ตอนที่ 742 ดาร์กยูนิคอร์น
ตอนที่ 742 ดาร์กยูนิคอร์น
ในห้องฝึกซ้อม
ปัจจุบันทั่วทั้งร่างของเซี่ยเฟยเต็มไปด้วยหยดเหงื่อราวกับสายฝน และการแบกเชือกไทเฟินเอาไว้บนหลังมันก็ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยจนแทบจะหายใจไม่ออก
สิ่งที่เซี่ยเฟยจำเป็นจะต้องฝึกคือการแบกเชือกโลหะไทเฟิน ซึ่งเป็นหนึ่งในโลหะที่มีน้ำหนักมากที่สุดในจักรวาล โลหะชนิดนี้เพียงแค่หนึ่งกำปั้นก็มีน้ำหนักสูงถึง 1 ตัน และในปัจจุบันชายหนุ่มก็กำลังแบกเชือกที่มีน้ำหนักหลายสิบตันเอาไว้บนร่าง
“ความเร็วไม่เพียงแต่จะมีส่วนเกี่ยวพันกับพลังพิเศษและพลังของกฎเท่านั้น แต่มันยังมีความเกี่ยวพันกับความแข็งแรงของร่างกายด้วย หากร่างกายของผู้ใช้ความเร็วมีความแข็งแรงไม่มากพอ มันก็จะไม่สามารถทนต่อแรงต้านอากาศในระหว่างการวิ่งด้วยความเร็วสูงได้”
“ผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงจะสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วหลายหมื่นเมตรต่อวินาทีโดยไม่จำเป็นจะต้องสวมชุดเกราะ และถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้คาดหวังให้นายไปจนถึงระดับนั้นในตอนนี้ แต่หลังจากวันนี้เป็นต้นไปอย่าลืมฝึกเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายโดยเด็ดขาด” เซี่ยเหล่าสือเดินไปเดินมาต่อหน้าชายหนุ่มและกล่าวคำสอนขึ้นมาอย่างเย็นชา
‘ผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง โดยไม่จำเป็นจะต้องสวมชุดเกราะงั้นเหรอ?’ เซี่ยเฟยคิดในใจอย่างตกตะลึง
ภายในใจของเขามีคำถามอยู่อย่างมากมาย แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะถามอะไรออกมาได้ เพราะในตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อยล้าเกินกว่าจะพูดออกมาได้จริง ๆ
นี่มันคือการฝึกนรกชัด ๆ
การฝึกของเซี่ยเหล่าสือทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกไม่ต่างไปจากว่าเขากำลังตกนรกอยู่จริง ๆ
ในทุก ๆ วันเซี่ยเฟยจะเดินกลับเข้าไปในห้องพักด้วยร่างกายอันเหนื่อยล้า และเขาก็จะผล็อยหลับไปในทันทีโดยที่แทบจะไม่สามารถเอาร่างของตัวเองเข้าไปอาบน้ำได้ด้วยซ้ำ
—
ช่วงเวลาแห่งการฝึกพิเศษทำให้ร่างกายของเซี่ยเฟยถูกทรมานจนเหนื่อยล้าอย่างถึงขีดสุด โดยในวันนี้เป็นวันที่ 29 ของการฝึกแล้ว ซึ่งชายหนุ่มก็ถูกสั่งให้หยุดพักตั้งแต่เมื่อวานเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประลองที่กำลังจะมาถึง
ช่วงเวลาเที่ยงชายหนุ่มตื่นขึ้นมาอย่างสบาย ๆ หลังจากนอนหลับเต็มอิ่มมาถึง 18 ชั่วโมงเต็ม ๆ และเนื่องมาจากพลังงานอันบริสุทธิ์ที่ไหลเวียนอยู่ภายในห้อง มันจึงทำให้ร่างกายของเขากลับมาเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอีกครั้ง
หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน เซี่ยเหล่าสือก็พาเซี่ยเฟยลงมาจากภูเขาและมองไปยังชายหนุ่มด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม
