แผ่นดินนี้ข้าจอง ตอนที่ 3 สถาปนาเมือง ซิวซัน
เเม้ว่าทุกคนที่กล่าวมาจะไม่พบศพเเต่ก็สันนิษฐานได้ว่าคนเหล่านั้นน่าจะตายไปแล้วทุกคนรวมไปถึงจวิ้นอ๋องก็เตรียมที่จะยื่นไว้อาลัยเเด่ผู้เสียชีวิต เเต่ในขณะนั้นเองก็มีหญิงวัยกลางคนวิ่งฝ่าเหล่าองครักษ์เข้าไปกอดเข้าของจวิ้นอ๋อง พร้อมด้วยร้องไห้ คร่ำครวนทั้งน้ำตา จวิ้นอ๋องไม่เเปลกใจเลยเเม้เเต่น้อยถึงการกระทำของหญิงคนนี้ทั้งยังก้มลงพยุงร่างของนางขึ้นมาต่อผู้คนนับพัน
“ข้ารู้ว่าเจ้ามาทำไม” นางยังไม่ทันได้เอ่ยปากจวิ้นอ๋องก็ชิงตัดหน้าพูดก่อน
“ครอบครัวเจ้าใครหายไปละ”
“เรียนใต้เท้าข้ามีเเค่ลูกชายข้าคนเดียวอายุเขาปีนี้พึ่ง 4 ขวบเท่านั้นเองสามีข้าเขาตายไปตั้งนานเเล้วข้ามีลูกเเค่คนเดียว ข้ามีเเค่คนเดียว” นางพูดพร้อมน้ำตายิ่ง 2 ประโยคสุดท้ายเเสดงถึงความทุกข์เป็นยิ่งหนัก ข้อเสียของจวิ้นอ๋องที่มีเพียงที่คนเท่านั้นที่รู้เเม้ภายนอกจวิ้นอ๋องจะเป็นคนห้าวหาญเเต่ภายในกลับใจอ่อน และเเถวขี้กังวลเป็นยิ่งนักโดยเฉพาะเมื่อเห็นคนมาร้องไห้ต่อหน้า เดิมทีจวิ้นอ๋องจะไม่สนใจเรื่องตามหาศพของผู้หายสาบสูญเพราะมีหน้าที่ที่สำคัญกว่าคือวางเเผนสร้างเมืองและอีกอย่างนี่ก็ใกล้จะมืดแล้วถ้าหากค้นหาตอนกลางคืนยิ่งอันตรายเข้าไปใหญ่
“เเม่นางอันที่จริงเจ้าก็น่าจะรู้นะว่าข้าไม่มีเเผน ที่จะไปหาเหล่าผู้หายสาบสูญหรอกนะ มันอันตรายเกินไปและนี่ก็ใกล้จะมืดแล้วด้วยข้าเสี่ยงไม่ได้ขอโทษด้วยนะ" จวิ้นอ๋องพูดกับนางไปอย่างงั้น
เเต่ในใจของเขาอยากจะออกไปตามหาในทันทีเเต่เมื่อคิดไตร่ตรองดีแล้วเขาก็พบว่ามันไม่สมควรเลยสักนิดเพราะถ้าหากเขาไป หากว่ามีสัตว์อสูรเกิดโจมตีคณะเดินทางในขณะที่เขาไปอยู่จะยิ่งเเย่ไปกันใหญ่เพราะไม่มีอะไรเป็นเครื่องการันตีได้เลยว่าสัตว์อสูรจะไม่โจมตีหรือถ้าหากจวิ้นอ๋องอยู่เฝ้าคณะแล้วสั่งการให้ทหารไปตามเผื่อว่าจะมีผู้รอดชีวิต ก็ไม่ได้เพราะจะเป็นการส่งทหารไปเสี่ยงอันตรายโดยใช่เหตุ ทหารก็มีครอบครัวซึ่งจวิ้นอ๋องก็รู้เรื่องนี้ดี และในขณะที่บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังนั้นเองก็ได้มีทหารนายหนึ่งวิ่งออกจากป่าทางทิศตะวันตกมา ชายคนนั้นมีรูปร่างค่อนข้างอวบเเต่ยังไม่ถึงกับอ้วนมาก และที่ตามมาด้านหลังจากคนนั้นเองก็คือเหล่าชาวนาที่กำลังวิ่งหนีตายออกจากป่ามา 7-8 คน
