บทที่ 45: สอนทำอาหารลดน้ำหนักให้โหวเซียง
“จริงหรือ นี่ให้ข้าหรือ?”
โหวเซียงถามเหมือนไม่อยากจะเชื่อ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา นางรู้เพียงว่าหูเจียวเจียวนั้นเป็นคนนิสัยไม่ดีและไร้เหตุผล แต่เมื่อนางได้สัมผัสกับผู้หญิงคนนี้ด้วยตัวเอง นางไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะตรงกันข้ามกับข่าวลืออย่างสิ้นเชิง นอกจากนางจะอ่อนโยนแล้ว นางยังพูดจามีเหตุผล แถมยังใจกว้างอีกด้วย!
ในตอนนั้นเอง ลิงสาวรู้ได้ทันทีว่าข่าวที่ไม่มีมูลความจริงพวกนั้นจะต้องมาจากกลุ่มคนที่อิจฉาหูเจียวเจียวแน่นอน
ต่อจากนี้ไป ถ้ามีใครพูดไม่ดีเกี่ยวกับจิ้งจอกสาวอีก นางจะรีบไปโต้เถียงกับพวกเขาทันที!
“ใช่ นี่ของเจ้า” หูเจียวเจียวพยักหน้าอย่างขบขัน
บุคลิกของโหวเซียงไม่เข้ากับรูปร่างเจ้าเนื้อของนางเลยสักนิด การแสดงออกที่ระแวดระวังประกอบกับใบหน้ากลม ๆ ของนางนั้นช่างน่ารักเสียจริง
ในตอนที่ลิงสาวรับอาหารมา นางทำท่าเหมือนได้รับของล้ำค่าแล้วใช้มือ 2 ข้างประคองชามไว้ “หูเจียวเจียว เจ้าใจดีมาก”
ขณะที่นางพูดเช่นนั้น นางก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปหยิบเนื้อวัวราดซอสมายัดเข้าปาก
แล้วโหวเซียงก็เคี้ยวเนื้อในปากอยู่ครู่หนึ่งพลางหรี่ตาด้วยความเพลิดเพลิน ไม่นานนางก็เปล่งเสียงออกมาสั่น ๆ เพราะอาหารอร่อย
“อืม...อร่อยจัง! นี่เป็นเนื้อที่ดีที่สุดที่ข้าเคยกินมา หูเจียวเจียว เจ้าสุดยอดมาก!”
บัดนี้หญิงสาวกลายเป็นแฟนคลับของแม่จิ้งจอกทันที นางมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม
หูเจียวเจียวยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า “ไม่เป็นไร แค่เจ้าชอบข้าก็ดีใจแล้ว”
จากนั้นโหวเซียงก็พยักหน้ารัวเร็ว “ข้าชอบมัน! ข้าชอบมันมาก มันเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ข้าได้กินเนื้ออร่อย ๆ แบบนี้ เจ้าช่วยสอนข้าทำอาหารได้ไหม?”
นางไม่เคยเห็นภูตที่ใจดีแบบนี้มาก่อน น่าเสียดายที่คนในเผ่ากลับทำร้ายคนดี ๆ เช่นนี้
ในความคิดของหูเจียวเจียว มันเป็นเพียงแค่การสอนโหวเซียงทำอาหาร มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับเธอ
หญิงสาวจึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก แล้วพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “ได้สิ ถ้าเจ้าอยากเรียนข้าก็เต็มใจสอน”
หลังจากที่ลิงสาวได้ยินคำตอบ นางก็กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข แต่ไขมันทั่วร่างกายของนางมีเยอะมาก ทำให้สภาพภายนอกของนางดูไม่ต่างจากลูกบอล
“...”
