บทที่ 13...2/3
ปรานต์ดีใจที่เห็นว่าเมวามางานในวันนี้ เขาไม่แน่ใจว่าทีมงานออแกไนซ์ส่งบัตรเชิญให้เธอด้วย อาจไม่รู้ว่าเราสองคนเป็นเคยเป็นแฟนกันมาก่อน แม้จะเป็นอดีตไปแล้ว แต่ก็นับว่ามีประโยชน์ เท่าที่เขารู้และพูดคุยกับเมวาเมื่อหลายเดือนก่อน ทำให้รู้ว่าเธอกำลังไปได้ดีในสายอาชชีพทั้งงานออกแบบท่าเต้นและไลฟ์ไตล์ในเรื่องของการแต่งตัวที่ไม่ว่าเธอหยิบจับอะไร ของสิ่งนั้นมักมีคนไปตามซื้อ จนบางครั้งหมดสต็อกก็มี นับว่าเพื่อนเก่าของเขาคนนี้ได้ทำในสิ่งที่ชอบและรับรายได้ที่มากทีเดียว
“ยินดีด้วยนะปรานต์ วันนี้และวันต่อๆ ไป เมวาขอให้ปรานต์ได้พบแต่ความสำเร็จนะ” เมวายิ้มให้ปรานต์อย่างจริงใจ 12 ปีผ่านไปเร็วมาก จนตอนนี้เราสองคนกำลังประสบความสำเร็จในอาชีพที่เลือกอีกขั้นแล้ว
“ขอบใจมากนะเมวา ไม่เจอกันนานเลย สบายดีนะ”
ปรานต์ยิ้มรับและหันไปทางกล้อง แต่ทำไมเขารู้สึกเหมือนตัวเองทำผิดมีชู้อย่างไรก็ไม่รู้ ทั้งที่จอมขวัญถ่ายรูปตามปกติไม่ได้จ้องเขม็งหรือเดินหนีอย่างไม่พออย่างที่เห็นผู้หญิงเวลาหึงทำกัน
“สบายดี ตอนนี้คงย้ายกลับมาอยู่ไทยถาวรแล้วล่ะ”
“กลับมาไทยตั้งนานแล้วทำไมไม่ติดต่อหากันบ้างล่ะเมวา” ตฤณได้ทีทักทายเพราะตอนนี้กล้องทุกตัวส่องมาทางนี้ทั้งนั้น แม้จะไม่ใช่บนเวที แต่เขาก็ได้ซีนไม่มากก็น้อย
“นั่นสิ ดังแล้วลืมเพื่อนๆ หรือเปล่า” อวัชยิ้มให้เมวา ผู้หญิงที่เข้ามาในเวลาที่เหมาะมาก เขาจะสมหวังกับนิรชาได้เพราะมีเมวานี่ล่ะ
เมวายกมือไปตีไหล่ของอวัชเบาๆ เหมือนเมื่อก่อน “ไม่ใช่สักหน่อย พอกลับมาแล้วยังยุ่งๆ เรื่องงานทางโน้นที่ต้องย้ายทุกอย่างมาไทยเลยไม่ค่อยว่างเลย อีกอย่างไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว เมวาเลยไม่แน่ใจว่ายังจำกันได้หรือเปล่า”
“จำได้สิ” อวัชเอ่ย
“ถ้างั้นหลังเลิกงานเปิดตัวแล้วเราไปดื่มกันไหม ตฤณมีร้านไหนแนะนำให้เมวาบ้างหรือเปล่า กลับมาไทยเป็นเดือนแล้ว เมวายังไม่ได้ไปเที่ยวไปดื่มกับเพื่อนเลย” เมวาชวนอย่างน้อยวันนี้ก็ครบกลุ่มตอนเรียนมัธยมปลายพอดี
“ได้สิ” ตฤณรับปากเพราะเรื่องนี้เขาน่าจะถนัดที่สุด “เดี๋ยวฉันจองร้านให้เอง ไปกันทั้งหมด 4 คนก็ดีนะ จะได้ระลึกความหลังสมัยมัธยมกัน”
“เอาสิ ปรานต์ไปด้วยใช่ไหม” อวัชถามแทนทุกคน
“ถ้าไม่ติดธุระอะไรจะตามไป ส่งโลเคชั่นร้านมาแล้วกัน” ปรานต์ตอบ
เป็นอันตกลงกันตามนี้ แม้คำตอบของปรานต์จะไม่ได้บอกว่าจะไปแน่ๆ เพราะการที่เขามีงานเปิดแบรนด์ธุรกิจ การปลีกตัวออกไป แม้จะจบงานแล้วก็อาจจะยากสักหน่อยเพราะอาจมีประชุมทีมงานปิดท้ายเป็นการภายใน
