บทที่ 7...2/3
เสียงยามที่แขนของจอมขวัญขยับเลื่อนเพราะเปลี่ยนจากนอนตะแคงเป็นนอนหงาย แต่ก็ดังพอให้ใครบางคนที่นอนเฝ้าหญิงสาวอยู่บนโซฟาเยื้องกับเตียงนอนรู้สึกตัวตื่น เขาแค่จะดูอาการของจอมขวัญให้แน่ใจ หลังจากเธอลืมตาขึ้นมาตอนที่พยาบาลปฐมพยาบาล แต่แล้วเธอก็หลับตาลงไปใหม่ โดยรวมคือเธอเป็นลมเพราะตกใจเท่านั้น ทำให้นอนพักผ่อนก็เพียงพอแล้ว เขาเองแค่นั่งเป็นเพื่อนพยาบาลที่ดูอาการของจอมขวัญ แต่กลายเป็นว่าเผลอหลับจนมาตื่นเอาตอนนี้ ถ้าเจ้าตัวตื่นมาตอนนี้ได้กลัวเขาอีก
ชายหนุ่มเดินไปยืนข้างเตียงคิดว่าจะดึงผ้าที่ไปกองตรงเอวมาห่มให้เธอเท่านั้น แล้วจะออกไปจากห้องก่อนที่เธอจะตื่น ทว่าเปลือกตาที่ปิดสนิทกลับเปิดออก แล้วมองเขาอย่างกับเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น
“คุณ!”
ร่างเพรียวแทบจะลุกขึ้นยืน แต่พอรู้ตัวว่าอยู่บนเตียงที่ยวบก็กระเถิบไปอยู่อีกด้านของเตียงแทน สายตามองหาอาวุธสักอย่าง การตื่นมาบนเตียงแล้วภายในห้องมีแค่เธอกับปรานต์ไม่ใช่เรื่องน่าดีใจ แต่เป็นฝันร้ายทั้งที่เพิ่งตื่นขึ้นมา เขาจะฆ่าเธอซ้ำเพราะเมื่อคืนเขายิงพลาดใช่ไหม
“ฟื้นแล้วหรือจอมขวัญ ผมนึกว่าคุณจะหลับไปจนถึงเวลาห้างเปิดเสียอีก นี่เพิ่ง 7 โมงเช้าเอง ถ้ายังเหนื่อยก็นอนต่อเถอะ ผมไม่เร่งคุณหรอก” ปรานต์พยายามพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง ทำอย่างไรเธอถึงจะไม่กลัวเขา
“ฉันจะกลับบ้าน”
ปรานต์ถอนใจเบาๆ พยายามไม่โมโหเพราะเขามีส่วนทำให้เธอกลัวแบบนั้น แต่เขามีเหตุผล ช่างเถอะ ถึงพูดไป จอมขวัญที่ปักใจคิดว่าเขาโหดเหี้ยมไปแล้วคงไม่เชื่อหรอก
“ยังไม่ให้กลับ อาบน้ำกินข้าวเสียก่อนจะไปเสียเวลาสักเท่าไหร่เชียว โตแล้วนะคุณน่ะ ทำงานให้เสร็จเสียก่อน เลิกเอาแต่ใจเป็นเด็กๆ ได้แล้ว”
“ฉันเนี่ยนะเอาแต่ใจ แล้วคนอย่างคุณเรียกว่าอะไร เมื่อคืนคุณจะยิงฉัน ตอนนี้เช้าแล้ว ความสนุกเล็กๆ น้อยๆ ของคุณคงต้องเก็บไว้ใช้กับคนอื่นแล้วค่ะ” คิดแล้วจอมขวัญก็ทั้งกลัวและโมโห แต่ยิ่งโมโหมากขึ้นเมื่อเห็นว่าชุดที่เธอใส่ทำไมถึงไม่เหมือนเดิม “ชุดของฉันไปไหน ทำไมถึงใส่ชุดนี้”
“คิดเอาสิ อยู่ดีๆ เสื้อผ้าของคุณจะเปลี่ยนไปได้ยังไงล่ะ ถ้าไม่มีคนมาเปลี่ยนให้” ปรานต์แกล้งกลับ
