รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ ตอนที่2 จะให้ไปส่งก็ได้นะ

-A A +A

รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ ตอนที่2 จะให้ไปส่งก็ได้นะ

ตอนที่ 2

 

            ปริมาเซไปชนกับโซฟารับแขก รีบพลิกตัวหลบ ก่อนที่น้ำเหลว ๆ จะพุ่งกระฉูดออกมาจากปากของหนุ่มผมยาวกระฉอกลงบนพื้นกระจายไปทั่ว เธออยากจะบ้าตาย! มันวันซวยอะไรของเธอเนี่ย!หญิงสาวมองซ้ายมองขวารีบคว้าไม้กวาดตรงมุมห้องมาไว้ในมือเพื่อป้องกันตัวเอง เธอพยายามตั้งสติ

 

            แขกไม่ได้รับเชิญเงยหน้าขึ้นมามอง น้ำเหลวๆ ที่พุ่งออกมาไหลยืดอยู่ตามริมฝีปากนั้นเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนสีซีดของเขาเปื้อนอ้วกเต็มไปหมด

 

            “ขะ...ขอโทษ... หะ..ห้อง...น้ำไป...ทางไหน...” หนุ่มแปลกหน้าเอ่ยขึ้นเป็นครั้งแรก พูดอ้อแอ้สลับกับการสะอึก

 

            “ไปทางโน้น!”ปริมาชี้ปลายไม้กวาดไปยังประตูบ้าน

 

            “ออกไป!” หญิงสาวตวาดเขาเสียงดัง สองมือจับไม้กวาดแน่น ถ้ากล้าเข้ามาเธอหวดไม่ยั้งแน่

 

            “ปริม!”ปรามรีบเดินมายังห้องรับแขกว่าเกิดอะไรขึ้น! 

 

            “ใจเย็น!เพื่อนพี่เอง ชื่อปฏิการ” เขารีบยกมือห้ามน้องสาวและบอกสถานะของคนแปลกหน้า

 

            หญิงสาวเบิกตาโตด้วยความงงสุดขีดเมื่อไอ้ขี้เมาคนนี้ดันเป็นเพื่อนพี่ชายของเธอเอง!

 

            “เพื่อนพี่เหรอ!!”เธอโพล่งออกมา ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองทำไมพี่ปรามถึงเป็นเพื่อนกับคนแบบนี้ได้

 

            “พี่ขอโทษนะ ที่วันนี้ไม่ได้ไปรับพี่ไปงานแต่งงานของพ่อปฏิการตอนเช้า กะว่าเสร็จงานแล้วจะแวะไปรับปริม พอดีว่าปฏิการมันเอาแต่กินเหล้าจนเมาโวยวายในงานเลี้ยงพี่เลยต้องพามันมาที่บ้านให้สงบสติอารมณ์ก่อน” เขาแจงสาเหตุที่ผิดนัดกับน้องสาว

 

            “พี่เห็นเพื่อนดีกว่าน้องเหรอคะ” ปริมาพูดน้ำเสียงนั้นน้อยใจพี่ชายอยู่ไม่น้อยหญิงสาวส่ายหัวพลางถอนหายใจ

 

            “ไม่ใช่อย่างนั้น... แล้วพี่โทรหาทำไมติดต่อปริมไม่ได้ เกิดอะไรขึ้น! เป็นอะไรรึเปล่า?”เขามองน้องสาวคนเดียวด้วยสายตาขอโทษที่ต้องผิดคำพูดกับเธอ

 

            “ฝนตกหนักมาก ปริมเลยปิดเครื่อง” น้ำเสียงห้วนนั้นบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน

 

            “รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วมากินโจ๊กร้อน ๆ นะ” เขารู้ดีว่าทางเข้าบ้านนั้นลำบากขนาดไหนถ้าฝนตกขึ้นมา ที่สำคัญไม่มีรถสองแถวเข้ามาได้ เธอคงต้องเดินตากฝนมาตั้งไกลกว่าจะถึงบ้าน

 

            “ปริมไม่หิวค่ะ” เธอรีบเดินออกจากห้องนั้นไปทันที

 

