7
รินรดารวบช้อนส้อมหลังจากที่รู้สึกอิ่มแปล้อาหารอร่อยมากจนเธออยากจะเขียนรีวิวให้ด้วยซ้ำ สายตาของทัศไม่ละจากทุกอากัปกริยาของเธอ รินรดาสบตากับเขาพร้อมทั้งเบิกตากว้างเพื่อเป็นการส่งสัญญาณถามว่า
‘มีอะไรหรือป่าว จ้องชั้นทำไม’
แต่ท่าทางของเขาที่นั่งรอให้เธอรับประทานอาหารเสร็จเหมือนมีเรื่องสำคัญพูดกับเธอ เธอเองพอจะเดาออกจึงเป็นคนเริ่มต้นเปิดบทสนทนาของเธอ ที่เธอเก็บไว้และอยากจะพูดกับเขาเช่นเดียวกัน โดยเธอพูดออกไปตรงๆว่า
“เมื่อคืนที่คุณkissชั้น”
ทัศขยับแว่นตาของเขาเล็กน้อย ชายหนุ่มตั้งใจฟังเรื่องที่เขาคิดว่าเธอจะพูดเรื่องสำคัญกว่าที่เขาได้ยินและแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองว่าผู้หญิงเช่นเธอจะพูดเรื่องนี้ได้อย่างหน้าตาเฉยไม่รู้สึกเขินอาย อีกทั้งเธอยังคงติดใจเรื่องนี้
“อืม...ผมขอโทษคุณไปแล้ว ผมไม่ได้ตั้งใจ เอ่อ! …” ทัศเข้าใจไปเองว่าเธอคงไม่ถือสาคนเมาแบบเขาตรงกันข้ามดูเธอจะสนใจและเห็นเป็นเรื่องสำคัญ
“ นี่!อย่าใช้มุกเมามาทำแบบนี้อีก เรื่องkissไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกค่ะแต่มันแปลกตรงที่เราสองคนเป็นคนแปลกหน้ากัน ที่สำคัญชั้นไม่เชื่อว่าคุณจะไม่ได้ตั้งใจ เพราะโอกาสบังเอิญแบบนั้นเกิดขึ้นได้ยากพอๆกับที่เต่าทะเลจะโผล่หัวขึ้นมาติดบ่วงของชาวประมง คุณว่ามั้ย ถ้าไม่ตั้งใจมีหรา พื้นที่บริเวณริมฝีปากไม่ได้มีพื้นที่กว้างพอที่จะบังเอิญชนกันได้ และที่สำคัญไปกว่านั้นชั้นว่าคุณฉวยโอกาสทำแบบนั้นกับชั้น”
ทัศคิดว่าผู้หญิงคนนี้ช่างมีแนวความคิดที่สุดแสนจะแปลกประหลาดและเพี้ยนในเวลาเดียวกัน เขากำลังคุยกับใครอยู่ เหตุใดเธอถึงเปรียบเทียบเรื่องอะไรเช่นนี้ ทัศมองหน้าเธอด้วยความรู้สึกทึ่งและสงสัยในขณะเดียวกัน เขาจึงเอ่ยกับเธอว่า
“ครับ ผมขอโทษจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีกครับ คุณจะพูดเพื่อต้องการให้ผมรับผิดชอบหรือครับ”
ถึงแม้ทัศจะไม่ค่อยเข้าใจในจุดประสงค์ที่หญิงแปลกหน้าคนนี้พูดสักเท่าไหร่และยิ่งกว่านั้นเขาเองยังไม่เข้าใจว่าในช่วงเวลานั้นเขาทำแบบนั้นไปได้อย่างไรจะว่าสิ่งที่เขาทำไปนั้นทำไปเพราะขาดสติคงจะไม่ใช่แต่ไม่รู้ถึงเหตุผลที่ทำไป
