บทที่ 189: รู้สึกแปลก ๆ ที่นางเชื่อฟัง

-A A +A

บทที่ 189: รู้สึกแปลก ๆ ที่นางเชื่อฟัง

เมืองชายแดนไม่ได้เจริญรุ่งเรืองเท่ากับเมืองชิงหยาง เนื่องจากมันตั้งอยู่บริเวณชายแดนระหว่างทั้ง 2 แคว้น และแคว้นหนานซวนก็ได้เข้ามารุกรานหลายครั้ง

ทั่วทั้งเมืองมีโรงเตี๊ยมเพียงแห่งเดียว มิหนำซ้ำสภาพก็ยังแย่มากอีกด้วย

ทันทีที่เซียวถังอี้กับมู่ไป๋ไป่เดินเข้าไปในประตู คิ้วของทั้ง 2 ก็ขมวดเข้าหากัน

หากต้องอยู่ในโรงเตี๊ยมที่มีสภาพซอมซ่อเช่นนี้ เขาเองก็ยังรู้สึกทนไม่ไหว แล้วเจ้าตัวเล็กนี่ล่ะ ถ้านางไม่ชอบนางคงร้องไห้อีกครั้ง

เมื่อเด็กหนุ่มนึกถึงตอนที่เด็กน้อยร้องไห้ คิ้วรูปกระบี่ก็ขมวดแน่นขึ้น

 “มีอะไรหรือ?” มู่ไป๋ไป่เดินเข้าไปที่ประตูและเห็นว่าเซียวถังอี้ไม่ยอมขยับสักที เธอจึงกระตุกชายเสื้ออีกฝ่ายพลางถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ท่านลืมเอาเงินมาหรือไม่? ไม่เป็นไรหรอก ข้ามีเงิน” 

หลังจากพูดเช่นนั้นเธอก็หยิบเงินก้อนเล็ก ๆ ออกมาให้อีกคนดู

 “...” 

 “แขกทั้ง 2 ตามหาห้องพักอยู่หรือไม่?” เถ้าแก่โรงเตี๊ยมที่หลับอยู่บนโต๊ะต้อนรับได้ยินการเคลื่อนไหวจึงออกมาต้อนรับพวกเขาอย่างกระตือรือร้น

เมื่อเถ้าแก่เห็นการแต่งกายของเซียวถังอี้กับมู่ไป๋ไป่ ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย “แขกทั้ง 2 ต้องการห้องพักใช่หรือไม่ขอรับ? ช่างบังเอิญจริง ๆ ที่ห้องชั้นบนสุดของโรงเตี๊ยมเรายังว่างอยู่ หากพวกท่านต้องการห้องที่เล็กกว่านั้นก็สามารถแจ้งเราได้เช่นกัน เราจะรีบจัดการให้พวกท่านทันที” 

 “ไปจัดการห้องพักให้เราด้วย” มู่ไป๋ไป่เอ่ยเสียงหวาน “และทำความสะอาดห้องที่ดีที่สุดทั้งหมดที่นี่ เราจะมีคนตามมาอีก” 

 “แล้วก็เตรียมอาหารจานร้อนอีก 1 โต๊ะ” 

 “เซียวเซียว ไปเอาชาที่พี่ใหญ่ชอบดื่มออกมาจากกระเป๋าข้า แล้วให้เถ้าแก่ไปชงมาให้เรา” 

หลัวเซียวเซียวตอบรับ จากนั้นก็เดินไปเอาห่อชาแล้วเข้าไปหาเถ้าแก่โรงเตี๊ยมพร้อมกับห่อชา ทางด้านเถ้าแก่เองก็นำทางนางไปยังห้องครัว

นี่เป็นครั้งแรกที่เถ้าแก่รับคำสั่งจากเด็กน้อย แต่เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มคนนั้นไม่ได้พูดอะไร เขาก็รู้ว่าเด็กหญิงมีอำนาจในการตัดสินใจ ดังนั้นเขาจึงตอบตกลงอย่างมีความสุข

