บทที่ 10 ความทรงจำ 2
ไบรท์ยันร่างขึ้นจจากพื้น เลือดสีแดงฉานที่ไหลรินตอนนี้กลับอยู่ไปเสียเฉย ความทรงจำที่ไหลเข้เามาในสมองทำให้ไบรท์เบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด วิธีการใช้พลังเวทมนตร์หลากหลายประกอบกับความทรงจำที่แปลกประหลาดที่เขารู้สึกว่ามันคุ้นเคย ทว่าตอนนี้ไบรท์กับไม่มีเวลาที่จะมาสนใจกับสิ่งที่ไบรท์ได้รับ แต่เด็กน้อยจำต้องสนใจกับบางสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ใช่แล้วมันคือศัตรูที่ยืนห้อมล้อมเขาไว้นั่นเอง
ไบรท์ชำเรืองมองผู้ที่มาใหม่ก่อนที่จะหันไปมองยังไอที่ยืนอยู่ด้านข้าง “พวกนี้เป็นใครกัน”
“ถามฉัน แล้วฉันจะรู้ไหม แต่ที่รู้ ๆ พวกนี้ไม่ได้เป็นมิตรแน่ ๆ”
เด็กหนุ่มชำเลืองสายตาไปมองยังผู้ที่มาใหม่ เนกิที่ยืนตั้งท่าเตียมพร้อมต่อสู้ รูรุที่กำลังยืนทำตาปริบๆอยู่ ๆ ส่วนอาสึนะกับคาเสะก็มองมาทางไบรท์อย่างไม่วางตา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ไบรท์ก้มหน้ามองยังร่างกายของตนเอง เลือดสีแดงถึงแม้ว่ามันจะหยุดไหลไปแล้ว แต่ว่าคราบเลือดที่ติดอยู่เต็มเสื้อผ้าทำให้ไบรท์รู้ได้ทันทีว่าร่างกายของตนนั้นได้รับบาดเจ็บบางอย่าง
เด็กหนุ่มหลับตาเพื่อสำรวจพลังเวทของตนเอง วงเวทที่ใหญ่โตขึ้นทำให้ไบรท์รับรู้ได้ทันทีว่าพลังเวทของตนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวญมาก
ไบรท์ตัดสินใจเรียกดาบเปลวเพลิงสีชาติขึ้นมาแล้วสะบัดไปรอบ ๆ ไฟสีชาติลุกโชติช่วงไปรอบ ๆ เด็กหนุ่มยิ้มออกมาอย่างชอบใจกับพลังอำนาจที่เพิ่มขึ้น “ในที่สุด ในที่สุดฉันก็ได้มา พลังเวทระดับผู้ใช้เวท อีกนิดเดียวก็จะถึงนักรบเวท”
“ก่อนที่จะมัวมาชื่นชมกับพลังแค่นี้ ไปจัดการกับพวกที่ยืนคุมเชิงอยู่ตรงหน้าดีกว่าไหม”
เสียงของคาเสะทำให้ไบรท์ยิ้มรับ เด็กหนุ่มหันมามองยังหญิงสาวผมเขียวก่อนที่จะพยักหน้ารับ “ฉันเข้าใจ แต่ว่าก่อนอื่นพวกเราต้องเจรจาก่อนดีกว่าไหม”
“นายจะบ้าหรอ ดูดีดีพวกนั้นไม่มีท่าทีจะคิดเจรจาสักหน่อย อย่ามาโลกสวยเลย”
“ใช่แล้ว” อาสึนะกล่าวสำทับ ก่อนที่หล่อนจะเรียกมีดสีดำขึ้นมาถือไว้บนมือ ส่วนคาเสะก็เรียกดาบขึ้นมาถือไว้
ไบรท์โบกมือห้าม “ใจเย็น ๆ ไม่ต้องรีบกำจัดไอ้พวกนี้ก็ได้ ยังไงพวกเราก็ไม่มีทางแพ้แน่ๆ
ถึงแม้ว่าพวกนั้นจะมีจำนวญมากกว่าเรา แต่ว่าเราก็มีพี่ไอนักเวทที่มีความอัจฉริยะที่สุดในอาณาจักรมีพลังธาตุถึงสองธาตุ
