Realm of Tales : Road To Fantasy Warfare (AU) บทที่ 1 อารัมภบท

Realm of Tales : Road To Fantasy Warfare (AU)
คุณกำลังอ่าน: Realm of Tales : Road To Fantasy Warfare (AU)

-A A +A

Realm of Tales : Road To Fantasy Warfare (AU) บทที่ 1 อารัมภบท

หมวดหนังสือ: 

โลกของเรล์มนี้เต็มไปด้วยนิทานต่าง ๆ มากมาย เล่าจนรุ่นสู่รุ่น

จนกระทั่งห้าเรื่องราวในตำนานถูกปลดปล่อย

สกายกริด, ฮาร์ดคอร์ ยกเว้นเรื่องของเขาเอง...

 

        กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ทวีปแห่งหนึ่งที่ติดกับทะเล เป็นทุ่งโล่งกว้างแบบสะวันนา มีมนุษย์อยู่สองคน คนแรก (ตัวดำเนินเรื่อง) คือลี นักผจญภัย (Lee The Adventurer) ทรงผมแหลมทั่วหัวเล็กน้อย ผมสีดำ นัยน์ตาสีดำ ใส่เสื้อฮูดแขนยาวสีเทา กางเกงขายาวสีเทาเข้ม รองเท้าบู๊ตสีน้ำตาล ผิวสีอ่อนมาก

        คนต่อมาคือ ลุงพี นักวิทยาศาสตร์ (Uncle P. The Scientist) ซึ่งรูปลักษณ์ไม่ต่างจากลีเลย ยกเว้น หนึ่ง เขาสวมผ้าปิดตาข้างขวาไว้ตลอดเวลา สอง เขาแก่กว่าลี เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาถูกเรียกว่าลุงพี

        และมีไก่ที่เป็นสัตว์เลี้ยงของทั้งสองด้วย ชื่อว่าแจ้ (Jae The Chicken) เป็นไก่สีขาวที่มีหงอนสีแดง

        พวกเขาทั้งสามอยู่บนทวีปแห่งหนึ่ง ไม่มีมนุษย์คนไหนเลยนอกจากพวกเขาและเหล่าสิงสาราสัตว์ สาเหตุก็เพราะว่า เรือสำราญที่พวกเขานั่งมานั้นถูกสิ่งลึกลับโจมตีจนเรืออับปางลงกะทันหัน ลูกเรือแทบทั้งหมดเสียชีวิต เหลือแต่ทั้งสามที่รอดมาอยู่บนทวีปนี้

        ลีได้แหงนมองท้องฟ้า และบอกว่า “มันน่าจะเป็นคำถามอีกหนึ่งคำถาม คุณผู้อ่านถามว่านี่ฉันกำลังมองอะไรอยู่”

        “เจ้านายเงียบไปเลย” แจ้พูด

        “อะไรแจ้?” ลีหันมาถามไก่

        “เจ้านายนั่นแหละอยากมาที่นี่เอง เจ้านายอยากมาที่นี่เอง” แจ้ตอบ

        “ไม่ ๆ” ลีพูดขัด “นี่มันเรื่องระหว่างเราสามคน นายอยากมาที่นี่เอง นายบอกว่านายอยากมาทริป”

        “เจ้านายต่างหากที่อยากมาทริป เจ้านายขึ้นเรือผิดลำ เรือเลยล่ม เราก็เลยติดเกาะกันสามคน” แจ้ตอบ “แล้วเจ้านายว่าคนอื่นจะมาติดเกาะกับเราด้วยหรือเปล่า?”

        “ฉันไม่สนล่ะ” ลีบอก “เพราะว่าตอนนี้ฉัน...ไม่รู้สิ ตอนนี้ฉันกังวลกับเรื่องหลายอย่างที่ฉันยังไม่ได้ทำซะด้วย”

        “แต่ฉันว่ามันชักจะแปลก ๆ แล้วล่ะ” ลุงพีพูด “เรากำลังนั่งเรืออยู่ดี ๆ แต่ตัวอะไรไม่รู้โผล่มาแล้วมาทำลายเรือของเรา คนในเรือตายกันหมด ยกเว้นพวกเรา”

        “ผมว่า ลุงข้ามเรื่องนี้ไปดีกว่าครับ” แจ้ว่า

        “ในเมื่อเรามีเวลาไม่มาก” ลีพูด “เส้นตายของเราคือห้าวัน”

        “ทำไมล่ะ?” ลุงพีถาม

        “ห้าวันเราต้องออกจากเกาะที่นี่ครับ” ลีตอบ

        “ก็แล้วทำไมเหรอ?” ลุงพีถามอีก

        “ลุงก็คงจะทราบกันดีนะ เพราะว่าผมมีนัดกับคนสำคัญไว้” ลีตอบ “เดี๋ยวผมจะไปหาไม้อะไรก่อนนะครับ เดี๋ยวค่อยอธิบายทีหลังว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง”