เมื่อคืนเธอกลัวจนฝันร้ายทำให้มือปัดไปโดนกาแฟของปรานต์ที่วางไว้บนโต๊ะตัวเล็กที่ติดกับเตียง ทำให้ทั้งเสื้อที่เธอใส่ ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอนเลอะหมดต้องมาเปลี่ยนกันกลางดึก ขนาดหลับยังวุ่นวายไม่แพ้ตอนตื่น
“แม่บ้านล่ะสิ ไม่ต้องมาหลอกฉันหรอกนะว่าคุณเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ รวยๆ อย่างคุณคงมีแม่บ้านทำเรื่องแบบนี้ให้อยู่แล้วใช่ไหมล่ะ” ถามไปแล้วจอมขวัญก็กลัวจะได้ยินคำตอบที่ผิดไปจากนี้เหมือนกัน
“ฉลาดดี ไม่ต้องมานั่งอธิบายยืดยาว อาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ ผมจะไปรอที่ห้องอาหาร”
การที่จอมขวัญไม่กลัวเขาจนหงอ แต่พร้อมจับทุ่มลงพื้นถ้ามีโอกาส ทำให้ปรานต์หายคับข้องใจไปได้บ้าง คนที่จะอยู่ข้างกายเขาได้ต้องกล้าสบตากันตรงๆ แบบนี้แหละ อาจเพราะเธอโกรธเขามากก็ได้ แต่มันคงดีกว่าเธอตื่นขึ้นมาแล้วร้องไห้ เขาไม่ใช่ผู้ชายที่พ่อสอนให้ทำตัวแย่ๆ จนผู้หญิงร้องไห้แบบนั้น พอคิดว่าแม่ของเธอป่วยและอันตรายถึงชีวิต ปรานต์ก็อดที่จะสงสารไม่ได้ แต่เรื่องแต่งงานมันไม่ง่ายแบบนั้น เราสองคนไม่ได้รักกันจะมาแต่งงานกันได้อย่างไร
จอมขวัญเก็บของใส่กระเป๋าเป้ แม้กระทั่งถึงเวลานี้เธอยังไม่เข้าใจว่าทำไมปรานต์ถึงจะยิงเธอ เขามีเหตุผลอะไรที่จะทำแบบนั้น เขาดูไม่เหมือนคนโมโหร้าย อีกทั้งเมื่อคืนเราสองคนไม่ได้ทะเลาะกันหรือมีอะไรที่ชวนให้เกิดการทะเลาะ แต่ทำไมเขาถึงยกปืนมาเล็งที่เธอ เขามีสาเหตุอื่นที่ต้องทำแบบนั้นหรือเปล่า แต่ไม่ว่าอะไรก็ตาม การที่เขาทำแบบนั้นย่อมคิดก่อนทำอยู่แล้ว เธอต้องรีบทำงานให้เสร็จ แล้วรีบกลับบ้าน
หลังจากนี้เธอจะขอให้นพดลเปลี่ยนคนไปทำข่าวที่ฟาร์มมินธรา วิธีนี้คงดีที่สุด แหล่งข่าวไม่ชอบหน้านักข่าว นักข่าวรู้สึกไม่สะดวกใจกับแหล่งข่าว ฉะนั้นเราไม่ควรมาพบเจอกันอีก
หญิงสาวออกมาจากห้องแล้วมองซ้ายมองขวา ก่อนจะถอนใจโล่งอก แต่พอมองไปหน้าบ้าน บอดี้การ์ดของปรานต์ยังคงเฝ้าอย่างขึงขัง เมื่อคืนก่อนที่ปรานต์จะยิง เธอได้ยินเหมือนเสียงทึบๆ บางอย่างก่อนหรือเปล่านะ ระยะใกล้แค่นั้นปรานต์จะยิงพลาดไม่โดนเธอสักนัดเลยหรือ