เนกิชายหนุ่มที่สามารถแปลธาตุพลังเวทได้ รูรุผู้ที่มีพลังใช้ศาสตราวุธ จอนห์ที่เป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในอาณาจักร อาสึนะผู้ที่มีพลังใช้เวทเสริมกำลัง แล้วยังมีคาเสะผู้ที่สามารถใช้เวทมนตร์เวทธาตุลม”
ไบรท์เงยหน้ามามองศัตรูเบื้องหน้าของตน ก่อนที่จะเพิ่มพลังเวท ออล่าสีดำปกคลุมไปรอบ ๆบริเวณ “แล้วยังมีฉัน ผู้ที่เป็นลูกศิษย์ของพวกนาย ผู้ที่สามารถใช้วิชาได้ทุกแบบ หรือจะเรียกว่าเป็นผู้ที่จะขึ้นเป็นจักรพรรดิ์ของโลกนี้ยังไงล่ะ”
“ช่างเป็นคำกล่าวที่ยโสเสียจริง ๆ” ชายหนุ่มที่ดูท่าทางเป็นหัวหน้ากลุ่มกล่าว
ไบรท์มองสำรวจหัวหน้ากลุ่มก่อนที่จะยิ้มออกมา “ที่ฉันพูด มันไม่ได้เป็นคำกล่าวที่เกินจริงอะไรเลย
ไม่สิพวกแกไม่จำเป็นที่จะต้องสงศัยอะไรให้มากความ เพราะว่ายังไงพวกแกก็ต้องโดนพวกฉันจัดการอยู่ที่นี่”
“ปากดีเสียจริง ถ้าแบบนั้นก็เข้ามา” สิ้นคำกล่าว
ชายหนุ่มตรงหน้าทะยานร่างเข้าหาไบรท์ ทว่าก่อนที่จะได้ทันทำอะไรร่างกายของชายหนุ่มพลันสะดุ้งเฮือก เลือดสีแดงค่อย ๆ
ไหลออกจากศีรษะ หน้าผากของชายหนุ่มพลันปรากฏรูเล็ก ๆ พอมันเหลือบตามองชายหนุ่มพลันรู้ได้ทันทีว่าตนเองนั้นต้องพลาดท่าเสียทีให้กับใคร
“ลงมืออย่างไม่มีความปราณีเหมือนเดิมเลยนะรูรุ”
สิ้นคำของเนกิ ชายหนุ่มผมฟ้าก็ยกปืนลง
“เปิดก่อนเราได้เปรียบ แล้วอีกอย่างพวกมันถึงจะมีจำนวน มาก แต่ทางเราก็ไม่ใช่ว่าจะเสียเปรียบ ถึงแม้ว่าพลังเวทของพวกเราจะห่างจชั้นกันบ้าง แต่ว่าในความเป็นจริงพลังเวทไม่ใช่ตัวตัดสินทุก ๆ อย่าง”
รูรุกล่าวพลางชำเลืองสายตาไปมองยังไบรท์ “ที่ฉันพูดนี่ ฉันอยากจะบอกให้นายรู้เอาไว้ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกใช่ไหมที่นายจะได้ต่อสู้ กับคนจริง ๆ”
“ไม่เชิง ฉันเคยต่อสู้แบบนี้มากก่อน”
ไอยรานำมือขึ้นมาปิดตาน้องสาวของตนเอง ก่อนที่จะกระซิบให้อาสึนะกับคาเสะพามายด์ไปหลบยังที่ปลอดภัย
หลังจากที่พวกคาเสะพาน้องสาวของตนไปเรียบร้อยแล้วไอยราก็จับจ้องยังผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหน้าา
“ฉันจะทำให้พวกแกได้รู้ ว่าการที่พวกแกมายุ่งกับน้อง ๆ ของฉันมันต้องชดใช้อะไรบ้าง”
ก่อนที่หญิงสาวจะเริ่มลงมือ ไบรท์ก็โบกมือห้ามเสียก่อน
“ไม่ต้อง พี่กับพวกรูรุไม่ต้องลงมือ พวกมันจะมาจัดการฉัน ดังนั้น เรื่องนี้ฉันจะจัดการพวกมันเอง”
