169 ทากัตซูกิ มาโกโตะ กลายเป็นสปิริต
169 ทากัตซูกิ มาโกโตะ กลายเป็นสปิริต
ความเจ็บปวดวิ่งผ่านแขนของผม
ในทันทีนั้น สายฟ้าคำราม
เมื่อผมมองไปที่ท้องฟ้า ไม่มีเงาของอากาศดีๆก่อนหน้า และมีเมฆหนาปกคลุมท้องฟ้า
สีของเมฆได้เข้มขึ้นและเข้มขึ้น
“มาโกโตะ…ทำนั่นเหรอ?” (ลูซี่)
“ทากัตซูกิ-คุง อากาศเปลี่ยนน่ะ…” (อายะ)
เสียงของลูซี่และซา-ซังมาถึงหูผม แต่มันได้ใช้ทั้งหมดของผมเพื่อควบคุมมานาในแขนของผม ดังนั้นผมตอบไม่ได้
บางอย่างตกมาที่แก้มของผม
หยดน้ำ?
หลังจากนั้น ฝนได้เริ่มตกและน้ำเป็นถังได้เทลงมา
“ฮย้า!” “กย้า!”
ผมได้ยินเสียงร้องของซา-ซังและลูซี่
“ฮีโร่-โดโนะ! นั่น!”
อัศวินผู้บังคับใช้กฎหมายชี้ไปที่ท้องฟ้า
เมื่อผมมองไปที่นั่น มีมังกรน้ำหลายร้อยตัวว่ายอยู่ในท้องฟ้า
ดั่งจะขึ้นไปหาฝนที่รู้สึกเหมือนน้ำตก
(...ชั้นทำอย่างนั้นเหรอ?) (มาโกโตะ)
เวทของผมได้ยุ่งเหยิง
นี่มันแย่แล้ว
ผมต้องหยุดมัน
โล่งจิต
ผมทิ้งเสียงรบกวนในใจของผม และตั้งสมาธิเต็มที่
แต่มันไม่ได้ไปด้วยดี
ทำไม?
ที่ขึ้นมาในใจของผมคือการสนทนาของโนอาห์-ซามะและเออร์-ซามะวันก่อน
◇ไม่กี่วันก่อนข้างในฝัน◇
“ผมคิดว่าจะแปลงรูปเป็นสปิริต” (มาโกโตะ)
ผมบอกโนอา-ซามะและเออร์-ซามะเกี่ยวกับความคิดของผมในฝัน
““...หือห์?””
เทพธิดาที่สวยงามทั้งสองเปิดปากกว้าง
“ธ-เธอเป็นไอโง่เหรอ?!” (โนอาห์)
โนอาห์ซามะตีหัวผม
“เธอโง่รึเปล่า? เธออยากตายเหรอ?” (เออร์)
เออร์-ซามะปากเสียใส่ผม
“หืมม มันไม่ดีเหรอ?” (มาโกโตะ)
ผมเกาหัวของผม
โรซาลี-ซังดูเหมือนจะปกคลุมทั้งตัวเธอด้วยสปิริต แต่ผมเลียนแบบนั่นด้วยสแตทที่ต่ำไม่ได้
ชั้น บางทีผมอาจจะต้องเป็นสปิริตเองเลย นั่นคือที่ผมคิดในใจ
ผมคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดี
“เธอต้องไม่ นั่นเป็นพวกมนุษย์โลภมากที่คิดอยากจะได้พลังมาง่ายๆนะ รู้มั้ย? ตั้งแต่ที่แรก ถ้าเธออยากจะเปลี่ยนเป็นสปิริตเธอต้องมีความเชี่ยวชาญอย่างน้อย 300…หือห์?” (เออร์)
“เสียใจที่ต้องพูด มาโกโตะใกล้กับระดับความเชี่ยวชาญ 300 แล้ว” (โนอาห์)
“ไม่มีทาง! งั้นเค้าก็ทำได้!” (เออร์)
โนอาห์-ซามะตอบโตะคำพูดของเออร์-ซามะ
“นั่นหมายความว่า…” (มาโกโตะ)
นั่นเป็นไปได้?