 

        “มันมีเรื่องอีกหลายเรื่องที่ให้ผมต้องพูดอีกเยอะแยะเลย” ลีพูดระหว่างที่เขากำลังตัดไม้ด้วยมือเปล่า

        “เจ้านายรู้ไหม ผมก็มีเรื่องให้พูดเยอะเหมือนกัน” แจ้บอก

        “เรื่องอะไร?” ลีถาม

        “ก็เรื่องเจ้านายไม่สนใจผมไง” แจ้ตอบ

        “นี่ นายจะเอาแต่โทษฉัน จับผิดฉันอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะ” ลีพูด “นายต้องถามตัวเองก่อนว่านายไปทำอะไรให้ฉันเมินก่อน”

        “ผมไม่ได้จับผิดหรือโทษเจ้านายเลยนะ” แจ้พูด “ผมแค่อยากรู้ว่าเจ้านายไม่สนใจผมเพราะอะไรเท่านั้นเอง”

        “งั้นแจ้ อยู่นิ่ง ๆ ก่อน” ลีพูด จากนั้นก็ปลดเชือกล่ามไก่ที่ผูกอยู่กับเสาออก แล้วกระตุกเชือก “ฉันจะพานายไปเดินเล่นนะ”

        “เจ้านายนี่ใจดีจริง ๆ เลย” แจ้บอก

        “ลุงพีจะมาด้วยไหม?” ลีถาม

        “มาสิ” ลุงพีตอบ และเห็นหลานชายกระตุกเชือกให้แจ้ตาม

        “เจ้านายจะพาผมไปไหน” แจ้ถาม

        “ก็บอกว่าจะพาไปเดินเล่นไง” ลีตอบ

        “แล้วทำไมต้องใช้เชือกล่ามคอผมเนี่ย?” แจ้ถาม

        “คือ...มันเป็นเรื่องที่สำคัญ ถ้าไม่ล่ามฉันจะเสียนายไป” ลีตอบ

        “เจ้านายกลัวเสียผมไปละสิ” แจ้พูด

        “มันก็ถูกของนาย” ลีว่า “เอาเป็นว่าเส้นตายของเราคือห้าวันนะ นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นวันแรก ฉะนั้น ผมมีเวลาไม่มาก”

        “อืม เธอจะกลับไปใช่ไหม?” ลุงพีถาม

        “ใช่ครับผมต้องกลับไป” ลีตอบ

 

        ระหว่างทางทั้งสามก็ได้เจอกับกลุ่มแกะด้วย

        “เจ้านาย ล่าสุดนะ ถ้าฆ่าแกะมันจะไม่ดร็อปแค่ขนนะ มันดร็อปเนื้อมาด้วย (Mutton)” แจ้พูด

        “มันก็ถูกของนาย แต่ฆ่าแกะแล้วได้บาปมาด้วย” ลีบอก

        “เอางี้ ถ้าเธอกลัวบาปละก็ ฉันมีกรรไกรตัดขน” ลุงพีบอกและเอากรรไกรตัดขนมาให้ลีดู (Sheers)

        “โห ลงทุนขนาดนี้เลยเหรอ?” ลีถาม

        “ใช่” ลุงพีตอบ

 

        “เจ้านาย แล้วเราจะออกไปจากที่นี่ได้ยังไงนะ?” แจ้ถาม

        “ก็...นั่งเรือ” ลีตอบระหว่างใช้กรรไกรตัดขนแกะ

        “อ๋อ” แจ้ว่า “แล้วเจ้านายจะสร้างเรือเลยเหรอ?”

        “อันที่จริงฉันก็จะสร้างเรือเลยก็ได้นะ แต่มันนั่งได้แค่ลำละสองคน...” ลีบอก “คือถ้าฉันไป ฉันก็ต้องทิ้งใครสักคนไป หรือไม่ก็ต้องสร้างเรือเพิ่มอีกลำให้คนที่สามนั่งถ้าเกิดว่าฉันสร้างเรือจริง ๆ นะ”

        “อ๋อ อย่างนี้นี่เอง” แจ้พูด

 

        หลังจากนั้นลี ลุงพี และแจ้ก็กลับมา ลีผูกเชือกล่ามไว้กับเสาอีกครั้ง และก็เตรียมตั้ง “เฟอร์นิเจอร์” ทำบ้าน ได้แก่ โต๊ะคราฟติ้ง (Crafting Table) ระหว่างนั้นแจ้ก็ถอนหายใจไป

