ตอนที่ 732 ผู้ฝึก 2 กฎหลัก

-A A +A

ตอนที่ 732 ผู้ฝึก 2 กฎหลัก

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 732 ผู้ฝึก 2 กฎหลัก

“อะไรนะ! ผู้นำตระกูลมูนวอร์ดเสียชีวิตแล้วงั้นเหรอ?!” เฝิงคูชานอุทานออกมาอย่างแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง เมื่อเขาได้รับข่าวการเสียชีวิตของเซียงไป๋ที่ถูกส่งตรงมาจากสนามรบ

ยิ่งไปกว่านั้นกองกำลังรับของตระกูลมูนวอร์ดที่ส่งไปทำลายฐานที่มั่นของตระกูลสกายวิงก็ถูกทำลายลงด้วยเช่นเดียวกัน และผู้นำทีมของตระกูลมูนวอร์ดซึ่งเป็นจักรพรรดิกฎก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากพ่อบ้านชราของตระกูลสกายวิง

จักรพรรดิกฎแต่ละคนต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่มีความสำคัญอย่างมาก แต่ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีตระกูลมูนวอร์ดก็ได้สูญเสียจักรพรรดิกฎไปแล้ว 1 คน ขณะที่จักรพรรดิกฎอีกหนึ่งคนก็อยู่ในสภาพร่อแร่เช่นเดียวกัน มันจึงทำให้เฝิงคูชานไม่สามารถระงับอาการตกใจของตัวเองได้อย่างแท้จริง

“สืบข้อมูลของเซี่ยอู๋เย่เดี๋ยวนี้! ฉันต้องการรู้ว่าพ่อบ้านของตระกูลสกายวิงคนนี้คือใครกันแน่? แล้วจักรพรรดิกฎคนไหนที่เป็นคนนำทีมมาบุกโจมตีสวนสายลมของตระกูลสกายวิง?” เฝิงคูชานตะโกนออกคำสั่ง

“ครับ” สายลับภายในหน้าจอตอบรับพร้อมกับแสดงความเคารพ

“ไม่น่าเชื่อเลยว่าตระกูลสกายวิงจะซ่อนจักรพรรดิกฎคนที่ 3 เอาไว้ จากข้อมูลที่เราได้รับมาผู้ที่นำทีมของมูนวอร์ดไปบุกจู่โจมสวนสายลมเป็นถึงจักรพรรดิกฎขั้นที่ 2 กับราชากฎขั้นสูงอีกสี่คน แต่พ่อบ้านคนนั้นกลับจัดการศัตรูทุกคนได้ด้วยตัวคนเดียว” บรูซกล่าวขึ้นมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อด้วยเช่นกัน

“ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร ฉันคิดว่าหลังจากสงครามครั้งนี้สิ้นสุดลงตระกูลมูนวอร์ดคงจะฟื้นกลับขึ้นมาได้ยากแล้วล่ะ ที่แท้แผนสำรองของเซียงจินเฉิงคือการบุกจู่โจมฐานที่มั่นของศัตรูนี่เอง แต่เขาก็คงจะไม่ได้คิดคำนวณเอาไว้เหมือนกันว่าสกายวิงจะทิ้งจักรพรรดิกฎเอาไว้เฝ้าบ้าน” เฝิงคูชานกล่าวอย่างเคร่งเครียด

“กองหลังของสกายวิงแข็งแกร่งเกินไปจริง ๆ พวกมูนวอร์ดอุตส่าห์ดึงกองกำลังหลักของสกายวิงเอาไว้ แต่ใครจะไปคิดว่าสกายวิงจะมีจักรพรรดิกฎอยู่อีกคนแบบนี้”

“ความจริงแล้วพวกเราทุกคนต่างก็ประเมินความแข็งแกร่งของสกายวิงต่ำเกินไป จักรพรรดิกฎที่มาช่วยตระกูลมูนวอร์ดดูเหมือนจะหนีออกไปจากสนามรบแล้ว หากตระกูลมูนวอร์ดต้องการชนะสกายวิงในสงครามครั้งนี้ พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่จะต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งของตัวเองเท่านั้น” บรูซกล่าว

เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนต่างก็ถอนหายใจออกมาด้วยความเคร่งเครียด เพราะไม่ว่าจะเป็นในแง่ของความแข็งแกร่งหรือกลยุทธ์ ตอนนี้สถานการณ์ของทางฝั่งมูนวอร์ดดูเสียเปรียบกว่าอย่างเห็นได้ชัด