“มันเป็นไปไม่ได้! ในอดีต มีคนเป็นล้านที่พยายามจะเอาพลังที่อยู่นอกเอื้อมมือมาและล้มเหลว เธอจะตาย มาโกะ-คุง! โซเฟีย-จังจะร้องไห้! ชั้นจะไม่ยกโทษให้เธอ!” (เออร์)
เออร์-ซามะไม่ทำลายจุดยืนที่ไม่ดีกับมัน
โนอาห์-ซามะกอดอกและทำสีหน้าที่ซับซ้อน
ผมมองเทพธิดาที่ผมติดตาม
“มาโกโตะ ถ้าเธออยากจะเปลี่ยนร่างเป็นสปิริต ทำให้มั่นใจว่าเธอใช้ประโยชน์จากโล่งจิตอย่างสมบูรณ์แบบ” (โนอาห์)
“โนอาห์?!” (เออร์)
โนอาห์-ซามะพูดเงียบๆระหว่างท่าแขนท่านยังกอดอกอยู่
เออร์-ซามะวิจารณ์ท่าน
“นั่นหมายถึง…ใช้โล่งจิต 100%?” (มาโกโตะ)
แต่สกิลทำให้จิตใจมั่นคงเหมือนโล่งจิตมีขีดจำกัดอยู่ที่ 99% คือที่ผมเรียนรู้มาที่วิหารแห่งน้ำ…
100% เป็นไปได้เหรอ?
“มนุษย์มีความโกรธ ความเสร้า ความสุข พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สมบูรณ์แบบที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ นั่นทำไมสูงสุดของสกิลทำให้จิตใจมั่นคงคือ 99% ซึ่งเป็นรูปแบบที่ถูกของมัน มันเป็นแนวคคิดของโบสถ์เทพธิดา -ในฉากหน้า หน่ะนะ” (โนอาห์)
โนอาห์-ซามะพูดอย่างเงียบๆ
“นั่น…เป็นบางอย่างที่เธอไม่ควรพูด” (เออร์)
เออร์-ซามะหน้าบูดบึ้ง
“เออร์-ซามะ 100% เป็นไปได้เหรอ?” (มาโกโตะ)
“ใช่ ใช่ แต่…มันโอเคจริงๆเหรอ โนอาห์? ถ้าใช้สกิลทำให้จิตใจมั่นคงมากเกินไป มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียอารมณ์ไป รู้มั้ย?” (เออร์)
เออร์-ซามะแสดงความไม่พอใจกับคำถามผม
“ใช่ แต่ถ้าเข้าใช้แปลงรูประหว่างที่ควบคุมสปิริตไม่ได้ ไม่ต้องสงสัยว่าเค้าจะสร้างภัยพิบัติธรรมชาติ” (โนอาห์)
“ยังไงซะ นั่นก็ใช่…” (เออร์)
สองเทพธิดามองหน้ากันอย่างมีปัญหา
“เข้าใจแล้ว ผมจะขัดเกลาโล่งจิตก่อน โอเคมั้ย?” (มาโกโตะ)
ผมพูดกับเทพธิดาทั้งสองท่านอย่างมั่นใจ
“แต่ถ้าเป็นไปได้ ชั้นไม่อยากให้เธอลองมันนะ” (เออร์)
“นั่นไม่มีประโยชน์ เออร์ เด็กคนนี้จะไม่ฟังในท้ายที่สุด” (โนอาห์)
“เค้าเป็นผู้ศรัทธาของเธอ ใช่มั้ย? ผู้ศรัทธาของเธอมีลักษณะส่วนบุคคลที่แรงจริงๆ” (เออร์)
“หุบปากเลย เด็กๆของเธอเป็นคนที่อ่อนแอเกินไปต่างหาก” (โนอาห์)
“นั่นโอเค~ ชั้นเป็นผู้รักษาสันติ มันโอเคที่จะอ่อนแอ~” (เออร์)
สองเทพธิดาได้เถียงกันเกี่ยวกับผู้ศรัทธาของพวกท่าน
นั่นหมายถึงผมได้รับคำชม?