‘ในช่วงเวลานั้นและเวลานี้เธอช่างน่าดึงดูดเกินจะห้ามใจเสียกระไร’
รินรดาถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นท่าทางจริงจังของชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าของเธอ เธอแน่ใจว่าไม่ได้ต้องการอะไรจากเขา
“ป่าวชั้นไม่ได้ให้คุณรับผิดชอบอะไรแค่ต่อไปอย่าทำแบบนั้นอีก ”
หัวใจของเขาพองโตตั้งแต่ที่เธอบอกว่า
"เธอจะอยู่ที่นี่"
ไม่ใช่เพียงเพราะเธอรูปร่างหน้าตาสะสวยหากแต่เธอยังมีความคิดความอ่านที่แปลกแบบที่เขาชอบเสียด้วยอีกทั้งเขาเองรู้สึกรื่นรมย์ขึ้นมาในทันใดเมื่ออยู่ใกล้เธอ
“สรุปชั้นจะอยู่ที่นี่ แต่ไม่ใช่ในฐานะภรรยาเก็บคุณนะ คุณจะทำอะไรแบบนั้นไม่ได้”
“เห็นทีคุณจะทำตามอำเภอใจที่ตัวเองต้องการไม่ได้ครับ ด้วยเหตุที่ผมไม่สะดวกให้หญิงสาวแปลกหน้าพักอยู่กับผมได้"
"ห๊า..." รินรดาถึงกับอุทานเสียงหลงที่เขาปฏิเสธเธอ แต่เธอก็ยืนยันที่จะอยู่
"เรื่องของคุณ แต่เรื่องของชั้นคือชั้นจะอยู่ที่นี่วันนี้"
"เดี๋ยวผมจะให้ลุงจรัสขับรถไปส่งคุณที่บ้าน"
ไม่ทันที่เธอจะพูดต่อ บทสนทนาที่ทั้งทัศและหญิงสาวแปลกหน้าคนนี้ คุณหญิงป้าของทัศได้รับรู้ทุกอย่าง เมื่อได้ยินว่าทั้งคู่กำลังทะเลาะกันเมื่อหยุดฟังดูก็ถึงกับตกอกตกใจมิน้อยด้วยเรื่องที่โต้เถียงกันนั่นไม่คิดว่าหลานชายเพียงคนเดียวจะพาผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วยเพราะก่อนหน้านี้หลานชายหัวแก้วหัวแหวนไม่เคยทำท่าทางรุ่มร่ามกับหญิงคนใดในพระนครอีกทั้งจะพาไปดูตัวผู้หญิงคนไหนก็ทำเป็นปฏิเสธเป็นพัลวัน อีกทั้งไม่ยอมแต่งงานกับคุณหนูแพรอีกด้วย แต่กลับมาทำเช่นนี้กับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ คุณหญิงป้าถึงกับรำพึงว่า
“ตาทัศหน่ะ”
คุณหญิงป้าเดินออกมาจากฉากที่กั้นประตูทางเข้ามาในห้องรับประทานอาหารทำให้ผู้ที่เป็นหลานชายตกใจไม่น้อยรีบลุกจากเก้าอี้ออกมายกมือไหว้ด้วยท่าทางลนลาน
“จริงหรือ พ่อทัศทำเช่นนั้นหรือ ปลุกปล้ำแม่หนูคนนี้แล้วไม่รับผิดชอบหรือ เแล้วแม่หนูคนนี้เป็นลูกเต้าเหล่าใคร พ่อแม่เขาจะว่าอย่างไรเล่า อีกทั้งยังแอบพามาอยู่ที่บ้านสองต่อสองอีกหรือ แล้วยังไม่รับผิดชอบแม่หนูคนนี้อีกหรือ โอ๊ย! พ่อหลานชายตัวดีจู่ๆก็ลุกขึ้นมาสนใจผู้หญิงก่อนหน้านี้ก็ไม่ยอมตบแต่งกับแม่หนูแพร”
