บทที่ 13...3/3
จอมขวัญมองไปข้างหลังรถแล้วส่ายหน้า ใครว่าเป็นผู้ชายที่ชื่อว่าปรานต์สมบูรณ์พร้อม ไม่ใช่เลยสำหรับเธอ การไปไหนต้องคอยระวังตัวในทุกฝีก้าวเหมือนเดินบนน้ำแข็งบางๆ ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด เขาจะถูกลอบฆ่าอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หญิงสาวขยับตัวรู้สึกปวดท้องแปลกๆ เธอหิวข้าวกระมัง แต่ยังไม่วายมองไปข้างหลังอีกครั้ง จะมีมือปืนมายิงเราตอนนี้งั้นหรือ แม้แต่ในเมืองคนมากมายบนท้องถนน เขาก็ยังต้องมีบอดี้การ์ด
“คุณไม่เบื่อเหรอเวลาไปไหนต้องมีบอดี้การ์ดติดตามตลอด”
“เบื่อ” ปรานต์ตอบทันที “แต่ยังไม่ถึงเวลาที่ไม่ต้องมีบอดี้การ์ด อย่างน้อยก็อุ่นใจว่าถ้าตายก็คงไม่ตายคนเดียว คุณถามแบบนี้เพราะกลัวหรือเปล่า”
“ไม่กลัวสิแปลก แต่พอคิดว่ากระจกของรถคันนี้กันกระสุน แล้วคุณก็คงมีปืนอยู่ในรถ ฉันก็พอจะอุ่นใจได้บ้างค่ะว่าคงไม่ถูกโจมตีฝั่งเดียว” จอมขวัญมั่นใจว่าเดาถูกแน่นอน คนอย่างปรานต์ไม่ประมาทหรอก
ปรานต์ยิ้มบาง “ต่อไปคุณก็คงชินเอง”
“ทำไมฉันต้องชินด้วย”
ไม่ได้คุยกันแค่ไม่กี่วัน จอมขวัญลืมแล้วหรือว่าเช้าวันนั้นบนเตียงในเรือของเขา เราสองคนได้หมั้นกันแล้ว แม้จะไม่มีผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับรู้ก็ตามเถอะ สำหรับเขา นั่นคือคำสัญญา
“คำว่ารับผิดชอบของผมไม่ได้หมายความจะพาไปกินข้าว แล้วส่งกลับบ้านสักหน่อย คุณก็อายุ 25 แล้ว น่าจะเป็นผู้ใหญ่พอที่จะเข้าใจว่าผมหมายถึงเรื่องอะไร”
จอมขวัญเลือกที่จะเงียบแทนการตอบ เธอเข้าใจทุกอย่าง แต่ไม่แน่ใจเลยว่าจะทำตามที่เขาต้องการได้หรือเปล่า ความรับผิดชอบกับความรักมันไม่เหมือนกัน เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้คิดว่าผู้หญิงที่มีอะไรกับผู้ชายก่อนแต่งงานเป็นเรื่องผิด การแต่งงานเพราะความสัมพันธ์ทางกาย โดยที่ไม่มีความรู้สึกทางใจ สิ่งนี้ต่างหากที่ไม่ควรทำ แต่เธอจะหนีผู้ชายที่ทำอะไรได้มากมายอย่างเขาได้อย่างไร เขาไม่ใช่คนเลวอะไรเลย เป็นคนดีคนหนึ่งเชียวล่ะ แต่เขาไม่ได้รัก ไม่สิ เขาไม่เคยบอกว่าชอบเธอสักครั้ง
เวลาผ่านไปไม่ถึง 20 นาที ปรานต์ก็ขับรถเข้ามาในห้องสี่เหลี่ยมเหมือนจะเป็นลิฟต์ที่พาเราสองคนไปที่ชั้นบนสุดของคอนโดกลางเมือง พอลิฟต์เปิด ปรานต์ก็เปิดประตูออกมาจากรถ จอมขวัญมองแต่ก็ลงจากรถแล้วเดินตามปรานต์ไป พอหันกลับไปมองบอดี้การ์ดก็เข้าไปในรถแล้วลิฟต์ก็เลื่อนลงไป เธอมองอย่างสนใจ อีกด้านของห้องนี้ก็มีลิฟต์ที่น่าจะเป็นลิฟต์ส่วนตัวเพราะต้องกดรหัสถึงจะเปิดลิฟต์ได้
