บทที่ 183: เจ้าสัตว์ประหลาดกำลังอาบน้ำหรือ?
มู่ไป๋ไป่ไม่รู้ว่าเธอควรทำอย่างไรกับสถานการณ์เช่นนี้ดี
“คุณหนู นี่คือของขวัญแทนคำขอบคุณที่เรานำมาให้” หลังจากที่เถ้าแก่พ่างคุกเข่าคำนับเสร็จแล้ว เขาก็ได้หยิบของหลายอย่างส่งให้เด็กหญิง “ส่วนนี้ทั้งหมดเป็นอาหารที่ข้ากับท่านลุงจางทำเอง”
ต้องบอกว่าเถ้าแก่ร้านผิงชางเลือกของขวัญแทนคำขอบคุณได้ดีทีเดียว
เขาสามารถรับรู้ได้จากการมองดูเสื้อผ้าที่มู่ไป๋ไป่สวมใส่ว่านางเป็นเด็กที่มาจากครอบครัวที่ไม่ได้ขาดแคลนเรื่องเงิน หากเขาหาของแพง ๆ มามอบให้นาง มันอาจจะไม่ดึงดูดความสนใจของอีกฝ่าย อีกทั้งเขาเองก็ยังไม่มีเงินมากพอที่จะไปซื้อของพวกนั้นในขณะนี้
ดังนั้นเมื่อหารือกับลุงจางแล้ว ทั้ง 2 จึงตัดสินใจทำของด้วยตัวเองซึ่งนั่นเป็นการแสดงถึงความจริงใจของพวกเขาได้ด้วย
แน่นอนว่าทันทีที่มู่ไป๋ไป่เห็นของตอบแทนเป็นอาหาร ดวงตาของเธอก็เป็นประกายสดใส
“ในเมื่อพวกท่านทำของพวกนี้ด้วยตัวเอง ข้าก็จะยอมรับความจริงใจของพวกท่านเอาไว้” คนตัวเล็กไม่เกรงใจอีกต่อไปและบอกให้หลัวเซียวเซียวกับจื่อเฟิงมาช่วยรับของ
เนื่องจากเถ้าแก่พ่างยังต้องรีบไปเปิดร้านอาหารของตัวเองต่อ ดังนั้นเขาจึงอยู่พูดคุยได้ไม่นานก่อนที่เขาจะกลับไปพร้อมกับลุงจาง และก่อนจะออกเดินทางเขาก็ยังบอกมู่ไป๋ไป่ว่าถ้าไม่รังเกียจก็ให้ไปทานอาหารเย็นที่ร้านของเขา
“ไป๋ไป่ไปทำอะไรดี ๆ อีกแล้ว ทำไมพี่ไม่รู้เรื่องนี้เลย” มู่จวินฝานยืนไพล่หลังอยู่ในห้องโถงมองน้องสาวด้วยสายตาอ่อนโยน
“ท่านพี่!” มู่ไป๋ไป่ตะโกนเรียกพี่ชายก่อนจะเดินเข้าไปหาเขาอย่างมีความสุข “เขาเป็นพ่อครัวที่ข้าเล่าให้ท่านฟัง!”
เธอเคยบอกมู่จวินฝานเกี่ยวกับร้านอาหารผิงชางตั้งแต่ก่อนหน้านี้
“เข้าใจแล้ว” เด็กหนุ่มพยักหน้ารับเบา ๆ “ที่เขาได้พบกับไป๋ไป่เป็นเพราะเขาโชคดีมาก”
เด็กน้อยที่ได้ยินดังนั้นก็ยิ้มแฉ่ง
หลังจากมู่ไป๋ไป่ได้รับอาหารจากเถ้าแก่พ่างแล้ว เธอก็ไม่ได้เก็บไว้กินคนเดียว เธอแบ่งอาหารออกเป็นหลายส่วนและแจกจ่ายให้กับทุกคน
“นี่ เซียวเซียว ทำไมยังเหลืออยู่อีกส่วนหนึ่งล่ะ?” มู่ไป๋ไป่ที่กำลังนอนอยู่บนเก้าอี้ยาวขณะกินของว่างถามขึ้นมาอย่างสงสัย “ข้าให้เจ้าเอาไปแจกจ่ายหมดแล้วไม่ใช่หรือ?”
“เจ้าค่ะ” หลัวเซียวเซียวเดินเข้ามาตอบคำถามอีกฝ่าย “ตามที่คุณหนูสั่ง 1 ส่วนสำหรับองค์รัชทายาท 1 ส่วนสำหรับองค์ชายรอง และอีก 1 ส่วนแบ่งให้พี่น้องตระกูลอวี้”
“แม้แต่คุณชายของตระกูลจินที่พักอยู่ในเรือนหลังบ้านก็ยังได้รับส่วนแบ่ง”
“แต่ทำไมยังเหลืออยู่อีกส่วนหนึ่งล่ะ?” คนตัวเล็กถามพลางทำหน้างุนงง
“ชิ ก็เหลืออยู่แค่คนเดียวไม่ใช่หรือ?” ในที่สุดเจ้าส้มก็ตื่นขึ้นมาส่ายหางอย่างเกียจคร้าน “มู่ไป๋ไป่ ข้าจะต้องคุยกับเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้สักหน่อย”
“เขาช่วยเจ้าเอาไว้ครั้งหนึ่ง แล้วเมื่อวานนี้เขาก็ยังใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนเพื่อตามหาเจ้า เจ้าไม่แม้แต่จะพูดขอบคุณเขาด้วยซ้ำ นั่นมันจะมากเกินไปแล้ว!”