“ตลอดเวลามีลูกศิษย์มากมายที่สามารถอดทนต่อการฝึกฝนอันเข้มงวดของฉันได้ แต่มันมีคนน้อยมากที่ไม่เคยบ่นในระหว่างการฝึกเลยแม้แต่นิดเดียวเหมือนกับนาย เอาล่ะตอนนี้การฝึกพิเศษมันได้จบลงแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องมาดูผลลัพธ์ของการฝึกสักที” เซี่ยเหล่าสือกล่าวก่อนที่เขาจะใช้นิ้วแตะแหวนมิติและหยิบชุดต่อสู้ออกมา
เซี่ยเฟยมองไปยังชุดต่อสู้ตรงหน้าด้วยแววตาอันเป็นประกาย เพราะชุดเกราะสีดำชุดนี้มีความงดงามมากยิ่งกว่าชุดเกราะชาร์ปเลสที่เขาเคยสวมในอดีตเสียอีก และถ้าหากว่าชุดเกราะชาร์ปเลสให้ความรู้สึกเหมือนกับการให้เขาหลอมรวมไปกับธรรมชาติ ชุดเกราะชุดนี้ก็คงจะให้ความรู้สึกเหมือนหนามอันแหลมคมที่พร้อมจะทิ่มแทงศัตรูได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้บนชุดเกราะยังมีตราสัญลักษณ์ของบริษัทฟิกส์ประดับอยู่บนไหล่อีกด้วย ซึ่งมันก็หมายความว่าชุดเกราะชุดนี้เป็นชุดเกราะที่ถูกผลิตขึ้นมาจากบริษัทที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้ามากที่สุดในจักรวาลด้วยเช่นกัน
“ชุดดาร์กยูนิคอร์นชุดนี้ดูดีเลยใช่ไหมล่ะ ฉันขอบอกเอาไว้ตรงนี้เลยนะว่ามันคือชุดเกราะที่มีประสิทธิภาพมากกว่าชุดชาร์ปเลสที่นายได้มาจากบรูซซะอีก” เซี่ยเหล่าสือกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ระดับสูงกว่าชุดชาร์ปเลสงั้นเหรอครับ?” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ใช่แล้ว นี่คือชุดระดับราชากฎขั้นสูง ซึ่งมันมีระดับสูงกว่าชุดเกราะชาร์ปเลสอยู่หนึ่งระดับ ชุดเกราะชุดนี้จะทำให้นายไม่จำเป็นจะต้องกังวลเกี่ยวกับชุดเกราะที่เหมาะสมอีกต่อไป นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฟิกส์ยังมีระดับสูงกว่าผลิตตภัณฑ์ของบริษัททั่ว ๆ ไปประมาณครึ่งระดับ มันเลยทำให้แม้แต่จักรพรรดิกฎขั้นต้นก็ยังสามารถใช้ชุดเกราะชุดนี้ได้โดยไม่น่าเกลียดมากนัก” เซี่ยเหล่าสือกล่าว
“ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฟิกส์มีประสิทธิภาพมากกว่าผลิตภัณฑ์ทั่ว ๆ ไปมากจริง ๆ ฉันเห็นด้วยกับเขาที่ชุดเกราะนี้สามารถใช้งานได้ไปจนถึงจักรพรรดิกฎขั้นต้นเลย” โอโร่กล่าวพร้อมกับพยักหน้าซ้ำ ๆ
เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มออกมาอย่างยินดี เพราะหลาย ๆ คนพยายามตามหาชุดต่อสู้จากบริษัทฟิกส์ แต่ตระกูลสกายวิงกลับได้ครอบครองชุดต่อสู้ระดับราชากฎขั้นสูงเอาไว้ในมืออยู่แล้ว ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน
แต่ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบชุดเกราะชุดใหม่มานั่นเอง เซี่ยเหล่าสือก็พลิกข้อมือและดึงชุดเกราะกลับมา
“ฉันแค่เอามันออกมาให้นายดู ไม่ได้บอกว่าฉันจะมอบมันให้กับนายสักหน่อย แต่ถ้าหากว่าในวันนี้นายสามารถทำลายความเร็วในระดับ 120,000 เมตรต่อวินาทีได้ ฉันจะมอบชุดดาร์กยูนิคอร์นให้กับนายในทันที”
“ไม่ว่ายังไงตระกูลของพวกเราก็ไม่ใช่มูลนิธิที่จะเอาสมบัติออกมาแจกจ่ายให้กับใครง่าย ๆ อย่างน้อยนายก็ต้องพิสูจน์ก่อนว่าตัวเองมีความสามารถคู่ควรที่จะได้ครอบครองชุดเกราะชุดนี้” เซี่ยเหล่าสือกล่าว