ตอนแรกที่เห็นปรานต์ดูจะอยู่ในอันตรายตลอดเวลา เธอก็นึกสงสารเห็นใจเขาอยู่เหมือนกัน ตอนนี้เขามีอะไรให้น่าสงสาร ชีวิตของเขาดีงาม สบายและเป็นเปอร์เซ็นต์ส่วนน้อยของคนในประเทศที่มีสิ่งที่เขามีอยู่ในตอนนี้
“บ้านผมเอง อยากกินอะไรบอกพ่อครัวได้เลย คุณคงเห็นและเจอกับตัวแล้วว่าอาหารที่ผมจะกินในแต่ละมื้อเหมือนการเสี่ยงตายขนาดไหน ฉะนั้นเพื่อตัดปัญหาพวกนั้นไป ผมมักจะมากินข้าวที่บ้านแทนการไปกินที่ร้านอาหาร” ปรานต์บอกพลางถอดเสื้อสูทออก แล้วนั่งลงเหยียดขาออกเหมือนเหนื่อยล้าเต็มที
จอมขวัญกอดอกยืนมองพลางถอนใจเพราะยังรู้สึกปวดท้องหน่วงๆ
“ตอนมองเห็นไกลๆ ฉันคิดว่าชีวิตคุณคงน่าอิจฉาสำหรับคนอื่นๆ”
ปรานต์ฟังแล้วพยักหน้า แต่กลับลุกขึ้นแล้วเดินเร็วๆ มาจนชิดร่างเพรียวที่พอจะก้าวถอยหลังก็ถูกมือหนาจับเอวบางไว้ไม่ยอมให้หนีไปไหน ใบหน้าคร้ามยื่นมาจงให้จอมขวัญเห็นเขาใกล้ๆ มองไม่เห็นอะไรอีกนอกจากใบหน้าของเขาคนเดียวพลางถาม แม้จะได้ยินเสียงหัวใจของเธอเต้นแรงว่า
“แล้วพอมองใกล้ๆ ล่ะ คุณเห็นอะไร”
“ความมั่นใจจนน่าหมั่นไส้เพื่อกลบเกลื่อนความทุกข์ใจบางอย่างมั้งคะ แต่ถ้าตัดเรื่องทุกข์ใจออกไป ชีวิตของคุณก็ยังน่าอิจฉาอยู่ดีเพราะคุณรวยมาก อยากจะทำอะไร อยากไปไหน อยากกินอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น” จอมขวัญตอบพยายามไม่หลบสายตา เธอต้องกลัวอะไรในเมื่อเราสองคนผ่านในจุดที่ไม่ควรผ่านไปแล้ว ยกเว้นหัวใจของเธอมันเต้นแรงจนน่าโมโห
“เพราะผมรวยเท่านั้นเหรอ” ปรานต์ถอนใจ ก่อนปล่อยเอวบางเพราะเขามีเรื่องทุกข์ใจที่บอกเธอไม่ได้จริงๆ “ก็จริงนะผมไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่ผมกลับไปเดือดร้อนเรื่องอื่น พอไม่ต้องคิดว่าหาจะเงินให้พอใช้ยังไง ความทุกข์มันเลยน้อยลง แต่ไม่ได้หมายความผมไม่ทุกข์ใจ”
เรื่องทุกข์ใจของปรานต์คืออะไรกันนะ จอมขวัญสงสัย แต่ไม่ได้ถามออกไปเพราะจู่ๆ ปรานต์ก็มองหน้าเธอเหมือนกับว่ามีอะไรผิดปกติอย่างไรอย่างนั้น
“คุณจ้องฉันทำไม”
“ทำไมคุณหน้าซีด เป็นอะไรหรือเปล่า” มือหนายื่นมาสัมผัสเบาๆ ที่แก้มอุ่นของหญิงสาว
จอมขวัญเม้มปาก ก่อนจะก้าวถอยหลังเพราะยังไม่ชินกับการที่เราสองคนใกล้ชิดกันถึงขนาดนี้