        “นี่นายเบื่อฉันหรืออะไร” ลีถามแจ้

        “ผมเบื่ออย่างอื่นต่างหาก เลยถอนหายใจเนี่ย” แจ้ตอบ

        “แต่สายตานายมันฟ้อง” ลีพูด

        “พอได้แล้ว” ลุงพีพูด “เอาเถอะ ฉันพยายามจะตั้งบล็อกเพิ่มแล้วกัน ตั้งโครงบ้านด้วย”

        ส่วนลี หลังจากตั้งโต๊ะคราฟติ้งแล้ว เขาก็ทำเตียงสองอัน เพื่อให้เขากับลุงของเขานอน

        “ได้เตียงแล้ว!” ลีร้อง

        “แล้วของผมล่ะ?” แจ้ถาม

        “นี่แจ้ เธอเป็นไก่นะ จะให้นอนที่เตียงมันนอนยากนะ” ลุงพีบอก

        “เหรอ ถ้างั้นผมนอนยังไงก็ได้” แจ้บอก “แล้วลุงล่ะ?”

        “ฉันจะต่อโครงเสาเข็มไว้” ลุงพีบอก “ให้ลีเขารองพื้นอีกทีแล้วกัน”

        “นั่นก็เกินไปไหมลุงเอ๊ย?” ลีถาม

        “ล้อเล่น ฉันจะประกอบผนังนั่นแหละ” ลุงพีบอก

        ลุงพีได้ต่อเติมบ้าน แต่ลีแทบจะไม่ค่อยได้ทำอะไรเลยนอกจากตั้งเตียงจนถึงตอนเย็น

        “จะมืดแล้วเหรอเนี่ย?” ลีถามเมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะร่วงลงที่ขอบฟ้าตะวันตกอย่างช้า ๆ

        “เจ้านาย เรามีเวลาไม่มาก รีบสร้างบ้านอยู่เร็ว ๆ” แจ้บอก และกระซิบว่า “เจ้านายรู้จักซอมบี้ไหม?

        “ทำไมต้องกระซิบ?” ลีถาม

        “มันเป็นบรรยากาศไง” แจ้ตอบ

        “เอาเป็นว่าผมจะทำเตียงก่อนแล้วกันนะลุง” ลีบอกลุงของเขา

        “รับทราบ” ลุงพีตอบ

 

        ระหว่างที่สองลุงหลานกำลังต่อเติมบ้านอยู่นั้น เมื่อดวงจันทร์ขึ้นจากทิศตะวันออก แจ้ก็ได้ทักว่า “โห วิวสวยมากเลย เห็นดวงอาทิตย์”

        “ดวงจันทร์! ไม่ใช่ดวงอาทิตย์!” ลีท้วง

        “อ่า โทษทีเจ้านายผมไม่ได้มอง ดูตาสิตาผมดำแล้ว” แจ้ว่า

        “เห็นแล้วล่ะ” ลีพูด “โชคดีนะเนี่ยไม่เหมือนฮีโร่บรายน์ (Herobrine)”

        “ทำไมอะ?” แจ้ถาม

        “เขาตาขาว” ลีตอบ

        “แล้วยังไง?” แจ้ถาม

        “ก็ขี้ขลาดไง” ลีบอก

        “อ๋อ ขี้ขลาดไม่กล้าอะสิ” แจ้พูด

        “แล้วเจ้านายตาขาวไหม?” ลีถาม

        “ขอดูก่อนนะ” แจ้ตอบแล้วเพ่งมองไปที่ใบหน้าเจ้านายของตน “เจ้านายก็มีส่วนหนึ่งที่ตาขาวนิด ๆ แต่ว่านัยน์ตาดำใหญ่กว่านะ”

        “อ๋อ” ลีพูด

 

        “เจ้านายก็จะนอนสิครับ” ลีพูดแล้วล้มตัวลงบนเตียง

        “ความคิดดี” ลุงพีพูด “เฮ้ย! อย่าเพิ่งนอน!!”

        ลีลุกขึ้นมาแล้วถามลุงว่า “ทำไมอ่ะ?”

        “นี่ ถ้าเธอนอนก็จะเริ่มวันเส้นตายเลยนะ” ลุงพีตอบ

        “นั่นสินะ วันนี้เรายังไม่ได้ทำอะไรเลย” ลีบอก

        “ทำอะไร?” ลุงพีถาม

        “สร้างบ้านแสนสุข แล้วเราก็จะมาตั้งแคมป์กัน! มาเล่าเรื่อง ดีไหม?” ลีถาม

        “ผมชอบเล่าเรื่องนะ” แจ้พูด “แต่ไม่ชอบดื่มเหล้า”

        “อ๋อ แสดงว่าชอบเล่าเรื่อง แต่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์สินะ” ลุงพีพูด “อืม เล่นตลกพ้องเสียงซะด้วย”