            ปรามมองตามหลังน้องสาวไปด้วยความรู้สึกผิด แล้วหันกลับมามองเพื่อนตัวปัญหาอย่างกลุ้มใจ ปกติปฏิการไม่ใช่คนขี้เหล้าเมายาแบบนี้เลย พอพ่อเลิกกับแม่แล้วแต่งงานใหม่กลับกลายเป็นแบบนี้ไปได้มันจะประชดชีวิตอะไรนักหนาครอบครัวที่หย่าร้างกันมีเยอะแยะไปพลางส่ายหัวกับสภาพของเพื่อนรักเวลานี้

 

 

 

                *********************

 

 

 

            “ก๊อก ๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น

 

            ปริมาละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์มองไปที่ต้นกำเนิดเสียง

 

            “ปริม กินข้าวได้แล้วจ้า” เสียงพี่ชายตะโกนบอกอยู่หน้าประตู

 

            เงียบกริบ...คนที่อยู่ในห้องยังไม่ยอมตอบ

 

            “พี่ขอโทษพี่สำนึกผิดแล้ว” เมื่อยังไม่มีเสียงตอบกลับ ปรามจึงพูดต่อไป

 

            “วันนี้พี่ทำข้าวต้มต้มยำที่ปริมชอบด้วยนะ ไม่สนเหรอ เดี๋ยวเย็นหมดน้า...” คนเป็นพี่ยังพยายามง้อน้องสาวต่อไป

 

            “พี่จะยืนรอตรงนี้ จนกว่าปริมจะออกมากินด้วยกันนะ”

 

            เสียงพี่ชายของเธอเงียบไปแล้ว ปริมามองข้อความบนไลน์พีซีจากหน้าจอคอมพิวเตอร์

 

            “จะส่งของได้เมื่อไหร่ ทำไมโทรไม่ติดครับ” ลูกค้ารายแรกที่เธอขายน้ำหมักชีวภาพได้จากเว็บไซต์ถามเข้ามา

 

            ปริมาเพิ่งนึกขึ้นได้เธอปิดโทรศัพท์เอาไว้ ยังไม่ได้เปิดเลยที่สำคัญยังไม่กล้าเข้าไปตอบ เพราะยังไม่รู้จะส่งของให้ลูกค้าได้อย่างไร น้ำหมักชีวภาพนั้นมีน้ำหนักไม่น้อย อาจจะหกซึมออกมาได้ ยังไม่รู้จะแพ็ควิธีไหนดี เธอไม่มีสมาธิที่จะคิดจะทำอะไร ด้วยใจหนึ่งก็กังวลเป็นห่วงพี่ชาย ถ้าเธอไม่ออกไปกินข้าว เขาก็จะไม่ยอมกินข้าวเช่นกัน เธอจึงได้ตัดสินใจไปเติมอาหารให้สมองก่อน 

 

            เมื่อเปิดประตูออกไป เห็นพี่ชายยืนรออยู่หน้าห้องจริง ๆ

 

            “ดีกันนะ” คนที่ยืนอยู่หน้าห้อง ยกนิ้วก้อยมาตรงหน้าคนขี้น้อยใจ

 

            ปริมามองหน้าพี่ชาย ก่อนจะค่อย ๆ ยกนิ้วก้อยขึ้นมาเกี่ยวก้อยกับเขา เธอเหลือพี่ชายแค่คนเดียวแล้ว ถ้าเธอไม่พูดกับเขาแล้วเธอจะพูดกับใครได้

 

            “ไปกินข้าวกัน วันนี้พี่ทำสุดฝีมือเลยนะ” ปรามยกมือกอดคอน้องสาว เขารู้ว่าวิธีนี้จะทำให้คนขี้น้อยใจต้องออกมาแน่นอน เพราะเธอรักและเป็นห่วงเขามาก กำชับให้เขาทานข้าวให้ตรงเวลาเสมอ

 

            “แล้วให้คะแนนพี่ด้วยนะ ว่าอร่อยแค่ไหน เต็มสิบจะได้กี่คะแนนเอ่ย...”