ทันใดนั้นจิ้งจอกสาวก็รู้สึกว่าไม่ควรรับปากอีกฝ่ายง่าย ๆ แบบนั้น
ปัจจุบันโหวเซียงน้ำหนักเกินมาตรฐานไปมากแล้ว ถ้าอีกฝ่ายยังกินไม่เลือกไปมากกว่านี้ ร่างกายของนางจะไม่แข็งแรง
พอโหวเซียงกินเนื้อกวางไปได้ 2 ชิ้น นางก็ไม่ได้กินต่อเพราะตนอยากจะเก็บเอาเนื้อพวกนี้กลับไปให้ลูก ๆ กิน
เมื่อเห็นหูเจียวเจียวจ้องมองมาที่ตัวเอง หญิงสาวเจ้าเนื้อก็ยิ้มอย่างเขินอายและอธิบายว่า “เจ้าคงคิดว่าข้าอ้วนเหมือนกันใช่ไหม ตั้งแต่ที่ข้าท้อง ร่างกายของข้าก็ใหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆ ตอนแรกข้าคิดว่าหากข้าคลอดลูกแล้ว น้ำหนักของข้าจะลดลง แต่ใครจะไปรู้ว่ายิ่งลูกโต ข้าก็ยิ่งอ้วนขึ้น”
“เจ้าไม่รู้หรอกว่าก่อนที่ข้ากับโหวเสี่ยวเตียวจะครองคู่กัน ข้าค่อนข้างผอม...”
ภูตลิงสาวยิ้มติดตลกพลางตบไขมันตัวเองเล่นเหมือนไม่ได้คิดอะไรมาก ทว่าสีหน้าของนางกลับดูเศร้าหมอง
ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่ชอบเวลาที่ตัวเองสวยหรอก
หูเจียวเจียวจำได้ว่าตอนที่โหวเซียงถูกบรรยายในหนังสือ เธอนึกถึงผู้หญิงที่มีรูปร่างอ้วน แล้วเธอก็รู้ว่าการมีลูกจะทำให้ผู้หญิงอ้วนขึ้น แต่เธอไม่คิดว่ามันจะอ้วนถึงเพียงนี้
เมื่อหญิงสาวเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีความสุข เธอจึงปลอบโยนนางด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “ไม่เป็นไร คนเจ้าเนื้อก็หน้าตาดีได้เหมือนกัน ถ้าเจ้าอยากลดน้ำหนัก ข้าทำอาหารเบา ๆ ให้เจ้ากินก็ได้ หากเจ้ากินอาหารพวกนี้ น้ำหนักของเจ้าก็จะไม่ขึ้นไปมากกว่าเดิม”
หูเจียวเจียวเคยทำเมนูลดน้ำหนักมาก่อนในโลกแห่งความเป็นจริง
มันเป็นเรื่องยากกว่าที่เธอจะได้พบกับเพื่อนผู้หญิงที่เข้ากันได้ในโลกนิยาย
โหวเซียงคิดว่าอีกฝ่ายแค่ปลอบใจตัวเองและไม่ได้จริงจังกับเรื่องนี้นัก “ขอบคุณมากนะหูเจียวเจียว”
เนื่องจากนางมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ภูตในเผ่าจึงไม่ชอบนางเหมือนเดิม นางจึงมีโหวเสี่ยวเตียวเป็นเพื่อนเท่านั้น หากไม่ใช่เพราะผู้ชายไม่สามารถละทิ้งคู่ของพวกเขาได้ ลิงหนุ่มก็อาจจะตีตัวออกห่างนางไปแล้วเช่นกัน
นี่เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวได้ยินคำพูดที่อ่อนโยนของหูเจียวเจียว มันเลยยิ่งทำให้นางรู้สึกสะเทือนใจมาก
เวลาถัดมา โหวเซียงบอกลาก่อนจะขอตัวกลับ แต่แม่จิ้งจอกยังคงคำนึงถึงเรื่องน้ำหนักของอีกคน
ครั้งต่อไปที่ทำอาหาร เธอจะทำเมนูลดน้ำหนัก!