ผู้หญิงสูงวัยดูภูมิฐานท่าทางใจดีผิวขาวเหลืองผมสั้นดัดเป็นลอนเล็ก ใส่กระโปรงป้ายผ้าถุงปิดเข่า เสื้อลูกไม้สีขาวนวลเข้ากับสีกระโปรง ปรากฏตัวขึ้นก็เอาแต่บ่นหลานชาย แต่ท่ามกลางความตกใจของชายหนุ่มเจ้าของบ้านและรินรดาที่เธองงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะเมื่อครู่นี้ทัศเป็นคนบอกว่าเขาอยู่ที่นี่คนเดียว ทัศรีบอธิบายให้คุณหญิงป้าเข้าใจเสียใหม่ว่า
“ผมหาได้ทำเช่นที่คุณป้าเข้าใจครับ ด้วยเพราะผมเป็นสุภาพบุรุษพอคุณป้าวางใจได้”
“ให้จริง” รินรดาพูดขึ้นแทรก ทัศหันมาจ้องเธอ
“ยังจะมาปฏิเสธได้ยินอยู่ว่าพ่อทัศไปจูบแม่หนูคนนี้โดยที่เจ้าตัวเขาไม่ยอมใช่หรือพ่อสุภาพบุรุษ”
"ผมเมา ครับ"
"เหตุผลหรือ เป็นเหตุผลที่จะไม่รับผิดชอบใดๆหรอกหรือ อีกทั้งข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกแล้ว แม่หนูคนนี้เขาก็มีพ่อแม่แล้วทีนี้จะทำอย่างไร จะไปส่งเขากลับบ้านหรือ"
"เรื่องราวไม่ใช่อย่างที่คุณหญิงป้าเข้าใจครับ ผมกับเธอเรายังไม่ได้ทำเช่นนั้น"
หลังจากที่รินรดาได้ฟังคุณหญิงป้าของชายหนุ่มเจ้าของบ้านเดือดเนื้อร้อนใจยิ่งกว่าตัวของเธอเองด้วยซ้ำในเรื่องที่เธอถูกจูบอีกทั้งดูจะเป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับคุณป้าอีกด้วย และนี่เป็นโอกาสที่จะทำให้เธอได้อยู่ที่นี่ รินรดาพูดขึ้นว่า
“คุณป้าต้องให้ความเป็นธรรมกับหนูนะคะ เราลูกผู้หญิงเหมือนกัน ได้หนูแล้วก็จะมาทิ้งไม่สนใจไยดีอีกทั้งยังบอกที่ทำไปเพราะเมาอีก หนูล่ะเสียใจจริงๆเลยค่ะ ไม่คิดว่าลูกผู้ชายบ้านนี้จะเป็นแบบนี้”
รินรดาพูดจบก็ก้มหน้าทำสะอึกสะอื้นจนทำให้ทัศแปลกใจไม่น้อย และคิดไปว่าหรือเขาทำอะไรแบบนั้นจริงๆแต่ไม่รู้ตัว คุณหญิงป้าของทัศหันมามองหน้ารินรดาอีกครั้งเพื่อเป็นการถามย้ำให้แน่ใจในเรื่องที่เธอพูดแล้วก็เอ่ยขึ้นว่า
“พ่อทัศนี่ น่าตีจริงๆดูเถอะดูทำเรื่องงามหน้าแล้วไหมล่ะ"
“คือ...เอ่อ! "
"จะยังมาพูดอะไรอีก แล้วทีนี้จะรับผิดชอบอย่างไร เรื่องแต่งงานก็ไม่แต่ง แล้วจะวิวาห์คนธรรพ์อีก วันๆหนะเมาหัวราน้ำทุกวันอย่างที่ชาวบ้านพูดกัน ประจักษ์แจ้งก็วันนี้ ว่าแต่บ้านแม่หนูอยู่ที่ไหนเป็นลูกเต้าใครหรือ"
