บทที่ 20 เตียมตัว 1
สายตาของทั้งสองสบประสารกัน ไบรท์ยืนรอคอยให้พี่สาวของตนเข้ามาใกล้ เด็กหนุ่สูดหายใจก่อนที่จะค่อย ๆ นำมือไปปิดประตูบ้าน
“กลับมาแล้ว” ไอกล่าวก่อนที่จะหลบสายตา
ไบรท์สัมผัสถึงบางสิ่งที่แปลกไปของพี่สาวของตน เขาอยากจะถามเรื่องต่าง ๆ มากมาย ทั้งเรื่องที่ทำไมไบรท์ถึงโดนหมายหัว พวกที่ต้องการฆ่าเขาคือศัตรูเก่าของพ่อของไบรท์หรือไม่ แล้วกลุ่มโจรที่โดนฆ่าคือใครกันแน่
“ไปคุยกันที่ห้อง” สิ้นเสียงของไอ หญิงสาวพลันสาวเท้าโดยที่ไม่คิดจะสนใจไบรท์
ไบรท์เดินตามติด จนมาถึงห้องของตน ไอยรานั่งลงที่หัวเตียงก่อนที่จะทำท่าทางบุ้ยไบ้ให้ไบรท์นั่งข้างๆ แต่ทว่าไบรท์กลับไม่คิดจะนั่งลง เขาสบสายตาของพี่สาวของตน
ไอมองท่าทางของน้องตนเอง หญิงสาวถอนหายใจ เธอคิดไว้แล้วว่าในที่สุดวันนี้ก็ต้องมาถึง วันที่เธอต้องบอกความจริงที่เธอรู้ให้ไบรท์ทั้งหมด แต่ทว่าไอกลับไม่เคยคิดเลยว่ามันจะรวดเร็วถึงเพียงนี้
“แกอยากรู้อะไร”
“วันนี้ที่ผมต่อสู้กับโจรนั่น พวกเขาบอกว่าผมไม่เข้าใจเรื่องความไม่เท่าเทียมของโลก มันหมายความว่ายังไงกันแน่”
“เรื่องนั้นยังงั้นหรอที่แกอยากรู้”
“ไม่ใช่แค่เรื่องนั้น ทำไมผมถึงโดนโจมตี ผู้หญิงที่ต้องการฆ่าผมเป็นใคร มีความเกี่ยวข้องอะไรกับผู้หญิงผมแดง ทำไมต้องฆ่าโจรคนนั้น แล้วทำไม”
ไอโบกมือห้าม “คำถามที่แกถามพี่ พี่ก็อยากจะรู้เหมือนกัน แต่ว่ามีบางข้อที่พี่บอกได้”
“อย่างแรก พวกนั้นเป็นองค์กรหนึ่งที่เคยเกี่ยวข้องกับพ่อของพวกเรา องค์กรณ์นั้นมีเป้าหมายคือตัวของนาย”
“ผมยังงั้นหรอ”
ไอยราพยักหน้ารับ “ใช่แล้วเดิมทีฉันก็ไม่มั่นใจว่าเป้าหมายของพวกนั้นคือแก แต่ว่าวันนี้หลังจากที่เกิดเหตุการณ์โจรบุกปล้นร้านโทรศัพท์ เดิมทีคิดว่ามันเป็นเหตุการณ์โจรกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเรา แต่หลังจากที่ลองไปสืบมาแล้วพี่พบว่ามันเกี่ยวข้องกับพวกเรา เป้าหมายของพวกมันน่าจะเป็นการฆ่านาย เพื่อเอาบางสิ่ง พลังเวทย์ของพวกมันเหนือกว่าทางเราเยอะ ตอนนี้พวกปู่กำลังไปสืบหาความจริงอยู่ว่าพวกที”
ไอมองหน้าของน้องตนที่กำลังคิดหนัก สายตาที่เจือไปด้วยความหวาดหวั่น แต่ทว่ากับพยายามสงบมันไว้ เธอเข้าใจดีจากเด็กธรรมดา จู่ ๆ ก็พบว่าตอนนี้กำลังมีคนมาทำร้ายเป็นใครก็ต้องมีหวั่นไหว
“ไม่ต้องคิดมากไปหรอก ตราบใดที่ฉันยังอยู่ฉันจะไม่มีทางให้ใครมาทำร้ายอะไรแกแน่นอน ก่อนที่พวกมันจะมาจัดการแกฉันจะฆ่าพวกมันให้สิ้น”