หลังจากที่ลูก ๆ ทานอาหารเย็นเสร็จ หูเจียวเจียวก็หยิบมันเทศที่อยู่ข้างเตาออกมาแบ่งให้กับลูกแต่ละคน
หลงหลิงเอ๋อเบิกตามองด้วยความสงสัย “ท่านแม่ นี่คือผลไม้ดินคั่วหรือ? กลิ่นหอมมาก! มันดูแตกต่างจากผลไม้ดินที่ข้าเคยกิน...”
“มาแล้ว”
ก่อนที่จะปอกผิวมันเทศ กลิ่นหอมของมันเทศอบก็โชยมาอย่างต่อเนื่อง
จากนั้นหูเจียวเจียวอธิบายด้วยเสียงนุ่มนวลว่า “นี่ไม่ใช่ผลไม้ดิน มันเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่คล้ายกับผลไม้ดิน เรียกว่ามันเทศ”
ตามปกติพวกภูตมักจะเรียกผลผลิตที่ได้จากพืชทั้งหมดว่าผลไม้
ส่วนผลไม้ดินที่หลงหลิงเอ๋อพูดคือมันฝรั่ง เพราะในฤดูหนาวขาดแคลนอาหาร ภูตบางคนค้นพบว่ามันฝรั่งสามารถเก็บไว้ได้นาน ภูตในเผ่าจึงออกไปขุดมันฝรั่งในฤดูใบไม้ร่วงมาเก็บเอาไว้กินในช่วงฤดูหนาว
ตามปกติในเผ่ามีการแบ่งหน้าที่กันชัดเจนโดยที่ผู้ชายมีหน้าที่ล่าสัตว์ ส่วนผู้หญิงจะเข้าร่วมกลุ่มเก็บเกี่ยวเพื่อออกไปขุดมันฝรั่งและเก็บผลไม้ป่า
ถัดมา หลงหลิงเอ๋อพยักหน้าแล้วสรุปอย่างรวดเร็ว “มันเทศมีกลิ่นหอมมากกว่าผลไม้ดินเสียอีก!”
จากนั้นผู้เป็นแม่ก็ยื่นนิ้วออกไปเคาะหน้าผากของเด็กสาวเบา ๆ “กินเร็ว ๆ แม่จะไปล้างจาน เดี๋ยวแม่จะมาล้างเท้าให้ พวกเจ้าจะได้รีบเข้านอน”
หลงหลิงเอ๋อส่งเสียงโอดครวญ ดวงตาของนางโค้งเป็นเสี้ยวพระจันทร์ และนางก็พยักหน้าอย่างมีความสุข
ในขณะเดียวกัน หลงอวี้, หลงเซียวและหลงจงต่างก็สงสัยว่าแม่จิ้งจอกได้มันเทศพวกนี้มาจากไหน แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามนาง
ซึ่งเหตุผลหลักของเหล่าเด็กน้อยก็คือ พวกเขาไม่อยากทำให้หูเจียวเจียวโกรธขึ้นมาเพราะถูกสอบสวน แล้วต่อจากนี้ไปพวกเขาจะไม่ได้กินอาหารดี ๆ อีก
อีกทั้งผู้หญิงชั่วร้ายยังเคยเกลียดชังลูกของตัวเอง นอกจากนางจะไม่ให้อาหารพวกเขากินแล้ว นางไม่เคยมาอธิบายด้วยซ้ำว่าอาหารชนิดไหนกินได้หรือกินไม่ได้
หลังจากที่กินของว่างกันเสร็จแล้ว เด็ก ๆ ก็พากันเข้าไปพักผ่อนในบ้าน
ในขณะที่หูเจียวเจียวมาที่ริมแม่น้ำพร้อมกับหม้อและถ้วยชาม เมื่ออยู่ใต้แสงจันทร์ เธอแอบก็เข้าไปในมิติพร้อมกับครุ่นคิดบางอย่าง
ชั้นวางที่เพิ่งปลดล็อกในมิติยืนยันการคาดเดาของหญิงสาว
แน่นอนว่าเธอสามารถปลดล็อกชั้นวางใหม่ได้ตราบเท่าที่เธอได้รับความชื่นชอบจากภูต ซึ่งเงื่อนไขไม่ใช่แค่ลูก ๆ ทั้ง 5 คนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภูตคนอื่นที่อาศัยอยู่ในเผ่าอีกด้วย
เมื่อหูเจียวเจียวได้เห็นผลลัพธ์นี้ก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
ต่อมา เธอเดินไปที่ชั้นวางของล่าสุดและพบว่ามีเมล็ดพืชปรากฏอยู่บนชั้น ซึ่งชั้นนี้มีความแตกต่างจากชั้นอื่น ๆ ตรงที่ใต้เมล็ดแต่ละชนิดมีคำแนะนำ ระยะเวลาในการเพาะปลูก และข้อควรระวังระบุเอาไว้
ขอบคุณสวรรค์!
