เคล็ดลับฟันเรียงสวยยาวนานด้วยรีเทนเนอร์ที่ใส่เป็นประจำ
เคล็ดลับฟันเรียงสวยยาวนานด้วยรีเทนเนอร์ที่ใส่เป็นประจำ
ปัญหาของคนที่ดูแลความสวยงามของฟันด้วยการจัดฟันนั้นก็คือ การหมั่นสวมใส่รีเทนเนอร์ ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้การเรียงตัวของฟันหลังจากใช้เวลาจัดฟันมาหลายปี ยังคงเรียงสวยอยู่ยาวนาน มีคนจำนวนมากที่จัดฟันแล้วไม่ใส่ใจการสวมรีเทนเนอร์เพราะใส่แล้วไม่สบาย หรืออาจจะจงใจไม่ใส่เลย เพราะคิดว่าฟันเรียงสวยเข้ารูปอยู่แล้ว ซึ่งถือว่าไม่ควรทำอย่างยิ่ง เนื่องจากเราเสียเวลาไม่ต่ำว่า 3 ปีในการจัดฟัน มีทั้งความเจ็บและความทรมานในการรับประทานอาหาร การเลือกใช้รีเทนเนอร์แบบใสอาจจะช่วยให้การสวมรีเทนเนอร์หลังจัดฟันรู้สึกสบายมากขึ้นได้
รีเทนเนอร์คืออะไร และทำไม่เราจะต้องมีวินัยในการใส่ด้วย ทำไมทันตแพทย์จะต้องคอยเตือนให้เราหมั่นใส่ มันช่วยเรื่องฟันหลังจัดมากน้อยเพียงใด แน่นอนว่าเราอาจจะมีความสงสัยเป็นอย่างมาก บทความจากเว็บไซต์เดนต้าจอยแชร์ไว้ว่า หลังจากจัดฟันเสร็จแล้ว หากไม่ใส่รีเทนเนอร์ (Retainer) อย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ฟันก็จะค่อยๆเคลื่อนจนทำให้เกิดฟันล้ม ฟันเก หรือฟันห่าง ซึ่งทำให้ต้องเสียเงิน และเสียเวลากลับมาจัดฟันใหม่อีกรอบ ใส่รีเทนเนอร์ (Retainer) หรือที่เคยได้ยินกันมาว่า เครื่องมือคงสภาพฟันนั่นเอง ซึ่งจะช่วยให้ฟันเรียงตัวอยู่ในตำแหน่งที่สวยงาม ป้องกันฟันล้ม หรือฟันเคลื่อนตัวภายหลังการจัดฟัน ซึ่งปัจจุบันรีเทนเนอร์ที่ได้รับความนิยมจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบด้วยกัน คือ รีเทนเนอร์แบบใสและรีเทนเนอร์แบบลวด ในเรื่องการรับประทานอาหารและสารอาหารก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะช่วยให้ฟันแข็งแรง ไม่ว่าจะเป็น เห็ดหอม ชาวจีนและญี่ปุ่นนิยมกินเห็ดหอมกันมายาวนานหลายศตวรรษ จากการวิจัยค้นคว้าระหว่างสถาบันมะเร็งแห่งชาติของญี่ปุ่นร่วมกับมหาวิทยาลัยในรัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า เห็ดหอมมีสารอาหารหลายชนิด เช่น เลนติแนน (Lentinan) อีริทาดีนิน (Eritadenine) และเอซี-ทูพี(AC-2P) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการต่อต้านมะเร็ง เชื้อไวรัสบางชนิด ลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือด หัวใจตีบ แก้อาการหวัด นอกจากนี้ยังมีข้อมูลงานวิจัยของสถาบันทันตแพทย์นานาชาติ ระบุว่า เห็ดหอมมีประโยชน์ช่วยบำรุงฟัน ลดแบคทีเรียในช่องปาก ป้องกันอาการเหงือกอักเสบ ลูกเกด ผลไม้อบแห้งที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง เพราะอุดมด้วยโพแทสเซียมซึ่งช่วยป้องกันโรคเส้นเลือด ในสมองแตก ความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ลูกเกดยังมีคุณสมบัติช่วยบำรุงฟัน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ชิคาโก ประเทศ สหรัฐอเมริกา อธิบายว่า เนื้อลูกเกดมีกรดโอลีโนลิก (Oleanolic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยชะลอการ เจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปาก กรดโอลีโนอิกที่มีความเข้มข้นระดับ 31 ไมโครกรัม ต่อมิลลิลิตร จะช่วยป้องกันแบคทีเรียไม่ให้เกาะ บริเวณผิวฟัน และหากเพิ่มความเข้มข้นถึงระดับ 62 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร จะหยุดยั้งการเจริญเติบโต ของเชื้อโรคซึ่งก่อให้เกิดอาการเหงือกอักเสบ
ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง
เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น
ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว
หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน
Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.
แสดงความคิดเห็น