ตอนที่ 694 ทีใครทีมัน

ตูม!

เมื่อสจ๊วตนอนลงไปดิ้นกับพื้นชาวบัลรอคก็ทุบป้าย ‘รักษาได้ทุกโรค’ ของเซี่ยเฟยออกเป็นชิ้น ๆ

“เขาไม่ได้เป็นนักปรุงยาที่สามารถรักษาได้ทุกโรค เขามันเป็นแค่คนหลอกลวง!!” ชาวบัลรอคที่ขึ้นไปเอาป้ายลงมาทำลายตะโกนเสียงดัง

“นี่พวกแกมาหาเรื่องกันใช่ไหม?!” เซธรีบก้าวเท้ามาขวางหน้าเซี่ยเฟยพร้อมกับส่งเสียงตะโกนออกไปเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของเขาก็ไม่เพียงแต่จะไม่สามารถหยุดความชุลมุนของฝูงชนได้เท่านั้น แต่เสียงร้องคำรามของเขากลับทำให้ฝูงชนรู้สึกโกรธมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะดึงเซธกลับมาด้วยท่าทางที่ไม่สนใจพฤติกรรมของคนเหล่านี้เลย

การเคลื่อนไหวของชายหนุ่มทำให้ลูคัสคิดว่าเซี่ยเฟยกำลังรู้สึกหวาดกลัว เขาจึงพยายามปลุกปั่นชาวบัลรอคมากขึ้นเรื่อย ๆ

“ลูกแม่! ลูกเป็นอะไรไป! ช่วยพูดอะไรกับแม่หน่อยได้ไหม?!” เสียงกรีดร้องของผู้เป็นแม่ดังกึกก้องภายในใจของทุกคน และเมื่อมันได้รวมกับคำยุยงของลูคัส มันจึงทำให้ชาวบัลรอคบางส่วนเริ่มก้าวเท้าเข้าหาเซี่ยเฟยด้วยเจตนาร้าย

เซธกำหมัดแน่นอย่างประหม่า เพราะเบื้องหน้ามีชาวบัลรอครวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนหลายพันคน นอกจากนี้มันยังมีนักสู้ชาวบัลรอครวมตัวกันอยู่ด้วย ดังนั้นถ้าหากว่ามันได้เกิดการต่อสู้ขึ้นมา การเผชิญหน้าในครั้งนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายดายสำหรับเขาแน่ ๆ

สถานการณ์เริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ หลาย ๆ คนเริ่มขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เซี่ยเฟย ซึ่งเซธก็ทำได้เพียงแต่ยืนปัดป้องสิ่งที่ขว้างปาออกไปเท่านั้น และในบรรดาของที่ถูกขว้างเข้ามามันก็มีแม้กระทั่งรองเท้าเหม็น ๆ

“เจ้านายให้ผมฆ่าพวกมันให้หมดเลยดีไหม?” เซธกระซิบถามเซี่ยเฟยอย่างอัดอั้น เพราะถ้าหากสถานการณ์เลวร้ายไปมากกว่านี้มันก็น่าจะมีการปะทะกันบ้างแล้ว

“หากนายเคลื่อนไหวผิดพลาด นายจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่เพียรพยายามทำมาทั้งหมด ดังนั้นอดทนไว้แล้วรออยู่เฉย ๆ” เซี่ยเฟยออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

เซธทำได้เพียงแต่ถอนหายใจและกำหมัดแน่นเท่านั้น เพราะเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเซี่ยเฟยถึงยังไม่ตอบโต้อีกฝ่ายกลับไปเลย

เมื่อฝูงชนพากันเข้าไปภายในกระโจมและอยู่ห่างจากเซี่ยเฟยเพียงแค่ไม่กี่เมตร พวกทหารชาวบัลรอคก็เริ่มทำตัวไม่ถูก เพราะเหตุการณ์นี้ถือได้ว่าเป็นการกระทบกระทั่งกันครั้งใหญ่ และถึงแม้พวกเขาจะถูกมอบหมายให้ปกป้องเซี่ยเฟย แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับฝูงชนจากเผ่าพันธุ์ตัวเองแบบนี้

ในระหว่างที่มันเกิดความชุลมุน มันก็มีทหารรีบไปรายงานความวุ่นวายกับจีเวนต์และโจอี้ด้วยเช่นกัน แต่น่าเสียดายที่กว่าพวกเขาจะเดินทางมาถึง ความโกลาหลก็ดำเนินไปจนถึงจุดที่ยากจะหยุดยั้งได้แล้ว

“เป็นไงเก่งนักใช่ไหม? ดูซิว่าแกจะรอดพ้นไปจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ไหม?” ลูคัสหัวเราะออกมาอย่างสะใจ ขณะที่เขาแอบซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางฝูงชน

แต่ในขณะที่สถานการณ์กำลังจะเลวร้ายไปมากกว่านี้ มันก็ได้มีเสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“สจ๊วต ลูกฟื้นแล้ว!”