““เราไม่ได้ชมเธอ””
มันไม่ใชอย่างนั้น
“มาโกโตะ ยกเว้นมันเป็นอะไรที่ใหญ่จริงๆ อย่าพยายามจะใช้แปลงกลายเป็นสปิริต ส่วนใหญ่นายจะล้มเหลว” (โนอาห์)
“แต่ชั้นอยากให้นายไม่ลองมันตั้งแต่ทีแรกนะ…” (เออร์)
เทพธิดาทั้งสองเตือนผม
◇◇
…ความเจ็บปวดในแขนผมไม่ลดลง
ภูมิอากาศได้แย่ลงทุกวินาที และมันไม่แสดงสัญญานของการสงบลง
ฝนได้ตกลงเหมือนจะกดเราลง และมังกรน้ำได้อาละวาดที่นี่ที่นั่น
(ทำไม…ควบคุมมันไม่ได้ซักนิด?) (มาโกโตะ)
จนถึงตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเวทมนตร์น้ำอะไร ผมรู้สึกว่าทำบางอย่างได้
แต่ตอนนี้ ผมไม่รู้สึกอย่างเดียวกัน
มันเหมือนมันไม่ฟังผมเลยซักนิด
มันคือที่โนอาห์-ซามะ และเออร์-ซามะเตือนผม
มันเป็นอะไรที่มันเกินรับมือจริงๆเหรอ?
งั้น ผมอย่างน้องก็ต้องทำให้มันไม่สร้างปัญหาให้คนรอบผม
(《เวรเอ้ย ฟังชั้นซี่!》) (มาโกโตะ)
ความโกรธขึ้นมาในทันที ทำให้ใจผมสั่น
อา เวร
โล่งจิตหยุด 100%...
ในทันทีนั้น…
{ความมืดมิดปกคลุมที่นี้}
(หือห์?) (มาโกโตะ)
ผมมองดูไปที่สองข้าง
ผมไม่เห็นอะไรเลย
มันเป็นความมืดสนิท
ความมืดยืดไปไกลและไกลกว่านั้น
เมืองผมมองขึ้นไป ผมเห็นเพียงลำแสง
แสงที่แวววับที่มันเป็นคลื่นเหมือนผิวของน้ำ ส่องแสงลงมาที่นี่
(ตัวชั้นไม่ขยับ…มันจมลงไป) (มาโกโต)
ผมขยับนิ้วไม่ได้ซักนิด
แสงข้างบนนั้นเล็กลงอย่างช้าๆ ไกลขึ้นไป และผมรู้ได้ว่าตัวผมตกลงไปข้างล่าง
ผมบอกได้ว่ามันจะแย่ถ้าเป็นแบบนี้ แต่ผมทำอะไรเกี่ยวกับมันไม่ได้เลย
ความตื่นตกใจไม่ได้ขึ้นมา
ไม่มีอะไรที่ผมทำได้
ตัวผมได้ตกลงไปลึก…ลึกลงไป
ไม่ดีแล้ว ขยับไม่ได้
นี่มันไกลที่สุดที่ผมไปได้เหรอ…?
“เห้อ ทำอะไรน่ะ มาโกโตะ?”
ทันใดนั้น บางคนจับแขนขวาของผม
(เอ๋?) (มาโกโตะ)
ผมส่งแม้แต่เสียงของผมไม่ได้ และผมได้ถูกดึงไปตลอดทางจนถึงอีกฝั่งของลำแสง
ภาพของผมได้เปลี่ยนเป็นขาวอย่างสมบูรณ์
ในเวลาที่ผมสังเกต ผมได้กลับมาที่เดิม ที่จุดสูงสุดของโคลีเซียม
แต่นี่มันแปลก
ไม่มีเสียง
นักเวทย์ได้ยิงเวทมนตร์ไปที่ดาวหาง
เสียงกรีดร้องจากคนที่วิ่งหนีดางหาว
และมากกว่านั้น ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจากท้องฟ้าได้หยุดอยู่ในอากาศ หลายเม็ดฝนได้หยุดอยู่กับที่
แม้ว่าเมืองมันเหมือนอย่างเดิม โลกที่เงียบดั่ง {เวลาได้หยุด} แพร่อยู่หน้าผม
“ให้ตายสิ นั่นไม่ดีเลย เธอไม่ได้ใช้สปิริตดีเลยซักนิด”
เสียงที่คุ้นเคยดังอยู่ข้างผม