ในตอนแรกทุกคนต่างก็คิดว่านักรบที่ทรงพลังที่สุดของตระกูลของสกายวิงคือเซี่ยบูหยุน แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าแท้ที่จริงแล้วเซี่ยอู๋เย่ ผู้ซึ่งเป็นพ่อบ้านของสกายวิงคือจักรพรรดิกฎที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลต่างหาก

“ในเมื่อเซียงจินเฉิงถูกบีบบังคับให้จนมุม เขาจะต้องใช้แผนการนั้นออกมาแน่ ๆ อีกไม่ช้าก็เร็วทั่วทั้งกลุ่มดาวม้าขาวก็คงจะต้องตกอยู่ในความวุ่นวาย” แครี่กล่าว

แม้ว่าแครี่จะไม่ใช่สมาชิกของเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่เธอกลับสามารถมองทะลุความวุ่นวายที่เกิดขึ้นภายในกลุ่มดาวม้าขาวได้อย่างชัดเจน ซึ่งมันก็หมายความว่าในตอนนี้ความวุ่นวายกำลังจะวิ่งเข้าไปหาตระกูลใหญ่ทุกตระกูลแล้วจริง ๆ

ทันใดนั้นเฝิงคูชานก็สัมผัสได้ว่ามันคล้ายกับมีเส้นด้ายบาง ๆ ที่มองไม่เห็นกำลังชักนำความวุ่นวายทุกอย่างมาสู่กลุ่มดาวม้าขาว 

เริ่มตั้งแต่กองกำลังปริศนาที่ปรากฏตัวขึ้นมาให้ความช่วยเหลือตระกูลมูนวอร์ดบุกจู่โจมสวนสายลม, พ่อบ้านตระกูลสกายวิงที่ไม่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเขาคือใครกันแน่, แผนการอันบ้าคลั่งของเซียงจินเฉิงที่พร้อมจะดึงตระกูลใหญ่ทุกตระกูลเข้าร่วมสงครามในครั้งนี้ด้วย และท้ายที่สุดคือความนิ่งเฉยของเผ่าเทพที่ยังไม่ยอมลงมาจัดการกับปัญหาในครั้งนี้สักที

เหตุผลต่าง ๆ เหล่านี้ต่างก็ก่อให้เกิดความวุ่นวายภายในกลุ่มดาวม้าขาวได้อย่างง่ายดาย และในฐานะที่เฝิงคูชานเป็นผู้นำของกลุ่มมังกรฟ้า มันจึงทำให้เขารู้สึกปวดหัวจนไม่รู้ว่าเขาจะต้องรับมือกับสถานการณ์ครั้งนี้ยังไงดี

ณ สวนสายลม

เซี่ยอู๋เย่ยังคงยืนอยู่ที่ประตูราวกับรูปปั้นที่ไม่สั่นคลอน เพื่อคอยปกป้องสิ่งที่เรียกว่าบ้านที่ให้เขาอาศัยอยู่มาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว

“คุณปู่ เดี๋ยวหนูพันแผลให้นะ” เซี่ยโปหลีผู้ซึ่งเป็นหญิงสาวจากทีมแพทย์กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำตา

เหตุการณ์เมื่อสักครู่เหล่าบรรดาสมาชิกของทีมแพทย์ต่างก็เห็นเซี่ยอู๋เย่ขับไล่ศัตรูที่บุกเข้ามากับตาของตัวเอง ซึ่งความยากลำบากในการต่อสู้มันก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเธอจะสามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้

ไม่ว่าเซี่ยอู๋เย่จะแข็งแกร่งสักแค่ไหน แต่เมื่อสักครู่เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูแบบ 1 ต่อ 1,000 ยิ่งไปกว่านั้นฝ่ายตรงข้ามยังมีจักรพรรดิกฎขั้นที่ 2 เป็นผู้นำทีมมาด้วย มันจึงทำให้การต่อสู้ที่สวนสายลมกลายเป็นการต่อสู้อันดุเดือดที่สุดนับตั้งแต่ที่สงครามระหว่างทั้งสองตระกูลได้เริ่มต้นขึ้นมา

ท้ายที่สุดศัตรูก็หลบหนีไปได้ ขณะที่เซี่ยอู๋เย่ได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วยเช่นกัน โดยทั่วทั้งตัวของเขามีบาดแผลจากคมมีดเป็นจำนวนอยู่นับไม่ถ้วน