“เอาว่ะ มันก็แค่ 120,000 เมตรต่อวินาที ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาฉันเข้าใกล้ตัวเลขนี้มามากแล้ว ฉันไม่เชื่อว่าวันนี้ฉันจะทำลายกำแพงนั้นไปไม่ได้” เซี่ยเฟยกัดฟันพูดกับตัวเอง
การนำชุดเกราะชุดนี้มาเป็นแรงจูงใจถือว่าได้ผลดีมากเลยทีเดียว แต่การที่บรรพบุรุษตัดสินใจที่จะมอบชุดเกราะชุดนี้ให้กับเซี่ยเฟย มันก็ทำให้เซี่ยเหล่าสือรู้สึกลำบากใจอยู่เหมือนกัน
ท้ายที่สุดทั้งตระกูลสกายวิงมีชุดเกราะของบริษัทฟิกส์อยู่เพียงแค่สามชุดเท่านั้น ซึ่งชุดเกราะอีกสองชุดนอกเหนือจากชุดดาร์กยูนิคอร์นก็อยู่ในมือของเซี่ยบูหยุนและเซี่ยเทียน แต่ในบรรดาชุดเกราะทั้งสามชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์นถือได้ว่าเป็นชุดเกราะที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
—
ในที่สุดการทดสอบครั้งสุดท้ายก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ซึ่งถ้าหากว่าเซี่ยเฟยสามารถฝ่าฟันอุปสรรคในครั้งนี้ไปได้ เขาก็จะได้รับชุดเกราะดาร์กยูนิคอร์น ซึ่งเป็นชุดเกราะระดับราชากฎขั้นสูงมาไว้ในครอบครอง
หลังจากตรวจสอบอุปกรณ์บนร่าง ชายหนุ่มก็โน้มตัวไปข้างหน้าก่อนที่เขาจะพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
ความเร็วของเซี่ยเฟยเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ และเมื่อมันได้มาถึงจุด 30,000 เมตรต่อวินาทีเขาก็รู้สึกว่าร่างกายกำลังสั่นอยู่เล็กน้อย จากนั้นวิวทิวทัศน์บริเวณโดยรอบก็หายไป เพราะตอนนี้เขากำลังก้าวเท้าเข้าไปในโลกของผู้ใช้ความเร็วสูง
“90,000! 100,000! 110,000!” เซี่ยเหล่าสือที่คอยสังเกตมาตรวัดความเร็วตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น เมื่อได้เห็นเซี่ยเฟยยังคงทำความเร็วเพิ่มขึ้นไปได้เรื่อย ๆ
ก่อนหน้านี้ความเร็วของเซี่ยเฟยมาตันอยู่ที่ 110,000 เมตรต่อวินาทีเป็นเวลา 3 วันแล้ว ชายชราจึงไม่แน่ใจเหมือนกันว่าในวันนี้ชายหนุ่มจะสามารถทำลายขีดจำกัดของตัวเองได้หรือไม่
เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้ใช้ความเร็วเจอสิ่งกีดขวาง มันก็เหมือนกับการที่พวกเขาได้เผชิญหน้ากับกำแพงที่มองไม่เห็น สิ่งที่พวกเขาจำเป็นจะต้องทำคือการพยายามทะลวงกำแพงนั้นออกไป และเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาสามารถทำลายกำแพงออกไปได้ เมื่อนั้นพวกเขาก็จะได้พบกับวิวทิวทัศน์ที่แตกต่างไปจากเดิม
เซี่ยเฟยยังคงกัดฟันวิ่งต่อไปอย่างอดทนและสภาพร่างกายในวันนี้ของเขาก็ดีมาก ทำให้เขาสามารถรักษาความเร็ว 110,000 เมตรต่อวินาทีได้ต่อเนื่องกันถึง 10 วินาที โดยไม่รู้สึกเหนื่อยล้าเลยแม้แต่น้อย
สาเหตุที่เขามีสภาพร่างกายที่ดีขนาดนี้ มันก็อาจจะเป็นเพราะว่าเขาได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ มันจึงทำให้ร่างกายของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลังอีกครั้ง
“ทำลายมันไปซะ!”
ชายหนุ่มตะโกนเสียงดังลั่นพุ่งตัวไปข้างหน้าด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมดของร่างกาย แต่ในตอนนี้จิตใจของเขาหลงเหลือเพียงแค่ความว่างเปล่า อาศัยเพียงแค่สัญชาตญาณในการหลีกเลี่ยงอุปสรรคที่ขวางหน้าอยู่ทั้งหมด
ฟุบ!
