยังแลกเงินเข้ามามากกว่า 100,000 เหรียญทอง เมื่อเวลาล่วงเลยไปจนถึงตอนนั้นที่ดิน, ข้อมูลและทุกอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อกิลด์ภายในเกมจะถูกซื้อขายกันอย่างคล่องมือ
ด้วยระบบแลกเปลี่ยนเงินตราที่จะเข้ามาภายในเกมภายในระยะเวลาอันสั้นนี่เอง ลู่หยางจึงรู้ตัวดีว่าหากเขาต้องการจะตั้งกิลด์มันก็จำเป็นจะต้องมีเงินทุนที่มากพอ
“เรื่องพวกนั้นเอาไว้ก่อน ตอนนี้ฉันมีวิธีที่จะทำให้นายหลุดพ้นจากความสงสัยของฉือมู่ได้อย่างรวดเร็ว” ลู่หยางกล่าว
“วิธีอะไรครับ?” จินปู้ฮวนถาม
“อันดับแรกนายเอาสมุนไพรที่เหลือจากเมื่อวานทิ้งเอาไว้ แล้วไปขอซื้อวัตถุดิบจากฉือมู่ใหม่ พยายามซื้อมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วเดี๋ยวฉันจะสอนนายเองว่าจะต้องทำยังไงต่อไป” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เมื่อจินปู้ฮวนได้ยินว่าเขาจะได้เรียนรู้วิธีการใหม่ เขาจึงรีบไปหาฉือมู่ในทันที ซึ่งในช่วงเวลานี้ลู่หยางก็ได้ใช้สมุนไพรทั้ง 600 ชุดที่จินปู้ฮวนทิ้งไว้มาปรุงยา
หม้อปรุงยาระดับกลางมีความจุมากกว่าหม้อปรุงยาขั้นต้น 20 ช่อง ซึ่งหลังจากที่เขาปรุงยาไปได้มากกว่า 10 ครั้ง จินปู้ฮวนก็กลับมาพร้อมกับรถเข็นสมุนไพรจำนวนมาก
“อาจารย์ ผมได้สมุนไพรกลับมา 6,000 ชุดครับ” จินปู้ฮวนกล่าวจากด้านล่างของอาคาร
“ดีมาก รีบขึ้นมาได้เลย นายอยากจะเรียนรู้วิธีการปรุงยาครั้งละเยอะ ๆ ไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวคราวนี้ฉันจะเป็นคนสอนนายเอง” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ครั้งก่อนจินปู้ฮวนเคยเห็นลู่หยางปรุงน้ำยาครั้งละ 30 ขวด มันจึงทำให้เขาอยากจะเรียนรู้เทคนิคนี้บ้าง แต่ตอนนั้นอัตราความสำเร็จในการปรุงน้ำยาต้านพิษของเขายังต่ำเกินไป เด็กหนุ่มจึงจำเป็นจะต้องระงับความคิดของตัวเองเอาไว้ก่อน
“มาแล้วครับ” จินปู้ฮวนกล่าวหลังจากขนสมุนไพร 1,000 ชุดขึ้นมายังชั้นบน
ระหว่างนี้ลู่หยางก็ปรุงน้ำยาชุดใหม่เสร็จพอดี เขาจึงหันมาพูดกับจินปู้ฮวนว่า
“ช่วงที่นายไปซื้อสมุนไพร 50 นาที ฉันปรุงยาต้านพิษได้ 500 ขวดแล้ว หลังจากรออีก 10 นาทีฉันก็จะได้ยาต้านพิษเพิ่มขึ้นมาอีก 100 ขวด ด้วยความเร็วในการปรุงยาต้านพิษสูงมากขนาดนี้ ฉือมู่ก็ไม่มีทางคิดว่านายเป็นคนทำน้ำยาออกมาขายแน่ ๆ”
ฉือมู่มีนักปรุงยาภายในสังกัดของตัวเองด้วยเช่นกัน และถ้าหากเขาคิดคำนวณตามศักยภาพของนักปรุงยาที่เขารู้จัก ชายชราก็ไม่มีทางคิดว่าจินปู้ฮวนจะปรุงน้ำยาได้เร็วขนาดนี้
“จริงด้วย! มันมีวิธีแบบนี้ด้วยนี่นา” จินปู้ฮวนกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
ลู่หยางเทสมุนไพรทั้งสามชนิดลงในหม้อปรุงยา ก่อนที่จะหันมาพูดกับเด็กหนุ่มว่า