"เร็วเข้า เร็วเข้า" ทหารคนนั้นโบกมือเรียกชาวบ้านให้ชาวบ้านให้รีบออกจากป่ามาโดยเร็ว
ชาวบ้านที่ออกมาเมื่อเห็นคณะเดินทางอยู่ตรงหน้าก็ได้เกิดมีความหวังเป็นอย่างมากพวกเขารีบมุ่งหน้าไปหาครอบครัวของตัวเองเมื่อเห็นโฉมหน้าของเหล่าผู้รอดชีวิตอีก 8 คน ครอบครัวที่อยู่ในกลุ่มคณะเดินทางก็รีบก้าวออกมาจากกลุ่ม มารอรับครอบครัวของตัวเองที่สามารถรอดออกมาจากป่าได้ เเละเมื่อทุกคนกำลังยินดีปรีดาอยู่นั้นทหารที่ช่วยเหล่าผู้รอดชีวิตที่เหลือก็ได้ปลดผ้าห่อที่เขามัดไว้อยู่ข้างหลังออกปรากฏสิ่งที่เขาห่อไว้คือเด็กอายุราว 3-4 ปี เมื่อทุกคนเห็นดังนั้นต่างก็ตะลึงไปตามๆกันแลัวหันหน้าไปทางยิ่งที่เข้ามาของความช่วยเหลือจวิ้นอ๋อง เมื่อนางมองไปยังเด็กคนนั้นก็ร็องไห้ออกมาทันทีนางรีบวิ่งไปคว้าเด็กคนนั้นที่กำลังหลับอยู่ในผ้าห่อมาไว้ในอ้อมอก
"เขายังไม่ตาย" ทหารคนนั้นพุดกกับนาง
"ขอบคุณท่านมากนะที่ข่วยลูกชายข้าไว้" นางพูดพร้อมทั้งเสียน้ำตาด้วยความปรื้มปิติแล้วก็เดินกลับเข้าไปในกลุ่มคน
เมื่อเห็นนางกลับเข้าไปในกลุ่มเสร็จทหารคนนั้นก็ได้หันหน้ามาทางจวิ้นอ๋องพร้อมกับคุกเข่าพร้อมประสานมือทำความเคารพ
"ข้าน้อยมีนามว่า ตันก๋ง ข้าน้อยขออภัยจวิ้นอ๋องที่ได้ขัดคำสั่งเเตกเเถวออกไปจากขบวนขอท่านโปรดลงโทษด้วย" เขาพูดพร้อมกับพยักหน้าลงในกลับจวิ้นอ๋อง แต่ตัวจวิ้นอ๋องเองกลับประหลาดใจนิดๆถึงคำพูดของตันก๋ง เขาตอบกลับไปอย่างเเน่วเเน่ว่า
"เจ้ากลับมาก็ดีเเล้วครั้งนี้เจ้าทำความดีครั้งใหญ่หลวงข้าจะลงโทษเจ้าได้เช่นไร ลุกขึ้นเทอญ"
"ขอบพระทัย" พอกล่าวจบตันก๋งก็ลุกขึ้นในทันที
จวิ้นอ๋องกล่าวจบได้หันหน้าไปทางคณะเดินทางเดินทางเตรียมที่จะกล่าวปราศรัยกับเหล่าผู้คน
"ทุกคนฟังให้ดีนะ" จวิ้นอ๋องเริ่มตะโกนปราศรัย
"ที่นี่คือดินเเดนใหม่ที่ยังไม่มีต้องรกรากเเบบเป็นจริงเป็นจังมาก่อน ข้ารู้สึกเศร้าใจยิ่งนักที่ไม่อาจพาทุกคนมาถึงที่นี่ได้อย่างปลอดภัยเเต่หลังจากนี้ไปข้าให้สัญญาจะดูเเลพวกเจ้าให้ดีที่สุด