“ไม่ใช่”
ไบรท์สูดหายใจ “ผมไม่ได้กลัวพวกมัน แต่ผมกำลังเจ็บใจ พลังของผมตอนนี้ไม่สามารถทำอะไรได้เลย แม้แต่จะปกป้องตัวเอง”
ไอยรายิ้มกับคำกล่าวขงน้องชายของตน “อย่างน้อยแกก็เหมือนฉัน เอาละฉันจะบอกเรื่องที่แกถามให้ฟัง เรื่องความไม่เท่าเทียมที่โจรคนนั้นบอกแก เรื่องนี้มีไม่กี่คนที่จะได้รู หลังจากที่แกรู้แกคงเปลี่ยนความคิดแน่ ๆ”
พระราชวังหลังงามตั้งตระหง่านใจกลางเมืองอันแสนกว้างใหญ่ เดิมทีที่แห่งนี้ไม่ค่อยจะมีใครมาเยี่ยมเยียน แต่วันนี้กลับมีสองชายชรากับหนึ่งอิสตรีวัยใกล้ฝั่งปรากฏกายขึ้น แสงของหลอดไฟเผยให้เห็นพรมสีแดงที่ทอดยาวไปจนถึงบัลลังก์
กษัตริย์ผู้ปกครองอาณาจักรอันกว้างใหญ่เหลือบตามองยัง 3 ผู้มาเยือนด้วยท่าทางไม่ยินดียินร้าย พระโอษฐ์ยิ้มเล็กน้อย ลบๆค่ะเลยผู้อารักขา
“ในที่สุดเจ้าก็มาโยดา นานแล้วที่เราไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเช่นนี้ ที่มาครั้งนี้เจ้าจะมาขอให้ข้อช่วยให้เจ้าสามารถมาอยู่ในเมืองหลวงใช่ไหม เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงขอแค่เจ้าเอ่ยปากขอมา ข้าก็ยินดีที่จะให้พวกเจ้ากลับมา”
“มิได้ ข้าไม่ได้มาหาท่านด้วยเรื่องเล็กน้อยแค่นั้น ข้าจะมา”
ราชาหนุ่มโบกมือห้าม “ข้าขอเดา เรื่องที่เจ้ามาหาข้าคงจะเป็นเรื่องที่เจ้าได้สู้กับเจ้าสิ่งนั้นใช่ไหม เจ้าจะมาขอให้ข้าช่วยคุ้มครองหลานของเจ้ายังงั้นหรือ”
“มิได้” สุริยะกล่าวขัด
องค์ราชาละสายตาออกจากโยดาแล้วมองยังผู้อำนวยการโรงเรียนเวทมนตร์อย่างสงสัย
“หลานของโยดาได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนของข้าแล้ว ดังนั้นเรื่องที่จะให้ท่านคุ้มครองนั้นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ เพียงแต่เราต้องการให้ท่านคืนของบางอย่างที่พวกเราเคยฝากไว้กับกษัตริย์องค์ก่อน”
ราชาหนุ่มยิ้มแย้ม ทว่าในใจของเขากลับหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ เขารอบตนกอยู่ในใจ ทว่าชายหนุ่มกลับรู้ดีว่าหากเขาไม่ให้ของที่พวกโยดาต้องการชีวิตการเป็นราชาในอาณาจักแห่งนี้คงไม่ใช่ง่าย ในสมัยที่อำนาจของกษัตริย์เสื่อมถอยลงเช่นนี้ การขัดขืนโดยไม่จำเป็นย่อมสร้างความเสียเปรียบเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับผู้ที่มีพลังอำนาจที่ฟ้าพลิกแผ่นดินทั้ง 3 ที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้า