“ดูให้ดี ๆ ฉันจะสอนนายแค่ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นนายจะต้องพึ่งพาความสามารถของตัวเอง”
จินปู้ฮวนเริ่มเปิดใช้งานฟังก์ชั่นบันทึกภาพ จากนั้นเขาก็ตั้งใจเรียนอย่างจริงจัง
การปรุงยาเป็นจำนวนมากไม่ต่างไปจากการปรุงยาทีละขวดมากนัก เพียงแต่มันจำเป็นจะต้องใช้ทักษะการควบคุมที่สูงกว่าเดิม
หลังจากเรียนรู้ไปได้ครึ่งชั่วโมงจินปู้ฮวนก็ทดลองใช้หม้อปรุงยาอีกใบในการปรุงยาด้วยตัวเอง ซึ่งในคราวนี้เขาพยายามปรุงยาต้านพิษครั้งละ 50 ขวดเหมือนกับลู่หยาง
ความพยายาม 3 ครั้งแรกต่างก็ล้มเหลวทั้งหมด แต่ในครั้งที่ 4 เด็กหนุ่มเริ่มจะจับจุดสำคัญได้และสามารถปรุงยาต้านพิษสำเร็จทั้ง 50 ขวด
“อาจารย์ ผมทำได้แล้ว!” จินปู้ฮวนกล่าวอย่างตื่นเต้น
“นายมันเป็นอัจฉริยะทางด้านการปรุงยาจริง ๆ” ลู่หยางพูดชม
“อาจารย์ ผมสามารถสอนเทคนิคนี้ให้กับนักปรุงยาคนอื่นที่ทำสัญญากับร้านเราได้ไหมครับ?” จินปู้ฮวนถามพร้อมกับเกาหัวอย่างเขินอาย
“สอนได้สิ ยิ่งพวกเขาปรุงยาได้มากเท่าไหร่พวกเราก็จะยิ่งได้กำไรมากขึ้นเท่านั้น” ลู่หยางตอบ
เทคนิคที่เขาสอนเป็นเพียงแค่เทคนิคพื้นฐานสำหรับการปรุงยาในชาติก่อนเท่านั้น นอกจากนี้ไม่ว่าคนคนหนึ่งจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ในท้ายที่สุดความแข็งแกร่งมันก็จะเริ่มพัฒนาเข้าสู่ทางตัน แต่ถ้าหากผู้เล่นมีเพื่อนพ้องที่ยืนอยู่ข้างกาย มันก็จะช่วยให้ความแข็งแกร่งโดยรวมเพิ่มพูนได้สูงกว่าเดิม
—
ห้องโถงชั่วคราวของกิลด์เพอร์เพิลโกลด์เดสตินี่
ฉือมู่กำลังมองคลังสมุนไพรที่ถูกกว้านซื้อไปอย่างครุ่นคิด
“หัวหน้ากำลังคิดอะไรอยู่ครับ?” ชิงเฟิงถาม
ฉือมู่ยังคงนิ่งคิดไม่พูดอะไร ลั่วซืออวี่ที่อยู่ใกล้ ๆ จึงตอบแทนขึ้นมาว่า
“หัวหน้าน่าจะคิดเรื่องจินปู้ฮวนอยู่มั้ง ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเจ้าเด็กนี่เป็นลูกน้องของลู่หยางก็ไม่รู้”
ชายชราหันไปมองทางลั่วซืออวี่ ก่อนที่เขาจะพูดด้วยแววตาอันคมกริบ
“ไหนพูดต่อสิ”
“เขาเป็นคนที่ลู่หยางแนะนำมา ตอนที่เราไปสืบประวัติก็พบว่าเขาเป็นนักปรุงยาที่ถูกกิลด์บลัดเติสตี้ทิ้งขว้างไปแล้ว แต่จู่ ๆ เขากลับกลายเป็นเศรษฐีมาซื้อสมุนไพรเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะมองยังไงเรื่องนี้มันก็ดูแปลกมากเกินไป”
ลางสังหรณ์ผู้หญิงมันน่ากลัวจริง ๆ นะ เพราะฉะนั้นนักอ่านทุกคนจงระวังตัวไว้ให้ดี!
มีครั้งหนึ่งเราเคยแอบไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อน อยู่ ๆ แม่โทรมาหาเฉยเลย น่ากลัวสุด ๆ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 69
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น