และเเน่นอนพวกเขาจะไม่ลืมเหล่าผู้เสียชีวิตในวันนี้" จวิ้นอ๋องพูดจบเขาก็ถอดหมวกนักรบออกแล้วยืนไว้อาลัยเเด่เหล่าผู้เสียชีวิตในวันที่เมื่อเห็นจวิ้นอ๋องทำเช่นนั้นเหล่าทหารต่างก็พากันถอดหมวกออกยืนไว้อาลัยเช่นเดียวกัน รวมไปถึงเหล่าชาวบ้านที่ต่างก็พากันก้มหน้าลงไว้อาลัยด้วยเช่นเดียวกัน พอผ่านไปได้สักพักจวิ้นอ๋องก็กลับไปใส่หมวกเหมือนเดิมเมื่อเห็นจวิ้นอ๋องทำอย่างงั้นต่างก็พากันทำตามๆกันพร้อมด้วยเหล่าชาวบ้านต่างก็พากันเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง จวิ้นอ๋องที่เห็นผู้คนเงยหน้าขึ้นมาหมดแล้วก็เตรียมที่จะกล่าวปราศรัยอีกครั้ง
"ที่นี่พวกเราคือผู้บุกเบิก นับเเต่นี้ไปที่นี่คือเมืองใหม่ที่ฮ๋องเต้ได้พระราชทานชื่อมาเเล้ว นับจากนี้ไปที่นี่คือเมือง ซิวซัน หลายอาจจะสงสัยว่าข้ารู้ที่เเห่งนี้ได้เช่นไร ข้าเจอในเเผนที่โบราณของเเคว้นถังที่เเห่งนี้ตกสำรวจเพราะมันอันตรายเกินไป และเราก็ไม่ใช่คณะเดียวที่ไปสำรวจ อ๋องคนอื่นๆต่างก็ทำคนไปตั้งรกร้างตามที่ต่างๆเช่นเดียวกัน" พอพูดจบจวิ้นอ๋องก็หยิบม้วนกระดาษสีทองออกมา
"ทุกคนเตรียมรับราชโองการ" พอจวิ้นอ๋องพูดจบทุกคนในที่นั้นต่างก็พากันคุกเข่าลงในทันที
"เนื่องด้วยสถานการณ์บ้านเมืองนับวันยิ่งวิกฤตข้าจึงขอให้เหล่าอาสาสมัครทุกท่านออกจากเมืองฉางอันไปตั้งรกร้าง ณ ที่เเห่งใหม่โดยจะให้เอกสิทธิ์ในทางปกครองตนเองไม่ขึ้นกับราชสำนักหลวง และให้จวิ้นอ๋องที่ได้นำทางทุกท่านไปนั้น ไปผู้ปกครองสูงสุดในดินเเดนนั้นไปเเต่ทุกคนยังได้เอกสิทธ์ในการเป็นพลเมืองเเคว้นถังเช่นเดิม สามารถส่งบุตรหลานเข้าราชการได้ หรือส่งไปเรียนสำนักและสถานศึกษาต่างๆในเเคว้นถังได้เหมือนเดิม สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านจงโชคดีกับที่เเห่งใหม่ จบราชโองการ" พอจวิ้นอ๋องกล่าวจบทุกต่างก็ลุกขึ้นยืน
เเต่ยังไม่ทันได้ยืนจนควบทุกคนจวิ้นอ๋องก็เริ่มกล่าวอีกครั้ง
"เรายังไม่ทราบเเน่ชัดว่าทำพวกปีศาจถึงไม่กล้าเข้ามาที่นี่จะเราจะประมาทวันนี้ก็มืดแล้วเราจะผลัดเปลี่ยนเฝ้ายามทั่วทุกสารทิศ
พอถึงพรุ่งนี้ค่อยเริ่มการสร้างเมือง" พอกล่าวจบทุกคนต่างก็รู้หน้าที่ของตัวเอดีว่าควรทำอะไรในเป็นประโยชน์ต่อการสร้างเมือง
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 371
แสดงความคิดเห็น