รินรดาได้ยินสิ่งที่คุณหญิงป้าของทัศพูดก็ถึงกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนที่เธอจะถอนใจออกมาและคิดว่า
'ถ้าจะโกหกก็ต้องโกหกให้ถึงที่สุดจะมาเลิกกลางคันไม่ได้นะรินรดา'
ทัศเห็นท่าทางของเธอประกอบกับที่เขาถามเกี่ยวกับตัวเธอดูเธอก็พูดไม่รู้เรื่องอีกทั้งยังดูสับสน เขาคิดว่าอาจจะเป็นไปได้ที่เธออาจจะเสียสติความจำเสื่อมหรือ...และภาพแรกที่เขาเห็นเธอแต่งตัวด้วยกางเกงยีนส์เดนิมที่ขาดวิ่นเช่นนั้น อีกทั้งดูเพี้ยนๆอีก ทำให้เขารู้สึกสงสารเธอขึ้นมาในทันใด เขาจึงพูดขึ้นว่า
“แท้จริงแล้วเราสองคนเป็นเพื่อนกันเมื่อครั้งอยู่ที่ปีนังครับ ส่วนญาติพี่น้องของเธอที่เมืองไทยก็ไม่มีแล้วครับ”
“พุธโธ่! ถ้าเช่นนั้นพ่อทัศก็ควรให้เกียรติแม่หนูคนนี้ อย่าให้ใครมาว่าได้ว่าลูกชายบ้านนี้หาใช่สุภาพบุรุษ”
"ครับ"
"ถ้าเช่นนั้น แม่หนูคนนี้ก็ไม่ควรอยู่กับพ่อทัศสองต่อสองหรอกนะ"
รินรดาฟังทั้งสองคุยกันคิดว่าเรื่องราวจะไปกันใหญ่แล้วเธอจะทำอย่างไรดี
'โอ๊ย! อยากหายตัวไปตอนนี้จริงๆเลย ตอนแรกคิดว่าอยู่ที่นี่ก็ดีไม่มีใครรู้จักชีวิตจะได้สงบจากเรื่องดร่าม่าแต่กลับมาเจอแบบนี้อีก'
ทัศมองหน้ารินรดาก่อนที่เขาจะพูดเบี่ยงเบนประเด็นเพื่อให้เธออยู่ที่นี่ ถ้าเธอต้องไปอยู่บ้านคุณหญิงป้า เธออาจจะต้องไปพบหมอด้วยเหตุเสียจริต เพราะพฤติกรรมบางอย่างที่แปลกๆของเธอที่คุณหญิงป้าอาจจะไม่เข้าใจ อีกทั้งอาจจะทำให้คุณหญิงป้าปวดหัวกับเธอ และเขาอยากยกเลิกการแต่งงานที่ถูกคลุมถุงชนกับคุณหนูแพรลูกสาวเจ้าสัวที่เป็นเพื่อนของคุณพ่อ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือเขาก็อยากอยู่ใกล้เธอมากกว่า
ทัศพยายามจะหาเรื่องมาให้คุณหญิงป้าเลิกสนใจในความสัมพันธ์ของเขากับเธอ เขาคิดขึ้นมาได้ว่า คุณหญิงป้าเคยมาขอร้องให้ไปช่วยสอนที่โรงเรียนสตรีที่คุณหญิงป้าเป็นผู้ก่อตั้งว่า
“เรื่องเป็นครูที่โรงเรียนสตรี ผมมาไตร่ตรองแล้วเห็นว่าอาจจะไม่เหมาะสมด้วยผมเป็นผู้ชายอีกทั้งไม่มีความถนัดจะสอนสตรีด้วยครับแต่ถ้าเป็นรินอาจจะเหมาะกว่า”
รินรดาได้ฟังเขาพูดเธอถึงกับตาโตที่เขาเรียกเธอว่า "ริน" อีกทั้งยังหางานให้เธออีกเธอถึงกับเบิกตากว้างตกใจสุดขีดถึงแม้เธอจะเป็นอาจารย์สอนอยู่แล้วแต่การสอนเด็กเล็กคือสิ่งที่เธอหลีกเลี่ยงมาตลอดด้วยเหตุที่พูดจากับเด็กๆไม่ค่อยจะรู้เรื่องอีกด้วย