 

            “ได้ค่ะ” รอยยิ้มค่อย ๆ ปรากฏบนใบหน้านั้น เธอจะโกรธพี่ชายได้อย่างไร น่ารักขนาดนี้

 

                รอยยิ้มบนใบหน้าของปริมาค่อย ๆ เลือนหายไปเมื่อเดินมาถึงโต๊ะอาหารและมองเห็นไอ้หนุ่มขี้เมามานั่งร่วมโต๊ะด้วย เธอมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม ทำไมหมอนี่ยังไม่กลับอีกวะ! รู้สึกข้องใจขึ้นมาทันที

 

                “ปริมนี่ปฏิการเพื่อนพี่เอง” ปรามแนะนำเพื่อนซี้ให้น้องสาวคนเดียวรู้จักอย่างเป็นทางการ

 

                “ขอโทษด้วยนะ ที่เมื่อคืนนี้ ทำให้ตกใจ” หนุ่มผมยาวเอ่ยขึ้นที่เป็นเหตุให้เจ้าของบ้านอกสั่นขวัญหายไม่น้อย ปฏิการมองน้องสาวเพื่อนอย่างนึกไม่ถึงว่าจะมีหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้ แต่ดูจากสีหน้าและแววตาของเธอเวลานี้ คงไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก

 

                “ทำไมยังไม่กลับอีกล่ะ” ปริมาตวัดสายตามองเขาอย่างเบื่อขี้หน้าเต็มที แม้เวลานี้เขาจะดูดีกว่าเมื่อคืนราวกับคนละคนกันก็ตาม ผมยาวถูกรวบไว้ด้านหลังอย่างเรียบร้อยเผยให้เห็นตุ้มหูเงินข้างหนึ่ง บ่งบอกถึงรสนิยมอยู่ในที

 

                คำถามนั้นทำให้ปฏิการต้องวางช้อนข้าวต้มในมือลงอย่างกะทันหัน! เขาจ้องมองฝ่ายตรงข้ามที่ประกาศศึกกับเขาต่อหน้าต่อตา แสดงออกว่าไม่พอใจเขาอย่างมาก หนุ่มผมยาวชันข้อศอกกับพื้นโต๊ะอาหาร ยกมือข้างหนึ่งมาจับที่ปลายคางตนเองทำทีเป็นกำลังครุ่นคิด เมื่ออีกฝ่ายตอบมาแบบนี้ คนอย่างเขามีหรือจะยอม 

 

                “อืม...ที่นี่...บรรยากาศดี...คงต้องอยู่อีกหลายวันแล้วล่ะ ต้องขอพักผ่อนเดินเที่ยวชมเสียหน่อย” ชายหนุ่มตอบลอยหน้าลอยตาอดกวนประสาทเธอไม่ได้ อุตส่าห์ขอโทษ คนอะไร! ไม่รู้จักการให้อภัยซะบ้างเลย ริมฝีปากบางได้รูปสวยนั้นค่อยๆ เหยียดโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มที่มุมปาก

 

                คำตอบนั้นกับรอยยิ้มกวนโอ๊ยของเขา ทำให้น้องสาวเจ้าของบ้านหัวร้อนขึ้นมาทันควัน

 

                “ไม่มีบ้านจะกลับหรือไง!”

 

            “ปริมทานข้าวเถอะ เดี๋ยวเย็นหมด” เสียงพี่ชายปรามเบาๆ พลางยกมือแตะแขนน้องสาว

 

            “ปรามที่นี่สวยมากให้น้องแกพาข้าเที่ยวชมสถานที่หน่อยนะ” เขายังคงยิ้มกวนบาทาและกวนประสาทฝ่ายตรงข้ามไม่เลิก

 

            ปริมาหันขวับไปหาพี่ชายทันที   

 

            “พี่ปรามต้องให้เขากลับวันนี้เลยนะคะ” เธอเน้นเสียงดังลั่นอย่างไม่พอใจที่จะต้องอยู่ร่วมชายคากับคนแปลกหน้าอย่างเขา

 

            “เดี๋ยวข้าพาแกเดินเที่ยวเอง เติมข้าวต้มหน่อยนะ” ปรามหันไปปรามเพื่อนซี้แล้วตักข้าวต้มเติมให้ มันจะได้หุบปากเสียที ปกติเพื่อนของเขาเป็นคนขี้เกรงใจแต่บางทีปากก็ชอบกวนประสาท ถึงได้มีเรื่องไม่ลงรอยกับพ่อเป็นประจำ

 

            หนุ่มผมยาวได้ยินจึงสงบคำลงแล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวเงียบ ๆ ไม่อยากทำให้เพื่อนลำบากใจ

 

            ปรามมองน้องสาวกินข้าวต้มต้มยำที่เขาตักให้จนหมดชามแล้ว

 

            “เป็นไง อร่อยมั้ย? ให้กี่คะแนนเอ่ย?”