ก่อนหน้านี้จิ้งจอกสาวกังวลว่าจะหาเมล็ดพืชมาเพาะปลูกกินเองได้อย่างไร ถ้าเธอเอาแต่กินเนื้อ ท้องของเธอคงเต็มไปด้วยพยาธิก่อนแน่ ๆ!
หูเจียวเจียวจำได้ว่าครั้งแรกที่เผ่าถูกโจมตีโดยภูตจากดินแดนอื่นคือช่วงฤดูหนาว พวกเขาออกไปล่าสัตว์เนื่องจากขาดอาหารและดึงดูดให้ภูตคนอื่นเข้ามาจุดไฟเผา เข่นฆ่าและปล้นอาหารของคนในเผ่า
แม้ว่าเธอจะไม่สามารถให้เสบียงแก่ภูตของเผ่านี้ได้โดยตรง แต่เธอสามารถสอนเหล่าภูตให้ปลูกมันฝรั่งได้!
โลกปีศาจในนิยายเรื่องแดนปีศาจมหัศจรรย์ 1 ปีมี 24 เดือน และแต่ละฤดูมีระยะเวลา 6 เดือน ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเธอมีเวลาอย่างน้อย 3-4 เดือนก่อนจะถึงฤดูหนาว การปลูกมันฝรั่งให้ได้ผลผลิตสัก 1 รอบก็คงเพียงพอ
ตราบใดที่ภูตในเผ่ามีมันฝรั่งเก็บไว้กินมากพอ พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องออกไปล่าเหยื่อในฤดูหนาว แล้วคนกลุ่มนั้นก็จะไม่ถูกภูตจากเผ่าอื่นพบเจอเข้าจนนำหายนะมาให้เผ่า
ทันทีที่หูเจียวเจียวออกมาจากมิติ เธอก็ล้างหม้อและถ้วยชามอย่างรวดเร็วก่อนจะกลับไปที่บ้านไม้
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอก็ต้มน้ำร้อนในหม้อสะอาด แล้วใช้มันล้างเท้าเด็กทีละคน พอดูแลเด็ก ๆ เสร็จแล้ว ผู้เป็นแม่ก็เทน้ำใส่อ่างเพื่อแช่เท้าของตัวเองที่กำลังจะเป็นแผลพุพอง จากนั้นจึงจะเข้านอน
ทว่าหญิงสาวกลับนอนหลับบนพื้นแข็งที่ทำจากหญ้าแห้งไม่สนิท…
…
เช้าวันต่อมา หูเจียวเจียวก็ตื่นขึ้น
วันนี้จิ้งจอกสาววางแผนที่จะขยายลานบ้านและสร้างกระท่อมจากไม้ซุงที่เรียบง่ายขึ้นอีกหลังก่อนที่หลงโม่จะกลับมา มิฉะนั้น บ้านไม้นี้คงจะปริแตกหากต้องยัดคนตัวใหญ่เพิ่มเข้าไปอีกคน
อีกเหตุผลหนึ่งที่เธอขยายพื้นที่นั่นก็คือ เอาไว้เพาะปลูกพืชผลเพื่อไม่ให้เด็ก ๆ สงสัยว่าอาหารที่พวกเขากินมาจากไหน
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 220
แสดงความคิดเห็น