เมวาได้รับความสนใจการสื่อและแฟนคลับที่เป็นสาวๆ ในงานด้วย ทำให้เธอแทบไม่มีเวลากลับมาคุยกับกลุ่มเพื่อน
ปรานต์มองหาจอมขวัญไปทั่ว พอเห็นว่าเธอกำลังถ่ายรูปคนในงานและกินขนมพร้อมกับคนในกลุ่มอาชีพเดียวกันก็เบาใจว่าเธออยู่ได้ แม้ไม่มีเขาคอยดูแล จริงๆ แล้วเธอแทบไม่สนใจเขาเลยต่างหาก นี่หรือว่าที่เจ้าสาว เธอช่างต่างออกไป หากเป็นผู้หญิงอื่น ตอนนี้อาจไม่ยอมให้เขากระดิกตัวไปไหนด้วยซ้ำ แต่พอจอมขวัญเป็นแบบนี้ก็ทำให้ปรานต์พอใจระคนฉุนอยู่นิดหน่อย เธอทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรต่อเขาเลย
จอมขวัญเก็บเมมโมรี่การ์ดใส่กระเป๋าใบเล็ก ก่อนจะเก็บกล้องใส่กระเป๋าสะพายที่เธอใช้เป็นประจำ วันนี้งานของเธอเสร็จแล้วในเวลาเกือบ 6 โมงเย็น ตอนแรกเธอคิดจะไปบอกลาปรานต์ก่อนกลับจะได้ไม่ดูเสียมารยาท แต่การที่นิรชามางานวันนี้โดยที่เขาต้อนรับขับสู้อย่างดี ทั้งๆ ที่ผู้หญิงคนนั้นอาจจะ ไม่สิ สำหรับเธอแล้วนิรชานี่แหละคนที่อยากวางยาปรานต์โดยจ้างหวาน แต่ปรานต์กลับไม่ทำอะไรสักอย่าง ทำให้จอมขวัญโมโหเขามาก วันนี้นอกจากเห็นผ่านเลนส์กล้องแล้ว เธอไม่อยากเห็นหรือพูดกับเขาอีก
“คนบ้า พอคนที่สงสัยเป็นคนใกล้ตัวก็ไม่ทำอะไรแล้วเหรอ”
จอมขวัญเปลี่ยนเสื้อผ้าไปก็บ่นไป เดี๋ยวเสื้อผ้ากับเครื่องประดับที่เขาให้ชานนจัดการหามาให้เธอ เอาไว้เธอจะส่งคืนให้เขาแล้วกัน วันนี้คงไม่ต้องพบหน้ากันแล้ว เธอได้ยินแม้ไม่ได้ตั้งใจจะได้ยินว่าหลังจากจบงานเปิดตัวแบรนด์มินธรา เขามีนัดกับเมวาต่อ นี่ต่างหากคนที่อยู่ในสังคมระดับเดียวกับเขา
หญิงสาวพับเดรสราคาแพงระยับใส่ถุงที่บอกชื่อแบรนด์ แล้วถือออกมาจากห้องน้ำเพื่อเลี้ยวไปทางลิฟต์ โรงแรมนี้เธอเคยมาครั้งหนึ่งจึงจำได้ว่าเรียกรถแท็กซี่ไม่ยาก
มีคนรอเรียกรถแท็กซี่อยู่เหมือนกัน จอมขวัญยืนรอตามคิวที่ใครมาก่อนก็ได้รถแท็กซี่ก่อน เสียงโทรศัพท์ของเธอดังทำให้ต้องรับ แม้จะเห็นว่าใครที่โทรมา ความเป็นนักข่าวจะเพิกเฉยต่อแหล่งข่าวไม่รับสายก็จะทำตัวต่อกันยาก อย่างไรเสียก็ต้องเจอกันอีกในอนาคตสักงานใดงานหนึ่ง
“คุณจอมขวัญอยู่ไหนครับ ผมหาทั่วงานไม่เจอเลย” ตฤณถามเสียงหวานสายตามองไปที่ป้ายรถประจำทางฝั่งตรงข้าม เขาขับออกจากโรงแรมมาแล้วกำลังยูเทิร์นเพื่อไปพักที่คอนโดซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก คิดว่าสักสองทุ่มค่อยออกไปตามนัดกับเพื่อนสมัยมัธยมปลาย โชคดีที่เขาเห็นจอมขวัญพอดี
“ฉันทำงานเสร็จแล้วเลยออกมาจากโรงแรมค่ะ คุณตฤณมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ”
“ผมจะชวนคุณจอมขวัญไปดินเนอร์ด้วยกันน่ะครับ เพื่อขอบคุณที่มาทำข่าวของผมแล้วยังเขียนบทสัมภาษณ์ออกมาดีอีกด้วย”