ส่วนทัศนำเสนอให้รินรดาเป็นครูที่โรงเรียนคุณหญิงป้าเพื่อที่คุณหญิงป้าจะได้เป็นพวกเดียวกับเขาอย่างน้อยก็เป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่จะช่วยเขาเถียงคุณพ่อในเรื่องแต่งงานกับคุณหนูแพร
ทัศรู้สึกประหม่าเมื่อเห็นท่าทีของรินรดา เขาคิดไปว่าหรือเธอไม่รู้หนังสือ แต่ก็ไม่น่าจะใช่ตอนเช้าเขายังเที่ยวเปิดดูหนังสือเอกสารบนโต๊ะเขียนหนังสือในห้องนอนของเขา และเขาคาดเดาว่าเธอน่าจะได้รับการศึกษามาดูจากท่าทางการแสดงความคิดเห็นที่เขาคุยกับเธอเมื่อครู่เธอพูดภาษาอังกฤษปนไทยอีกด้วย
คุณหญิงป้าสนใจรินรดาขึ้นมาทันทีตามที่ทัศคาดการณ์ไว้เพราะคุณหญิงป้าต้องการครู อีกทั้งถ้าเธอตกลงเธออาจจะกลายเป็นคนโปรดของคุณหญิงป้าได้
คุณหญิงป้ามานั่งคุยกับรินรดาเป็นเรื่องเป็นราวถึงเรื่องที่เธอจะมาเป็นครูสอนให้ที่โรงเรียนด้วยเหตุที่โรงเรียนกำลังขาดแคลนคุณครูเนื่องจากมีนักเรียนใหม่เพิ่มอีกหนึ่งห้องเรียน เมื่อคุณหญิงป้าได้พูดคุยกับรินรดาก็รู้สึกถูกชะตาและรู้สึกรักและเอ็นดูเธอขึ้นมา คุณหญิงป้าคิดถึงเรื่องของหลานชายตัวดี เป็นที่รู้กิตติศักดิ์กันทั้งพระนคร ไม่มีผู้ดีตระกูลไหนจะยอมให้ลูกสาวมาตกระกำลำบากอยู่ด้วย เจ้าสัวเจียงยอมให้แม่หนูแพรตบแต่งด้วยก็บุญโข แล้วตอนนี้หลานชายตัวดียังพาผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มาอยู่ที่บ้านให้เป็นอนุภรรยาอีก
คุณหญิงป้าจึงพูดขึ้นว่า
"แม่หนูรินนี้ก็ท่าทางก็ดีพูดจาฉะฉานดูเป็นสาวสมัยใหม่เหมาะที่จะเป็นคุณครู อีกทั้งไปอยู่กับบ้านที่ป้าจะได้ช่วยงานได้อีก"
"ผมเกรงว่าเธออาจจะต้องเรียนรู้ก่อน ถ้าอนงค์อาจจะช่วยงานคุณป้าได้ดีกว่าครับ"
"อย่าบอกนะว่าพ่อทัศหวงแม่หนูริน"
"ไม่ใช่ครับ"
"แล้วเหตุผลคืออะไร แต่ถ้าจะให้แม่หนูรินอยู่ที่นี่ คุณหนูแพรล่ะพ่อทัศไหนจะเจ้าสัวเจียงพ่อเขาอีกเล่า"
"ผมเรียนให้คุณป้าทราบแล้วว่าจะไม่แต่งงานกับแพรและแจ้งคุณพ่อไปแล้วครับ"
คุณหญิงป้ามองหน้าหลานชายคนโปรดแล้วถอนหายใจในใจก็อยากจะตามใจเช่นเคยแต่เรื่องนี้ อาจจะไม่ได้
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 202
แสดงความคิดเห็น