จู่ ๆ สภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัวก็ว่างเปล่า และเซี่ยเฟยก็รู้สึกเหมือนกับว่าเขาเป็นดาวตกผู้โดดเดี่ยวที่กำลังเดินทางข้ามผ่านท้องทะเลที่เต็มไปด้วยดวงดาว
นี่น่ะเหรอความรู้สึกของการได้ครอบครองความเร็วชั้นยอด!
มันทั้งให้ความรู้สึกถึงอิสระและความผ่อนคลายอย่างที่ไม่สามารถจะอธิบายออกมาได้
“120,000! 121,000! 122,000!” เซี่ยเหล่าสือแทบที่จะกระโดดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
เซี่ยเฟยไม่เพียงแต่จะวิ่งทะลุความเร็วในระดับ 120,000 เมตรต่อวินาทีได้เท่านั้น แต่ความเร็วของเขายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
“ผ่านไปแล้ว! ในที่สุดสกายวิงก็มีผู้ทำลายความเร็วระดับ 9 ถือกำเนิดขึ้นมาอีกคน!!” เซี่ยเหล่าสือส่งเสียงตะโกนด้วยใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดง
ในระหว่างที่ชายหนุ่มออกวิ่งเขาก็แทบที่จะลืมเลือนเวลา ลืมเลือนไปว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนและกำลังทำอะไรอยู่ เขาเพียงสัมผัสได้ถึงความเร็วอันน่าอัศจรรย์ และความน่าหลงใหลที่ทำให้เขาไม่สามารถจะถอนตัวกลับมาได้
หลังจากวิ่งต่อเนื่องไปนานกว่า 10 นาที เซี่ยเฟยก็กลับมาที่ศูนย์ฝึกสายลมอีกครั้ง
“123,066 เมตรต่อวินาที! ตอนนี้ความเร็วของนายได้ทะลุผ่านความเร็วระดับ 9 ไปได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว!” เซี่ยเหล่าสือแสดงมาตรวัดความเร็วภายในมือให้เซี่ยเฟยดูอย่างตื่นเต้น
“หากนายเริ่มฝึกกฎความเร็วในตอนที่พลังพิเศษความเร็วของนายพัฒนามาจนถึงจุดสูงสุด ความสำเร็จในอนาคตของนายก็จะกลายเป็นเรื่องที่ไร้ขีดจำกัด เพราะจุดเริ่มต้นของนายอยู่สูงเหนือเกินกว่าสกายวิงคนอื่น ๆ”
เซี่ยเหล่าสือยังคงยิ้มไม่หุบ เพราะเขาไม่เคยฝึกใครให้ทำลายความเร็วระดับ 9 ภายใน 1 เดือนได้มาก่อน เรียกได้ว่าสิ่งที่เซี่ยเฟยทำลงไปเป็นการทำลายสถิติของนักรบสกายวิงทั้งหมดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์
“รับไปซะ” เซี่ยเหล่าสือกล่าวพร้อมกับโยนชุดดาร์กยูนิคอร์นให้กับเซี่ยเฟย
—
แน่นอนว่าผู้ที่กำลังรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้มีเพียงแต่เซี่ยเหล่าสือเท่านั้น เพราะเซี่ยเฟยก็กำลังรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากเมื่อเขาสามารถก้าวข้ามผ่านพลังพิเศษระดับสูงสุดไปได้
หลังจากใช้เวลาอาบน้ำและเก็บข้าวของภายในห้อง เซี่ยเฟยก็เดินออกมาจากศูนย์ฝึกสายลมเพื่อเตรียมพร้อมจะกลับไปยังสวนสายลม และเข้าร่วมกับการประลองที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้
“ก่อนลงภูเขาช่วยชำระเงินตามใบเสร็จนี้ด้วย” เซี่ยเหล่าสือกล่าวพร้อมกับยื่นใบเสร็จให้ชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม
เซี่ยเฟยอดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ เนื่องจากเขาไม่คิดว่าชายชราจะมาดักรอเขาอยู่ที่ประตู เพราะกลัวว่าเขาจะบิดเงินแล้วหนีกลับไปโดยไม่จ่ายค่าบริการในระหว่างที่เขาฝึกอยู่ในศูนย์ฝึกสายลม
“1,754,000!” เซี่ยเฟยอุทานออกมาด้วยความตกตะลึง เพราะใครจะคิดว่าการอาศัยอยู่ในศูนย์ฝึกสายลมเพียงแค่หนึ่งเดือน มันจะมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 1.7 ล้านคริสตันเหลืองแบบนี้