จอมขวัญยอมใจความตื๊อไม่เลิกของตฤณจริงๆ เขาไม่ได้ชอบเธอหรอก แต่ชอบมีผู้หญิงสักคนอยู่ใกล้ๆ มากกว่า เธอไม่อยากเปลืองตัวทำเรื่องแบบนั้น ทำงาน เมื่อจบงานก็คือจบ ไม่มีเรื่องอื่นมาเกี่ยวข้องอีก
“ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นงานของฉันอยู่แล้ว คุณตฤณไม่ต้องเลี้ยงอาหารเย็นฉันหรอกนะคะ”
ตฤณยิ้มชอบใจ การที่ปรานต์ให้ความสนใจจอมขวัญ ทำให้เขาอยากรู้ว่าทำไม มันคงเป็นความรู้สึกชอบแข่งของเขาที่มีต่อปรานต์กระมัง เขาชอบชนะ หากปรานต์ถูกใจใครหรืออะไร เขาก็อยากได้ก่อน ยกเว้นเมวาที่ไม่เคยเล่นตามเกมเขาเลย
“ไม่ได้หรอกครับ เอาเป็นว่าวันนี้คุณจอมขวัญสะดวกไหมครับ ผมจะได้ไปรับ”
จอมขวัญกำลังหาข้ออ้าง แต่รถคันหรูที่เข้ามาจอดเลยจากป้ายรถเมล์มานิดหน่อยทำให้หลายคนหันไปมอง รวมทั้งเธอด้วย พอกระจกของรถคันนั้นเลื่อนลง จอมขวัญก็รู้ทันทีว่าต่อให้อยากไปกับตฤณก็ทำไม่ได้ ปรานต์กับตฤณเหมือนจะเป็นเพื่อนกันก็จริง แต่จริงๆ แล้วเป็นคู่แข่งกันนั่นแหละ แต่เธอไม่ได้อยากไปกับตฤณอยู่แล้ว ควรทำอย่างไรดี
“เอ่อ...ฉันคิดว่าไม่สะดวกค่ะ แต่ว่าไม่เป็นไรจริงๆ นะคะ ไม่ต้องเลี้ยงอาหารฉันหรอกค่ะ เกรงใจ ฉันขอวางสายก่อนนะคะ”
ตฤณได้ยินจอมขวัญกดวางสายไปแล้ว แต่เธอยังคงยืนที่เดิม เป็นคนบนรถที่เขารู้ว่าเป็นใครต่างหากที่ลงจากรถแล้วเดินไปหาจอมขวัญ เรียวปากหนากดยิ้ม มีเรื่องน่าสนุกแล้วสิ ที่แท้ผู้หญิงที่จะได้ความสนใจจากปรานต์ไปคือผู้หญิงที่ดูธรรมดาๆ แบบจอมขวัญเองงั้นหรือ ทั้งนิรชาและเมวาคงสนใจหากได้รู้เรื่องนี้กระมัง
ปรานต์คิดไว้อยู่แล้วว่าจอมขวัญจะไม่อยู่รอเขา เธอไม่เหมือนใคร เธอไม่ตามตื๊อ ไม่เซ้าซี้ ไม่วีน แต่เลือกประท้วงด้วยการไม่สนใจ ไม่บอกลา เขารู้ว่าเธอคงไม่พอใจที่เห็นนิรชามางานในวันนี้ เธอคงรู้สึกว่าเขาช่างดูดายไม่จัดการอะไรสักอย่าง ทั้งที่รู้ว่าใครที่น่าสงสัยว่าวางแผนวางยาในคืนนั้น เขามีเหตุผลที่ไม่จำเป็นต้องบอกเธอในตอนนี้ ยกเว้นว่าเธอจะถาม แต่เธอเลือกจะไม่ถาม ซ้ำยังทิ้งเขากลับบ้านก่อน
“ขึ้นรถ” ชายหนุ่มบอกเสียงเรียบๆ รู้ดีว่าการอให้เธอเดินไปเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งเองคงไม่มีทางเกิดขึ้น เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่กระโจนเข้าใส่เขาก่อน มีแต่เขานี่แหละที่ต้องกระโจนใส่เธอเอง
“ฉันรอรถแท็กซี่อยู่ ถ้าคุณมีธุระก็เชิญเถอะค่ะ ฉันไม่อยากรบกวน”
ปรานต์เลิกคิ้วไม่ถามซ้ำ แต่คว้าข้อมือเล็กแล้วรั้งให้เดินตามมา แต่เธอยื้อแขนตัวเองไว้ เขาเลยแกล้งกระซิบใกล้ใบหูเล็กให้ได้ยินกันแค่สองคน