 “เจ้าไม่ชอบโรงเตี๊ยมนี้หรือ?” หลังจากที่เถ้าแก่เดินออกไปแล้ว เซียวถังอี้ก็ลดสายตาลงมองคนตัวเล็กที่อยู่ด้านข้าง

 “หา?” มู่ไป๋ไป่ทำหน้าสับสน “ทำไมข้าถึงต้องไม่ชอบมันด้วยล่ะ ในเมื่อเราเดินทางไกลเช่นนี้ เราเลือกที่อยู่ที่กินได้ไม่มากนักหรอก” 

เธอจำได้ว่าชีวิตเมื่อชาติก่อนตอนที่เธอเดินทางไกลกับแม่ที่ชอบของราคาถูก เธอยังได้พักในหอพักราคา 50 หยวนต่อคืนด้วยซ้ำ

เธอที่ผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาคงไม่มีอะไรให้ต้องเสียอีกแล้ว

แล้วเธอก็รู้ด้วยว่าเมืองชายแดนเป็นสถานที่เช่นไร

เซียวถังอี้มองมู่ไป๋ไป่แล้วพูดว่า “เจ้าเป็นเด็กที่รู้ความดีทีเดียว” 

หลังจากกล่าวจบเขาก็เดินเข้าไปในโรงเตี๊ยม

 “หืม? ท่านหมายความว่าอย่างไร!” เด็กหญิงใช้ขาป้อมสั้นรีบก้าวตามอีกฝ่ายไป “ข้ารู้ความแล้วอย่างไร?” 

ภายในจวนแม่ทัพ

ปัจจุบันเหล่าองครักษ์เงาได้เคลื่อนย้ายศพทั้งหมดไปไว้ที่ลานหน้าบ้าน

 “นายท่าน ที่นี่มีผู้ตายทั้งหมด 32 ศพขอรับ” องครักษ์เงาที่ติดตามมู่จวินฝานมาหลายปีแล้ว พวกเขาเคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรู้สึกขยะแขยงกับเลือดที่อยู่ตรงหน้า “ทั่วร่างของผู้ตายเหมือนกันหมดก็คือมีรอยฟันอยู่ทั่วตัว” 

 “สาเหตุของการเสียชีวิตคือการเสียเลือดมากเกินไป” 

รอยฟัน… เสียเลือดมากเกินไป…

มู่จวินฝานนึกถึงสัตว์ประหลาดในจวนตระกูลจินขึ้นมาทันที คนพวกนั้นถูกพิษแมลงกู่ จากนั้นก็บ้าคลั่งโจมตีผู้คนไม่เลือกหน้า

 “นายท่าน คนพวกนี้ถูกคนที่ติดพิษแมลงกู่กัดจนตาย” องครักษ์เงาเองก็คิดถึงสถานการณ์เดียวกันกับผู้เป็นนาย “ก่อนหน้านี้หมอเทวดาเจียงได้บอกไว้ว่าคนที่ถูกกัดก็จะติดพิษเช่นกัน” 

 “บนร่างกายของศพพวกนี้อาจจะมีพิษหลงเหลืออยู่” 

 “เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน เราควรจุดไฟเผาศพทั้งหมดดีหรือไม่ขอรับ?” 

มู่จวินฝานคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหัว “รอก่อน รอจนกว่าจวินเซิ่งจะกลับมา” 

ท้ายที่สุดแล้ว คนตายพวกนี้ก็เป็นคนรับใช้ในจวนแม่ทัพ หากแม่ทัพจ้าวไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ แล้วเขาเผาศพไปเช่นนี้มันอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดในภายหลังขึ้นได้

แต่ถ้าแม่ทัพจ้าวรู้เรื่องดังกล่าว ศพพวกนี้ก็สามารถใช้เป็นหลักฐานได้เช่นกัน

ดังนั้นไม่ว่าจะอย่างไร พวกเขาจะเผาศพไปตอนนี้ไม่ได้

เราต้องรอจนกว่ามู่จวินเซิ่งจะนำข่าวเกี่ยวกับแม่ทัพจ้าวจากค่ายทหารกลับมาก่อน

 “ขอรับ” องครักษ์เงาไม่รู้ว่าผู้เป็นนายคิดอะไรอยู่ แต่เขาก็ยอมรับคำสั่งโดยไม่เอ่ยปากถามสิ่งใดเพิ่มเติม 

 “อย่างไรก็ตาม” มู่จวินฝานนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ในนี้นอกจากคนรับใช้แล้ว มีสมาชิกในครอบครัวของแม่ทัพจ้าวหรือไม่?” 