ผมสีเงินสลวย ตาสีฟ้าเข้ม ผิวขาวที่ดูเหมือนเปล่งประกาย ผู้หญิงสวยที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้อยู่ข้างผม
“น-โนอาห์-ซามะ?” (มาโกโตะ)
โคลีเซียมของประเทศแห่งไฟ
แม้ว่ามันไม่ได้อยู่ในฝัน โนอาห์-ซามะอยู่ที่นั่น
(โนอาห์ รีบเข้า! ชั้นหลอกมันได้แค่พริบตาเดียว!) (เออร์)
เสียงของเออร์-ซามะดังอยู่ในหัวผม
เออร์-ซามะเเหมือนเดิมเลย
“โอเค โอเค ชั้นรู้ นานเท่าไหร่แล้วตั้งแต่ที่ชั้นมาที่ดินแดนมนุษย์” (โนอาห์)
โนอาห์-ซามะหัวเราะคิกคักดั่งพบว่านี่น่าสนุก
เหมือนตอบสนองกับเสียงของเธอ อากาศได้สั่น
ผมไม่เห็นมัน แต่ผมมั่นใจว่ามันคือสปิริตลมแสดงความสุข
“อืม…ท่านมาที่นี่ได้ยังไง?” (มาโกโตะ)
ผมถามเทพธิดาอย่างประหม่า
“ชั้นขอเออร์ และเธออนุญาติให้ชั้นมาที่ดินแดนมนุษย์ 100 วินาที โดยการบิดจักรวาลจะหว่างเธอและชั้น เราชะลอการผ่านไปของเวลา แต่เราอยู่แบบนี้นานไม่ได้” (โนอาห์)
“อ-โอเค…” (มาโกโตะ)
ท่านพูดบางอย่างที่ไม่น่าเชื่ออย่างเมินเฉย
ควบคุมเวลา?
“ตอนนี้ มาโกโตะ เราทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับนั่น ใช่มั้ย?” (โนอาห์)
โนอาห์-ซามะชี้นิ้วที่เรียวของท่านมาตรงหน้าท่าน
“อ-อุว้า…” (มาโกโตะ)
ดาวหางได้เกือบจะชนที่นี่แล้ว
ก้อนขนาดยักษ์ที่ใหญ่กว่าว่าแม้แต่ปราสาทเกรทคีธได้เข้าใกล้และมันได้มอบแรงกดดันที่ไม่น่าเชื่อ
“โนอาห์-ซามะ ท่านทำบางอย่างเกี่ยวกับมันได้เหรอ?” (มาโกโตะ)
“ชั้นทำไม่ได้ เทพเจ้าไม่สามารถแทรกแซงตรงๆกับชะตาของมนุษย์” (โนอาห์)
ผมคิดว่าผมได้ยินนั่นนานมาแล้ว
“เราไม่มีเวลา ดังนั้นนี่เป็นบทเรียนแรก” (โนอาห์)
พูดสิ่งนี้ โนอาห์-ซามะแตะแขนขวาผมเบาๆ
ที่ที่ท่านแต่รู้สึกเหมือนเผาไหม้ในทันที
“ฟังให้ดี มาโกโตะ” (โนอาห์)
เสียงที่น่าพอใจของโนอาห์-ซามะมาถึงหูผม
“ถ้าเธออยากจะเปลี่ยนเป็นสปิริต โยนทิ้งความคิดที่จะควบคุมพวกเค้าไป เธอต้องจินตนาการว่า ถ้าเธออยากจะทำอย่างนี้ กลของมันคือดูเหมือน {ดั่งมันเป็นธรรมชาติ} ใช่ ยกตัวอย่าง…” (โนอาห์)
โนอาห์-ซามะวางนิ้วไปที่คางเหมือนขบคิด
และจากนั้น เธอคิดบางอย่าง เธอมองขึ้นไปที่ท้องฟ้า
“กำจัด” (โนอาห์)
ในทันทีนั้น เมฏหนาที่ปิดท้องฟ้าได้แยกย้ายออกไป พระอาทิตย์ได้ออกมาอีกครั้ง
อากาศเปลี่ยนในทันที
ในเวลาเดียวกัน บรรยากาศและพื้นดิน
มานาของทั้งโลกได้สั่นอย่างยิ่งใหญ่ เหมือนสั่นในความสุข
ดั่งโลกนี้ได้โดนเสน่ห์
“นั่นเป็นยังไง?” (โนอาห์)