“ฉันขอเข้าห้องน้ำได้ไหมคะ”
ปรานต์จับข้อมือเล็กแล้วพาเดินไปที่ห้องน้ำ เขาช่วยเปิดประตูให้แล้วรอจนเธอเข้าไปแล้วล็อคเรียบร้อย เรียวปากหนายิ้มบาง อย่างน้อยเธอก็เขินอายต่อสายตาและสัมผัสจากเขา ไม่ใช่ว่าไม่สนใจ แต่เธอพยายามปิดกั้นตัวเองไว้ไม่ให้แสดงความรู้สึกที่ตัวเองมีต่อเขาอยู่ต่างหาก
จอมขวัญรู้สึกและจำได้ว่าความรู้สึกแบบนี้คืออะไร แต่ไม่แน่ใจจนต้องขอปรานต์มาเข้าห้องน้ำ เรื่องเขินสายตาที่เขามองมาก็สาเหตุหนึ่ง แต่อีกสาเหตุก็คือความปวดท้องหน่วงๆ ที่รู้สึกมาตั้งแต่ชั่วโมงก่อน เธอคาดหวังมาก อยากให้เป็นอย่างที่คิด แม้จะกินยาคุมฉุกเฉินครบแล้ว แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าจะป้องกันได้เต็มร้อย แม้หากว่าเธอจะท้อง ปรานต์คงรับผิดชอบทุกอย่างตามที่ลั่นวาจาไว้จริงๆ แต่เธอห้ามท้องในเวลานี้เด็ดขาด
จอมขวัญสำรวจตัวเองและเห็นจุดแดงเปือนที่กางเกงชั้นใน เธอถอนใจโล่งอกไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงดีใจจนร้องไห้ออกมา แต่มันดีใจ โล่งใจจนความเครียดที่สะสมมาหลายวันได้หายไปเสียที แผนการชีวิตที่เธอวางไว้จะดำเนินไปตามเดิมในทันทีที่แม่ตอบตกลงผ่าตัด
“เป็นอะไรหรือเปล่าจอมขวัญ ทำไมถึงอยู่ในห้องน้ำนานมาเกือบ 5 นาทีแล้ว เป็นลมหรือไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า” ปรานต์เคาะประตูห้องน้ำด้วยความเป็นห่วงพลางเอาหูแนบเผื่อว่าจอมขวัญจะเป็นลมไปจริงๆ
จอมขวัญเพิ่งรู้ตัวว่าดีใจนานถึงขนาดผ่านไป 5 นาทีแล้ว หญิงสาวเช็ดน้ำตาแห่งความดีใจ แล้วหาทางออกให้ตัวเอง ในบ้านผู้ชายอย่างปรานต์คงไม่มีของที่เธอต้องการแน่ๆ
“ฉันสบายดีค่ะ ฉันแค่ดีใจ แต่คงออกไปไม่ได้ในตอนนี้”
“ทำไมล่ะ” ปรานต์ถามยิ่งเป็นห่วง ถ้าจอมขวัญไม่ได้เป็นลม ทำไมถึงออกมาจากห้องน้ำไม่ได้
จอมขวัญช่างใจจะบอกปรานต์เรื่องแบบนี้อย่างไรดี ชายเสื้อสูทที่เธอใส่อยู่คงช่วยบังก้นได้ พอลงจากรถแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านไปจัดการทำธุระแบบผู้หญิง แบบนี้ละกันน่าจะดีที่สุด
“คุณช่วยเรียกแท็กซี่ให้ฉันได้ไหมคะ แล้วเดี๋ยวฉันจะออกไป”
“คุณมีธุระด่วนต้องไปจัดการงั้นหรือ ถ้างั้นผมไปส่งคุณเองก็ได้ ไม่ต้องเรียกแท็กซี่หรอก” ปรานต์ตอบพลางเอาหูแนบประตู
จอมขวัญก็ไม่ได้มีธุระอะไร แต่ถ้าไม่บอกไปตรงๆ ปรานต์คงยิ่งสงสัยมากกว่าเดิม ทำอย่างไรดี
“คือว่า...”