“ไม่ต้องร้องไห้ ตราบใดก็ตามที่ฉันอยู่ที่นี่ ฉันไม่มีทางให้ใครมาทำลายสวนสายลมเป็นอันขาด” เซี่ยอู๋เย่กล่าวพร้อมกับพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

ท่าทางของชายชรายิ่งทำให้เซี่ยโปหลีรู้สึกเศร้าใจมากขึ้นกว่าเดิม เพราะท้ายที่สุดเธอก็รู้ดีว่าชายชราคนนี้ไม่ได้มีสายเลือดของตระกูลสกายวิงโดยตรงด้วยซ้ำ แต่ในช่วงที่ตระกูลกำลังมีปัญหาเซี่ยอู๋เย่กลับก้าวเท้าเข้ามาเพื่อจัดการศัตรูโดยไม่กลัวตาย

ณ ตำหนักจันทร์สว่าง

สงครามระหว่างตระกูลสกายวิงกับตระกูลมูนวอร์ดได้ดำเนินมาจนถึงช่วงเวลาชี้ชะตาแล้ว เซี่ยบูหยุนจึงโบกมือออกคำสั่งให้เหล่าบรรดาหมาป่าของสกายวิงพุ่งตัวไปข้างหน้าราวกับสัตว์ร้ายที่ถูกปล่อยออกไปจากกรง

เซียงจินเฉิงกำลังรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก เพราะเขาไม่เคยรู้เลยว่าตระกูลสกายวิงจะร้ายกาจจนถึงขนาดแอบเก็บซ่อนจักรพรรดิกฎเอาไว้ภายในสวนสายลมแบบนี้

ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าในกลุ่มดาวม้าขาวมีจักรพรรดิกฎอยู่ทั้งหมดกี่คน แต่จักรพรรดิกฎที่นำทีมบุกจู่โจมสวนสายลมนั้นไม่ใช่จักรพรรดิกฎจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ และการดึงคนจากเผ่าพันธุ์อื่นมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวภายในกลุ่มดาวม้าขาวแบบนี้ มันก็ถือว่าเป็นเรื่องต้องห้ามที่จะต้องถูกสอบสวนในทันทีเมื่อมันได้มีคนตรวจพบความจริง

อย่างไรก็ตามเหตุผลที่เซียงจินเฉิงกล้าจะนำคนต่างเผ่าพันธุ์มาเข้าร่วมสงครามในครั้งนี้ด้วย นั่นก็เพราะเขาคิดว่าแผนการของตัวเองจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน และตราบใดก็ตามที่เขาสามารถเอาชนะตระกูลสกายวิงได้ มันก็จะไม่เหลือร่องรอยให้ใครตามมาสืบสวนในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

น่าเสียดายที่เขาคำนวณความแข็งแกร่งของสกายวิงน้อยเกินไป เพราะใครจะไปคิดว่าพ่อบ้านที่ดูธรรมดาจะเป็นถึงจักรพรรดิกฎที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูล

ตอนนี้สถานการณ์ของทางฝั่งสกายวิงได้เปรียบมูนวอร์ดในทุกแง่มุม และพวกตระกูลฝูงหมาบ้ายังมีข้อแก้ตัวที่จะกำจัดตระกูลมูนวอร์ดได้โดยไม่ถูกทางเผ่าเทพลงโทษอีกด้วย

ฟุบ!

เซี่ยเฟยเคลื่อนที่เข้าไปท่ามกลางฝูงชน และการได้บุกจู่โจมพร้อมกับนักรบจากตระกูลสกายวิง มันก็ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความกล้าหาญที่ไม่มีอะไรสามารถเข้ามาหยุดยั้งได้

สมาชิกทุกคนต่างก็ให้ความเคารพซึ่งกันและกัน การที่ทุกคนเป็นคนบ้า ๆ เหมือนกัน มันจึงทำให้พวกเขามีความเข้าใจกันและกันไปโดยปริยาย นี่ถ้าหากว่าเซี่ยเฟยไม่ได้มีถิ่นฐานอยู่ที่โลกมนุษย์ เขาก็คิดว่าตระกูลสกายวิงเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับเขาจริง ๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นลักษณะนิสัยหรือวิธีการโจมตีของสกายวิงต่างก็ล้วนแล้วแต่คล้ายคลึงกับสิ่งที่เขาเป็นในปัจจุบัน

ความเร็วคืออาวุธที่คมที่สุด!