“คุณจอมขวัญรู้สึกสบายดีแล้วใช่ไหมครับ พยาบาลบอกว่าคุณเป็นลม ถ้าได้พักผ่อนก็จะไม่เป็นอะไรมาก” ชานนเดินมาเพื่อรับจอมขวัญพอดี โดยที่คนสั่งไม่ยอมขึ้นมาเอง
“ค่ะ ฉันไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ”
จอมขวัญกำลังจะเดินต่อ แต่ชานนกลับมาขวางไว้ หญิงสาวคิดดีไม่ได้เลยว่าควรไว้ใจใครได้บ้างหากอยู่ในบ้านหลังนี้ เธอกำมือเตรียมตั้งการ์ด ชานนเห็นท่าทางแบบนั้นก็อดยิ้มไม่ได้ แต่ก็รีบอธิบาย
“เมื่อคืนมีคนร้ายมาลอบยิงครับ ตอนที่คุณปรานต์ยิงออกไปแค่ปกป้องคุณจอมขวัญนะครับ ไม่ได้คิดทำร้ายคุณจอมขวัญเลย”
ที่เธอได้ยินเสียงทึบๆ เหมือนปืนเก็บเสียง ก่อนที่ปรานต์จะยิงปืนมาทางเธอใช่ไหมนะ แต่ทำไมตอนที่เธอตื่นขึ้นมาเขาไม่บอกให้เข้าใจล่ะ
“จริงหรือคะ”
ชานนยื่นโทรศัพท์ที่มีคลิปกล้องวงจรปิดในตอนที่เกิดเรื่องให้จอมขวัญ เขาแค่ไม่อยากให้ใครมามองว่าปรานต์เป็นคนไม่ดี ข้อเสียของคนปากหนักก็คืออีกฝ่ายอาจไม่รู้เลยว่าความจริงคืออะไร
“ตอนนี้ยังจับคนร้ายไม่ได้ แต่ตำรวจกับบอดี้การ์ดกำลังตามหาตัวอยู่”
จอมขวัญก็คิดไว้อยู่เหมือนกันว่าอยู่ปรานต์จะมายิงเธอทำไม แต่ก่อนหน้านี้เธอยังหาเหตุผลที่เขาทำแบบนั้นไม่ได้ พอเห็นคลิปตอนที่ปรานต์ยิงปืนออกไปพร้อมกับคว้าเธอมาแล้วเอาตัวเขาบังไว้เผื่อว่าคนร้ายยิงซ้ำ ความรู้สึกด้อยค่าตื้นเขินก็ทำให้เธอรู้สึกผิดที่คิดว่าปรานต์จะฆ่าคนง่ายๆ เป็นผักปลา
“คุณปรานต์เป็นคนปากร้าย แต่ใจดีนะครับ ถ้าตอนนั้นคุณปรานต์ไม่ทำอะไรสักอย่าง คุณจอมขวัญอาจจะเป็นอันตรายได้ครับ”
จอมขวัญฟังที่ชานนบอกแล้วยิ่งรู้สึกแย่กับตัวเอง ทั้งที่ปรานต์ยังไม่หายดี แถมเขายังนอนเฝ้าเธอทั้งคืน แต่คนบ้าอะไร แทนที่จะแก้ตัวให้เธอเข้าใจเขาถูก แต่กลับไม่พูดอะไร ปล่อยให้เธอเข้าใจผิดแบบนั้นทำไม ถ้าชานนไม่มาพูดแทนและนำคลิปหลักฐานมาให้ดู เธอจะกลายเป็นคนคิดเอาเองฝ่ายเดียวไปถึงเมื่อไหร่
ภายในห้องอาหารมีปรานต์มารออยู่ก่อนแล้ว ชานนผายมือให้จอมขวัญนั่งฝั่งหนึ่ง ส่วนเขานั่งอีกฝั่งของโต๊ะตัวยาว จอมขวัญมองปรานต์ที่ทำหน้าเรียบเฉยราวกับยินดีหากว่าเธอจะเข้าใจผิดต่อไป เขาเป็นคนอย่างไรกันแน่ การถูกคนอื่นมองอย่างหวาดกลัวเป็นสิ่งที่เขาชอบหรือไรกัน แต่เธอไม่ใช่คนไร้หัวใจแบบนั้น
