บทที่ 147 ราชาอสรพิษสามหัว
บทที่ 147 ราชาอสรพิษสามหัว
หลังจากได้เห็นการแจ้งเตือนจากระบบมาเป็นชุด พวกฉิงชางที่ยืนดูลู่หยางอยู่ด้านหลังต่างก็รู้สึกคันไม้คันมือ ท้ายที่สุดในฐานะผู้ที่ชอบวงการ PK เมื่อพวกเขาเห็นใครเก่งกว่า ความคิดแรกที่ปรากฏขึ้นมาก็คือพวกเขาจะสามารถเอาชนะคนคนนี้ได้ยังไง
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาได้เห็นกลยุทธ์ที่ลู่หยางใช้ มันก็ไม่มีใครคิดออกเลยว่าพวกเขาจะต้องจัดการกับอีกฝ่ายด้วยวิธีการไหนกันแน่
“หัวหน้าโคตรเก่งเลย!” ซุนหยูตะโกนเสียงดัง
“พวกนายรออยู่ตรงนี้แหละ ข้างหน้ายังมีงูสองหัวอยู่อีกหกฝูง หลังจากเคลียร์งูพวกนี้ได้หมดก็ถึงบอสแล้ว” ลู่หยางกล่าว
ชายหนุ่มเริ่มทำการปล่อยไฟร์วอลล์ลงบนพื้นอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะขว้างมีดหลบหนีและเทเลพอร์ตไปด้านหน้า
“นายพอจะคิดออกไหมว่าจะสู้กับทะเลเพลิงกับสกิลเทเลพอร์ตของหัวหน้าได้ยังไง?” เหมาชิวถาม
ฉิงชางส่ายหน้าพร้อมกับตอบว่า
“ถ้าฉันไม่ได้เรียนสกิลเมจิกอิมมูนมาก่อน ฉันไม่มีทางรับมือหัวหน้าได้แน่ ๆ บางทีถึงจะเรียนรู้สกิลมาแล้วแต่คอมโบสกิลของหัวหน้าก็คงจะฆ่าฉันได้ก่อนจะทันได้ตั้งตัว”
“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน นอกจากคนที่โจมตีระยะไกลได้มันคงจะไม่มีใครสู้หัวหน้าได้อีกแล้ว” เครซี่เบลดกล่าวอย่างเห็นด้วย
“เบลซซิงเบิร์สของหัวหน้าเร็วเท่า ๆ กับการยิงธนูของฉันเลย ถ้าให้ต้องเผชิญหน้ากับหัวหน้าจริง ๆ ฉันก็คิดว่าคงสู้กับหัวหน้าไม่ไหวเหมือนกัน” ซุนหยูกล่าวพร้อมกับเกาหัวโดยมีเหมาชิวพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ฉันก็ไม่ไหวเหมือนกัน ถึงจะเรียนรู้วิธีการย่อเวทมาแล้ว แต่เลเวลของฉันก็ยังต่ำกว่าหัวหน้ามากเกินไป แค่เขาเทเลพอร์ตมาใช้สกิลรีซิสท์ไฟร์ริงกระแทกออกไปตามด้วยการยิงเบลซซิงเบิร์สออกมาอีกสองครั้ง แค่นั้นมันก็มากพอที่จะทำให้ฉันตายแล้ว” ไนท์มูนกล่าว
“ยิ่งถ้าหัวหน้าใช้เฟลมสตอมป์กับเฟลมเบิร์ดออกมาด้วยนะ ถึงแม้พวกเราทั้งหกคนจะร่วมมือกันแต่มันก็อาจจะยังสู้หัวหน้าคนเดียวไม่ได้เลย” เหมาชิวกล่าวอย่างท้อใจ
ไนท์มูนกับเอ็ม 16 ต่างก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกัน เพราะด้วยความแข็งแกร่งที่ลู่หยางแสดงออกมา มันก็ทำให้ความมั่นใจของพวกเขาถูกกระทบกระเทือนไปไม่น้อย
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ต้องฝึกซ้อมให้หนักขึ้น การมีเป้าหมายที่เก่งกาจอยู่ตรงหน้ามันก็จะช่วยเร่งให้พวกเราพัฒนาฝีมือได้เร็วขึ้นไม่ใช่เหรอ หากเราพยายามมากพอสักวันหนึ่งพวกเราก็อาจจะเผชิญหน้าแบบ 1 ต่อ 1 กับหัวหน้าได้ก็ได้” ฉิงชางกล่าวด้วยความฮึกเหิม
“พวกนายคุยอะไรกัน?” ลู่หยางถามขณะลากฝูงงูสองหัวกลับมาพอดี
