บทที่ 12...2/3
เจนจิราเห็นสายตาของภามที่มองตามแผ่นหลังของผู้หญิงคนนั้นแล้วก็ร้อนอยู่ในอก แม้จะเป็นเพื่อนกันมานานและทำงานกับเขามาหลายปี แต่เธอไม่เคยได้รับสายตาแบบนี้จากเขาเลยครั้ง แต่แล้วยามที่ภามหันหน้ากลับมาสายตาของเขาที่มองเธอช่างเหมือนคนที่รู้ทัน เจนจิรารู้สึกไม่ค่อยดีแล้วหรือว่าเขาจะรู้ว่าเธอทำอะไรลงไปบ้าง
“ทำไมพอได้คลิปทั้งหมดไปแล้ว เจนถึงสั่งให้ลบคลิปต้นฉบับ” ภามถามเพราะอยากรู้จริงๆ แม้จะมีคำตอบอยู่ในใจ แต่เขาอยากให้โอกาสเจนจิราได้อธิบาย
เจนจิราหลุบตาลงมือประสานกันเมื่อมันกำลังสั่นเพราะถูกจับได้
“ภามรู้ได้ยังไง”
“ตอบผมมา”
เจนจิราเชิดหน้าขึ้นเมื่อได้ยินน้ำเสียงแสนเย็นชาจากผู้ชายที่เธอแอบชอบมาตลอด เขาไม่รู้จริงๆ หรือว่าที่เธอสั่งให้คนลบไฟล์ต้นฉบับทั้งหมด ไม่ว่าจากกล้องในมุมไหนก็เพื่อเขา
“เจนกลัวว่าสุดท้ายจะเป็นความผิดของโรงแรมที่คุณเมษาจะเอามาเป็นข้อได้เปรียบ ที่เจนทำก็เพื่อโรงแรมเท่านั้น ภามก็รู้ว่าถ้ามีเรื่องแบบนี้ออกไป ชื่อเสียงของโรงแรมจะเสียหาย เจนหวังดีจริงๆ นะ”
ภามมั่นใจว่าดูคนอย่างเจนจิราออก แล้วยิ่งมารู้ว่าเธอทำอะไรลับหลังเขาบ้าง เหตุการณ์คราวนี้นอกจากสิ่งที่เจนจิรากล่าวอ้างแล้ว มันยังพ่วงความรู้สึกส่วนตัวของเจนจิราเข้าไปด้วย
“ไม่ว่าความจริงเป็นอย่างไร เจนไม่มีสิทธิ์ปิดบัง ไม่ว่าก่อนหน้านี้หรือในอนาคต ห้ามทำแบบนี้อีก”
ฟังคำพูดแบบนั้นแล้วเจนจิราก็ยิ่งมั่นใจว่าที่เธอทำไปก็สมควรแล้ว คนที่แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ออกไม่ใช่เธอหรอก แต่เป็นเขาต่างหาก เธอแค่สั่งลบคลิป ไม่ได้ไปสร้างหลักฐานมาปรักปรำเมษาสักหน่อย
“ภามพูดแบบนี้เพราะเมษาใช่ไหม เจนไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ทำไมภามต้องพูดเหมือนกับว่าเจนผิดด้วย”
ภามเลิกคิ้วหากเตือนแล้วไม่ฟัง การพูดความจริงควรทำมากกว่า เขาเห็นแก่ที่เจนจิราทำงานที่นี่มาหลายปี เธอไม่เคยบกพร่อง แต่คราวนี้เจนจิราล้ำเส้นเกินไปแล้ว
“ไม่ได้เหมือนกับว่าผิด แต่เจนทำผิดจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเมษาหรือใครควรได้รับความยุติธรรม ถ้าเจนถูกทำแบบที่เจนทำกับเมษาบ้าง เจนจะยอมรับได้หรือเปล่า”
“เจนแค่หวังดี” เจนจิรามั่นใจว่าไม่ได้โกหก เธอหวังดีต่อภามจากใจจริงเสมอ
ภามกดยิ้มที่มุมปาก “ถ้าเจนหวังดีโดยการโยนความผิดให้คนอื่นอีก ผมคงต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในงานที่เจนทำแล้วล่ะ ผมไม่ได้ขอร้อง แต่นี่คือคำสั่ง อย่าปิดบังอะไรแบบนี้อีก”
“ค่ะภาม เจนเข้าใจแล้ว” เจนจิรารู้ดีนอกจากความเป็นเพื่อนแล้ว ฐานะในตอนนี้เธอกับเขาคือเจ้านายกับลูกน้อง