 

            “ศูนย์ค่ะ” เธอรู้สึกรำคาญหนุ่มผมยาวเอามากๆ จนพาลมาถึงพี่ชายด้วย

 

            “เติมอีกนะ” ปรามตักข้าวต้มให้น้องสาวเพิ่ม

 

            ปรามยื่นซองสีขาวไปตรงหน้าคนหน้างอ

 

            “พ่อฝากมาให้ ช่วยค่าเทอมจ้ะ” 

 

            “ปริมเลี้ยงตัวเองได้แล้ว พี่ช่วยเอาไปคืนด้วยค่ะ” หญิงสาวเลื่อนซองขาวไปตรงหน้าพี่ชาย เธอพูดอย่างชัดเจนหลายครั้งแล้ว ว่าจะไม่รับเงินช่วยเหลือใด ๆ จากบิดาอีก เมื่อพ่อหย่ากับแม่ไปแต่งงานใหม่ เขาก็ไม่ใช่พ่อของเธออีกต่อไป เธอเกลียดคนที่ทำให้แม่ของเธอต้องเสียใจ คนที่เธอจะเรียกว่าพ่อได้ต้องไม่ใช่คนหลายใจแบบนี้

 

            “แล้วเว็บที่ปริมทำไปถึงไหนแล้วล่ะ” ปรามมองหน้าน้องสาวที่เครียดขึ้นมาทันทีเมื่อเอ่ยถึงผู้เป็นบิดา เขาจึงต้องเปลี่ยนเรื่องเพื่อให้บรรยากาศคลี่คลายลง

 

            “ทำเสร็จแล้วค่ะ ลองเอาน้ำหมักชีวภาพไปลงขายตอนนี้ขายได้แล้วตั้งสิบสองขวด ลูกค้าโอนแล้วด้วย ปริมงงมาก ๆ เลยค่ะ มันขายได้” สีหน้าเอาเรื่องเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มตื่นเต้นทันทีทันใด เธออยากจะเล่าให้เขาฟังตั้งแต่เมื่อคืนแล้วถ้าไม่มีคนขี้เมามาวุ่นวายในบ้าน

 

            “ไหนเว็บอะไร ให้พี่ดูหน่อยซิ” ปรามมองน้องสาวอย่างทึ่ง เธอมีหัวการค้ามาตั้งแต่เด็ก ทำโน่นทำนี่ไปขายตลอดจนไม่ต้องขอเงินใครเรียนหนังสืออีกเลย 

 

            ปริมารีบลุกขึ้นไปหยิบมือถือที่วางผึ่งไว้ที่ห้องรับแขก กดเปิดเครื่องโชว์เว็บไซต์สำเร็จรูปที่เธอทำเองกับมือให้พี่ชายดู

 

            “น้องเราเก่งจัง” เขามองเว็บไซต์โทนสีหวานในมือถือของน้องสาว

 

            “แต่มีปัญหาว่าจะส่งอย่างไรดีน่ะสิคะ ขนส่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยรับส่งน้ำหมักและจำกัดกิโล แถมราคาก็แพงด้วยค่ะ”

 

            “เขาอยู่แถวไหนล่ะ ไหนพี่ดูซิ” เมื่อมองเห็นที่อยู่ของลูกค้า ปรามจึงหันไปมองปฏิการ

 

            “แกไปส่งให้หน่อยได้ไหม อยู่ใกล้ ๆ บ้านแกเลยว่ะ” เขารีบโยนงานเพื่อการสมานฉันท์ให้เพื่อนรักทันที

 

            “พี่ปรามไม่ต้องรบกวนเขาหรอกค่ะ” เธอรีบพูดตัดบทเอาดื้อ ๆ

 