“พวกเรากำลังหารือกันว่าจะเอาชนะหัวหน้าได้ยังไง” ฉิงชางตอบ
ลู่หยางทำได้เพียงส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ และเขาก็รู้ว่าความสามารถที่เพิ่งแสดงออกไปเมื่อสักครู่คงจะได้ไปจุดประกายเปลวไฟแห่งการต่อสู้ภายในตัวพวกฉิงชางขึ้นมาแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นพวกนายก็ต้องพยายามมากกว่านี้หน่อย ฉันไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ใครมาตามทันง่าย ๆ หรอกนะ” ลู่หยางกล่าวและเมื่อเขาเห็นงูสองหัวเข้ามาในระยะ ร่างของนักเวทหนุ่มก็กลายเป็นแสงสีขาวไปปรากฏตัวที่อีกฝั่งของทะเลเพลิง ฝูงงูสองหัวจึงวิ่งกลับเข้าไปในกองเพลิงอีกครั้งจนพวกมันถูกแผดเผาจนตายทั้งหมด
“ทุกคนช่วยกันเก็บของ อีกเดี๋ยวพวกเราจะไปสู้บอสกัน” ลู่หยางกล่าว
บนพื้นมีอุปกรณ์ระดับทองแดงของนักบวชหล่นลงมาหนึ่งชิ้น ลู่หยางจึงทำการส่งมันไปให้กับไนท์มูน
หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มเดินทางต่อจนในที่สุดพวกเขาก็ได้เห็นราชาอสรพิษน้ำเงินสองหัวที่มีความสูงมากกว่า 3 เมตร
ราชาอสรพิษน้ำเงินสองหัว (บอส)
เลเวล 18
พลังชีวิต 180,400/180,400
“ดูเหมือนมันจะสู้ง่ายกว่าราชางูเหลือมตัวแรกอยู่นะ” เหมาชิวกล่าว
“อืม” ลู่หยางตอบรับ
เหมาชิวทำได้เพียงแต่กระพริบตาปริบ ๆ เพราะเขาแค่มองจากขนาดร่างกายเลยรู้สึกว่าราชางูสองหัวที่ตัวเล็กกว่าน่าจะจัดการได้ง่ายกว่าราชางูเหลือม แต่ราชางูสองหัวคือบอสตัวที่ 2 ของดันเจียน ดังนั้นหากวัดกันตามตรรกะแล้วบอสตัวนี้ก็สมควรจะต้องสู้ได้ยากกว่าบอสตัวแรก
“หัวหน้า คุณไม่ได้กำลังหลอกผมอยู่ใช่ไหม?” เหมาชิวกล่าว
“ฉันจะไปหลอกนายทำไม เหตุผลที่บอสตัวนี้สู้ได้ง่ายกว่าก็เพราะพิษของมันนั่นแหละ พิษของราชางูสองหัวเป็นพิษแบบสเปรย์รอบตัวที่สามารถสร้างความเสียหายได้ 70 หน่วยต่อวินาที แต่พวกเรามียาต้านพิษที่สามารถลดความเสียหายจากพิษได้ 50 หน่วย มันจึงเหลือค่าความเสียหายจากพิษเพียงแค่ 20 หน่วยต่อวินาทีเท่านั้น ส่วนที่เหลือมันก็ไม่มีอะไรยากอีกแล้ว” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
“แบบนี้มันก็จัดการได้ง่าย ๆ เลยสิ” ฉิงชางกล่าว
“มันมีดีเพียงแค่พิษเท่านั้นแหละ ถ้าพิษใช้ไม่ได้มันก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร ฉิงชางไปล่อมันมาได้แล้วหลังจากจัดการมันเสร็จพวกเราจะได้ไปหาบอสตัวสุดท้ายกัน” ลู่หยางกล่าว
“ครับ” ฉิงชางรับคำก่อนที่เขาจะแบกโล่ขนาดใหญ่พุ่งไปหาราชางูสองหัว
บอสใช้หัวข้างหนึ่งพุ่งฉกกัดเข้าใส่ฉิงชาง ขณะที่อีกหัวชูขึ้นฟ้าและปล่อยหมอกพิษสีเขียวออกมา
เมื่อลู่หยางเห็นฉิงชางเริ่มได้รับความเสียหายจากพิษ เขาจึงเริ่มสร้างกำแพงไฟใต้ร่างของบอสพร้อมกับใช้สกิลคอมบัสชันออกไปอีกห้าครั้ง
