บทที่ 171: ผู้คนแตกต่างกัน
ในเวลานี้ ทุกคนในจวนตระกูลจินต่างมุ่งความสนใจไปที่ตรงกลางลาน ดังนั้นที่เรือนด้านหลังจึงเงียบมาก มันเงียบถึงขั้นวังเวงเลยด้วยซ้ำ
พอมู่ไป๋ไป่ได้เดินอยู่ในจวนที่กว้างใหญ่ มันก็ทำให้จินตนาการในหัวของเธอนั้นเหมือนจะมีใครบางคนโผล่ออกมาจากเงามืดได้ตลอดเวลา
เด็กหญิงเลยพยายามพูดไปเรื่อยเปื่อยเพื่อหันเหความสนใจของตัวเองและไม่ให้ตนคิดมาก
ทางด้านหลัวเซียวเซียวไม่เคยเห็นด้านนี้ของมู่ไป๋ไป่มาก่อน ดังนั้นนางจึงพูดคุยตอบโต้กับอีกฝ่ายอย่างจริงจัง และทั้ง 2 ก็คุยกันจนไปถึงประตูห้องน้ำ
ทันทีที่คนตัวเล็กเห็นห้องน้ำ เธอก็แทบจะไม่สามารถอั้นมันไว้ได้อีก บัดนี้สมองน้อย ๆ ของเธอบอกให้วิ่งเข้าไปในห้องน้ำตรงหน้าแล้วจัดการตัวเองให้เรียบร้อย แต่ในระหว่างนั้นเธอก็นึกบางสิ่งขึ้นมาได้จึงหันหลังกลับไปขณะทำหน้าลังเล “เซียวเซียว เจ้ารออยู่ข้างนอกคนเดียวรู้สึกหวาดกลัวหรือไม่?”
หลัวเซียวเซียวมีอายุพอ ๆ กับเธอ ดังนั้นหากเธอกลัว อีกคนก็จะต้องกลัวอย่างแน่นอน
“ไม่กลัวเพคะ” เด็กหญิงส่ายหัวเบา ๆ “สัตว์ประหลาดพวกนั้นถูกขังเอาไว้แล้วไม่ใช่หรือเพคะ ยังมีสิ่งใดที่เราต้องกลัวอีก?”
“...” มู่ไป๋ไป่พูดไม่ออก
คนเรานั้นมีความแตกต่างกันจริง ๆ …
“องค์หญิง พระองค์กลัวหรือเพคะ?” หลัวเซียวเซียวกะพริบตาที่ไร้เดียงสาพลางเอ่ยปากอย่างไม่แน่ใจ “เช่นนั้น… ให้เซียวเซียวเข้าไปกับพระองค์ดีหรือไม่เพคะ?”
“ไม่จำเป็น!” มู่ไป๋ไป่ยังคงปากแข็งแม้ว่าจะรู้สึกหวาดกลัวมากก็ตาม แต่เธอก็ไม่คิดที่จะยอมให้อีกฝ่ายตามเข้าไปในห้องน้ำกับเธอ “เจ้ารออยู่ตรงนี้ก่อนนะ ข้าจะรีบไปรีบกลับ”
หลัวเซียวเซียวพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “เพคะ องค์หญิงไม่ต้องกลัวเพคะ เซียวเซียวจะช่วยปกป้องพระองค์เอง หากมีสัตว์ประหลาดเข้ามา เซียวเซียวจะสู้จนตัวตายเพื่อปกป้ององค์หญิงเอาไว้ให้ได้!”
แม้ว่าสถานที่และเวลาจะไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่ แต่มู่ไป๋ไป่ก็ยังรู้สึกอุ่นใจขึ้นมา
จวนตระกูลจินเป็นตระกูลที่ร่ำรวย แม้แต่ห้องน้ำก็ยังได้รับการใส่ใจเป็นอย่างดี ภายในมีกำยานหอมถูกจุดเอาไว้จึงทำให้ไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์โชยออกมา
มู่ไป๋ไป่จัดการปลดทุกข์อย่างรวดเร็ว เสร็จแล้วก็ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะรีบออกไป
“องค์หญิง พระองค์ทำธุระเสร็จเร็วขนาดนั้นเชียวหรือเพคะ?” หลัวเซียวเซียวที่กำลังเล่นกับนิ้วตัวเองเหลือบไปเห็นอีกฝ่ายเดินออกมาแล้วรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เด็กหญิงกระแอมในลำคอแก้เก้อ ก่อนจะรีบอธิบายว่า “ข้าแค่ฉี่เอง มันใช้เวลาไม่นานหรอก”
“เรารีบกลับไปกันเถอะ ไม่เช่นนั้นท่านพี่คงจะเป็นกังวล”
หลัวเซียวเซียวยิ้มพร้อมกับพยักหน้ารับ
จากนั้นเด็กทั้ง 2 ก็จับมือพากันเดินออกไป แต่ไม่รู้ว่ามู่ไป๋ไป่คิดไปเองคนเดียวหรือไม่ เธอมักจะรู้สึกอยู่เสมอว่าตลอดทางขากลับนั้นแตกต่างจากตอนขามาเล็กน้อย
“เซียวเซียว… ตอนที่เราเดินมาที่นี่มีต้นไม้หรือไม่?” คนตัวเล็กถามขณะจ้องมองต้นไม้ในสวนอย่างสงสัย “แล้วทำไมถนนเส้นนี้ข้าถึงไม่คุ้นเลยล่ะ?”