เมื่อสิ้นคำจากผู้เป็นแม่ เหล่าฝูงชนก็หยุดนิ่งและหันไปมองดูสจ๊วตที่เคยนอนดิ้นบนพื้นในทันที

ตอนนี้ทั่วทั้งร่างของเด็กหนุ่มเต็มไปด้วยเหงื่อราวกับว่าเขากำลังฟื้นตัวจากอาการป่วยหนัก แต่ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะอ่อนแอมาก แต่ภายในแววตาของเขากลับเต็มเปี่ยมไปด้วยเปลวไฟแห่งการต่อสู้

“ทุกคนหลีกทางไปเดี๋ยวนี้!” เซี่ยเฟยลุกยืนขึ้นประกาศกร้าวออกไปในทันที และถึงแม้ว่าเสียงของเขาจะไม่ได้ดังมากนัก แต่ฝูงชนตรงหน้ากลับรีบแหวกทางให้กับเขาอย่างฉับพลัน

ชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ค่อย ๆ ย่อตัวลงกดศีรษะของสจ๊วตเบา ๆ จากนั้นเขาก็ส่งกระแสจิตเข้าไปเพื่อตรวจสอบพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเด็กหนุ่ม

“อาการสมองอุดตันหายไปหมดแล้ว แต่เนื่องมาจากอาการนี้คงอยู่มาเป็นเวลานาน พื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของนายเลยถูกเปิดออกแค่ 27% ในอนาคตก็พยายามฝึกฝนให้มากกว่าคนอื่นก็แล้วกัน” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ทันทีที่เสียงของชายหนุ่มสิ้นสุดลงสภาพแวดล้อมในบริเวณนั้นก็ตกอยู่ภายใต้ความเงียบงัน เพราะใครจะไปคิดว่าสจ๊วตที่เคยถูกนักปรุงยาหลาย ๆ คนดับความหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลับสามารถถูกเซี่ยเฟยรักษาได้จริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นชายหนุ่มยังช่วยให้พื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของสจ๊วตเปิดออกถึง 27% ด้วย

“ขอบคุณครับ” สจ๊วตรีบกล่าวขอบคุณหลังจากตกตะลึงอยู่นาน ส่วนแม่ของเขาก็กำลังร้องไห้อย่างปลาบปลื้มจนพูดอะไรไม่ออกอยู่ใกล้ ๆ นั่นเอง

“กลับไปพักผ่อนซะแล้วกินยาพวกนี้หลังมื้ออาหาร จำเอาไว้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฉันเลย การที่นายต้านทานความทรมานอันยาวนานมาได้นั่นก็เพราะว่านายมีกำลังใจที่ดี ตราบใดก็ตามที่นายยังคงฝึกฝนอย่างหนัก ฉันก็เชื่อว่านายจะมีความสามารถมากพอที่จะปกป้องแม่ของนายเอาไว้ได้” เซี่ยเฟยตบไหล่ให้กำลังใจเด็กหนุ่ม

“เฮ้!”

“มหัศจรรย์มาก!!”

“ท่านหมออาเฟยจงเจริญ!!”

“หมออาเฟยเป็นหมอเทวดาที่สามารถรักษาได้ทุกโรคจริง ๆ”

เหล่าฝูงชนต่างก็ส่งเสียงโห่ร้องขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น เพราะเมื่อเซี่ยเฟยสามารถรักษาอาการของสจ๊วตได้แล้ว มันก็ไม่มีใครกล้าตั้งข้อสงสัยในความสามารถของชายหนุ่มอีกต่อไป และในคราวนี้พวกเขาก็ยังให้ความเคารพต่อชายหนุ่มจากก้นบึ้งของหัวใจของพวกเขาอีกด้วย

เมื่อสถานการณ์พลิกผันอย่างฉับพลัน ลูคัสที่เคยพูดจาปลุกปั่นประชาชนก็รีบแทรกตัวหนีออกไปในทันที

ในตอนนี้เขาจะพูดอะไรออกไปได้อีกบ้าง?