“ไนท์มูนโฟกัสการฮีลไปที่ฉิงชางคนเดียวก็พอ เดี๋ยวส่วนที่เหลือฉันจะเป็นคนจัดการเอง” ลู่หยางสั่ง
“นี่คุณฮีลได้ด้วยเหรอ?” เหมาชิวถาม
“ได้สิ” ลู่หยางตอบ
ไนท์มูนเต็มไปด้วยความสับสน ซึ่งในตอนแรกเขาก็ค่อนข้างจะกังวลเรื่องการรักษาพลังชีวิตของเพื่อนร่วมทีมอยู่บ้าง แต่เมื่อลู่หยางพูดออกมาแบบนี้เขาจึงโฟกัสการฮีลไปที่ฉิงชางอย่างเต็มที่ ซึ่งมันก็จะช่วยลดข้อผิดพลาดจังหวะในการใช้สกิลลง
ความจริงแล้วการฮีลก็จำเป็นจะต้องใช้ทักษะมากพอสมควร เพราะนักบวชที่เก่งกาจไม่ใช่สักแต่จะใช้สกิลฮีลออกไปเมื่อพลังชีวิตของเป้าหมายลดลง หลักการพื้นฐานของนักบวชคือต้องเข้าใจจังหวะในการฮีล เพราะหากการฮีลเกิดขึ้นในจังหวะที่ผิดพลาดมันก็อาจจะทำให้เป้าหมายเสียชีวิตได้เลย
ลู่หยางสร้างความเสียหายพร้อมกับคอยสังเกตพลังชีวิตของทุกคนไปด้วย เมื่อเห็นพลังชีวิตของซุนหยูลดลงเหลือ 1 ใน 5 เขาก็ใช้สกิลฮีลออกมา 5 ครั้งติดต่อกันเพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตของทุกคนให้กลับมาจนเต็ม
ฉิงชางสามารถดึงบอสเอาไว้ได้อย่างมั่นคง เพราะในปัจจุบันเขาเลเวล 11 แล้วเมื่อมันประกอบกับการมีโฮลี่ไลท์ที่ทำให้สกิลเซคคริฟายเพิ่มขึ้นเป็นเลเวล 3 แม้ลู่หยางจะสร้างความเสียหายแบบติดคริติคอลขึ้นมาหลายครั้ง แต่ราชางูสองหัวก็ไม่มีทีท่าว่าจะเปลี่ยนเป้าหมายเลย
3 นาทีผ่านไปราชางูสองหัวก็ถูกฆ่าลงไปในที่สุด ซึ่งอุปกรณ์ที่มันดรอปลงมาในคราวนี้นั่นก็คือชุดเกราะของโจร 1 ชิ้น
เซอร์เพนไทด์อาเมอร์ (ระดับเหล็ก)
ประเภท เกราะหนัง
เลเวล 8
พลังป้องกัน 5-9
พลังกาย +6
ความอดทน +2
พลังโจมตี +11
“ของดีเลยนะเนี่ย” ลู่หยางถ่ายภาพชุดเกราะเก็บไว้เขียนคู่มือ ก่อนจะส่งเกราะชิ้นนี้ให้กับเครซี่เบลด
ท้ายที่สุดเขาก็ไม่เชื่อว่าจะไม่มีใครอยากได้อุปกรณ์ดี ๆ การเอารูปอุปกรณ์พวกนี้ออกไปอวดมันก็จะทำให้ทุกคนอยากเข้ามาหาอุปกรณ์ในดันเจียนมากขึ้น
“พวกเราไปต่อกันเถอะ เหลือบอสอีกแค่ตัวเดียวแล้ว” ลู่หยางกล่าวหลังจากนั่งพักฟื้นมาสักพัก
ทุกคนเดินไปตามเส้นทางซึ่งมีอสรพิษฟ้า 6 ตัวขวางทางอยู่ ลู่หยางจึงใช้วิธีการเดิมในการกำจัดมอนสเตอร์ตามรายทาง ซึ่งหลังจากกำจัดพวกมอนสเตอร์ได้เพียงแค่ไม่กี่ฝูง ในที่สุดเขาก็นำทีมมาจนเจอบอสตัวสุดท้าย
ราชาอสรพิษสามหัว (บอส)
เลเวล 20
พลังชีวิต 200,400/200,400
“บอสมันมีสามหัวเลยเหรอเนี่ย?! แถมหัวแต่ละหัวยังมีสีไม่เหมือนกันอีก” เหมาชิวอุทาน
ราชาอสรพิษสามหัวก็มีหัวสามหัวเหมือนกับชื่อของมัน โดยหัวตรงกลางคือหัวสีดำที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ส่วนหัวที่เหลืออีกสองหัวคือหัวสีเขียวกับหัวสีฟ้าที่มีขนาดรองลงมา
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 49
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น