5. เพทุบาย (ต้องประสงค์)
คำโปรย
อุบายดั่งพระประสงค์ ด้วยความนัยให้เป็นไป
----------------
อรุณรุ่งยามสกุณาขับขานเสียงไก่ฟ้าเจื้อยแจ้ว เจ้าชายว่าที่ราชบุตรเขยแห่งกมรเตง แลพระธิดาแก้วกัญญายังทรงหลับใหลไม่รู้พระองค์ภายในหอบรรทม
กมรเตงทรงตื่นบรรทมแต่รุ่งสาง ดำเนินชมสวนสราญ ทรงเก็บผกามาฝากพระธิดา อยากพาทีเพื่อให้นางคลายพะวง
“กราบถวายบังคม...เพคะ...เสด็จเข้าไปบ่าได้ พระธิดาบ่าหื้อไผเข้าหอบรรทม...
เพคะ” ข้านางทั้งสี่นอนเฝ้าหน้าชานพระตำหนัก พากันทูลห้ามปากคอสั่น
“จังใด... บ่าหื้อไผเข้า... มีอะหยัง ฮะ!!!”
เหนือหัวจอมพาราทรงเลี่ยงไม่ขึ้นพระตำหนัก สังหรณ์ว่าต้องมีความลับซุกซ่อนอยู่ในห้องหอแห่งนี้ พระองค์ไม่อยากแหวกหญ้าให้งูตื่น จึงทรงดำเนินอยู่ด้านล่าง ฟังเสียงเหล่าวิหคยามเช้าแข่งกันส่งเสียง
‘เสียงไผ... แก้วกัญญาเอาไผ...ขึ้นเทิง...’ พระองค์ทรงตบพระอุระ แอบฟังเสียงอยู่หลังพุ่มไม้ ขณะทรงเก็บดอกลันตาที่หอมจรุงอยู่ทั่วบริเวณ
พระองค์ทรงดำเนินรอบหอบรรทมของพระธิดา วกอ้อมกลับมาอีกครา ยังได้ยินเสียงนั้น จึงรู้ในหทัยแล้วว่า ชายหนุ่มในหอนั้นคงเป็นใครอื่นไปไม่ได้ นอกจากคู่หมั้นหมายของนางนั่นเอง
จากนั้นทรงดำเนินจากด้านหลังตรงมายังหน้าพระตำหนัก แล้วเหลือบไปเห็น...เจ้าประคูณปูนสีหมอบหน้ากับพื้นตัวสั่นกราบปลกๆ
“...ปูนสี งามหน้าล่ะ จังใดจึงบ่าปรามนาง” พระองค์ตรัสแค่ในลำคอ เกรงพระธิดาจะตื่นบรรทมออกมาเห็นพระองค์ แล้วจะทรงอับอาย
“กราบถวายบังคม... ข้อยข้าผิดนัก... บ่าทันปรามพระธิดา เพิ้นปิดประตูไวกว่ามือข้าเจ้า เพคะ”
“ผิว่า บ่าแม่นยาน้อย ข้าจะหื้อตัดมือเจ้า...!!!” เจ้าประคูณสะอื้นร่ำไห้คร่ำครวญ ขอพระราชทานละโทษา
“หื้อนางเข้าเฝ้าตี้พระตำหนัก...หลังข้าเปิบ...” พระองค์ทรงรับสั่งและดำเนินกลับพระตำหนักทันที
ในพระทัยขณะนี้ปลาบปลื้ม พระธิดากระทำเยี่ยงนี้ต้องพระประสงค์ยิ่ง
“เพทุบายเยี่ยงนี้!!!... แก้วกัญญา...หื้อข้าสมใจ”
พระองค์ทรงเบิกบานสำราญหทัย ร้องเห่กล่อมจากหน้าพระตำหนักถึงข้างในห้องทรงบรรทม