“ผมยังไม่ได้คิดบัญชีเรื่องที่คุณไม่สวมแหวนเลยนะ ผมไม่อะไรหรอกถ้าจะจูบคุณตรงนี้ คราวก่อนจูบอนุบาล คราวนี้ขยับมาจูบแบบมัธยมดีไหม”
จอมขวัญขมวดคิ้วใส่ปรานต์พลางดุกลับเสียงเบา
“คุณอย่าทำอะไรบ้าๆ นะ ทำไมชอบขู่อยู่เรื่อย”
“ผมทำได้จริงๆ ไม่ได้ขู่”
นั่นล่ะคำตอบที่ทำให้จอมขวัญยอมเดินตามมาดีๆ ปรานต์ยิ้มพอใจพลางเปิดประตูรถให้หญิงสาว แม้ว่าเธอจะทำเหมือนไม่สนใจใยดีเขา แต่การทำให้เขาเสียชื่อเสียงด้วยการร้องโวยวาย ปรานต์มั่นใจว่าเธอไม่ทำแน่นอน อย่างน้อยจรรยาบรรณของนักข่าวคงไม่อยากทำให้แหล่งข่าวเสียชื่อเสียง ชายหนุ่มเลื่อนตัวเข้ามา ทำให้จอมขวัญถามแบบไม่มีเสียงว่าเขาจะทำอะไร เรียวปากหนายิ้มชอบใจ เธอคิดว่าเขาจะทำอะไรงั้นหรือ
“ผมจะคาดเข็มขัดให้”
จอมขวัญรับคำร้องอือในลำคอ แต่กลับต้องกลั้นหายใจเมื่อใบหน้าของเขาใกล้กับใบหน้าของเธอยามดึงสายคาดไปเสียบเข้าที่เบ้าล็อค กลิ่นหอมจางๆ ของอาฟเตอร์เชฟจากเขาชวนให้ใจหวิว จนหญิงสาวต้องกำมือแน่นไม่อยากเคลิ้มกับช่วงเวลาสั้นๆ ที่เราใกล้ชิดกัน
“ผมหิวข้าวแล้ว เราไปหาข้าวกินกันนะ แต่ว่าวันนี้ผมเหนื่อยๆ ไม่อยากไปร้านอาหาร” ปรานต์เล่าเหมือนชวนคุย เมื่อเขาขับรถออกมาจากข้างถนน โดยมีรถของบอดี้การ์ดขับตามมาเหมือนเคย
“แล้วคุณจะไปไหนคะ”
“เดี๋ยวคุณก็รู้เอง” ปรานต์เห็นจอมขวัญมองเขาเหมือนจะพาเข้าโรงแรมม่านรูดก็อดหัวเราะไม่ได้ “ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น คิดอะไรเพี้ยนๆ อยู่ล่ะสิ ผมไม่ใช่คนที่จะทำแบบนั้นกับใครก็ได้หรอกนะ คืนนั้นถึงผมจะสติไม่พร้อมสักเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่ใช่คุณ ผมอาจจะกระโดดน้ำหนีไปแล้วก็ได้”
จอมขวัญฟังแล้วกลั้นหัวเราะนึกภาพปรานต์กระโดดลงน้ำ แล้วว่ายจนหมดแรงก็กลับไม่ถึงฝั่ง แต่เขาพูดแบบนั้นหมายความว่ายังไง ถ้าไม่ใช่เธอ เขาจะหักห้ามใจได้ จะไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นจริงๆ น่ะหรือ
เขาไม่ชอบเธอไม่อยากแต่งงานกับเธอ แต่กลับหักห้ามใจกับเธอไม่ได้งั้นหรือ ที่เขาบอกว่าจะแต่งงานกับเธอในทุกเหตุผลคือความรับผิดชอบเท่านั้น เขากำลังล้อเล่นกับความรู้สึกของเธออยู่หรือเปล่า
แกชอบจอมก่อนที่แกจะรู้ตัวเองอีก ปรานต์เอ้ย
ซ้อนกลรักเจ้าสาวมาเฟีย วางจำหน่ายใน MEB แล้วหมวด นิยายโรมานซ์
โบว์ทำโปรโมชั่นราคาหนังสือเต็มๆ 329 เหลือ 149 บาท ตอนนี้เหลือเวลาโปรโมชั่น 8 วันค่ะ
โบว์จะลงให้อ่านถึงบทที่ 15 นะคะ แล้วจะหยุดอัพนิยาย
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
อัมราน_บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 187
แสดงความคิดเห็น