ไบรท์ย่างสามขุมไปเบื่องหน้า ออล่าสีดำเริ่มปกคลุมไปรอบ ๆ ร่างกายของเด็กหนุ่ม ขาเรียกดาบเวทไฟขึ้นมาบนมือ แต่ทว่าดาบเวทเพลิงนั้นไม่ได้มีแค่เปลวไฟสีแดงชาติแต่มันกลับเต็มไปด้วยเปลวไฟที่เป็นสีดำทมิฬ
“นี่มัน เวทมนตร์อะไรกัน” ชายหนุ่มอีกคนที่มากล่าวด้วยความสะพรึง
“พลังแห่งความมืดอย่างงั้นหรือ ไม่หน้าเชื่อ”
ไบรท์ทะยานร่างไปเบื้องหน้า ก่อนที่จะเริ่มฟาดฟัน คลื่นดาบพุ่งตรงไปเบื้องหน้า ก่อนที่จะไปโดนร่างกายของชายที่อยู่ไกล้ แค่เพียงดาบเดียวร่างกายของชายเบื้องหน้าก็ขาดเป็นสองท่อน เลือดสีแดงไหลรินออกมา ร่างกายของมันถูกเปลวไฟสีดำแผดเผา
“1 คน”
“อย่าไปกลัว มันมาแค่คนเดียวเท่านั้น รีบจัดการมันก่อนที่พวกนั้นจะมาที่นี่” สิ้นคำสั่ง กลุ่มชายฉกรรจ์พลันพุ่งตรงมาหาไบรท์
เด็กน้อยมองผู้คนที่กำลังพุ่งตรงมาเบื้องหน้า ก่อนที่เขาจะตัดสินใจฟาดฟันดาบเข้าใส่ ไบรท์พลันรับรู้ถึงความรู้สึกประหลาด เขาชำเลืองหางตาไปด้านข้างก่อนที่จะเอี้ยวร่างหลบ เลือดสีแดงของคนที่อยู่ข้าง ๆ เขาฉีดพุ่งออกมาจากลำคอย้อมร่างไบรท์ให้เป็นสีแดง
“ความรู้สึกไวนี่นา ถ้าแกไม่เอี่ยวร่างหลบละก็ ป่านนี้หัวของแกคงหลุดออกจากบ่าแล้วแน่ ๆ”
“จริง แกพูดถูก ถ้าฉันไม่รู้สึกถึงจิตสังหารของแก ฉันคงจะต้องตายไปแล้วแน่ ๆ แต่ว่าการที่แกพูดมันคือขอผิดพลาดของแก”
ในขณะที่พวกไอยรากำลังปะทะร่างกายอยู่กับศัตรู พวกวินก็มาถึงยังโรงเรียนเวทมนตร์ ชายทั้งสองรู้สึกถึงพลังเวททำให้พวกเขารีบเคลื่อนร่างมายังจุดเกิดเหตุ
“คนของสองอาณาจักร ไม่คิดเลยว่ามันจะเคลื่อนไหวเร็วขนาดนี้” วินกล่าวพลางดูการเคลื่อนไหวของไบรท์ เด็กน้อยที่เป็นหลานของโยดา
“พวกมันเคลื่อนไหวก่อนเรา พวกมันคงคิดว่าเจ้านั่นคงจะสามารถถ่วงเวลาพวกเราไว้ได้ แต่ว่าพวกมันกลับคิดผิด”
“เรื่องนั้นก็ถูก แต่ว่ามันคงถูกเพียงคลึ่งเดียว ตอนนี้พวกมันสามารถปลดผนึกพวกเผ่ามารออกมาได้ หากพวกเผาปีศาจร่วมมือกับพวกมารละก็โลกนี้คงต้องถึงคราศูญสิ้นเป็นแน่”
“เรื่องนั้นมันก็จริง” โยดากล่าวก่อนที่จะดูหลานของตนต่อสู้
“เขาได้รับสิ้นนั้นมาแล้ว”
คำกล่าวของโยดาทำให้วินพยักหน้ารับ “ใช่ตอนนี้ เจ้ราหนูนั่นได้รับสิ่งนั้นมาแล้ว สิ่งที่พวกเราวางแผลกันไว้ต้องสูญสิ้นเพราะน้ำมือของคนที่พวกเราไม่รู้จัก”
“หรือว่า คนที่ให้สิ่งนี้กับหลานของข้าจะเป็นตัวของมันเองในอนาคนต”
วินสั่นศีรษะ “ข้าเองก็มิอาจจะรู้ได้ แต่ว่าสิ่งที่หลานเจ้าได้มามันคงจะไม่”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 167
แสดงความคิดเห็น