เท่าที่เขารู้ แม้ว่าแม่ทัพจ้าวจะไม่มีทายาท แต่เขายังมีภรรยาและอนุ 2 คน 

 “ไม่มีขอรับ” องครักษ์เงาส่ายหัวตอบ “คนของเราได้ตรวจค้นจวนแม่ทัพทุกซอกทุกมุมแล้ว ไม่มีใครต้องสงสัยว่าเป็นคนในครอบครัวของแม่ทัพจ้าว” 

ไม่มีศพของคนในครอบครัวอยู่ที่นี่ ซึ่งหมายความว่าครอบครัวของแม่ทัพจ้าวอาจจะยังมีชีวิตอยู่

ถ้าเช่นนั้นทำไมคนที่ฆ่าคนรับใช้เหล่านี้ถึงไม่ฆ่าคนในครอบครัวแม่ทัพจ้าวด้วย?

มู่จวินฝานนิ่งคิดอย่างรอบคอบ แต่จู่ ๆ เขาก็รู้สึกเจ็บแปลบที่คอราวกับว่าถูกแมลงกัด

แล้วเขาก็ยกมือขึ้นสัมผัสบริเวณที่รู้สึกเจ็บโดยสัญชาตญาณ แต่เขากลับไม่พบอะไรเลย ทุกอย่างดูเหมือนเป็นภาพลวงตาที่เขาคิดไปเอง

 “นายท่าน? เกิดอะไรขึ้นขอรับ?” องครักษ์เงาเห็นว่าเจ้านายแสดงท่าทีผิดปกติจึงถามออกมา

 “ไม่มีอะไร” เด็กหนุ่มรีบเก็บความรู้สึกแปลก ๆ ของตัวเองเอาไว้ “เจ้าทิ้งคนครึ่งหนึ่งให้คอยดูแลที่นี่เอาไว้” 

 “และอย่าปล่อยให้ใครเข้ามาที่นี่ได้” 

 “นอกจากนี้ หากพบคนที่ถูกวางยาพิษ ให้จัดการพวกเขาทันที อย่าปล่อยให้พวกเขาไปทำร้ายใครได้อีก” 

หลังจากที่มู่จวินฝานจัดการเรื่องต่าง ๆ ที่จวนแม่ทัพเสร็จเรียบร้อย พอเขากลับไปถึงโรงเตี๊ยม อาหารร้อน ๆ ก็ถูกวางไว้จนเต็มโต๊ะแล้ว

 “ท่านพี่!” มู่ไป๋ไป่เดินออกมาพร้อมกับถือผ้าขนหนูชุบน้ำร้อน แล้วเธอก็เขย่งเท้าเอื้อมมือไปเช็ดหน้าให้พี่ชายของตัวเองในสภาพทุลักทุเล “ท่านใช้นี่เช็ดหน้าก่อนเร็วเข้า ผ้าเช็ดหน้านี้รมควันด้วยน้ำส้มสายชูและเหล้าขาวซึ่งสามารถกำจัดพิษได้” 

ตั้งแต่คนตัวเล็กมาถึงโรงเตี๊ยม เธอไม่ได้หยุดพักผ่อนเลยแม้แต่น้อย

เธอได้สั่งให้เถ้าแก่และจื่อเฟิงทำอาหาร จากนั้นก็ทำผ้าเช็ดหน้าฆ่าเชื้อเอาไว้ให้มู่จวินฝานที่กลับมาจากจวนแม่ทัพ