เมื่อนักรบสกายวิงบุกไปข้างหน้า มันจึงทำให้สถานการณ์ในสนามรบตกอยู่ในความวุ่นวาย เสียงการต่อสู้ดังขึ้นมาจากทุกแห่งหนแล้วมันก็มีหยดเลือดไหลรินไปบนพื้นเพิ่มขึ้นในทุก ๆ วินาทีที่ผ่านพ้นไป

เหล่าบรรดานักรบระดับล่างของตระกูลมูนวอร์ดที่รออยู่ด้านนอกตำหนักจันทร์สว่างต่างก็มองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างตกตะลึง เพราะการต่อสู้ในครั้งนี้คือการต่อสู้ระหว่างราชากฎเกือบ 100 คน แล้วมันก็ไม่จำเป็นจะต้องพูดว่าการต่อสู้นี้เป็นการต่อสู้ที่มีความรุนแรงมากแค่ไหน

ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีตำหนักจันทร์สว่างก็ถูกทำลายพร้อมทั้งสวนซากุระทั้งสวนที่ลุกท่วมไปด้วยเปลวเพลิง

ฟุบ!

บลัดบิวเทียสถูกแทงเข้าไปในหน้าอกของราชากฎคนหนึ่ง พร้อมกับพลังงานปริมาณมหาศาลที่ถูกดูดซับเข้าไปในสมองของเซี่ยเฟยอย่างรวดเร็ว

ปัง!

วินาทีต่อมาชายหนุ่มก็ทำการระเบิดลูกบอลพลังงานหลากสีในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเขาโดยตรง ทำให้พลังงานปริมาณมหาศาลถูกเติมเต็มเข้าสู่ร่างกาย และทำให้ชายหนุ่มรู้สึกกระฉับกระเฉงมากยิ่งขึ้น

ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถใช้คริสตัลต้นกำเนิดในการฟื้นฟูพลังงานให้กับร่างกายของตัวเองได้ แต่เขากลับรู้สึกว่าการกลืนกินพลังงานจากศัตรูมาฟื้นฟูพลังงานให้กับร่างกายของตัวเองโดยตรงแบบนี้ มันสามารถฟื้นฟูกำลังรบของเขาให้กลับมาอย่างรวดเร็วมากยิ่งกว่า

ไม่ว่ายังไงก่อนหน้านี้เขาก็เพิ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส และใช้พลังงานภายในร่างออกไปจนเกือบหมด เขาจึงจำเป็นจะต้องใช้วิธีการโหดร้ายเช่นนี้ในการเติมเต็มพลังงานให้กับตัวเอง

เมื่อนักรบตระกูลสกายวิงจู่โจมพร้อมกัน มันก็ทำให้กำลังรบของพวกเขามีความน่ากลัวมากขึ้นกว่าเดิม และในเวลาเพียงแค่ไม่นานราชากฎของตระกูลมูนวอร์ดกว่า 20 คนก็ได้ถูกสังหารลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในทางกลับกันทางฝั่งของสกายวิงมีผู้เสียชีวิตไปเพียงแค่ 2-3 คนเท่านั้น

เซี่ยเฟยพยายามใช้โอกาสนี้ในการดูดซับพลังงานจากราชากฎฝั่งศัตรูอย่างต่อเนื่อง แต่น่าเสียดายที่นักรบชาวสกายวิงใจร้อนมากเกินไป ก่อนที่ชายหนุ่มจะดูดซับพลังงานได้อย่างสมบูรณ์ ร่างกายของราชากฎเหล่านั้นกลับถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ต่อหน้าเขาเสียก่อน

“ท่านพี่ พวกเราควรจะทำยังไงดี?” เซียงอู๋เฉิงตะโกนถามไปทางเซียงจินเฉิงอย่างร้อนใจ ขณะที่มือของเขายังคงต่อต้านการจู่โจมจากศัตรูอย่างเต็มที่

ยิ่งสวนซากุระถูกนักรบจากตระกูลสกายวิงทำลายลงไปมากเท่าไหร่ เซียงจินเฉิงก็รู้สึกเจ็บปวดใจมากขึ้นเท่านั้น

เขารู้ดีว่าถ้าหากเขายังไม่ทำอะไรในตอนนี้ ตระกูลมูนวอร์ดที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานจะต้องถูกทำลายลงไปอย่างแน่นอน