            ปฏิการหันมามองหน้าน้องสาวเพื่อน ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอ อายุเพียงแค่นี้พึ่งตัวเองได้โดยไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ได้แล้ว? เขาอดทึ่งในตัวเธอไม่ได้เช่นกัน

 

            โทรศัพท์ของปริมาดังขึ้น ลูกค้ารายแรกของเธอโทรเข้ามา

 

            “ส่งของวันนี้ได้รึเปล่าครับ พรุ่งนี้ผมจะไม่อยู่บ้าน”

 

            “ขะ... ค่ะ ได้ค่ะ” ปริมาจำเป็นต้องรับปากลูกค้าไปก่อน แม้ว่าจะยังคิดไม่ตกว่าจะส่งของให้ด้วยวิธีไหน

 

            “ว่าไง จะให้ไปส่งก็ได้นะ” หนุ่มผมยาวหันมาลอยหน้าลอยตาถาม

 

            “ก็ได้” เธอจำใจต้องให้เขาไปส่งให้ ทั้งที่ไม่อยากรับความช่วยเหลือใด ๆ จากผู้ชายคนนี้ เธอไม่อยากเกี่ยวข้องอะไรกับเขาอีกเลย

 

            “ค่าจ้างล่ะ” ปฏิการแบมือไปข้างหน้า

 

            “นายจะคิดเท่าไหร่ก็ว่ามาเลย” ปริมาตอบด้วยน้ำเสียงแข็งห้วนกลับไป

 

            ปฏิการเลิกคิ้ว ริมฝีปากนั้นเหยียดยิ้มเล็กน้อย ก่อนแกล้งทำท่าคิดหนัก เคาะนิ้วชี้ที่ปลายคางของตัวเองเบาๆ

 

            “อืม...เอาแบบนี้แล้วกัน! จ่ายเป็นค่าที่พักคืนนี้กับค่าอาหารเย็นนะ”

 

            หญิงสาวตวัดสายตาขึ้นมาจ้องหน้าชายหนุ่มทันที นี่มันแกล้งกันชัด ๆ จะยังไม่ยอมกลับใช่ไหม?

 

            “ทำไม! ระยะทางไม่ใช่ใกล้ ๆ นะ จากนี่ไปถึงโน่นกี่กิโล แล้วสินค้าของเธอน้ำหนักเท่าไหร่?” ปฏิการรีบสวนกลับทันควัน

 

            “ก็ได้ ตามนั้น” เธอยอมจำนนอย่างขอไปที

 

            “ของอยู่ไหนล่ะ จะได้รีบไป เดี๋ยวจะกลับมืด”

 

            ปฏิการเดินตามน้องสาวเจ้าของบ้านออกไปจัดของน้ำหมักชีวภาพบรรจุอยู่ในขวดหนึ่งลิตรครึ่งวางอยู่บนชั้นยาวขนาดสี่ชั้นเต็ม โรงเรือนนั้นมุงหลังคาจากยกสูง ด้านในมีแต่ถังพลาสติกขนาดสามสิบลิตรวางเรียงรายพรึ่บไปหมด

 

            “มีลังใส่หรือเปล่า ลังเบียร์ลังแม่โขงน่าจะใส่ได้นะ” หนุ่มผมยาวคะเนขนาดของลังใส่สินค้า

 

            “รู้ดีจริงนะ” ปริมาอดค่อนแคะเขาไม่ได้

 

            หนุ่มผมยาวถอยรถมอเตอร์ไซค์มาจอดใกล้ ๆ มองเห็นน้องสาวเพื่อนกำลังจัดของใส่ลังกระดาษอยู่

 

            “เดี๋ยวฉันช่วยยกเอง” หนุ่มผมยาวรีบเข้าไปช่วยยกลังที่บรรจุน้ำหมักครบจำนวนแล้วมาไว้ที่เบาะซ้อนท้ายแต่ทว่ายังยกไปไม่ถึงรถ เขาเดินสะดุดก้อนหิน ทำให้ขวดน้ำหมักในมือหล่นลงกระแทกพื้นแตกไปสามขวด

 

            “ฉันหวังว่า นายคงจะไม่เทกระจาดระหว่างทางหรอกนะ” เธอมองเพื่อนพี่ชายด้วยสายตาตำหนิและไม่เชื่อมั่นในตัวเขาเอาเสียเลย พ่อมาดดีทีเหลว