 “ในจวนแม่ทัพมีคนตายอยู่มากมาย ดังนั้นพวกเขาจะต้องมีเชื้อโรคปะปนอยู่มากมาย เพื่อเป็นการป้องกันเอาไว้ก่อน ท่านต้องทำความสะอาดร่างกาย” มู่ไป๋ไป่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เชิญท่านใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้เช็ดมือและใบหน้าของท่านก่อน แล้วค่อยขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้านบน ต่อไปทุกคนจะต้องใช้น้ำส้มสายชูกับสุราขาวเช็ดตัวบ่อย ๆ” 

 “พวกพี่ ๆ องครักษ์เงาก็เช่นกัน” 

ขณะนั้นหลัวเซียวเซียวเดินออกมาพร้อมกับอ่างน้ำที่มีผ้าขนหนูพาดเอาไว้และแจกจ่ายให้กับองครักษ์เงาทุกคน

เหล่าองครักษ์เงาที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีต่างก็แอบชื่นชมองค์หญิงหก

 “ไป๋ไป่รู้เรื่องอะไรเช่นนี้ด้วยหรือ?” มู่จวินฝานหยิบผ้าเช็ดหน้าจาก น้องสาวมาด้วยความรู้สึกอบอุ่นในใจ “เจ้าเก่งมากจริง ๆ” 

 “ฮิ ๆ นี่ไม่นับเป็นความสามารถอะไร” เด็กหญิงเกาหัวแก้เก้อ “ข้าก็ถามเซียว— เสด็จอาเล็กมาอีกที” 

ทางด้านเซียวถังอี้ที่กำลังนั่งดื่มอยู่คนเดียวเหลือบมองคนตัวเล็กแล้วไม่ได้พูดอะไรออกไป

 “ท่านพี่ ท่านหิวหรือไม่? ท่านรีบขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ชั้นบนก่อนเถอะแล้วค่อยลงมากินข้าว เราคงไม่ต้องรอพี่รองแล้ว” มู่ไป๋ไป่พูดเร่งเร้าอีกฝ่าย

ที่จริงมู่จวินฝานไม่ค่อยหิวสักเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่สามารถต้านทานคำพูดของน้องสาวได้ เขาจึงเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า

ในตอนนี้อวี้ฉี จินซือหยางและคนอื่น ๆ กำลังนั่งรออยู่ที่ห้องโถงแล้ว ท่าทางของพวกเขาบอกชัดเจนว่ากำลังรอให้เด็กหนุ่มเล่าเกี่ยวกับสถานการณ์ในจวนแม่ทัพให้ฟัง

 “ไป๋ไป่ เจ้าขึ้นไปชั้นบนก่อนเถอะ” องค์รัชทายาทมองไปยังผู้คนที่นั่งล้อมวงอยู่ที่โต๊ะ และในที่สุดเขาก็หันไปมองคนที่อายุน้อยที่สุด “เดี๋ยวพี่จะเรียกเจ้าลงมาอีกที เจ้าค่อยลงมาได้หรือไม่?” 

 “งือ…” มู่ไป๋ไป่เม้มปาก “ก็ได้เจ้าค่ะ ท่านพี่ต้องเรียกข้านะ” 

หลังจากพูดเช่นนั้นเธอก็เดินขึ้นไปชั้นบนอย่างเชื่อฟังภายใต้สายตาประหลาดใจของทุกคน

 “ข้าคิดว่าองค์หญิงหกคงกำลังไม่พอใจ” จินซือหยางลอบถอนหายใจ “ข้าไม่คาดคิดว่าองค์หญิงหกจะเชื่อฟังขนาดนี้” 

เซียวถังอี้เองก็ยกสุราขึ้นจิบและรอยยิ้มจาง ๆ ก็ปรากฏที่มุมปากของเขา มันอาจจะเป็นเรื่องแปลกที่เจ้าตัวเล็กยอมเชื่อฟังโดยง่าย แต่อย่าคิดว่าเขาไม่เห็นว่านางแอบปล่อยแมวอ้วนออกมาเงียบ ๆ

 

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: แหม่ ไป๋ไป่ขยับตัวทำอะไรก็ไม่เล็ดรอดสายตาคุณคนนี้เลยนะ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2025 keangun. All Rights Reserved.