“ปลดปล่อยพลัง!” เซียงจินเฉิงตะโกนเสียงดังพร้อมกับรีบคลายเชือกปม 2 ปมที่ถูกมัดอยู่บริเวณข้อมือของเขา

เชือกเส้นหนึ่งเป็นสีทอง ขณะที่เชือกอีกเส้นเป็นสีขาว และทันทีที่ปมเชือกทั้งสองถูกคลายออกจากกัน ทั่วทั้งร่างของเซียงจินเฉิงก็เปล่งแสงสว่าง พร้อมกับคลื่นพลังอันรุนแรงที่แพร่กระจายออกไปทั่วทั้งบริเวณ

“นั่นมันการผสมพลังกฎเข้าด้วยกัน! ถึงแม้ว่าเซียงจินเฉิงจะใช้วิธีการนอกรีตไปหน่อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้มาก็ถือว่าไม่เลวเลย”

“สิ่งที่เขากำลังทำอยู่คือการหลอมรวมกฎแห่งสสารกับกฎแห่งมิติเอาไว้ในร่างของเขาเพียงแค่ร่างเดียว การจู่โจมของเขาที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้คือการจู่โจมด้วยพลังของกฏหลัก 2 กฎในเวลาเดียวกัน” โอโร่อธิบายสถานการณ์ของฝ่ายตรงข้ามอย่างตื่นเต้น

“ผสมพลังกฎ 2 ข้อ?!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ

กฎแห่งสสารกับกฎแห่งมิติเป็นพลังที่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่เซียงจินเฉิงได้หลอมรวมพลังทั้งสองชนิดนี้เข้ากับร่างของตัวเอง ซึ่งมันก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าวิธีการนี้มันเป็นทั้งวิธีการที่อันตรายและบ้าคลั่งเป็นอย่างมาก

คลื่นพลังแปลก ๆ ที่เซียงจินเฉิงปลดปล่อยออกมาทำให้ทุกคนรู้สึกไม่สบายใจ แม้แต่จักรพรรดิกฎอย่างเซี่ยบูหยุนและเซี่ยเทียนก็ยังมองไปยังศัตรูฝ่ายตรงข้ามด้วยแววตาที่ตกตะลึง

ตูม!

คลื่นพลังอันรุนแรงแพร่กระจายไปทั่วทั้งสวนซากุระราวกับพายุเฮอริเคน แล้วมันก็ทำให้แม้แต่อาคารหรูในบริเวณใกล้เคียงก็ยังถูกพัดทำลายจนกลายเป็นซากปรักหักพัง

ก่อนหน้านี้เหล่าบรรดาสมาชิกของตระกูลมูนวอร์ดต่างก็กังวลว่าสกายวิงจะทำลายตำหนักจันทร์สว่างของพวกเขา แต่ในช่วงเวลาวิกฤตมันกลับเป็นเซียงจินเฉิงเสียเองที่ทำลายตำหนักจันทร์สว่างจนราบเป็นหน้ากลอง

สายลมที่เกิดจากคลื่นพลังพัดแรงมากจนทำให้นักรบหลาย ๆ คนลืมตาไม่ขึ้น ซึ่งเมื่อลมแรงได้พัดผ่านไปนักรบของสกายวิงก็ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ขณะที่นักรบของตระกูลมูนวอร์ดก็ได้กลับมารวมตัวกันด้านหลังเซียงจินเฉิงเช่นเดียวกัน คล้ายกับว่าคลื่นพลังเมื่อสักครู่ได้ดึงให้ทุกคนกลับมาตั้งหลักที่จุดเดิม

“จำวิธีการเคลื่อนพลังของเขาเอาไว้ให้ดี ถ้าหากว่านายสามารถควบคุมพลังได้แบบนี้ นายก็จะสามารถใช้พลังของกฎได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่นายไม่จำเป็นจะต้องใช้การหลอมรวมกฎเหมือนกับเขาหรอกนะ แม้ว่าการทำแบบนั้นมันจะเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ให้กับเขาเป็นเท่าตัว แต่มันก็สร้างความเสียหายให้กับร่างกายอย่างร้ายแรงด้วยเหมือนกัน” โอโร่กล่าว

“เพิ่มพลังการต่อสู้ได้ 2 เท่าเลยงั้นเหรอ?!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ทำอะไรมันก็มีเงาสีดำเคลื่อนที่ลงมาจากท้องฟ้า

***************

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2025 keangun. All Rights Reserved.