 

            “ฉันจะชดใช้ให้ที่ทำของของเธอแตกไปสามขวด” ปฏิการจ้องหน้านายจ้างจำเป็น

 

            “ไว้หักกับค่าจ้างละกันนะ” หนุ่มผมยาวอมยิ้มน้อย ๆ

 

            ปฏิการสตาร์ทรถ แล้วสวมหมวกกันน็อก

 

            “รีบทำกับข้าวล่ะ เดี๋ยวจะรีบกลับมารับค่าจ้างนะจ๊ะ” เขาหันมาบอกก่อนขับรถออกไป

 

            หญิงสาวทำจมูกย่นใส่อย่างหมั่นไส้ ไอ้หมอนี่กล้าดีอย่างไรมาสั่งเธอ

 

 

 

                ===========

 

 

 

            ปริมาเดินไปปิดแก๊ส มองต้มมะระผักกาดดองที่อยู่ในหม้อควันฉุย แล้วหยิบฝาหม้อมาปิด พี่ชายของเธอชอบทานต้มมะระผักกาดดองที่สุด มีรอยยิ้มระบายอยู่บนใบหน้านั้น ก่อนหันมาหั่นส้มที่ล้างเรียบร้อยแล้ว กลิ่นหอมของน้ำส้มคั้นลอยคลุ้งไปทั่ว ทำให้บรรยากาศของห้องครัวสดชื่นขึ้นมาทันที น้ำส้มถูกเทใส่เหยือกใสสี่เหลี่ยมทรงสูง มีฝาปิดอย่างดี แล้วจึงนำเหยือกเข้าไปแช่ในตู้เย็น ถ้าพี่ชายเธอได้ดื่มจะต้องถูกใจหายเหนื่อยแน่นอน 

 

            ปฏิการดับเครื่องยนต์ ถอดหมวกกันน็อกออก แล้ววางไว้บนมอเตอร์ไซค์ เหงื่อไหลจนปอยผมด้านหน้าเปียกโชก เขายกแขนเสื้อเช็ดเหงื่อที่หยดอยู่ที่ปลายคาง ภารกิจส่งของให้ยัยตัวแสบเสร็จสิ้นลงแล้ว เขารู้สึกเหนื่อยไม่น้อย ทั้งไกลทั้งร้อน ไปกลับไม่ต่ำกว่าหกชั่วโมง ตอนนี้อยากจะทานน้ำอะไรเย็น ๆ ให้ชื่นใจ

 

            โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของหนุ่มผมยาวดังขึ้น เมื่อหยิบออกมาดู เห็นเบอร์ที่โทรเข้ามา กลับปล่อยให้เสียงโทรศัพท์ดังอยู่อย่างนั้นยังไม่ยอมรับสาย

 

            “รับสิวะ!” ปรามเดินมาเจอเพื่อนยืนมองโทรศัพท์ที่มีสายเรียกเข้าอยู่หน้าบ้าน 

 

            นิ้วยาวเรียวเลื่อนหน้าจอเพื่อรับโทรศัพท์ เขากดเปิดลำโพง

 

            “ปฏิการ! แกไปอยู่ไหน ทำไมไม่กลับบ้าน!” เสียงบิดาถามอย่างไม่ค่อยพอใจนัก

 

            หนุ่มผมยาวยืนนิ่งมองโทรศัพท์ในมือ ภาพที่พ่อพูดจาหวานหูกับแฟนใหม่ช่างแตกต่างกับเวลาที่พูดกับเขาเหลือเกิน

 

            “ได้ยินหรือเปล่า! พ่อถามแกอยู่นะ” ปลายสายพูดเสียงดังขึ้นกว่าเดิม เมื่อลูกชายคนเดียวยังไม่ตอบ

 

            “พ่อน่าจะดีใจที่ผมไม่อยู่เป็นก้างขวางคอพ่อนะ”

 

            “ถ้าคืนนี้แกไม่กลับมา พ่อจะไม่โอนเงินเข้าบัญชีให้ ถ้าคิดว่าตัวเองปีกกล้าขาแข็งก็ลองดู!” ปลายสายวางหูไปทันทีอย่างหัวเสีย