“ฉันขอโทษค่ะที่เข้าใจผิดเรื่องเมื่อคืน” จอมขวัญพูดพลางมองใบหน้าเหมือนไม่สนคนทั้งโลกของปรานต์
ชายหนุ่มเลิกคิ้วมองไปทางชานน ก่อนจะหันมามองจอมขวัญ เขาควรทำอย่างไรกับผู้หญิงอย่างเธอดี
“ถ้ามีแรงแล้วก็มากินข้าวเช้า วันนี้ผมให้เวลาคุณครึ่งวัน ตอนบ่ายผมมีงานต่อ”
“คุณไม่มีอะไรจะบอกฉันบ้างหรือคะ” จอมขวัญเลือกที่จะพูดก่อนเพราะคิดว่าทำแบบนี้คงไม่ทำให้ใครต้องมาเสียฟอร์ม แต่ปรานต์คงอาการหนักกว่าที่เธอคิด “ถ้าคุณบอกว่าจะทำอะไร ฉันคงไม่ตกใจจนเป็นลม หรืออธิบายว่าคุณทำเพราะอะไร แต่คุณไม่พูดอะไรเลย แล้วฉันจะเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมดได้ยังไง”
ปรานต์เม้มปากขมวดคิ้วใส่จอมขวัญ ก่อนจะเบี่ยงไปมองชานน ปล่อยให้จอมขวัญเข้าใจเองก็ดีอยู่แล้ว เห็นไหมล่ะ ตอนนี้กลายเป็นเขามาถูกคาดคั้นแทนเสียเอง
“เอาไว้คุณเป็นคนที่ผมอยากอธิบายเพราะไม่อยากให้เข้าใจผิด ผมถึงจะทำแบบนั้น”
ชานนฟังแล้วอยากถอนใจดังๆ ถึงตอนนี้จอมขวัญจะไม่ใช่ ‘ภรรยา’ ของปรานต์ แต่ก็เป็นว่าที่เจ้าสาวอยู่ดี ถ้าคฑาหมายมั่นปั้นมือแล้ว เตรียมหาฤกษ์ส่งตัวเข้าหอได้เลย
จอมขวัญอมยิ้มเพราะนึกเอาไว้อยู่แล้วว่าปรานต์คงไม่พูดคำว่า...ขอโทษ กลับมาหรอก
“กินข้าวได้แล้ว”
จอมขวัญเห็นว่ามีบางอย่างที่เธอไม่ชอบ เธอแค่ไม่กินก็พอ บรรยากาศอาหารมื้อเช้ามีเพียงเสียงของชานนที่รายงานว่าตอนนี้ยังหาตัวคนร้ายไม่พบ แต่มีเบาะแสที่จะตามให้เจอตัวเพราะการถูกยิงอย่างไรเสียก็ต้องซื้อยามารักษาเอง หากว่าไม่ได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาล ซึ่งคนร้ายไม่ทำแบบนั้นอยู่แล้ว
จอมขวัญสังเกตอยู่เงียบๆ ปรานต์เป็นผู้ฟังที่ดี ไม่พูดแทรก กับบอดี้การ์ดที่เข้ามาเพื่อถามบางอย่าง เขาก็ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ น่าฟัง ตอนพยาบาลนำมายามาให้ เขาเอ่ยขอบคุณอย่างเป็นมิตร แต่กับเธอ ทำไมเขาถึงทำเหมือนมีเรื่องไม่พอใจบางอย่าง เธอไปเผลอเหยียบเท้าเขาหรือไง
อยากให้ถึงวันที่ปรานต์มันพยายามอธิบายให้จอมขวัญไม่เข้าใจผิดจังเลย คนมั่นๆ ในวันนี้คือแมวน้อยในวันหน้า
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
อัมราน_บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 109
แสดงความคิดเห็น