“เอาเป็นว่าฉันคิดส่วนลดให้กับนาย 10% เป็นกรณีพิเศษก็แล้วกัน” เซี่ยเหล่าสือกล่าวอย่างเอาอกเอาใจ
ชายหนุ่มยกมือขึ้นมาเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก และพยายามตรวจสอบใบเสร็จโดยละเอียด เขาจึงได้พบว่าไม่ว่าจะเป็นรองเท้าแตะ, น้ำดื่มหรือการใช้ห้องน้ำ ต่างก็ล้วนแล้วแต่ถูกคิดค่าธรรมเนียมด้วยกันทั้งหมด ซึ่งนอกเหนือจากราคาค่าบริการที่สูงมากแล้ว ใบเสร็จใบนี้ยังแจกแจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายทุกอย่างอย่างแม่นยำอีกด้วย
ทันใดนั้นเองเขาก็นึกถึงสีหน้าของเซี่ยจงไห่ที่พยายามปฏิเสธไม่กลับเข้าไปภายในศูนย์ฝึกสายลม แล้วมันก็ทำให้เขาเข้าใจแล้วว่านักรบทุกคนของตระกูลก็คงจะเคยผ่านพ้นนรกบนดินที่นี่มาก่อน แม้แต่ผู้นำตระกูลอย่างเซี่ยบูหยุนก็ไม่มีข้อยกเว้น
“นายจะจ่ายเงินสดหรือผ่อนจ่าย ถ้าหากผ่อนจ่ายมันก็อาจจะมีดอกเบี้ยเพิ่มเติมเข้าไปอีกนิดหน่อยนะ” เซี่ยเหล่าสือกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“จ่ายเงินสดครับ” เซี่ยเฟยกัดฟันตอบ
เซี่ยเหล่าสือชะงักค้างไปเล็กน้อย เพราะเขาไม่คิดว่าเซี่ยเฟยจะมีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าบริการพวกนี้ได้
‘ไอ้หนุ่มนี่มันเพิ่งจะเข้ามาในดินแดนกฎได้ไม่ถึงปีไม่ใช่เหรอ แล้วมันไปเอาเงินมากขนาดนั้นมาจากไหน?’ เซี่ยเหล่าสือคิดภายในใจ
“1.7 ล้านกว่า ๆ เองเหรอ? ราคานี้ถือว่าถูกมาก ถ้าหากว่ามันเป็นการฝึกพิเศษในตระกูลของฉันมันก็คงจะมีค่าใช้จ่ายแพงกว่านี้ไปหลายเท่า อีกอย่างตอนนี้นายก็เป็นราชากฎแล้ว หมายความว่านายจะเปิดห้องสมบัติของพวกแอตแลนติสระดับ 2 ได้เหมือนกัน แล้วทำไมนายจะต้องเสียดายเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้ด้วย” โอโร่กล่าวถามด้วยความสับสน
เซี่ยเฟยพยายามปล่อยผ่านโอโร่ไป เพราะท้ายที่สุดอีกฝ่ายก็เคยเป็นราชาของตระกูลไลอ้อนฮาร์ทผู้ยิ่งใหญ่ เขาจึงไม่จำเป็นจะต้องรู้สึกกังวลเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ในชีวิตของเขาเลย แล้วคนแบบนี้จะมาเข้าใจความทุกข์ทรมานของคนจนได้ยังไง
เซี่ยเฟยทำได้เพียงแค่ถอนหายใจ ก่อนที่เขาจะหยิบบัตรของธนาคารฟารซีขึ้นมาเพื่อเตรียมจ่ายเงิน
“นั่นมันบัตรระดับทองเข้ม!” เซี่ยเหล่าสืออุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะการที่เซี่ยเฟยได้ถือครองบัตรระดับนี้ มันก็หมายความว่าชายหนุ่มมีคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 4 เก็บอยู่ในธนาคารไม่น้อยกว่า 5 ล้านชิ้น
“จู่ ๆ ฉันก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ฉันว่าเรื่องนี้นายจะต้องสนใจอย่างแน่นอน” เซี่ยเหล่าสือยื่นมือออกไปกุมมือของชายหนุ่มเอาไว้ด้วยรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์
“เรื่องอะไรงั้นเหรอครับ?” เซี่ยเฟยกล่าวถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
***************
หาวิธีรีดเงินเพิ่มสินะ 5555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 208
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น