ศิขินกำลังพลิกกายอยู่บนตั่งบรรทม พระองค์จึงทรงเข้าไปอุ้มนางขึ้นมาซบพระอุระ
“ศิขิน... ยาน้อยเอาลูกข้า บ่าต้องพะวงมันล่ะหนา” พระองค์ทรงกระซิบเบาๆ ข้างกกหูสาวน้อย แล้วเห่กล่อมนางอย่างสำราญ
“แก้วกัญญาจะผูกมันไว้ บ่าต้องวอแวเอากับเจ้า ... กาลเบื้องหน้า เจ้าเข้าซะวาเชียงทอง ลูกข้าจักเบิ่งแล บ่าหื้อมันหักเอาเจ้า” พระองค์ทรงถอนหายใจโล่งอก
“มื้อนี่ มันทั้งสองหื้อข้า...สมใจนัก”
มุนีเวชยันต์ขอเข้าเฝ้าเพื่อตรวจดูอาการของแม่นางสนมเอกของพระองค์ที่ยังหลับใหลอยู่บนตั่ง
“กราบถวายบังคม พระเจ้าข้า ... ข้าจักขอพระราชทานเอาโอสถหื้อแม่นาง” พระองค์ทรงผละออกให้นางกำนัลที่หมอบอยู่หน้าตั่ง เข้ามาช่วยเวชมุนี
“เอาล่ะ... เจ้าหื้อนางดื่มน้ำโสมหญ้าดอก เพลาบ่ายคล้อยไข้ทุเลา...มื้อหน้าบ่าต้องเวียนมาดอก ...จงเอาโอสถหื้อข้านางช่อยเบิ่งแล” พระองค์ทรงตรองแล้วว่าอาการของศิขินน่าจะดีขึ้น ด้วยเนื้อตัวของนางไม่ร้อนรุมเยี่ยงวันวาน
... ... ... ...
พระธิดาทรงตื่นบรรทมแล้วสั่งยาน้อยให้แอบออกไป ก่อนที่เจ้าประคูณปูนสีและข้านางจะเข้ามาเห็นว่า เจ้าชายพระองค์นี้อยู่ในหอบรรทมทั้งคืน
“ยาน้อย... เจ้าย่องเอานา บ่าต้องหื้อไผฮู้ล่ะ... หน้าข้าจะบ่ามีตี้ซุกตี้ซ่อน” พระธิดาทรงวิตกเรื่องจะเล่าลือกันทั่วราชสำนัก
“แก้วกัญญา... เจ้าคือเมียข้า จังใดจึ่งซ่อนตัวซ่อนหน้า ข้าจักหื้ออัญเพิ้นฮู้มื้อนี่ล่ะ” คำของนางขัดใจเขาเหลือเกิน
“บ่าได้!!!...ออกไปหื้อไกล ไกล...ตำหนักข้า บัดเดียวนี่” แก้วกัญญาโกรธจนหน้าแดงทั้งอับอาย เกรงพระราชบิดาจะลงทัณฑ์นางและชายหนุ่ม
“ผิดผีผิดฟ้า... จักยังเข้าเฝ้าพ่อข้า” แก้วกัญญาพึมพำดุนหลังให้เขาเร่งแต่งตัวออกจากหอนอนโดยเร็ว
“แก้วกัญญา... ข้าจำต้องหักเอาเจ้า ก่อนข้าละนครา กาลเบื้องหน้า ผิว่าข้าเอาไผก่อนเจ้า ... จะเอาความใส่หื้อข้าว่า...ละขว้างเจ้า บ่าเอาเจ้าขึ้นเทิง ...”
“ข้าไปล่ะ”
ยาน้อยรีบย่องแอบออกช่องหน้าต่าง แล้วใช้เวทพรางกายออกไปทันใดก่อนนางกำนัลจะล่วงรู้
พระธิดาเรียกหาเจ้าประคูณปูนสี มาถามไถ่ว่ามีผู้ใดมาเข้าเฝ้า นางตลึงงันเมื่อทรงรู้ความ...