มู่ไป๋ไป่รู้สึกผิดขึ้นมาหลังจากถูกต่อว่า เธอจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ยาวพร้อมกับกุมมือ 2 ข้างไว้ด้านหน้า “ข้า… ข้า ทำไมเจ้าถึงบอกว่าข้าทำเกินไปล่ะ?”
“ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้โกหกข้าหรือ?”
“ก็รู้กันอยู่แล้วว่าเขาเป็นเสด็จอาของข้า แต่เขากลับโกหกข้า!”
“แล้วเรื่องเมื่อวานใครจะไปรู้ล่ะว่าเขาออกตามหาข้าทั้งคืน หรือที่จริงแล้วเป็นเพราะเรื่องอื่น…”
“ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่รู้จักคนผู้นั้น…”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้ว เสียงของมู่ไป๋ไป่ก็เริ่มเบาลงเรื่อย ๆ
“คุณหนู” หลัวเซียวเซียวกลั้นยิ้มเอาไว้และถามอย่างลังเลว่า “แล้ว… ท่านจะเอาขนมพวกนี้ไปส่งให้ท่านอ๋องด้วยตัวเองหรือไม่เจ้าคะ?”
“อย่างน้อยก็เพื่อเป็นการขอบคุณ”
มู่ไป๋ไป่เม้มปากแน่นขณะคิดถึงเรื่องที่เจ้าสัตว์ประหลาดปิดหน้าต่างใส่หน้าเธอก่อนหน้านี้ แล้วก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไปอยู่นาน
“ในฐานะจ้าวอสูร เจ้าจะทำตัวใจแคบเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?” เจ้าส้มบ่นขึ้นมาด้วยท่าทางไม่ใส่ใจมากนัก “มู่ไป๋ไป่ เจ้ามีแผนอะไร?”
เด็กหญิงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “...เจ้าส้ม วันนี้เจ้ากินอะไรผิดสำแดงเข้าไป ทำไมปากของเจ้าถึงได้ร้ายขึ้นเรื่อย ๆ เลย!”
…
1 เค่อต่อมา และแล้วมู่ไป๋ไป่ก็มายืนอยู่นอกห้องพักของเซียวถังอี้ที่บนชั้น 2 พร้อมกับถือตะกร้าใบเล็ก
เธอจ้องมองประตูตรงหน้าด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ จากนั้นก็ยกมือขึ้นเคาะประตูแบบส่ง ๆ
เด็กหญิงไม่รู้ว่าประตูมีปัญหาหรือไม่ เพราะทันทีที่มือเล็ก ๆ สัมผัสมัน ประตูก็เปิดออก
มู่ไป๋ไป่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงมองเข้าไปข้างใน “เจ้าสัตว์ประหลาด— อะแฮ่ม ท่านอา? ไป๋ไป่เอาของมาให้ท่าน?”
ภายในห้องไม่ได้เปิดหน้าต่างเอาไว้จึงทำให้แสงสว่างส่องไม่ถึง มันมืดมากจนเธอมองไม่เห็นคนที่อยู่ด้านใน แต่เธอก็ได้กลิ่นอะไรบางอย่างจาง ๆ
หืม?
เจ้าสัตว์ประหลาดกำลังอาบน้ำอยู่หรือ?
เมื่อมู่ไป๋ไป่ตระหนักได้ถึงบางสิ่ง เธอก็หน้าแดงอย่างอธิบายไม่ถูก ก่อนจะยกมือขึ้นเกาหูแก้เก้อ และตะโกนเสียงดังกว่าเดิมว่า “ท่านอา! ถ้าท่านไม่สะดวก ไป๋ไป่จะวางของไว้ที่ประตู”
เซียวถังอี้ที่กำลังแช่น้ำร้อนผ่อนคลายค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เขาเหลือบมองคนตัวเล็กที่อยู่ด้านนอกประตู แล้วจู่ ๆ อารมณ์ของเขาก็ดีขึ้นมากะทันหัน “เอามันเข้ามาวางไว้บนโต๊ะ”
“หา?” มู่ไป๋ไป่ตกใจเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่าย และแอบคิดในใจว่า
เขาเป็นเจ้าสัตว์ประหลาดจริง ๆ
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เจ้าสัตว์ประหลาดมักจะสวมหน้ากาก การที่เขาอาบน้ำโดยไม่จุดตะเกียง หรือว่าเขามีอะไรซ่อนอยู่จริง ๆ?
อาจจะเป็นรอยแผลขนาดใหญ่บนใบหน้าหรือไม่?