“จริงหรือเพคะ?” หลัวเซียวเซียวเกาหัว “หม่อมฉันเองก็จำไม่ได้ เพราะหม่อมฉันเดินตามองค์หญิงมาตลอดทาง”
“หา?!” มู่ไป๋ไป่รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าลงกลางหัว “เจ้าตามข้า ข้าก็ตามเจ้าเหมือนกัน!”
แล้วตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องนำทาง เด็กตัวเล็กทั้ง 2 คนก็มองหน้ากันโดยไม่มีใครพูดอะไร
หลังจากนั้นไม่นาน มู่ไป๋ไป่ก็ยอมรับความจริงอย่างเจ็บปวดว่าพวกตนหลงทางเสียแล้ว
“ช่างเถอะ เราไปเดินตามหาคนเพื่อถามทางกันก่อน” เด็กหญิงเอ่ยพลางกุมหัวตัวเองเบา ๆ “ไม่อย่างนั้น เราก็ไม่รู้ว่าเราควรกลับไปทางไหน”
“องค์หญิงเพคะ หม่อมฉันขอโทษ” หลัวเซียวเซียวก้มหน้าลงพร้อมกับตำหนิตัวเอง “มันเป็นความผิดของหม่อมฉันทั้งหมด คราวหน้าหม่อมฉันจะพยายามจดจำเส้นทางให้ดี”
องค์หญิงดีต่อนางมากจนทำให้นางเผลอลืมหน้าที่ของตัวเองไป
นางเป็นนางกำนัลขององค์หญิง แต่นางยังไม่สามารถทำสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้ให้ดีได้เลย
นางสมควรถูกลงโทษ!
“ไม่เป็นไร” มู่ไป๋ไป่โบกมืออย่างไม่ใส่ใจนัก “ข้าไม่ได้โทษเจ้าหรอก ข้าจำได้ว่าด้านหน้าของจวนตระกูลจินไปทางทิศใต้…”
คนตัวเล็กหมุนตัวเป็นวงกลมแล้วชี้ตรงไปยังเส้นทางที่ดูค่อนข้างกว้าง “มันจะต้องเป็นทางนี้แน่”
“ถนนเส้นนี้ดูเหมือนจะมีผู้คนสัญจรมากมาย”
หลัวเซียวเซียวพยักหน้าด้วยความประหลาดใจ “องค์หญิง พระองค์ช่างเก่งกาจยิ่งนัก พระองค์รู้วิธีกำหนดทิศทางเช่นนี้ด้วยหรือเพคะ?”
การกระทำขององค์หญิงหกทำให้นางได้เรียนรู้อีกครั้ง
“นี่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร” มู่ไป๋ไป่รู้สึกขัดเขินเมื่อถูกอีกฝ่ายชมต่อหน้า ที่จริงแล้วเรื่องนี้มันมีต้นสายปลายเหตุ
เพราะตอนเด็ก ๆ เธอมักจะหลงทางอยู่บ่อยครั้ง เธอจึงพยายามเรียนรู้ที่จะกำหนดทิศทางการเดินทางของตัวเอง
แม้ว่าเธอจะหลงทิศอยู่เป็นครั้งคราว แต่เธอก็สามารถคาดเดาได้อย่างถูกต้องเกือบจะทั้งหมด
“จะต้องเป็นทางนี้แน่นอน!” ดวงตาของมู่ไป๋ไป่เป็นประกาย “เรารีบไปกันเถอะ!”