“เออ...เอย จังใด พ่อข้ามายะหยังตี้นี่แต่ยามรุ่ง...ฮะ” เสียงดังของพระธิดาทำเอานางกำนัลที่หมอบอยู่หน้าพระตำหนักตกใจหน้าตาตื่น เกรงพระอาญาจะลงพวกนางด้วย
“พระธิดาทรงตรองเอา... ข้าบ่าฮู้จะทูลจังใด!!! อัญเพิ้นทรงเก็บผกามาหื้อพระธิดา”
“พระองค์รับสั่ง...หื้อพระธิดาเข้าเฝ้าหลังเพลาเปิบ” เจ้าประคูณหน้าเจื่อนถอดสี ด้วยเกรงไฟพิโรธของอัญกมรเตง
แก้วกัญญาถอนหายใจเดินเข้าไปนั่งบนตั่งบรรทม ยังไม่ลืมความหอมหวานทั้งราตรีกับชายหนุ่ม เขารับปากมั่นเหมาะ...
“ข้าขอเจ้าทุกราตรี... แก้วกัญญา ยามข้าละจากเจ้า จักคิดถึงหาทุกเพลา”
ถ้อยวจีของยาน้อย...ก้องอยู่ในโสตของนาง ให้ทรงเหม่อถวิลหาทั้งยามเช้า ขณะเสวยยังเผลอทำถ้วยโถพลาดตกลงพื้นแตกกระจาย
“ปูนสี...ข้าบ่าอยากล่ะ หื้อข้านางเก็บเอาออก...”
เจ้าประคูณสังเกตพระธิดาทรงหนักพระทัยเหลือประมาณ แต่นางแอบคิดแทนว่า เจ้าชายได้มาถือสิทธิด้วยธรรมคุณแห่งว่าที่ราชบุตรเขย
“ข้าบ่าอยากเข้าเฝ้าอัญเพิ้น... จะซุกหน้าตี้ใดหนา” พระธิดารำพึงเบาๆ ต่อเจ้าประคูณ
“ทูลขออภิเษก... จักทรงละโทษาหื้อพระธิดา แล เจ้าชาย เพคะ”
พระธิดาได้คำปรึกษาที่ดี เดิมนางเข้าใจว่าพระราชบิดาทรงให้หมั้นหมายไว้ก่อน เผื่อดูท่าทีของชายหนุ่ม เพราะทรงพะวงเขากับศิขิน
พระธิดาเร่งไปเข้าเฝ้าด้วยทรงชักช้าเพราะใจพะวง ครั้นก้าวเข้าไปในลานมุขหน้าพระตำหนัก ทรงตะลึงหน้าเจื่อน ...ที่เห็นยาน้อยกำลังยืนรออยู่
“เจ้ามายะหยัง พระองค์รับสั่งหื้อมาเข้าเฝ้าฤา” พระธิดาถอนหายใจ จ้องหน้าชายหนุ่ม เขาไม่มีทีท่าอันใด นอกจากยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
“พ่อเจ้ารับสั่ง...หื้อข้าเข้าเฝ้า” น้ำเสียงถือดีเยี่ยงนี้ ทำพระธิดาหวั่นเกรงภัยจะตามมา
ทหารวังออกมาทูลให้เข้าเฝ้าที่ห้องรับรองด้านใน กมรเตงทรงเฉยเมยไม่มีทีท่ายินดีต่อทั้งสอง สุรเสียงเย็นเยียบ...
“แก้วกัญญา ... ยะเยี่ยงนี้ บ่าเบิ่งหน้าเบิ่งตาข้า!!!”
“กบาลเจ้า...บ่านึกบ่าคิด จังใด...จึ่งย่ำบนหัวข้า บ่าเกรงอาญา…ฮะ!!!” พระองค์ทรงทำทีพิโรธ กำลังยกฝ่าพระบาทเหยียบลงกระหม่อมของยาน้อยที่หมอบหน้าอยู่กับพื้น พระธิดาปรี่เข้าไปดึงพระบาทไว้ ร่ำไห้สะอึกสะอื้น
“ขอพระองค์ย่ำลงกระหม่อมข้าเถิด... ยาน้อยบ่าผิด ข้าผิดตี้หื้อเอาสำราญกับเพิ้น”
“เจ้าอยากเอาลูกข้า... จังใดจึ่งบ่ามาขอ... ยะเอาตามใจ ข้าจักเอาหน้าซุกตี้ใด...ฮึ!!!”