“อ้อ อีกอย่าง หยุดส่งคนไปถ่ายรูปผมแล้วส่งให้นักข่าวได้แล้ว หวังว่าผมจะไม่ต้องมาเตือนเจนอีก ที่ผ่านมาผมปฏิบัติต่อเจนแบบเพื่อนร่วมงาน เพราะฉะนั้นหวังว่าเจนจะไม่ล้ำเส้น อย่าให้ผมต้องพูดตรงๆ เลยว่าผมไม่เคยคิดกับเจนเกินกว่าเพื่อน ไม่มีวันเปลี่ยน”
ภามเป็นฝ่ายลุกขึ้นแล้วเดินมาหาเจนจิราที่นิ่งอึ้งจนหาเสียงตัวเองไม่เจอ คิดหรือว่าเขาไม่รู้ว่าใครทำอะไรลับหลังบ้าง เหตุผลที่เขาไม่ทำอะไรเพราะการที่เจนจิราส่งคนไปถ่ายรูปเขาก็พอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง อย่างน้อยก็ทำให้ป้านลินรู้เสียที่ว่าเขามีอิสระที่จะรักใครชอบใคร แต่เจนจิราย่ามใจเกินไป การให้ร้ายเมษาผ่านนักข่าวแล้วยังมาปกปิดหลักฐานในคราวนี้ เจนจิราย่อมรู้อยู่แล้วว่าวงการขนมมันไม่ได้กว้างอะไร หากร้านเมนาถูกสรุปว่าผิดจริง ชื่อเสียงย่อยยับ มีข่าวลงในสื่อโซเชียล เพียงเท่านี้ร้านขนมที่กำลังไปได้สวยก็อาจเจ๊งเพียงชั่วข้ามคืน
“อย่าทำแบบนี้อีก แต่ถ้ายังมีอีก ผมคงไม่เตือน แต่เซ็นเอกสารให้เจนหนึ่งแผ่นเป็นอันจบ เจนควรรู้ว่าผมรักคนในครอบครัวมากแค่ไหน”
เจนจิราก้มหน้าลงไม่กล้าเงยขึ้นไปมองภาม ความกลัวตกงาน กลัวถูกดำเนินคดี ทำให้หญิงสาวประหม่า เธอคิดผิดแล้วจริงๆ ที่ไปแตะต้องคนในครอบครัวของเขา แล้วอ้างกับตัวเองว่าที่ทำไปทั้งหมดเพราะหวังดี เธอหวังในตัวเขามาตลอดต่างหาก ตอนนี้ระหว่างเลือกว่าจะทำลายเมษากับรักษางานตัวเองไว้ เธอต้องเลือกตัวเองก่อน
“เจนขอโทษ เจนจะไม่ทำแบบนั้นอีก ภามเชื่อใจเจนได้”
มือหนายื่นมือไปวางบนไหล่ที่สั่นเทาแล้วบีบเบาๆ ก่อนจะปล่อยแล้วเดินจากไป ถามว่าภามเชื่อใจเจนจิราหรือไม่ เขาตอบได้เลยว่าไม่ เขาเชื่อในหลักฐานมากกว่า หากเจนจิรารู้จักเขาดีพอย่อมรู้ดีว่าเขาจะเตือนเพียงครั้งเดียว หลังจากนี้หากเธอทำอีก ไล่ออกคือจบปัญหาแล้วจะตามมาด้วยการดำเนินคดีอย่างแน่นอน นักข่าวที่ได้รูปทั้งหมดมาสารภาพเอาไว้ทั้งหมดว่าคนต้นเรื่องคือเจนจิรา ใครทำร้ายคนในครอบครัวของเขาอย่าหวังว่าจะได้จบสวยๆ เลย
ภามเดินออกมาจากห้องประชุม โมกข์มารออยู่พอดีเพราะได้รับข้อความที่เขาส่งไปก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มกดเปิดโทรศัพท์แล้วส่งบางอย่างไปให้โมกข์ทางแชท โมกข์เปิดดูแล้วมองเจ้านายด้วยความสงสัย หากเขาเดาไม่ผิด ภามจะล่อเสือออกจากถ้ำงั้นหรือ แต่จะกลายเป็นแหวกหญ้าให้งูตื่นไปด้วยหรือเปล่า
“ผมมีบางอย่างให้คุณทำ คงจะใช้คนเยอะสักหน่อย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดผมรับผิดชอบเอง”
“คุณภามจะให้ผมทำอะไรหรือครับ”
แผนการถูกถ่ายทอดออกไป ภามเชื่อใจโมกข์ว่างานในครั้งนี้ของถนัดของอดีตตำรวจอยู่แล้ว เขาเบื่อที่จะรอ หลังจากวันก่อนที่อ่านรายงานของโมกข์ว่าผู้จัดการผับกับพ่อของปราบไม่เกี่ยวข้องกับเหตุลอบยิงที่ปราณบุรี ฉะนั้นเขาต้องคิดวิธีหาคนร้ายแทน คนร้ายระมัดระวังตัวมาตลอด 2 ปีหรือว่าแค่เฝ้ามองเพราะมั่นใจว่าไม่มีใครสงสัยการตายของพี่ภูมิกันแน่ หากมีใครสักคนได้รับบางอย่างแล้วกลัวลนลานทำให้หมดตัวเลือกล่ะ แบบนี้ต่างหากที่เขาต้องการ