หากเซี่ยเฟยได้รับความยกย่องจากประชาชนมากขนาดนี้ เขาที่เคยยุยงให้ทุกคนจัดการกับชายหนุ่มในก่อนหน้านี้ก็คงจะตกอยู่ในอันตรายถ้าหากว่าเขายังคงอยู่ที่นี่ต่อไป

—

ในคืนนั้นจีเวนต์จัดงานเลี้ยงฉลองขึ้นมาอีกครั้ง โดยมีเซี่ยเฟยเดินทางมาเป็นแขกเพียงคนเดียว ส่วนทางลูคัสอ้างว่าเขาปวดท้องและไม่สะดวกที่จะเดินทางมาร่วมงาน แต่ทุกคนก็รู้ดีว่าชายคนนั้นคงจะรู้สึกขายขี้หน้าที่เคยต่อว่าเซี่ยเฟยเอาไว้ในก่อนหน้านี้

เช้าวันถัดมาป้ายอันใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิมก็ถูกนำไปติดตั้งเหนือกระโจมของเซี่ยเฟย โดยบนป้ายนั้นถูกเขียนเอาไว้ว่า ‘หมอเทวดาอันดับ 1 ในจักรวาล’ ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าชาวบัลรอคยกย่องเซี่ยเฟยมากกว่าเจ้าโอสถอย่างลาคูสเสียอีก

โอโร่รู้สึกว่าป้ายอันใหม่นี้ดูค่อนข้างจะอวดอ้างเกินกว่าความเป็นจริงไปไกล แต่เซี่ยเฟยทำเพียงแค่เผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่จะเข้าไปนั่งยังที่นั่งของตัวเองโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ

สิ่งที่แปลกประหลาดมากที่สุดนั่นก็คือทัศนคติของลูคัส เพราะหลังจากที่เวลาได้ผ่านพ้นไปหนึ่งคืน เขาคนนี้กลับดูเหมือนเปลี่ยนแปลงไปเป็นคนละคน โดยในตอนเช้าลูคัสก็ได้เดินเข้ามาทักทายเซี่ยเฟยด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับสอบถามเรื่องเกี่ยวกับการปรุงยาอย่างนอบน้อม ซึ่งมันแตกต่างจากนิสัยที่เขาได้เคยแสดงออกมาในก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง

ตลอดทั้งวันเซี่ยเฟยยังคงนั่งอยู่เฉย ๆ เพื่อรอคอยผู้ป่วยที่ลูคัสไม่สามารถรักษาได้ และในคราวนี้ลูกศิษย์เจ้าโอสถก็ไม่คิดที่จะต่อว่าชายหนุ่มอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมันมีผู้ป่วยที่เขาไม่สามารถรักษาได้ เขาก็จะตามผู้ป่วยคนนั้นไปเพื่อแอบดูเซี่ยเฟยรักษาผู้ป่วยคนนั้นทุก ๆ ครั้ง

ในวันที่ 4 เซธก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป และเขาก็พยายามเตือนเซี่ยเฟยว่าลูคัสพยายามขโมยสูตรน้ำยาของเซี่ยเฟยไปทุกวัน

ความกังวลของเซธทำให้เซี่ยเฟยส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ และเขาก็ไม่ได้คิดที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอะไร ซึ่งมันก็ทำให้เซธรู้สึกสับสนมากขึ้นกว่าเดิม

ข่าวเรื่องหมอเทวดาเดินทางมาเปิดคลินิกที่ดาวของชาวบัลรอคได้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากดาวดวงอื่น ๆ เดินทางไปยังดาวดวงนี้ในทุก ๆ วัน

น้ำยาของเซี่ยเฟยยังคงเป็นน้ำยาสูตรที่ทรมานผู้ป่วยได้เหมือนเดิม แต่ในคราวนี้ผู้ป่วยได้รู้แล้วว่าถ้าพวกเขาสามารถผ่านพ้นความทรมานมาได้ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็คือการหายจากโรคโดยปลิดทิ้ง

—

ในคืนวันที่ลมพัดแรงและมีเมฆดำบดบังดวงจันทร์ 

งานเลี้ยงในวันนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว เซี่ยเฟยกับลูคัสจึงเดินทางกลับไปยังกระโจมของตัวเอง

แต่ท่ามกลางลมพายุที่กำลังพัดโหมกระหน่ำอยู่นั่นเอง มันได้มีร่างของชายลึกลับซ่อนตัวอยู่ในระยะไกลพร้อมกับจับจ้องมองไปยังเซี่ยเฟย

***************

หรือว่าควินซี่เริ่มสนใจแล้ว?