        “ใช่แล้วลุง” แจ้บอก

        “งั้นเดี๋ยวผมไปปลูกอะไรแถวนี้ก่อนแล้วกัน” ลีพูด

        “รีบไปรีบมานะ” ลุงพีพูด และมองหลานตัวเองเดินออกไปจากพื้นที่ของตัวเอง

 

        ต่อมา ลีได้ตัดไม้เพิ่มเพื่อจะทำอุปกรณ์เพิ่ม

        “ผมได้ดาบไม้มาแล้ว!” ลีพูด

        “เจ๋งจริง ๆ ไอ้หนู” ลุงพีบอก

        “สรุปจะเอาหลานหรือไอ้หนู?” ลีถามลุง

        “นี่กล้าย้อนกับผู้สูงอายุงั้นเหรอ?” ลุงพีแย้ง

        “ก็...โอเค ไม่เถียงฮะ” ลีตอบ “ว่าแต่ ลุงมีดาบบ้างหรือเปล่า?”

        “มีสิ” ลุงพีตอบ “ฉันมีดาบเอ็นเดอไรต์ (Enderite Sword)”

        “ดาบเอ็นเดอไรต์?” ลีถาม “ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”

        “แหงละมันเป็นแร่หายากนี่นา” ลุงพีตอบ “เธอเกิดไม่ทันซะด้วยซ้ำ”

        “อ้าว พูดอย่างนี้ทำอย่างกับลุงเกิดทัน ลุงอ่ะกี่ปี?” ลีถาม

        “เจ็ดสิบสามปี...” ลุงพีตอบด้วยน้ำเสียงออกรำคาญ

        ปรากฏว่าด้วยความที่ลีไม่ได้หมกมุ่นอยู่กับการคราฟต์เครื่องมือ เลยทำให้ลีเผลอสร้างอีเต้อไม้ตั้งสองอัน แทนที่จะสร้างแค่อันเดียวกับสร้างขวานไปเลย

        “ขอบคุณมาก ไม่มีสมาธิเลย สร้างอีเต้อตั้งสองอัน” ลีสบถ

        “ก็ใครใช้ให้เธอพูดเรื่องแร่เอ็นเดอไรต์เนี่ย?” ลุงพีย้อน

        “แล้วใครพูดก่อนครับ?” ลีถาม

        “นี่ ๆ อย่ามาลามปามฉันนะ” ลุงพีพูด

        ด้วยความเซ็งสุด ๆ ลีจึงต้องกลับไปตัดไม้อีกรอบ

 

        พอกลับมา

        “เจ้านาย” แจ้พูด “เจ้านายรู้ไหม ถ้าสมมุติว่าเรามีโลกแห่งความจริงอยู่ด้วย เจ้านายอยากจะไปหรือเปล่า?”

        “ทำไม?” ลีถาม

        “ถ้าเกิดว่าโลกที่เราอยู่เป็นโลกเรื่องแต่ง แล้วมันมีอีกโลกหนึ่งที่เป็นโลกแห่งความจริง เจ้านายจะคิดยังไง?” แจ้ถาม

        “ฉันก็ไม่รู้สิ” ลีบอก “เพราะว่าความรู้สึกของแต่ละคนที่เกี่ยวกับโลกที่นายว่ามันไม่เหมือนกันนะ”

        “อ๋อ” แจ้พูด

 

        ตอนเช้ามืด

        “เจ้านาย” แจ้ร้อง “ผมกลัว”

        “อ๋อ” ลีพูด “อยู่ใกล้เจ้านายไว้นะ อีกนิดเดียว”

        จากนั้นลีก็พยายามกะเทาะส่วนเกินของบ้านออกไปเก็บไว้กับตัว จนกระทั่งเช้า

        “เช้าแล้ว” ลีพูด

        “ผมมีตา ผมเห็น” แจ้บอก

        เขาได้เอาหินที่เขาขุดได้ตอนที่เขาไปตัดไม้เพิ่มเมื่อคืนมาทำเป็นเตาเฟอร์แนนซ์ (Fernace) และเผาเนื้อหมูที่เขาเก็บได้ (Porkchop) เพื่อเป็นอาหารประทังชีวิต และระหว่างนั้นเขาก็แอบหมั่นไส้และมันเขี้ยวไก่ของตัวเองด้วย

        “ผมมีเรื่องเล่าระหว่างรอเนื้อสุกแล้วกันนะ” แจ้พูด

        “โอเค เรื่องมันมีอะไรยังไงว่ามาซิ” ลีพูด

        “กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีนักเดินทางหนุ่มกับคู่หูของเขาซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่ชื่อว่าแจ้” แจ้ว่า

        “คุ้น ๆ นะชื่อนี้” ลีบอก

        “ก็นั่นแหละ ทั้งสองเป็นคู่หูกันนะเจ้านาย” แจ้พูด “คือ เรื่องมันมีอยู่ว่า...”

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.