พระองค์ทรงดำเนินไปมาอยู่หน้าทั้งคู่ที่หมอบกราบอยู่ ไม่ทรงเอ่ยคำใดใด ได้แต่รอให้ทั้งคู่ปริปากว่าจะแก้ปัญหาเช่นไร ในที่สุด...
“ข้าขอกราบทูลละโทษาแก้วกัญญา...ทรงลงทัณฑ์ข้าแต่ผู้เดียวเถิด พระเจ้าข้า”
“บ่าได้... ขอพระองค์ลงทัณฑ์ข้าแต่ผู้เดียว ข้าผิดตี้บ่าฮักธรรมคุณ บ่าเกรงพระอาญา” พระธิดาโผเข้าไปกอดพระบาท ซบหน้าลงที่พื้นสะอื้น จนชายหนุ่มสงสารต้องเข้าไปกอดนางไว้
“กราบขอพระราชทานอภัย ข้าผิดเยี่ยงนี้ ข้าบ่ามีกบาลนึกคิด เอาแต่ใจบ่าเกรงพระองค์ ขอทรงละแก้วกัญญา ผิดคือข้าแต่ผู้เดียว พระเจ้าข้า” เสียงชายหนุ่มสะอื้นในอก
เขายังจดจำไม่เคยลืมแต่ครานั้นที่ถูกลงทัณฑ์ด้วยคิดพาศิขินหนีออกไปจากพระนคร
พระองค์ทรงรับสั่งสั้นๆ...
“กลางปักษ์หน้า ได้พิธีศุภฤกษ์ หื้อไปตระเตรียม บ่าต้องเป่าประกาศ ข้าจักหื้อเจ้าปาสมันเบิกพิธีสมาสู่ขวัญ”
“ลุก...ลุก ข้าหื้อละโทษาสูเจ้าทั้งสอง... แก้วกัญญาแต่มื้อนี่ เจ้าเอายาน้อยขึ้นตำหนัก ต้องหื้อเจ้าประคูณฮู้ความ …ข้าจะสั่งตัดมือนาง ผิว่าเจ้าบ่าปิดประตูลงสลัก!!!” พระองค์ทรงสรวลเบาๆ แล้วไปยกไหล่ยาน้อยขึ้นมาตบบ่าทั้งสองข้าง
“เจ้าพึงสำเนียก... ยะหยัง...หื้อเสียงลุลอดห้องหับ จะลือลั่นทั่วทุ่ง...เจ้าลักขึ้นตำหนักพระธิดา ยะเอาย่ามใจ” สุรเสียงดังฮึฮึ ... ทำให้ทั้งสองถอนหายใจโล่งอก
“กราบถวายบังคม... พระองค์กรุณาข้ายิ่ง” ยาน้อยหมอบกราบลงกับพื้นสะอื้นเบาๆ
“กาลเบื้องหน้า...เจ้าอยู่ตี้เทวาลัยพระไภสัช ข้าจักหื้อแก้วกัญญาไปอยู่ช่อยกัน ละขว้างนางบ่าได้หนา ข้าฮักลูกเยี่ยงชีวิตข้า”
“ข้า...จักพิทักษ์พระธิดาจวบชีพวาย พระเจ้าข้า”
กมรเตงพึงใจดั่งพระประสงค์ในอุบาย พระธิดาได้สนองรับเอาเพทุบายไปโดยไม่รู้แผนการ ซึ่งได้ซ่อนนัยยะให้ยาน้อยรับรู้แล้วแต่วันวาน
เขาเดินเคียงพระธิดาออกมา แล้วเอ่ยกระซิบ...
“พระองค์พึงใจเยี่ยงนี้ ข้าจะขึ้นตำหนักเจ้าทุกราตรี...”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 53
แสดงความคิดเห็น