โมกข์แยกตัวไปแล้ว ในขณะที่ภามขึ้นลิฟต์มาชั้น 28 ตอนนี้พนักงานหลายคนคงรู้แล้วว่าเมษาเป็นใครสำหรับเขา ข่าวที่เกี่ยวข้องกับตัวเขามีมากมายทั้งจริงและไม่จริง เขาอยากให้เมษามั่นใจว่าทุกความรู้สึกที่เขามีต่อเธอไม่ใช่เพราะอารมณ์พาไป ไม่ใช่เพราะเธอมาช่วยเขาเรื่องพี่ชายเท่านั้น เขาชอบเธอเพราะอยู่ด้วยแล้วมีความสุขและสบายใจ เท่านี้เองไม่ได้ซับซ้อนมากมาย แต่ที่ผ่านมาเขาไม่เคยพบใครทำให้รู้สึกแบบนี้เท่านั้นเอง
เมื่อประตูเปิดออกทำให้ภามเห็นเมษาว่านั่งรออยู่ตรงโซฟา เธอเงยหน้ามองเขาแล้วยิ้มราวกับได้พบสิ่งล้ำค่า ชายหนุ่มก้าวไปหาเสมือนมีแรงดึงดูด ในสายตาของคนอื่น เมษาอาจดูเป็นผู้หญิงธรรมดา ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่สำหรับเขาแล้ว ต่อให้เธอยืนอยู่ท่ามกลางคนมากมาย เธอก็จะเด่นชัดขึ้นมาในสายตาของเขาเสมอ
“ขอบคุณนะคะที่เชื่อมั่นในตัวฉัน” เมษาเอียงตัวมาซบที่ไหล่ของภาม
ภามก้มหน้าลงมามองดวงหน้าที่กำลังหลบตาพริ้มใกล้ๆ “ขอแลกเป็นต่อไปนี้เมแทนตัวเองว่าเมได้ไหม ผมอยากเรียกเมแบบนี้มากกว่าคุณเมษาตั้งเยอะ ถ้าจะได้ให้ดีเรียกผมว่าพี่ภามจะน่ารักมากเลยล่ะ”
เมษาลืมตาแต่เพิ่งรู้ว่าไม่น่าเลยเพราะใบหน้าของภามใกล้แค่นิดเดียวเอง ครั้นจะขยับไปนั่งที่เดิมก็ถูกเขาโอบไหล่ไว้ให้ซบอยู่ตามเดิม
“อืม เอาไว้ก่อนนะคะ ถ้าให้เรียกคุณแบบนั้น เมคงรู้สึกยังไม่ชิน”
“เรียกบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชิน”
ภามอยากจะได้ยินเมษาเรียกว่าเขา...ภามคะ...พี่ภาม แต่เมื่อไหร่ก็ได้ ชายหนุ่มปล่อยมือจากไหล่บางแล้วมาจับข้อมือของเมษาแทน
“ผมจะเลิกงานเร็วสักวัน ไปหาอะไรทานกันเถอะ วันนี้มีคนพิเศษทำอะไรไว้รอเมด้วยนะ”
เมษาพยักหน้าพลางลุกขึ้นกำลังจะหยิบกระเป๋ามาสะพาย แต่ภามกลับคว้าไปก่อนแล้วถือไว้ในมืออีกข้าง หญิงสาวยิ้มเขินๆ ที่เขาทำแบบนี้ให้ ชายหนุ่มบอกปุริมว่าจะกลับแล้ว ก่อนจะจับข้อมือพาหญิงสาวเดินผ่านใครต่อใครจนกระทั่งถึงลิฟต์ พนักงานพากันก้มหน้ายิ้มที่เห็นท่านประธานควงแฟนมาเปิดตัว แถมยังถือกระเป๋าให้อย่างกับว่าทำแบบนี้เป็นประจำ เมษามองภามแล้วเป็นฝ่ายหลุบตาลง เขาจะอ่อยเธอแบบนี้ทุกวันไม่ได้ หัวใจของเธออาจหยุดเต้นไปก่อน
ภามจะพาเมษาไปหาใคร?
ใจดวงนี้สื่อถึงรักลงขายเป็น E-Book ใน MEB แล้วค่ะ หมวดนิยายรัก
โดยโบว์ทำโปรโมชั่นลดเหลือ 149 บาทจาก 329 บาท เหลือเวลา 9 วัน และจะลงให้อ่านถึงบทที่ 14 นะคะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 181
แสดงความคิดเห็น