เธอรู้สึกมีความสุขมากจนลืมไปว่าที่ลานหน้าบ้านมีคณะขับร้องกำลังร้องเพลงอยู่
หากเธอเดินไปยังทิศทางที่ถูกต้องจริง ๆ นอกจากเธอจะได้ยินเสียงคนพูดคุยกันแล้ว เธอยังต้องได้ยินเสียงคนร้องเพลงด้วย
ดังนั้นเมื่อมู่ไป๋ไป่โผล่ออกมาจากตรอกเล็ก ๆ เธอก็ตกเป็นเป้าสายตาของกลุ่มคนในชุดคลุมสีดำ
“เด็ก 2 คนนี้มาจากไหน?!” คนแรกที่พูดขึ้นมาคือคนที่สวมหน้ากากไม้ อาจเป็นเพราะบริเวณนี้มืดจนเกินไป คนตัวเล็กจึงไม่สามารถมองเห็นลวดลายบนหน้ากากได้ชัดเจน
คนพวกนั้นขยับตัวเมื่อได้ยินเสียง โดยไม่เปิดโอกาสให้มู่ไป๋ไป่กับหลัวเซียวเซียวได้ตั้งตัว พวกเขารีบก้าวเข้ามาคุมตัวพวกเธอเอาไว้
“กรี๊ดดดด! พวกท่านคิดจะทำอะไร?!” เด็กหญิงกรีดร้องเสียงดัง “เราแค่บังเอิญผ่านทางมาเท่านั้น!”
“เฮอะ แล้วอย่างไรล่ะ?” ชายที่สวมหน้ากากไม้หัวเราะเยาะ “ใครใช้ให้เจ้าโชคร้ายบังเอิญมาเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นเข้าล่ะ”
มู่ไป๋ไป่อยากจะบอกว่าเธอไม่อยากเห็นอะไรเลย แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดออกไป เธอก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่คอก่อนจะหมดสติไป
“คุณหนู!” หลัวเซียวเซียวหน้าถอดสีทันทีที่เห็นองค์หญิงหกหมดสติไป นางรีบหันกลับไปกัดข้อมือของคนที่จับตัวนางเอาไว้
ชายคนนั้นรู้สึกเจ็บแปลบจึงยกมือขึ้นตบหน้าเด็กหญิงเต็มแรง
เพี้ยะ!
เมื่อหลัวเซียวเซียวที่เงยหน้าขึ้นมาก็มีเลือดสด ๆ ไหลออกมาจากมุมปาก แต่นางกลับไม่สนใจตัวเองเลยสักนิด นางรีบวิ่งเข้าไปหามู่ไป๋ไป่เพื่อตรวจดูอาการของอีกฝ่าย
“ฮ่า ๆๆ เด็กพวกนี้รักกันจริง ๆ” ชายที่สวมหน้ากากหัวเราะเยาะ “แต่ว่าเด็กน้อย 2 คนนี้หน้าตาดีทีเดียว ถ้าฆ่าพวกนางไปก็คงจะเป็นการเสียเปล่า”
“เราเก็บพวกนางเอาไว้สัก 2-3 วันแล้วนำพวกนางไปขายให้กับหอคณิกาดีกว่า”
“หัวหน้า ในครั้งนี้เราต้องเดินทางไปแคว้นหนานซวน การพาเด็กน้อย 2 คนนี้ไปด้วยอาจจะก่อให้เกิดปัญหา”
“เจ้าไม่เห็นหน้าเด็ก 2 คนนี้หรือ?”
คนที่ก้าวออกมาขัดขวางถึงกับนิ่งอึ้ง ก่อนที่เขาจะหุบปากแล้วถอยกลับไปที่เดิม
หลัวเซียวเซียวรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดของชายสวมหน้ากาก และนางก็จับมือองค์หญิงหกไว้แน่น เมื่อชายที่สวมชุดคลุมลากนางออกไป นางก็แอบโยนถุงหอมของตัวเองลงบนพื้นหญ้าข้างทาง
มู่ไป๋ไป่ได้ซื้อถุงหอมนี้ให้พวกนางตอนที่ไปเดินตลาดเมื่อไม่กี่วันก่อน จื่อเฟิงกับมู่จวินฝานต่างก็ได้รับมันเช่นกัน
หลัวเซียวเซียวหวังว่าองค์รัชทายาทจะเจอของสิ่งนี้เมื่อเห็นว่าพวกนางหายไปนาน
ต่อมา ชายที่สวมเสื้อคลุมกลุ่มนั้นก็พาตัวมู่ไป๋ไป่กับหลัวเซียวเซียวออกจากเมืองมุ่งหน้าไปยังแคว้นหนานซวนโดยไม่หยุดพัก
ในเวลาเดียวกัน ที่จวนตระกูลจิน มู่จวินฝานเห็นว่าน้องสาวยังไม่กลับมาเป็นเวลานานจึงได้ส่งคนออกไปตาม
จากนั้นองครักษ์ก็กลับมารายงานว่าไม่เจอตัวมู่ไป๋ไป่กับหลัวเซียวเซียว
“บางทีเด็กพวกนั้นอาจจะไปวิ่งเล่นที่ไหนสักแห่ง” อวี้เซิ่งยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “ท่านก็รู้ว่าน้องสาวของท่านซุกซนมากเพียงใด ซ้ำยังชอบก่อปัญหาอยู่ตลอดทั้งวัน”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ไป๋ไป่กับเซียวเซียวแย่แล้ววว
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 92
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น