การที่ทำให้พวกเขาทั้งสามอยู่ใต้อำนาจนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถกระทำได้โดยง่าย 1 นั้นเป็นผู้ที่สามารถควบคุมทิศทางของอาณาจักร อีกหนึ่งเป็นผู้ที่มีเทคโนโลยีทางด้านการแพทย์ ส่วนอีกหนึ่งนั้นเป็นผู้ที่มีความสามารถทางด้านเวทมนต์ ถ้าทำได้ราชาหนุ่มก็ไม่อยากที่จะมีปัญหากับสามผู้ยิ่งใหญ่ แต่สิ่งของที่คุณต้อง 3 ต้องการมันเป็นสิ่งนั้น
“เจ้าจะเอาไปให้ลูกของเขาอย่างง้ั้นหรือ “
“ใช่แล้ว ถึงจะเก็บไว้กับท่านมันก็ไม่ประโยชน์ ท่านรู้ดีว่าสิ่งนี้จะสามารถใช้ได้นั้น”
ราชาหนุ่มโบกมือห้าม “ข้ายอมทุกอย่าง แต่ว่าถ้ามีข้อแม้” พวกท่านทั้งสามต้อง…………”
ทางฝั่งของเนกิ ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น สายตาของชายหนุ่มทอดมองไปยังท้องฟ้าอันแสนกว้างใหญ่ ก่อนที่ชายหนุ่มจะกล่าวกับตนเอง “ในที่สุด ในที่สุดก็เจอพวกแก”
สภาเวทมนตร์แห่งอาณาจักรบาบิโลเนีย ห้องประชุมมีชายหนุ่มสองคนกำลังจ้องหน้ากันด้วยท่าทางเคร่งเครียด ก่อนที่นายเอจะกล่าว
“พวกเมฆาเคลื่อนไหว แถมยังตอนนี้พวกโยดาก็ไปพบกับราชาอีกยังงั้นหรอ”
“ใช่ ตอนนี้พวกเราต้องจับตาดูครอบครัวของขไอให้ดี ถ้าพวกนั้นคิดจะติดต่อกับพวกเมฆาพวกเราจะแย่”
“เราจะทำยังไงกับราชาดี”
“ยังไงประเทศนี้ก็ยังจำเป็นที่ต้องมีกษัตริย์อยู่ ถึงแม้ว่าตำแหน่งนี้จะไม่สามารถมายุ่งวุ่น
วายกับการเมืองได้ก็ตาม พวกเราจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรในตอนนี้ แต่ว่าเรื่องที่พวกโยดาจะทำมันเป็นเรื่องที่ยากเกินจะคลาดเดา ดังนั้นพวกเราต้องให้หน่วยความมั่นคงมาสืบสวนน”
“การที่ชายคนนั้นยังมีชีวิตอยู่มันเป็นเรื่องที่พวกเราไม่เคยคิด ยังไรก็ตามเรื่องนี้ห้ามให้อีกสองอาณาจักรรู้เป็นอันขาด ถ้าพวกนั้นรู้ ต้องเกิดสงครามแน่”
ที่แห่งหนึ่งในอาณาจักรวิทาเรีย ชายหนุ่มผมสีดำใบหูเป็นสุนัขกำลังยกยิ้มอย่างชอบใจ “ในที่สุด ในที่สุดนายก็เริ่มเคลื่อนไหวสักที เมฆา ไม่สินายไม่ใช่เมฆา แต่ว่าเป็น”
ชายหนุ่มสั่นศีรษะก่อนที่จะดีดร่าง “ฉันจะไปฆ่านาย”
อาเล็ก ซานเดอร์ทอดตามองไปยังท้องฟ้าที่แสนกว้างใหญ่ เขายิ้มกับตนเองเมื่อสัมผัสถึงบางอย่างที่กำลังทะยานร่างมาทางนี้ เพียงไม่นานชายหนุ่มพลันร่างหนึ่งชายหนึ่งหญิงงที่พุ่งตรงมาด้วยความเร็วสูง
“ในที่สุดก็มา สองผู้คุมกฎแห่งโลกเวทมนตร์”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 126
แสดงความคิดเห็น