 

            “คืนนี้ แกควรจะกลับบ้านนะ พ่อเป็นห่วง...ถึงได้โทรมา...” ปรามตบบ่าเพื่อนเบา ๆ

 

            “หิวมั้ย ไปในครัวหาอะไรกินก่อน ให้ใจเย็น ๆ ตามสบายเลยนะ อยากกินอะไรบอกปริมเขาทำให้ได้เลย เดี๋ยวข้าเดินไปดูบัญชีที่ร้านอาหารก่อน เดี๋ยวกลับมากินข้าวด้วยกัน” 

 

            หนุ่มผมยาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ เดินเข้ามาในบ้าน ตรงไปที่ห้องครัวเพื่อหาน้ำดื่ม มองเห็นปริมากำลังสาละวนจัดของในตู้เย็นอยู่ รอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปาก เขาค่อย ๆ เดินย่องอย่างเบาที่สุด ไปหยุดอยู่ด้านหลังน้องสาวเจ้าของบ้าน อยากจะแกล้งแม่ครัวให้ตกใจเล่นนิดหน่อย แต่ทว่ายังไม่ทันส่งเสียงให้เธอตกใจ ร่างเล็กก็ดันถอยหลังมาชนเขาเสียก่อนและสะดุดเท้าของเขาจนเซเสียหลัก

 

            “ว้าย!” เสียงปริมาโพล่งออกมาด้วยความตกใจ ไม่นึกว่าจะมีใครมายืนอยู่ข้างหลังแบบนี้

 

            หนุ่มผมยาวช่วยประคองร่างที่กำลังเซเสียหลักไว้ในอ้อมแขน

 

               

            ***************

 

            สวัสดีค่า...ส่งเสียงทักทายกันหน่อยจ้า... ว่าอ่านแล้วเป็นยังไงย้าง  นินดีที่รู้จักทุกคนค่า ..

                               

 

               

 

               

 

               

 

               

 

 

 

               

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สารบัญ / นำทาง

ความคิดเห็น

รูปภาพของ Suriyan saychompoo

อ่านแล้วโอเคเลยครับ

แต่รู้สึกเห็นใจคนคอยห้ามศึกระหว่าง 2 คนนี้แล้วแหละ 55+

รูปภาพของ Risait444

ว้าว...มาอ่านแล้วเหรอ
พระเอกนางเอกจะกัดกันตลอด พี่ชายผู้มีความยุติธรรมเป็นคนเดียวที่นางเอกเชื่อ และสั่งนางเอกได้

ว่าแต่เล่นดนตรีมานานรึยังคะ ถนัดเครื่องดนตรีชนิดไหนคะ

รูปภาพของ Suriyan saychompoo

เล่นกีตาร์ครับ เคยเล่นเป็นอาชีพตอนสมัยเรียนอะครับ

แต่พอจบมาก็ไม่ได้ยึดอาชีพนั้นแล้ว เพราะได้งานคนละสายงานครับ

รูปภาพของ Risait444

ว้าว...เล่นเป็นอาชีพเลยเหรอคะ เล่นเป็นอาชีพนี่รับงานยังไงบ้างคะ ขอเป็นความรู้หน่อยค่า

รูปภาพของ Suriyan saychompoo

หลักๆ ก็เล่นตามร้านอาหาร หรือไม่ก็รวมวงกันไปรับงานทั่วไป เช่นตามงานเลี้ยงต่างๆ ครับ

รูปภาพของ Risait444

ขอบคุณมากค่า

รูปภาพของ Khrongjai-mettpiroon

นางเอกน่ารักดีค่ะ พระเอกก็ด้วย ท่าทางเอาเรื่องทั้งคู่เลยจริงๆ ^^ มาตามอ่านต่อ หลังจากอ่านตอนแรกจบไปเมื่อวันก่อนค่ะ ปกติไม่ค่อยชอบผช.ผมยาวนะ แต่คนนี้ถือว่าพอรับได้ค่ะ อิๆ

รูปภาพของ Risait444

ขอบคุณมากๆ เลยจ้า น้องเคสใช่รึเปล่าจ๊ะ

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.