“ม-แม้ว่าท่านจะพูด ‘นั่นเป็นยังไง?’...” (มาโกโตะ)
ผมได้มีเวลาที่ยากในการตอบรอยยิ้มของโนอาห์-ซามะ
ผมไม่เข้าใจอะไรซักอย่างเลย
ไม่มีความจำเป็นต้องร่ายหรือวงกลมเวทมนตร์ เธอแต่หวังมันและมันเกิดขึ้น
นั่นเป็นเวทมนตร์ของพระเจ้า…
(โนอาห์ ชั้นถึงขีดจำกัดแล้ว!) (เออร์)
“เออ๋ แล้วเหรอ? ช่วยไม่ได้นะ งั้น มาโกโตะทำเต็มที่นะ” (โนอาห์)
“อ-โอเค” (มาโกโตะ)
โนอาห์-ซามะยิ้มและหายไปในแสง
ในทันทีนั้น ฝนที่ตกหนักและแสงที่แรงของพระอาทิตย์ได้มาพร้อมกัน
“มาโกโตะ!” (ลูซี่)
“ทากัตซูกิ-คุง!” (อายะ)
ผมได้ยินเสียงร้องของลูซี่และซา-ซัง
เหลือแค่นิดเดียวก่อนดาวหางจะชน
“มันโอเคแล้วตอนนี้” (มาโกโตะ)
ผมพูดกับสองคนและหันหาดาวหางอีกครั้ง
ผมไม่เข้าใจเวทมนตร์ของโนอาห์-ซามะ…
นั่นน่าจะเป็นบางอย่างที่มนุษย์เข้าใจไม่ได้
แต่ผมสามารถได้รับประสบการณ์ข้างผม
เวทมนตร์ของโนอาห์-ซามะเมื่อกี้นี้ ผมลอกเลียนแบบมันได้เหมือนที่ผมเห็นมัน
นั่นคือทั้งหมดที่ผมต้องทำ
แต่เมื่อผมดูดาวหางที่อยู่ต่อหน้าต่อตาผมเหมือนกำแพงยักษ์ ตัวผมมันช่วยไม่ได้นอกจากลังเล
(ถ้าเป็นอย่างนั้น…) (มาโกโตะ)
ผมใช้เปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นอาร์พีจี และเปลี่ยนมุมมองไกลที่สุดเท่าที่ผมทำได้
ผมมองดูทั้งเมืองหลวง
ผมเห็นทั้งภาพของทั้งเมืองหลวง เหมือนมันเป็นโมเดลเล็กๆ
และดาวหางยักษ์ได้ตกลงมา
{เหมือนมันไม่ใช่ปัญหาของผม ดั่งผมเป็นพระเจ้าที่ได้มองโลกของมนุษย์จากท้องฟ้า…}
ได้เลย มาทำนี่กันเถอะ
“สปิริต-ซัง สปิริต-ซัง” (มาโกโตะ)
ผมเรียกสปิริตอย่างใจดีเหมือนครั้งแรกที่ผมใช้เวทมนตร์สปิริต
แต่ตอนนี้ ส่วนของตัวผมเป็นสปิริต ดังนั้นมันอาจจะแปลกไปนะ
ดาวหางได้ตกลงมาที่ความเร็วที่น่าประหลาดใจ
แต่ในมุมมองปัจจุบันมันเหมือนกับลูกซอฟต์บอลได้ตกลงมาที่ภาพสามมิติ
อาา ถ้ามันเป็นอย่างที่ มันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่
{ผมใช้แขนขวาของสปิริตเพื่อจับมัน}
ดาวหางขนาดยักษย์ที่ปิดเงาลงมาที่เมืองหลวง…ก้อนของน้ำแข็ง…ด้วยมือที่ใหญ่กว่าดาวหาง ผมจับมันอย่างอ่อนโยน
ดาวหางหยุดทันทีก่อนมันจะทำลายทั้งเมืองหลวง…
และเมืองหลวงได้ถูกช่วยเหลือ
เป้าหมายเดือน 3/66
ค่าเน็ต 0/200
ค่าไฟ 0/1000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: "wayuwayu แปล"
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 114
แสดงความคิดเห็น