พอเด็กหญิงคิดได้ดังนี้ มันก็ไปกระตุ้นต่อมอยากรู้อยากเห็นของเธอเข้า และเธอก็อดไม่ได้ที่จะชะเง้อมองแผ่นหลังของคนที่อยู่ด้านใน
“เจ้าดูอะไรอยู่น่ะ?” เซียวถังอี้พูดขึ้นเสียงเบา “เจ้ายังเด็กเกินไปที่จะเรียนรู้เรื่องเช่นนี้”
มู่ไป๋ไป่สะดุ้งไปพักหนึ่ง ก่อนจะกลอกตามองเขาและโต้กลับด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง “ไป๋ไป่แค่จะดูว่าท่านอาต้องการอะไรหรือไม่ แล้วทำไมไป๋ไป่ถึงจะเรียนรู้เรื่องเช่นนี้ไม่ได้?”
เจ้าสัตว์ประหลาดคนนี้ช่างกล้านักที่มาว่าเธอ
ใครกันที่เป็นคนพาเธอไปที่หอคณิกาตั้งแต่วันแรก?
แล้วเขายังพาเธอไปที่โรงพนันด้วย!
คนปกติที่ไหนจะพาเด็กไปที่หอคณิกากับโรงพนันกัน!
ขณะนี้มีรอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏที่มุมปากของเซียวถังอี้ ก่อนที่เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยว่า “เจ้าเอาอะไรมาให้ข้า?”
จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนหัวข้อพูด ทำให้มู่ไป๋ไป่ตามไม่ทันอยู่ครู่หนึ่ง เธอต้องใช้เวลาสักพักก่อนจะเอ่ยปากบอกว่าเถ้าแก่พ่างส่งอะไรมาให้ตน
“ทั้งหมดนี้เป็นของกิน มันรสชาติดีมาก”
“ข้าเห็นว่าท่านอายังไม่ได้กินอะไรตอนมื้อเที่ยง ข้าแค่อยากเอาอาหารมาให้ท่านกินรองท้องสักหน่อย”
เซียวถังอี้เลิกคิวขึ้นด้วยความประหลาดใจ เจ้าตัวเล็กจำได้ด้วยหรือว่าตอนมื้อเที่ยงเขายังไม่ได้กินอะไร?
“เอ่อ…” ขณะนี้มู่ไป๋ไป่รู้สึกว่าคำพูดที่จะเอ่ยต่อไปช่างยากเย็นยิ่งนัก “แล้วก็ขอบคุณท่านอาที่เมื่อคืนนี้ออกไปตามหาข้าทั้งคืน”
หลังจากพูดจบเธอก็หันหลังวิ่งหนีออกไปทันที
ท่าทางนั้นทำให้เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ในอ่างยกยิ้มมุมปากอยู่เงียบ ๆ เป็นเวลานาน
หากมู่ไป๋ไป่มองดูให้ดี ๆ ตั้งแต่ต้น เธอจะค้นพบว่าเซียวถังอี้ไม่ได้สวมหน้ากาก
คนผู้นี้มีใบหน้าหล่อเหลามากจนทำให้คนที่พบเห็นต้องตกตะลึง คิ้วของเขาเป็นรูปกระบี่ ดวงตาดั่งเหยี่ยวที่หางตาชัดขึ้นเล็กน้อยคล้ายกับคนที่เกิดมาพร้อมกับความสุข
ประกอบกับรอยยิ้มที่มุมปากชัดเจน หากใครได้เห็นก็คงต้องตกตะลึงนิ่งงันกับภาพนี้
“หืม? คุณชายเซียว ทำไมประตูห้องของท่านถึงเปิดกว้างขนาดนี้?” อวี้เซิ่งบังเอิญเดินผ่านมามองเข้าไปด้านในก่อนจะรีบหนีออกมา “ชิ ข้าละเบื่อหน่ายยิ่งนัก ถึงท่านจะมีนิสัยแปลก ๆ แต่การเปิดประตูอาบน้ำเนี่ยมันจะไม่มากเกินไปหน่อยหรือ?”
“...”
“ท่านเป็นถึงท่านอ๋อง ถ้ามีข่าวว่าท่านมีนิสัยแปลก ๆ เช่นนี้หลุดออกไป ท่านจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?” ชายหนุ่มบ่นพลางทำท่าทางปวดหัว
“ไสหัวไป!” เซียวถังอี้กัดฟันพูดขึ้นมา ก่อนจะปิดประตูด้วยกำลังภายในที่แข็งแกร่งของเขาจนเกือบจะกระแทกจมูกของอีกฝ่าย
“นี่ ท่านยังไม่ยอมฟังใครเหมือนเดิมเลย” อวี้เซิ่งถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ถ้าข้ากลับไปถึงเมืองหลวง ข้าจะรายงานเรื่องนี้ให้ฝ่าบาททรงทราบ แล้วให้พระองค์จัดการกับท่าน”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: อวี้เซิ่งมาช็อตฟีลคุณชายเซียวมาก 5555555555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 98
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น