“ถ้าคุณไม่บอกเหตุผล ผมจะไขกุญแจเข้าไปนะ” ปรานต์เป็นห่วงจนไม่อยากรอแล้ว
จอมขวัญรีบยกมือห้าม ถึงแม้ว่าปรานต์จะไม่เห็นว่าเธอตกใจที่เขาจะทำแบบนั้นมากทีเดียว
“อย่าทำแบบนั้นนะ ฉันไม่รู้จะบอกคุณยังไงดี มีบางเรื่องที่ผู้หญิงด้วยกันเท่านั้นจะเข้าใจ”
ปรานต์ฟังแล้วเงียบไป จอมขวัญไม่ได้เป็นลม ไม่ได้มีธุระด่วน แต่ขอให้เขาเรียกรถแท็กซี่ให้ มีบางอย่างที่ทำให้เธอเขินอายจนพูดออกมาตรงๆ ไม่ได้ใช่ไหมนะ แม้เขาจะไม่มีน้องสาว แต่มีเพื่อนสาวอย่างจารวีทำให้พอจะคิดเหตุผลของความอ้ำอึ้งที่จอมขวัญกำลังเป็นอยู่ออก
“ผมรู้แล้วว่าเหตุผลนั้นคืออะไร คุณรอในนั้นก่อนนะ เดี๋ยวผมบอกแม่บ้านไปซื้อของที่คุณต้องใช้มาให้ ถ้าคุณเข้าใจแล้วก็เคาะประตูกลับมานะ” ปรานต์บอกพลางเคาะประตู แล้วรอจอมขวัญเคาะประตูกลับมา
“ขอบคุณค่ะ” จอมขวัญเคาะประตูกลับ ยิ่งเขินเข้าไปอีก แล้วเธอจะเดินออกไปแล้วมองหน้าเขาได้ยังไง
จอมขวัญได้ยินเสียงปรานต์เหมือนกำลังคุยโทรศัพท์บอกแม่บ้านของคอนโดให้ช่วยซื้อของที่จอมขวัญต้องการ เขาบอกเสร็จสรรพว่าให้ซื้อมาทั้งแบบกลางวันและกลางคืนอย่างละห่อก่อนวางสาย จอมขวัญยิ้มให้ผู้ชายที่แสนจะเข้าใจเธอผ่านบานประตู เขารู้ว่าเธอต้องใช้อะไรและทำไมถึงไม่กล้าพูดกับเขาตรงๆ แต่เขากลับบอกแม่บ้านอย่างไม่ขัดเขิน บางทีเขาก็มีมุมที่อ่อนโยนและน่ารักอยู่เหมือนกัน เมื่อครู่ถ้าเขาจะคาดคั้นให้ได้คำตอบ เธอคงต้องพูดออกไป แต่เขาก็ไม่ทำ เขาคิดออกและหาทางแก้ปัญหาให้เธอโดยที่ไม่ทำให้รู้สึกลำบากใจ
จริงๆ แล้วปรานต์เป็นคนที่อ่อนโยนคนหนึ่งเลยนะคะ เขาเลือกว่าจะแสดงออกกับใคร ปรานต์ได้เลือกแล้วว่าจะทำแบบนี้กับจอมขวัญ ผู้อ่านชอบปรานต์บ้างแล้วหรือยังคะ
ซ้อนกลรักเจ้าสาวมาเฟีย วางจำหน่ายใน MEB แล้วหมวด นิยายโรมานซ์
โบว์ทำโปรโมชั่นราคาหนังสือเต็มๆ 329 เหลือ 149 บาท ตอนนี้เหลือเวลาโปรโมชั่น 7 วันค่ะ
โบว์จะลงให้อ่านถึงบทที่ 15 นะคะ แล้วจะหยุดอัพนิยาย
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
อัมราน_บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 182
แสดงความคิดเห็น